ตอนที่ 101

ผู้ที่เข้ามาขวางหลินอวี่เอาไว้เป็นชายหนุ่มร่างสูงที่สวมใส่ชุดเกราะปละแบกขวานศึกไว้บนบ่า

ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเขาจับจ้องมาที่หลินอวี่

"นายคืออันดับหนึ่งร้อยสินะ?"

หลินอวี่พูดแก้ "ไม่ใช่ลำดับหนึ่งร้อย ผมชื่อ หลินอวี่"

ชายหนุ่มนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงแค่นเสียง

"อย่ามาเฉไฉ นายอยู่วิลล่าหมายเลข 100 ใช่รึเปล่า?"

"อ้อ ถ้าถามแบบนี้ ก็ใช่แหละ"

หลินอวี่มองดูชายหนุ่ม "คุณเป็นคนที่ถูกไล่ออกไปงั้นเหรอ?"

สีหน้าของชายหนุ่มนั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

"ฉันไม่มีคุณสมบัติอยู่ในวิลล่า เป็นลูกพี่ของฉันต่างหาก!"

หลินอวี่ชะงัก จากนั้นจึงพยักหน้า

"ที่แท้ก็เป็นลูกพี่ของนาย ไม่ใช่นายที่ถูกฉันบีบให้ออก"

ชายหนุ่มนั้นมีเส้นเลือดปูนโปนขึ้นที่ขมับทันที

ทำไมหมอนี่มันกวนประสาทแบบนี้นะ?

เขาจ้องมองหลินอวี่อย่างเย็นชา

"เลิกไร้สาระได้แล้ว! ระยะการคุ้มครองสำรับเด็กใหม่นั้นแค่หนึ่งปีเท่านั้น"

"นายควรจะย้ายออกไปซะ ไม่อย่างนั้น......"

"ลูกพี่ของฉันต้องย้ายออกก็เพราะนาย ฉันก็ไม่ได้อยากจะรังแกนายนักหรอกนะ แต่ถ้ายังไม่ดูตาม้าตาเรืออีก ก็อย่าหาว่าฉันรังแกเด็กล่ะ"

หลินอวี่มองหน้าชายหนุ่ม

"รุ่นพี่ ลูกพี่ของนายเลเวลอะไร?"

"ลูกพี่ของฉันงั้นเหรอ? เลเวลสูงสุดของคลาสหกเฟ้ย! เป็นไง ตอนนี้กลัวขึ้นมารึยัง?"

ชายหนุ่มนั้นแสยะยิ้ม

หลินอวี่พยักหน้าลงอย่างใช้ความคิด

"ติดอยู่คลาสเดิมเพราะภารกิจเลื่อนคลาสสินะ ลูกพี่นายก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่นี่"

ชายหนุ่มนั้นสีหน้าแข็งค้าง

เวรเอ๊ย ปากของไอ้หมอนี่มันร้ายกาจจริงๆ!

เขาสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ พยายามจะสงบสติอารมณ์

อย่าเพิ่งโมโห อย่าเพิ่งโมโห ต้องไม่โมโหเด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่.....

หลังจากหลับตาสงบสติอารมณ์แล้ว เขาก็ลืมตาขึ้นจ้องหลินอวี่อย่างเย็นชา

"เอาล่ะ ฉันก็พูดเรื่องที่ควรพูดไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่านายจะคิดได้รึเปล่า"

กล่าวจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป

หลินอวี่มองดูชายหนุ่มที่แบกขวานเดินจากไปอย่างไร้คำพูด

เขารู้สึกว่าตัวเองโดนหลิวหลางหลอกต้มเข้าให้แล้ว

แต่ช่างเถอะ

เมื่อผ่านไปหนึ่งปี ถึงตอนนั้นเขาน่าจะอยู่คลาสสามหรือคลาสสี่แล้ว

ถึงตอนนั้น การจะจัดการเลเวลสูงสุดของคลาสหกก็คงไม่ใช่เรื่องยากละมั้ง?

หลินอวี่ไม่ได้คิดมากอะไร เขาเดินเข้าโซนวิลล่าไป

เมื่อเปิดประตูบ้าน เขาก็มองเห็นควันโขมงลอยออกมา ติดตามมาด้วยกลิ่นไหม้

หลินอวี่หน้าแปรเปลี่ยน

"เกิดอะไรขึ้น? ไฟไหม้งั้นเหรอ?!"

เขารีบเทเลพอตไปยังห้องครัวซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีควันลอยออกมา

จากนั้นเขาก็มองสองสาวที่ใบหน้าเปื้อนมอมแมมเงียบๆ จากนั้นจึงมองไปยังก้อนสีดำไหม้เกรียมภายในหม้อต้มซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร ในใจปรากฏเครื่องหมายคำถามขึ้นมากมาย

มุมปากของเขากระตุกเบาๆ

"พี่สาวทั้งสอง มีศัตรูบุกมาที่นี่รึยังไง?"

จั่วมู่เกอและหยานจีหันไปมองก้อนดำๆที่ไม้เกรียมภายในหม้อด้วยสีหน้าขมขื่น ร่างของพวกเธอสั่นเบาๆเพราะตกใจกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันของหลินอวี่

พวกเธอหันไปหาหลินอวี่ก่อนจะหัวเราะแห้งๆ

ทั่วทั้งใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยเขม่าควัน ดังนั้นยามยิ้มจึงเห็นเพียงฟันขาวที่เรียงตัวอย่างงดงาม

"อาหวี่ กลับมาแล้วเหรอ?"

หยานจีรีบเดินไปบังหม้อเอาไว้ราวกับพยายามปกปิดความผิด

หลินอวี่รู้สึกปวดหัวกับฉากนี้

"ถ้าฉันไม่กลับมา เจ้าก้อนดำนั่นคงถูกพวกเธอเผาจนเป็นเถ้าถ่าน น่าสงสารเกินไปแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ"

จั่วมู่เกอหน้าแดงด้วยความอาย

เธอพึมพำเบาๆ

"ใครจะไปรู้ล่ะว่าการเข้าครัวมันจะยากขนาดนี้?"

หลินอวี่อดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นสองสาวที่หน้าดำไปด้วยเขม่าควัน

เขายื่นมือไปเช็ดหน้าให้พวกเธอ

"ดูพวกเธอเข้าสิ ฉันนึกว่าพวกเธอเพิ่งกลับมามาจากขุดเหมืองถ่านซะอีก"

"ยังจะมาหัวเราะอีก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเราเห็นนายยังไม่กลับมา เลยคิดจะทำอาหารไว้รอ นายยังมาหัวเราะเยาะพวกเราอีก ฮึ่ม!"

หลินอวี่กลั้นขำ เมื่อเห็นสองสาวทำหน้าจะร้องไห้ เขาก็ยื่นมือไปลูบหัวพวกเธอ

"ไม่เป็นไร ครั้งแรกก็แบบนี้ล่ะ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง"

"ตอนฉันหัดทำครั้งแรกก็มีสภาพคล้ายๆพวกเธอนี่แหละ"

"จริงเหรอ?"

ดวงตาของสองสาวกลับมาสดใส

หลินอวี่ลอบหัวเราะในใจ กระนั้นก็ยังพยักหน้าอย่างจริงจัง

"อืม"

พูดก็พูดเถอะ พวกเธอนับว่าเก่งกาจมากที่สามารถปรุงอาหารธรรมดาให้กลายเป็นอาวุธทำลายล้างแบบนี้ได้

เขาปลอบโยนอีกหลายคำ จากนั้นจึงพูดว่า

"ไปอาบน้ำกันก่อน จากนั้นค่อยมาช่วยฉัน ฉันจะสอนทำอาหารอร่อยๆเอง"

"ได้เลย!"

สองสาววิ่งกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด

..............................

หลังจากจัดการมื้อค่ำเสร็จแล้ว พวกหลินอวี่ทั้งสามก็ขึ้นมายังชั้นสามซึ่งเป็นห้องที่มีอุปกรณ์จำลองติดตั้งเอาไว้

ทั้งสามล็อกอินเข้าใช้งาน

หลินอวี่ปรากฏตัวขึ้นในห้องสีขาวที่ว่างเปล่า

"ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น หลินอวี่ สำหรับการล็อกอินเข้าสู่ โลกแห่งการต่อสู้ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นล็อกอินเข้ามาในโลกแห่งการต่อสู้ โปรดเลือกรูปลักษณ์และชื่อที่จะใช้แสดง"

หลินอวี่ลองดูระบบ

"โอ้ เหมือนกับเกมโลกเสมือนจริงในอดีตเลยแฮะ"

เขาเริ่มทำการปรับแต่งรูปลักษณ์ โดยเริ่มจากปรับลดหน้าตาที่ดูดีจนเกินไปให้ดูค่อนข้างธรรมดา

ส่วนเรื่องชื่อนั้น....

หลินอวี่ไม่คิดอะไรมาก เขาเลือกตั้งชื่อให้เข้ากับบุคคลิกของเขา

"บุรุษที่หล่อเหลาที่สุดในโลก!"

"ติ๊ง! ชื่อนี้มีผู้ใช้งานแล้ว โปรดทำการเปลี่ยนชื่อ"

หลินอวี่ผงะ

ให้ตายเถอะ มีคนที่ไร้ยางอายจนกล้าใช้ชื่อนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ?!

"บุรุษผู้หน้าตาดีที่สุดในโลก!"

"ติ๊ง! ชื่อนี้มีผู้ใช้งานแล้ว โปรดทำการเปลี่ยนชื่อ"

หลินอวี่ ".........."

เวรเอ๊ย!

เขาขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้อีกชื่อ

"ชายที่หน้าตาดีที่สุดตลอดกาล!"

"ติ๊ง! ชื่อนี้มีผู้ใช้งานแล้ว โปรดทำการเปลี่ยนชื่อ"

"ชายหนุ่มหล่อเหลาผู้มาจากสวรรค์"

"ติ๊ง! ชื่อนี้มีผู้ใช้งานแล้ว โปรดทำการเปลี่ยนชื่อ"

เชี่ย!

หลินอวี่แทบกระอักเลือด

"ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ไม่นึกว่านายจะโหดขนาดนี้"

คนพวกนั้นมันอะไรกันน่ะ?

ทำไมพวกเขาถึงกล้าตั้งชื่อที่ไร้ยางอายแบบนั้นกัน?!

เขาพูดไม่ออก ดังนั้นจึงยอมแพ้ที่จะตั้งชื่อสุดเท่

"ติ๊ง! ตั้งชื่อสำเร็จ"

หลินอวี่ "ห้ะ?!"

เขาเบิกตากว้าง

คนเปลี่ยนเป็นโง่งมไป

ฉันตั้งชื่อได้แล้ว?

เขารีบเปิดหน้าต่างสถานะของโลกแห่งการต่อสู้ขึ้นมาดู

-----------------------------------------------

หลินอวี่

ชื่อในโลกแห่งการต่อสู้: ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ไม่นึกว่านายจะโหดขนาดนี้

เผ่าพันธุ์: มนุษย์

ระดับ: คลาส 1 เลเวล 6

จำนวนการต่อสู้ที่เข้าร่วม: 0

ชนะ: 0

แพ้: 0

-----------------------------------------------

หลินอวี่ "???"

ชื่อแบบนี้ก็ใช้ได้ด้วย?!

หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน หลินอวี่ก็ค่อยเปิดปากถามขึ้นมาอย่างลำบาก

"......ฉันเปลี่ยนชื่อได้มั้ย?"

แล้วก็เป็นดังคาด ระบบเพิกเฉยเขาโดยไร้เยื่อใย

ตอนนี้จิตใจของหลินอวี่แทบจะพังทลายลงโดยสมบูรณ์....