ช่องว่างความแตกต่างระหว่างหลินอวี่ที่ได้อันดับหนึ่งและอันดับอื่นๆนั้นแตกต่างกันมาก
โดยอันดับที่สองและสามก็คือหยานจีและจั่วมู่เกอที่ติดสอยห้อยตามหลินอวี่
หากยึดตามคำพูดของหลินอวี่ก็จะเป็น หนึ่งหมอนหนุน และหนึ่งสารถี
ขณะที่อันดับถัดลงไปนั้นเป็นรายชื่อที่หลินอวี่ไม่คุ้นเคย
และในอันดับที่สองร้อยกว่า หลินอวี่ก็มองเห็นชื่อของปู้เจิ่งซิ่น สำหรับสวีเผิงเทียนนั้น เขาอยู่อันดับที่สี่ร้อยกว่า
เหล่านักเรียนที่เพิ่งออกมาต่างก็ส่งเสียงกันอื้ออึงเมื่อได้เห็นผลคะแนน
"เรื่องบ้าอะไรวะนั่น? ที่หนึ่งมันควรจะเป็นของฉินหยาง หรือไม่ก็ลู่อันหลิงไม่ใช่รึไง?! ก็สองคนนั้นอยู่คลาสสองแล้วไม่ใช่เหรอ?!"
"เดอะฟัค?! หลินอวี่นั่นมันใครกัน? คะแนน 200,000 กว่า?! หรือว่าพวกคลาสสองคลาสสามจะถูกเขาล่าจนเกลี้ยง??"
"ผลคะแนนห่างกันเกินไปแล้ว"
"คิดๆดูแล้ว หรือว่าผลจะผิดพลาด?"
"ผิดพลาด? มีตัวแทนจากมหาวิยาลัยมากมายมาสังเกตุการณ์ด้วยแบบนี้ คิดว่าจะสวามารถตบตาพวกเขาได้งั้นเหรอ?"
แม้ว่าทุกคนจะตกตะลึง แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังมีสามัญสำนึกอย่างคนทั่วไป
ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงและตัวแทนจากมหาวิทยาลัยมากมายอยู่ด้วย และพวกเขาย่อมไม่ได้ตาบอด มีหรือที่พวกเขาจะยอมหล่อยให้เกิดการโกงขึ้นมาได้?
ฉินหยางเป็นเด็กหนุ่มร่างกำยำที่หน้าตาดูสัตย์ซื่อ
เขามองดูผลการจัดอันดับพลางยกมือขึ้นเกาหัว ปากก็อดพึมพำไม่ได้ว่า
"แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?"
ดวงตาของเขาพลันปรากฏความกระหายที่จะต่อสู้ขึ้นอย่างแรงกล้า
"จะต้องหาโอกาสสู้ด้วยสักครั้ง!"
สำหรับลู่อันหลิง เธอเป็นนักธนูร่างบาง สายตาของเธอกวาดมองไปยังรอบๆราวกับกำลังตามหาอะไรบางอย่าง
จากนั้นเธอก็เห็นว่าสายตาของเหล่าตัวแทนจากสถาบันต่างๆกำลังจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มผมดำผู้หนึ่ง
เขาแต่งกายด้วยชุดของนักเวท
เธอเลิกคิ้ว
นี่เหรอหลินอวี่?
เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?
ส่วนหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างสองคนนั้นก็คือทายาทตระกูลจั่วและตระกูลหยาน?
ดวงตาของเธอไหววูบขณะจ้องมองหลินอวี่ ในใจเกิดความกังขาขึ้นมา
ส่วนตงกงเยว่เป็นหญิงสาวผมสั้นสีดำที่มีใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ เธอก็คือผู้ที่เข้าไปภายใน้ถ้ำของพวกต่างดาวก่อนหน้านี้
เธอจ้องมองหลินอวี่ จากนั้นจึงเบนสายตาไปมองจั่วมู่เกอและหยานจีที่อยู่ข้างๆ จากนั้นจึงค่อยถอนสายตากลับมา
นับแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด สีหน้าของเธอยังคงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง
คล้ายกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต
"เอาล่ะ! ต่อไปจะเป็นเลือกมหาวิทยาลัย!"
หวังหมิงกวาดตามองดูเหล่านักเรียนที่เผยท่าทีตื่นเต้นออกมา เขาอดกลืนน้ำลายอึกหนึ่งไม่ได้ เขากำลังกังวลกับเหตุการณ์นี้ที่สุด
เขาหันไปมองเหล่าฉินและเหล่าหลิวที่ต่างก็มีท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือ เช่นเดียวกับเหล่าตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งห้าแห่ง ดังนั้นจึงอดหันไปกล่าวเตือนไม่ได้ว่า
"หากว่าพวกคุณต่อสู้กัน ทรัพยากรในปีหน้าก็จะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง!"
"อะไรนะ?!"
ได้ยินประโยคนี้ เหล่าผู้ที่กำลังท้วนแขนเสื้อขึ้นเตรียมต่อยตีก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมา
บ้าจริง นายไม่ต้องแย่งคนกับใคร นายก็พูดได้สิ!
เหล่านักเรียนที่เพิ่งออกมาย่อมตระหนักได้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร
หลายคนพากันถอยห่างจากหลินอวี่เพราะกลัวว่าจะถูกลูกหลงไปด้วย
พวกหลินอวี่ทั้งสามหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง
"ทำไมพวกเขาถึงถอยไปขนาดนั้น?"
หยานจีกระพริบตาปริบๆ
ตอนนี้เอง เงาร่างหลายสายก็พุ่งเข้าหาพวกหลินอวี่อย่างรวดเร็ว
เงาร่างเหล่านั้นได้ล้อมพวกหลินอวี่ทั้งสามคนเอาไว้จนไร้ซึ่งทางหนี
"นักเรียนหลินอวี่ ฉันชื่อหลิวหลาง เป็นตัวแทนรับสมัครจากมหาวิทยาลัยขงหมิง เธอยินดีจะเข้าร่วมกับมหาวิทยาลัยของเราหรือไม่?"
"ไสหัวไปเลย! อะแฮ่ม นักเรียนหลินอวี่ อย่าได้หลงกลมัน!"
ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างหันไปคำรามใส่หลิวหลาง จากนั้นเขาก็ปั้นยิ้มพูดกับหลินอวี่ว่า
"หลินอวี่ ฉันชื่อ ฉินเย่หมิง เป็นตัวแทนรับสมัครจากมหาวิทยาลัยหลิงเสี้ยว หลิวเสี้ยวของเราดีกว่าขงหมิงแน่นอน เธอจะไม่เสียใจถ้าเลือกพวกเรา!"
"นักเรียนหลินอวี่ ฉันชื่อ หวังอี้ เป็นตัวแทนรับสมัครจากมหาวิทยาลัยเทียนหวัง มหาวิทยาลัยเทียนหวังของเรานั้น......"
"หลินอวี่ ฉันคือ......"
"นักเรียนหลินอวี่ ฉัน......"
ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยสองเพชรยอดมงกุฏและมหาวิทยาลัยชั้นยอดทั้งห้าต่างก็เริ่มแนะนำตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
"มิติลับของมหาวิทยาลัยเปิดอ้าพร้อมให้เธอได้ใช้งานโดยไม่มีเงื่อนไข!"
"ค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในมหาวิทยาลัย ทางเราจะลดลงให้ครึ่งหนึ่ง!"
"ฉันขอร้องล่ะหลินอวี่ เลือกเรา!"
เชิญชวนโดยไม่สนวิธีการเช่นนี้ นี่ไม่โหดไปหน่อยเหรอ??
"มหาวิทยาลัยของเรามีแต่สาวงาม เอาไว้ไปถึงที่นั่นแล้ว อาจารย์จะแนะนำสาวๆสวยๆให้เธ......."
ก่อนที่ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยหลัวซูจะทันได้พูดจนจบ เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาจากจั่วมู่เกอและหยานจี
คิดจะล่อลวงคนของพวกเราไปงั้นเหรอ?
ตัวแทนนั้นคล้ายพบคำพูดของตนมีปัญหา ดังนั้นจึงรีบปรับแก้ใหม่
"มหาวิทยาลัยของเราสามารถมอบหอพักสุดหรูหราให้กับพวกเธอทั้งสามคนได้ใช้กันอย่างเต็มที่!"
"รับรองเลยว่าห้องพักของเราสามารถเก็บเสียงได้เงียบสนิท รับรองไม่มีเสียงลอดออกมาแน่นอน!"
เขาชูนิ้วโป้งพลางแย้มยิ้มอย่างสดใส จนฟันสะท้อนแสงวิ๊งๆ
พวกเราหลัวซูย่อมมีหนทางที่พิเศษพิสดาร!
"เวรเอ๊ย! ไร้ยางอายเกินไปแล้ว! พวกเขายังเป็นแค่นักเรียนนะ!"
"ยังไงก็เถอะ เพื่อที่จะให้พวกเธอได้เรียนรู้โดยไม่ถูกรบกวน มหาวิทยาลัยของเราสามารถมอบคฤหาสถ์อันเงียบสงบ....."
"พวกเราก็มอบให้ได้! พวกเราก็มีเหมือนกัน!"
ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยอื่นๆรีบแย่งกันเสนอ
ยิ่งมาก็ยิ่งมีข้อเสนอที่ไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้แต่หลินอวี่ก็ยังหวั่นไหวเมื่อได้ข้อเสนอเหล่านี้
เหล่าตัวแทนยังคงหยิบยื่นข้อเสนออกมาเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวราวกับอยู่ในตลาดสด
ที่ด้านหลังของพวกเขา เหล่าตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งได้แต่ยืนมองกันตาปริบๆ หลายคนแทบจะหยิบเมล็ดแตงโมออกมาแทะพลางชมดูความสนุกด้วยซ้ำ
ในใจพวกเขาก็รู้สึกขมขื่นไม่น้อย
พวกเขาเองก็อยากจะโดเข้าไปร่วมวงแย่งชิง แต่พวกเขาก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดี
ต่อให้โดเข้าไปร่วมแจม พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้เอาไปสู้กับเหล่าสถาบันชั้นนำเหล่านั้น ดังนั้นจึงทำได้เพียงชมดูความสนุกอยู่นอกวง
เมื่อได้ยินข้อเสนอที่ดูจะหลุดโลกไปเรื่อยๆ นักเรียนคนอื่นๆก็ได้แต่ยืนมองอย่างโง่งม
"ให้ตายสิ อาจารย์เหล่านั้นบ้าคลั่งกันไปหมดแล้วรึไง?"
"....เข้าใช้มิติลับได้โดยไม่มีเงื่อนไขงั้นเหรอ? นั่นสุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ?"
"ไม่ว่าจะซื้ออะไรก็จะลดให้ 50%?? เอาจริงดิ?!"
"บอกฉันที หอพักส่วนตัวสุดหรู? แล้วก็ยังให้อยู่ด้วยกันได้ด้วย? แม่งเอ๊ย....."
"โครตอิจฉาเลยว่ะ"
"ฉัน+1"
"ทุกคนเรียนมาเหมือนกันแท้ๆ ทำไมหมอนั่นถึงได้ทิ้งห่างคนอื่นแบบนี้นะ?"
".........."
พวกเขาอิจฉาแทบตายแล้ว
หลินอวี่รู้สึกลำบากใจ ไม่รู้จะเลือกมหาวิทยาลัยไหน
ทุกมหาวิทยาลัยล้วนแต่มีข้อเสนอที่ดึงดูดใจกันทั้งนั้น แล้วเขาจะเลือกยังไงดี?
ตอนแรกหลินอวี่วางแผนเอาไว้ว่าจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยหลัวซู
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะมีสาวสวยมากมายหรอก
แต่เหตุผลหลักๆก็คือ หอพักส่วนตัวนั้นเย้ายวนใจมาก
ทว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆก็บอกเป็นนัยๆว่าสามารถมอบข้อเสนอเดียวกันให้ได้ ดังนั้นหลินอวี่จึงยากจะตัดสินใจ
ขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้นเอง เหล่าตัวแทนก็เริ่มเกิดการทุ่มเถียงและพากันถกแขนเสื้อขึ้นเตรียมตัดสินกันด้วยกำลัง
เมื่อเห็นฉากนี้ หวังหมิงที่เฝ้ามองอยู่ทางด้านข้างก็พลันใจหายวาบ
บัดซบ! จะตีกันอีกแล้ว?!
ขณะที่เขาเตรียมจะเข้าไปห้ามทัพ จู่ๆทุกคนก็พากันตัวแข็งทื่อ จากนั้นสีหน้าท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำตัวเรียบร้อยและว่าง่ายราวขึ้นมาทันที
พวกเขายืนหลังเหยียดตรง สายตามองตรงไม่วอกแวก
เมื่อหวังหมิงเห็นฉากนี้ เขาก็นิ่งอึ้ง
ตอนนี้เอง ในหัวของเขาก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เป็นไงล่ะ จะต่อยตีกันจนเบื้องบนต้องส่งคำเตือนลงมาแล้วไง!
เขาเดาไว้อยู่แล้วว่าหลินอวี่มีภูมิหลังไม่ธรรมดา
แม้แต่เขาก็ยังต้องยำเกรงอยู่หลายส่วน
เมื่อเห็นว่าทุกคนที่กำลังทำท่าจะตะลุมบอนกันพลันเปลี่ยนเป็นเรียบๆร้อยๆขึ้นมา หลินอวี่ก็มึนงง
จากนั้นในดวงตาของเขาก็ไหววูบ คล้ายกับเข้าใจบางอย่าง
เหนือท้องฟ้าขึ้นไปจนถึงอวกาศ ซิงเฉินยกมือขึ้นเท้าคางพลางจ้องมองดูโลกเบื้องล่าง จากนั้นเธอจึงคลี่ยิ้มบาง
"เด็กน้อยพวกนี้นี่วุ่นวายกันจริงๆ"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved