ตอนที่ 88

ช่องว่างความแตกต่างระหว่างหลินอวี่ที่ได้อันดับหนึ่งและอันดับอื่นๆนั้นแตกต่างกันมาก

โดยอันดับที่สองและสามก็คือหยานจีและจั่วมู่เกอที่ติดสอยห้อยตามหลินอวี่

หากยึดตามคำพูดของหลินอวี่ก็จะเป็น หนึ่งหมอนหนุน และหนึ่งสารถี

ขณะที่อันดับถัดลงไปนั้นเป็นรายชื่อที่หลินอวี่ไม่คุ้นเคย

และในอันดับที่สองร้อยกว่า หลินอวี่ก็มองเห็นชื่อของปู้เจิ่งซิ่น สำหรับสวีเผิงเทียนนั้น เขาอยู่อันดับที่สี่ร้อยกว่า

เหล่านักเรียนที่เพิ่งออกมาต่างก็ส่งเสียงกันอื้ออึงเมื่อได้เห็นผลคะแนน

"เรื่องบ้าอะไรวะนั่น? ที่หนึ่งมันควรจะเป็นของฉินหยาง หรือไม่ก็ลู่อันหลิงไม่ใช่รึไง?! ก็สองคนนั้นอยู่คลาสสองแล้วไม่ใช่เหรอ?!"

"เดอะฟัค?! หลินอวี่นั่นมันใครกัน? คะแนน 200,000 กว่า?! หรือว่าพวกคลาสสองคลาสสามจะถูกเขาล่าจนเกลี้ยง??"

"ผลคะแนนห่างกันเกินไปแล้ว"

"คิดๆดูแล้ว หรือว่าผลจะผิดพลาด?"

"ผิดพลาด? มีตัวแทนจากมหาวิยาลัยมากมายมาสังเกตุการณ์ด้วยแบบนี้ คิดว่าจะสวามารถตบตาพวกเขาได้งั้นเหรอ?"

แม้ว่าทุกคนจะตกตะลึง แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังมีสามัญสำนึกอย่างคนทั่วไป

ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงและตัวแทนจากมหาวิทยาลัยมากมายอยู่ด้วย และพวกเขาย่อมไม่ได้ตาบอด มีหรือที่พวกเขาจะยอมหล่อยให้เกิดการโกงขึ้นมาได้?

ฉินหยางเป็นเด็กหนุ่มร่างกำยำที่หน้าตาดูสัตย์ซื่อ

เขามองดูผลการจัดอันดับพลางยกมือขึ้นเกาหัว ปากก็อดพึมพำไม่ได้ว่า

"แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?"

ดวงตาของเขาพลันปรากฏความกระหายที่จะต่อสู้ขึ้นอย่างแรงกล้า

"จะต้องหาโอกาสสู้ด้วยสักครั้ง!"

สำหรับลู่อันหลิง เธอเป็นนักธนูร่างบาง สายตาของเธอกวาดมองไปยังรอบๆราวกับกำลังตามหาอะไรบางอย่าง

จากนั้นเธอก็เห็นว่าสายตาของเหล่าตัวแทนจากสถาบันต่างๆกำลังจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มผมดำผู้หนึ่ง

เขาแต่งกายด้วยชุดของนักเวท

เธอเลิกคิ้ว

นี่เหรอหลินอวี่?

เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?

ส่วนหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างสองคนนั้นก็คือทายาทตระกูลจั่วและตระกูลหยาน?

ดวงตาของเธอไหววูบขณะจ้องมองหลินอวี่ ในใจเกิดความกังขาขึ้นมา

ส่วนตงกงเยว่เป็นหญิงสาวผมสั้นสีดำที่มีใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ เธอก็คือผู้ที่เข้าไปภายใน้ถ้ำของพวกต่างดาวก่อนหน้านี้

เธอจ้องมองหลินอวี่ จากนั้นจึงเบนสายตาไปมองจั่วมู่เกอและหยานจีที่อยู่ข้างๆ จากนั้นจึงค่อยถอนสายตากลับมา

นับแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด สีหน้าของเธอยังคงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง

คล้ายกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต

"เอาล่ะ! ต่อไปจะเป็นเลือกมหาวิทยาลัย!"

หวังหมิงกวาดตามองดูเหล่านักเรียนที่เผยท่าทีตื่นเต้นออกมา เขาอดกลืนน้ำลายอึกหนึ่งไม่ได้ เขากำลังกังวลกับเหตุการณ์นี้ที่สุด

เขาหันไปมองเหล่าฉินและเหล่าหลิวที่ต่างก็มีท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือ เช่นเดียวกับเหล่าตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งห้าแห่ง ดังนั้นจึงอดหันไปกล่าวเตือนไม่ได้ว่า

"หากว่าพวกคุณต่อสู้กัน ทรัพยากรในปีหน้าก็จะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง!"

"อะไรนะ?!"

ได้ยินประโยคนี้ เหล่าผู้ที่กำลังท้วนแขนเสื้อขึ้นเตรียมต่อยตีก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมา

บ้าจริง นายไม่ต้องแย่งคนกับใคร นายก็พูดได้สิ!

เหล่านักเรียนที่เพิ่งออกมาย่อมตระหนักได้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร

หลายคนพากันถอยห่างจากหลินอวี่เพราะกลัวว่าจะถูกลูกหลงไปด้วย

พวกหลินอวี่ทั้งสามหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง

"ทำไมพวกเขาถึงถอยไปขนาดนั้น?"

หยานจีกระพริบตาปริบๆ

ตอนนี้เอง เงาร่างหลายสายก็พุ่งเข้าหาพวกหลินอวี่อย่างรวดเร็ว

เงาร่างเหล่านั้นได้ล้อมพวกหลินอวี่ทั้งสามคนเอาไว้จนไร้ซึ่งทางหนี

"นักเรียนหลินอวี่ ฉันชื่อหลิวหลาง เป็นตัวแทนรับสมัครจากมหาวิทยาลัยขงหมิง เธอยินดีจะเข้าร่วมกับมหาวิทยาลัยของเราหรือไม่?"

"ไสหัวไปเลย! อะแฮ่ม นักเรียนหลินอวี่ อย่าได้หลงกลมัน!"

ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างหันไปคำรามใส่หลิวหลาง จากนั้นเขาก็ปั้นยิ้มพูดกับหลินอวี่ว่า

"หลินอวี่ ฉันชื่อ ฉินเย่หมิง เป็นตัวแทนรับสมัครจากมหาวิทยาลัยหลิงเสี้ยว หลิวเสี้ยวของเราดีกว่าขงหมิงแน่นอน เธอจะไม่เสียใจถ้าเลือกพวกเรา!"

"นักเรียนหลินอวี่ ฉันชื่อ หวังอี้ เป็นตัวแทนรับสมัครจากมหาวิทยาลัยเทียนหวัง มหาวิทยาลัยเทียนหวังของเรานั้น......"

"หลินอวี่ ฉันคือ......"

"นักเรียนหลินอวี่ ฉัน......"

ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยสองเพชรยอดมงกุฏและมหาวิทยาลัยชั้นยอดทั้งห้าต่างก็เริ่มแนะนำตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

"มิติลับของมหาวิทยาลัยเปิดอ้าพร้อมให้เธอได้ใช้งานโดยไม่มีเงื่อนไข!"

"ค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในมหาวิทยาลัย ทางเราจะลดลงให้ครึ่งหนึ่ง!"

"ฉันขอร้องล่ะหลินอวี่ เลือกเรา!"

เชิญชวนโดยไม่สนวิธีการเช่นนี้ นี่ไม่โหดไปหน่อยเหรอ??

"มหาวิทยาลัยของเรามีแต่สาวงาม เอาไว้ไปถึงที่นั่นแล้ว อาจารย์จะแนะนำสาวๆสวยๆให้เธ......."

ก่อนที่ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยหลัวซูจะทันได้พูดจนจบ เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาจากจั่วมู่เกอและหยานจี

คิดจะล่อลวงคนของพวกเราไปงั้นเหรอ?

ตัวแทนนั้นคล้ายพบคำพูดของตนมีปัญหา ดังนั้นจึงรีบปรับแก้ใหม่

"มหาวิทยาลัยของเราสามารถมอบหอพักสุดหรูหราให้กับพวกเธอทั้งสามคนได้ใช้กันอย่างเต็มที่!"

"รับรองเลยว่าห้องพักของเราสามารถเก็บเสียงได้เงียบสนิท รับรองไม่มีเสียงลอดออกมาแน่นอน!"

เขาชูนิ้วโป้งพลางแย้มยิ้มอย่างสดใส จนฟันสะท้อนแสงวิ๊งๆ

พวกเราหลัวซูย่อมมีหนทางที่พิเศษพิสดาร!

"เวรเอ๊ย! ไร้ยางอายเกินไปแล้ว! พวกเขายังเป็นแค่นักเรียนนะ!"

"ยังไงก็เถอะ เพื่อที่จะให้พวกเธอได้เรียนรู้โดยไม่ถูกรบกวน มหาวิทยาลัยของเราสามารถมอบคฤหาสถ์อันเงียบสงบ....."

"พวกเราก็มอบให้ได้! พวกเราก็มีเหมือนกัน!"

ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยอื่นๆรีบแย่งกันเสนอ

ยิ่งมาก็ยิ่งมีข้อเสนอที่ไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้แต่หลินอวี่ก็ยังหวั่นไหวเมื่อได้ข้อเสนอเหล่านี้

เหล่าตัวแทนยังคงหยิบยื่นข้อเสนออกมาเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวราวกับอยู่ในตลาดสด

ที่ด้านหลังของพวกเขา เหล่าตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งได้แต่ยืนมองกันตาปริบๆ หลายคนแทบจะหยิบเมล็ดแตงโมออกมาแทะพลางชมดูความสนุกด้วยซ้ำ

ในใจพวกเขาก็รู้สึกขมขื่นไม่น้อย

พวกเขาเองก็อยากจะโดเข้าไปร่วมวงแย่งชิง แต่พวกเขาก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดี

ต่อให้โดเข้าไปร่วมแจม พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้เอาไปสู้กับเหล่าสถาบันชั้นนำเหล่านั้น ดังนั้นจึงทำได้เพียงชมดูความสนุกอยู่นอกวง

เมื่อได้ยินข้อเสนอที่ดูจะหลุดโลกไปเรื่อยๆ นักเรียนคนอื่นๆก็ได้แต่ยืนมองอย่างโง่งม

"ให้ตายสิ อาจารย์เหล่านั้นบ้าคลั่งกันไปหมดแล้วรึไง?"

"....เข้าใช้มิติลับได้โดยไม่มีเงื่อนไขงั้นเหรอ? นั่นสุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ?"

"ไม่ว่าจะซื้ออะไรก็จะลดให้ 50%?? เอาจริงดิ?!"

"บอกฉันที หอพักส่วนตัวสุดหรู? แล้วก็ยังให้อยู่ด้วยกันได้ด้วย? แม่งเอ๊ย....."

"โครตอิจฉาเลยว่ะ"

"ฉัน+1"

"ทุกคนเรียนมาเหมือนกันแท้ๆ ทำไมหมอนั่นถึงได้ทิ้งห่างคนอื่นแบบนี้นะ?"

".........."

พวกเขาอิจฉาแทบตายแล้ว

หลินอวี่รู้สึกลำบากใจ ไม่รู้จะเลือกมหาวิทยาลัยไหน

ทุกมหาวิทยาลัยล้วนแต่มีข้อเสนอที่ดึงดูดใจกันทั้งนั้น แล้วเขาจะเลือกยังไงดี?

ตอนแรกหลินอวี่วางแผนเอาไว้ว่าจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยหลัวซู

แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะมีสาวสวยมากมายหรอก

แต่เหตุผลหลักๆก็คือ หอพักส่วนตัวนั้นเย้ายวนใจมาก

ทว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆก็บอกเป็นนัยๆว่าสามารถมอบข้อเสนอเดียวกันให้ได้ ดังนั้นหลินอวี่จึงยากจะตัดสินใจ

ขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้นเอง เหล่าตัวแทนก็เริ่มเกิดการทุ่มเถียงและพากันถกแขนเสื้อขึ้นเตรียมตัดสินกันด้วยกำลัง

เมื่อเห็นฉากนี้ หวังหมิงที่เฝ้ามองอยู่ทางด้านข้างก็พลันใจหายวาบ

บัดซบ! จะตีกันอีกแล้ว?!

ขณะที่เขาเตรียมจะเข้าไปห้ามทัพ จู่ๆทุกคนก็พากันตัวแข็งทื่อ จากนั้นสีหน้าท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำตัวเรียบร้อยและว่าง่ายราวขึ้นมาทันที

พวกเขายืนหลังเหยียดตรง สายตามองตรงไม่วอกแวก

เมื่อหวังหมิงเห็นฉากนี้ เขาก็นิ่งอึ้ง

ตอนนี้เอง ในหัวของเขาก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เป็นไงล่ะ จะต่อยตีกันจนเบื้องบนต้องส่งคำเตือนลงมาแล้วไง!

เขาเดาไว้อยู่แล้วว่าหลินอวี่มีภูมิหลังไม่ธรรมดา

แม้แต่เขาก็ยังต้องยำเกรงอยู่หลายส่วน

เมื่อเห็นว่าทุกคนที่กำลังทำท่าจะตะลุมบอนกันพลันเปลี่ยนเป็นเรียบๆร้อยๆขึ้นมา หลินอวี่ก็มึนงง

จากนั้นในดวงตาของเขาก็ไหววูบ คล้ายกับเข้าใจบางอย่าง

เหนือท้องฟ้าขึ้นไปจนถึงอวกาศ ซิงเฉินยกมือขึ้นเท้าคางพลางจ้องมองดูโลกเบื้องล่าง จากนั้นเธอจึงคลี่ยิ้มบาง

"เด็กน้อยพวกนี้นี่วุ่นวายกันจริงๆ"