หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะปั้นยิ้มพูดว่า

"งั้นพวกเรามาแอดเพื่อนกันมั้ย? ถ้ามีเวลาว่าง พวกเราจะได้เข้าไปในมิติสนามรบด้วยกัน~"

เธอขยิบตาให้หลินอวี่

หลินอวี่ส่ายหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

"ไม่ล่ะ เธออ่อนแอเกินไป ไม่ว่าสกิลไหนของฉันก็จัดการเธอได้ทั้งนั้น ถ้าเธอไม่พัฒนาขึ้นจนเอาชนะฉันได้ ฉันแนะนำให้เธอไปขอให้คนอื่นช่วยเถอะ"

ให้ตายสิ!

สาวสวยนิ่งเป็นไก่ไม้

นี่เขาเป็นบุรุษเหล็กที่ไม่มีความรู้สึกเลยรึไงกัน?!

การจะเอาชนะตัวตนระดับหลินอวี่ได้ คิดว่าเธอจะทำได้ง่ายๆรึไง?

มีแค่ช่วงเรียนเท่านั้น เธอถึงจะมีโอกาสได้เข้ามาพูดคุยกับหลินอวี่

ไม่อย่างนั้น.....

เมื่อนึกถึงจั่วมู่เกอและหยานจี หนังศีรษะของเธอก็ชาหนึบ

ต้องยอมรับว่าสองคนนั้นสวยมากจริงๆ

เธอทราบสถานการณ์ของตัวเองดี

ผลลัพธ์น่ะเหรอ?

ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แม่แต้หญิงสาวที่อยู่รอบๆก็ยังนิ่งอึ้ง

นี่.....

ทำไมการรุกเข้าหาหลินอวี่ถึงยากเย็นกว่าที่คิดกันนะ?

ขณะที่พวกเธอกำลังคิดหาวิธีจะเข้าใกล้บุรุษเหล็กผู้นี้ ร่างในเสื้อคลุมสีม่วงก็เดินเข้ามา

นักศึกษาต่างหันไปมอง

ผู้มาเป็นหญิงสาวหน้าตางดงาม แต่ดูแข็งแกร่ง มีผมยาวสีม่วงเข้ม

เธอก้าวเดินไปยังเวทียกสูง

หลังจากเดินไปหยุดอยู่ตรงโพเดี่ยมแล้ว เธอก็ปรายตามองนักศึกษาทั้งหมดด้วยสายตาที่ดูเย็นชาเล็กน้อย

สายตาของเธอคล้ายกับสายลมที่พัดผ่านสนามรบ มาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือด

จากนั้นเธอจึงเปิดปากถามขึ้นว่า

"หลินอวี่คือคนคนไหน?"

หลินอวี่ชะงักก่อนจะยกมือขึ้น

"ผมเอง"

หญิงสาวหน้าตางดงามนั้นมองหลินอวี่ก่อนจะพยักหน้า

"นายมาเป็น TA ให้ฉัน ช่วยฉันสอน"

หลินอวี่ชะงัก "ห้ะ?"

เขามองอาจารย์สาวอย่างพูดไม่ออก

อาจารย์คนนี้พึ่งพาได้ใช่มั้ย?

เขายังไม่เคยเข้าเรียนด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายจะให้เขาช่วยสอนแล้ว?

อาจารย์สาวพูดต่อ

"การเป็น TA แต่ละคาบจะได้รับ 500 เครดิต"

"ตกลงครับ!"

หลินอวี่พยักหน้า

"อาจารย์ไม่ต้องกังวล ผมจะทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง!"

อาจารย์สาวพยักหน้า จากนั้นจึงเริ่มทำการแนะนำตัว

"ฉันขอแนะนำตัวเองก่อนแล้วกัน ฉันเป็นหัวหน้ากองกำลังจอมเวทที่หนึ่งแห่งกองพลขงหมิง เล่ยอิ่งจี คลาส 8 เลเวล 4 อาชีพจอมเวทใจอัสนี"

ได้ยินดังนั้น ทุกคนภายในห้องไม่เว้นแม้แต่หลินอวี่ก็แทบจะหยุดหายใจ

บางคนกระทั่งอุทานออกมา

คลาส 8 เลเวล 4!

ตัวตนระดับสูง!

ยิ่งกว่านั้นเธอยังเป็นถึงหัวหน้ากองกำลังจอมเวทแห่งกองพลขงหมิง!

แล้วก็ยังเป็นอาชีพหายากด้วย!

แม้จะไม่รู้ว่าจอมเวทใจอัสนีเป็นยังไง แต่แค่ฟังดูก็รู้ว่าแข็งแกร่ง

อาจารย์ของพวกเขาเป็นตัวตนระดับสูง!

ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจ

ที่แท้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยขงหมิงเก่งกาจขนาดนี้เลย?!

ตัวตนระดับนี้ถึงกับลงมาสอนพวกเขาด้วยตัวเอง!

"เดิมที คลาสของพวกเธอไม่จำเป็นต้องให้ฉันมาสอน แต่ท่านอธิการเชิญฉันมา บอกว่านักศึกษาปีนี้มีเมล็ดพันธุ์ที่ดี"

ขณะพูด เล่ยอิ่งจีก็หันมามองหลินอวี่

"หวังว่าจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง"

ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง

ทุกสายตาล้วนจับจ้องมาที่หลินอวี่

ที่แท้ก็เพราะเขา!

ไม่แปลกใจเลย

ทุกคนรู้ว่าหลินอวี่นั้นแข็งแกร่งมาก

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจอะไร

หลินอวี่รู้สึกตื่นเต้น

หลิวหลางไม่เห็นบอกเลยว่าจะอาจารย์ที่มาสอนเขาจะเป็นสาวสวย

หากบอกกันก่อน เขาก็คงเลือกมหาวิทยาลับขงหมิงโดยไม่ลังเล

แค่กๆ....

ก็ยังลังเลอยู่ดีนั่นแหละ

"เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มคาบเรียนกันเถอะ"

"ในฐานะนักเวทแล้ว ประเภทของสกิลจะประกอบด้วย สกิลประเภทโจมตี สกิลประเภทป้องกัน สกิลเคลื่อนย้าย สกิลบัฟ สกิลพิเศษ และอื่นๆ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับสกิลประเภทโจมตี"

ดวงตาอันเฉียบคมของเธอกวาดมองรอบห้องเรียน

"พวกเธอรู้วิธีใช้สกิลโจมตีกันไหม?"

หลินอวี่และคนอื่นๆต่างนิ่งอึ้ง

ใช้สกิลเป็นไหม?

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องใช้เป็น

เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูสับสนของเหล่านักศึกษา เล่ยอิ่งจีก็พูดว่า

"หลินอวี่ ออกมานี่"

หลินอวี่ลุกขึ้นยืนและบนขึ้นไปบนเวทีหน้าห้อง

เล่ยอิ่งจีชี้ไปยังด้านหนึ่ง

"ลองใช้สกิลโจมตีดู"

"ครับ"

หลินอวี่พยักหน้าและจึงเริ่มเรียกระเบิดไฟออกมา

ฟุ่บ!

ระเบิดไฟพุ่งฝ่าอากาศไปยังเป้าหมาย

ตู้ม!!

เป้าที่เป็นโลหะพลันอ่อนยวบ เปลวเพลิงพัดโหมกระหน่ำ อากาศทั่วบริเวณพลันสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ฉากที่เกิดขึ้นทำให้นักศึกษาที่ชมดูต้องสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่

เล่ยอิ่งจีมองดูการระเบิดของระเบิดไฟ เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองหลินอวี่

จากนั้นจึงพยักหน้า

"อธิการพูดถูก เธอแข็งแกร่งมาก"

หลินอวี่ยิ้ม

"อาจารย์ชมเกินไปแล้วครับ"

เล่ยอิ่งจีส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

"ฉันแค่พูดความจริง ไม่ได้จะชมเธอ"

หลินอวี่ "......."

มุมปากของเขากระตุกถี่ยิบ

จากนั้นเล่ยอิ่งจีจึงพูดต่อ

"อย่างไรก็ตาม การโจมตีของเธอยังรุนแรงได้มากกว่านี้"

"หืม?"

หลินอวี่ชะงัก เขาหันไปมองเล่ยอิ่งจีเพื่อรอฟังคำตอบ

หากเขาใช้มานามากขึ้น ระเบิดไฟก็จะยิ่งรุนแรงกว่านี้

แต่นี่เป็นเพียงเรื่องพื้นฐาน

ดังนั้น เล่ยอิ่งจีย่อมไม่ได้พูดถึงวิธีนี้

เล่ยอิ่งจีกวาดมองนักศึกษาที่เบื้องล่างก่อนจะพูดขึ้นว่า

"ลองดูความแตกต่างระหว่างการใช้สกิลของฉันและนักศึกษาหลินอวี่"

เธอเหยียดลำแขนอันขาวผ่องออกไปพลางพูดว่า

"ฉันจะใช้ระเบิดไฟเหมือนกับหลินอวี่และใช้ปริมาณมานาที่เท่ากัน"

เกิดเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นจากนิ้วของเล่ยอิ่งจี

จากนั้นจึงควบแน่นกลายเป็นลูกไฟขนาดเท่ากำปั้น

ม่านตาของหลินอวี่พลันหดวูบ เขาจ้องมองลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ระเบิดไฟเป็นสกิลที่เขาใช้บ่อยที่สุด ดังนั้นเขาย่อมจำมันได้ดี

อย่างไรก็ตาม ระเบิดไฟที่เล่ยอิ่งจีใช้นั้นมีขนาดเท่ากำปั้น หากแต่อานุภาพของมันกลับทรงพลังยิ่งกว่าระเบิดไฟที่เขาเพิ่งใช้ออกไป

เล่ยอิ่งจีดีดนิ้ว

ระเบิดไฟขนาดเท่ากำปั้นก็บรรลุถึงเป้าหมายแทบจะในทันที

ชี่~

ระเบิดขนาดเท่ากำปั้นพุ่งเข้าไปในเนื้อโลหะ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง

ตู้ม!!

เกิดเสียงระเบิดดังกระหึ่ม คลื่นความร้อนสาดซัดออกโดยรอบอย่างรุนแรง อานุภาพการทำลายล้างยังเหนือกว่าตอนที่หลินอวี่ใช้มาก

เป้าโลหะหลอมละลาย

ถูกหลอมละลายโดยสมบูรณ์

เล่ยอิ่งจีโบกมือเบาๆ เปลวเพิลงและเหล็กหลอมเหลวที่กำลังลุกลามออกไปก็ถูกสกัดไว้โดยมือที่มองไม่เห็น

เหล็กหลอมเหลวถูกบีบกลายเป็นโลหะทรงกลม

เปลวเพลิงก็มอดดับลง

หลินอวี่มองดูเป้าหมาย

เขาพบว่ามันมีสภาพหลอมเหลวแตกต่างจากตอนที่ถูกระเบิดไฟของเขา

เป็นการระเบิดจากภายในสู่ภายนอก....