จนกระทั่งยามค่ำ รถหุ้มเกราะก็มาถึงเมืองสวรรค์เจิดจรัส
ในฐานะเมืองที่เป็นศูนย์กลางของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน เมืองสวรรค์เจิดจรัสจึงเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญกว่าเมืองประกายแสงหลายเท่า
ตึกสูงระฟ้า แสงสีในยามค่ำคืน เป็นสถานที่ซึ่งยากที่เมืองใดจะเทียบได้
หลังจากรถหุ้มเกราะวิ่งเข้าไปในเมืองก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ประจำเมืองสวรรค์เจิดจรัส
กองทัพให้ความสำคัญอย่างมากกับเหล่านักเรียนที่เดินทางมาเข้าร่วมการสอบระดับหัวกะทิ
"นักเรียนทั้งหลาย ตามเจ้าหน้าที่จากทางกองทัพไป พวกเขาจะนำพวกเธอไปยังที่พัก"
จางหงไช่กล่าวกับเหล่านักเรียนด้วยรอยยิ้ม
"พวกเราต้องไปแล้ว ขอให้พวกเธอโชคดีในการสอบ"
เถียนหยวนหลงและผู้คุมคนอื่นๆเอ่ยอำลาพวกหลินอวี่
เถียนหยวนหลงและลู่เหยาต่างก็แอดเพื่อนกับหลินอวี่เอาไว้หลังจากได้ผ่านการต่อสู้ร่วมกัน
ทั้งสองหวังว่าจะมีโอกาสได้ซื้อไอเท็มพิเศษจากหลินอวี่ในอนาคต
ไอเท็มพิเศษที่หลินอวี่ใช้ออกมาทำให้พวกเขาอิจฉาตาร้อน
หากใช้อย่างเหมาะสม ไอเท็มก็จะมีส่วนในการพลิกกระแสของการต่อสู้ได้เลย!
หลินอวี่ย่อมไม่คิดอะไร
"ถ้างั้นอาเองก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน"
จั่วเล่อเฉิงบอกลาจั่วมู่เกอ
เขายังมีงานที่รอให้กลับไปทำที่เมืองประกายแสง
หากไม่ใช่เพราะกังวลความปลอดภัยของจั่วมู่เกอ เขาก็คงไม่ได้ร่วมทางมาด้วยเช่นนี้
หลินอวี่และคนอื่นๆติดตามเจ้าหน้าที่ทหารไปขึ้นรถ
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงแรมที่พัก
"นอกจากพวกเธอแล้ว นักเรียนจากเมืองอื่นๆก็มาถึงแล้วเช่นกัน การสอบระดับหัวกะทิจะจัดขึ้นในวันมะรืน หลังจากลงทะเบียนแล้วก็สามารถย้ายเข้าพักได้ในทันที ส่วนวันพรุ่งนี้พวกเธอสามารถพักผ่อนได้อย่างอิสระ"
ทหารที่นำทางอธิบายให้ฟังด้วยรอยยิ้ม
นักเรียนหลายคนพลันตาเป็นประกาย สีหน้าฉายแววตื่นเ้ตนและคาดหวัง
ด้านนอกเมืองนั้นอันตรายมาก ดังนั้นจึงมีหลายคนที่ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยไปต่างเมืองเลย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการมายังเมืองศูนย์กลางแบบนี้!
นักเรียนส่วนใหญ่อยากจะออกเดินช้อปปิ้ง
แน่นอนว่าก็มีนักเรียนบางคนที่มาจากตระกูลใหญ่อย่างเช่น หยานจี จั่วมู่เกอ สวีเผิงเทียนซึ่งมักจะได้ไปที่ต่างเมืองบ่อยๆ ดังนั้นจึงไม่ได้ตื่นเต้นแต่อย่างใด
จั่วมู่เกอกุมมือหลินอวี่เอาไว้พลางพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"อาหวี่ ฉันรู้จักร้านอาารที่อร่อยๆด้วยล่ะ! พรุ่งนี้พวกเราไปกินที่นั่นกันเถอะ~"
หยานจีหันมาหาจั่วมู่เกอ
"ใช่ร้านที่มีเชฟชื่อดังรึเปล่า?"
"ใช่ เมื่อมาถึงสวรรค์เจิดจรัสทั้งที พวกเราก็ต้องไปร้านนั้นนั่นแหละ!"
จั่วมู่เกอพูดด้วยรอยยิ้มสดใส
หยานจีพยักหน้า "ดีเลย"
หลินอวี่พยักหน้าเมื่อเห็นว่าสองสาวบอกว่าอาหารที่นั่นอร่อย
"งั้นก็ไปด้วยกัน"
"พี่ใหญ่ ลูกพี่ พาผมไปด้วยนะ? ผมเลี้ยงเอง!"
สวีเผิงเทียนรีบเสนอตัว
หลังจากหลินอวี่พาเถียนหยวนหลงและลู่เหยาไปกำจัดพวกเมอร์ล็อคทั้งหมด เขาก็ยิ่งมีท่าทางประจบแจงมากขึ้น นับวันก็ยิ่งดูคล้ายคอลลินเข้าไปทุกที
ก่อนที่หลินอวี่จะทันได้พูดอะไร จั่วมู่เกอและหยานจีต่างก็มองสวีเผิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา
เจ้าหมอนี่ไม่มีตาเลยรึไง?
ไม่เห็นรึไงว่าพกวเรากำลังจะไปเดทกันน่ะ?
เมื่อถูกสองสาวจ้องมองอย่างเย็นชา สวีเผิงเทียนก็เหงื่อแตกพลั่ก
เขายิ้มเจื่อนๆ
"ล้อเล่นครับ ล้อเล่น"
ทุกคนค่อยๆลงจากรถบัสทีละคน จากนั้นจึงเช็คอินเข้าพัก จากนั้นจึงเป็นการจัดสรรห้อง
ทุกคนต่างมีห้องพักส่วนตัว
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โรงแรมทั่วเมืองก็ได้เตรียมรองรับนักเรียนที่จะมาเข้าร่วมการสอบระดับหัวกะทิ
แม้ว่าโรงแรมที่พวกเขาเข้าพักจะดูเรียบง่าย แต่ก็สะอาดอย่างมาก
หลังจากมาถึงห้องพัก หลินอวี่ก็อาบน้ำก่อนจะออกมาตรวจสอบการเก็บเกี่ยวที่ผ่านมา
ของส่วนใหญ่จะถูกขายเป็นเงิน ดังเช่นไอเท็มคลาส 3 คลาส3 ที่เขายังใช้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม มีหนังสือสกิลของนักเวท 2 เล่มและไอเท็มคลาสหนึ่ง 2 ชิ้น
-----------------------------------------------
ท่องสายลม ( E+ )
ใช้พลังมานาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%
-----------------------------------------------
-----------------------------------------------
สายฟ้าฟาด ( D )
ปลดปล่อยสายฟ้าโจมตีใส่เป้าหมาย สร้างค่าความเสียหายจำนวนมาก
-----------------------------------------------
ในการสังหารพวกเมอร์ล็อคก่อนหน้านี้ เขามีบทบาทสำคัญมาก ดังนั้นจึงได้รับค่าประสบการณ์กว่า 6 ล้านหน่วย
ทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นจาก 1 กลายเป็น 4 และพลังโจมตีของเขาก็พุ่งขึ้นไปจนถึงระดับที่น่าพรั่นพรึงถึง 8,078 หน่วย
แม้แต่พลังโจมตีทางกายภาพก็สูงกว่า 1,000 แล้ว
หรือก็คือ เทียบได้กับอาชีพนักรบที่ผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับจักรพรรดิ ต่อให้เขาใช้ไม้เท้าเคาะใส่หัวศัตรู พลังโจมตีของเขาก็สามารถฆ่าศัตรูได้ไม่ยาก
เว้นแต่อีกฝ่ายจะสวมใส่อุปกรณ์ระดับ C ทั้งตัว
และมีค่าพลังชีวิตมากกว่า 11,000
ไม่อย่างนั้นก็จะถูกหลินอวี่สังหารได้อย่างง่ายดาย
สีหน้าของหลิอนวี่ฉายแววแปลกใจ
เขากำลังสงสัยว่า หากเขาใช้ไม้เท้าเคาะใส่หัวคู่ต่อสู้ นั่นจะดูโหดไปรึเปล่า?
สงสัยต้องหาโอกาสหาดาบเวทหรืออะไรทำนองนั้นมาใช้บ้างแล้ว
หลินอวี่ส่ายหน้าสลัดความคิดฟุ้งซ่าน
เขายังเหลือค่าประสบการณ์อีกกว่าหนึ่งล้านหน่วย
จากเลเวล 1 ไปเลเวล 5 ต้องใช้ค่าประสบการณ์เกือบ 10 ล้านหน่วย ซึ่งแน่นอนว่าไม่พอ
อย่างไรก็ตาม ค่าประสบการณ์เพียงเท่านี้ก้เพียงพอจะใช้ขยายผลแล้ว
หลินอวี่ใส่สกิลทั้งสองเข้าไปในช่องขยายพลัง
ขยายพลัง
หลังจากเกิดแสงสว่างขึ้น สกิลทั้งสองก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
"ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น หลินอวี่ สกิล ท่องวายุ ระดับ E+ ได้รับการขยายพลังขึ้นร้อยเท่า กลายเป็นสกิล ระบำสายลม ระดับ C+"
"ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น หลินอวี่ สกิล สายฟ้าฟาด ระดับ D ได้รับการขยายพลังขึ้นร้อยเท่า กลายเป็นสกิล สายฟ้าทมิฬ ระดับ B+"
-----------------------------------------------
ระบำสายลม ( C+ )
ใช้พลังมานาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 300%
หากเป็นการเคลื่อนไหวกลางอากาศ จะใช้พลังมานามากกว่าปกติ 3 เท่า
ระยะเวลาคูลดาวน์: ไม่มี
-----------------------------------------------
หลินอวี่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นี่เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของเขา
ดูจากผิวเผินแล้ว นี่เป็นแค่สกิลที่เพิ่มความเร็วขึ้นสามเท่า
แต่เนื่องเพราะเขาผ่านภารกิจระดับอีเทอร์นอลส์ ซึ่งแต่ละเลเวลที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มค่าความคล่องตัวให้กับเขาจำนวน 50 แต้ม
ดังนั้นความเร็วของเขาในตอนนี้จึงสูงมากแล้ว
หากว่าเพิ่มขึ้นอีกสามเท่า แม้แต่นักฆ่าหรือนักธนูลาส 4 และคลาส 5 ก็อาจจะไล่ตามเขาไม่ทันด้วยซ้ำ?
และ บรรทัดล่างนั่น หมายความว่าเขาสามารถบินได้?!
เขาทดลองใช้ระบำสายลมกับตัวเอง ลมกลุ่มหนึ่งก็หอบให้ตัวเขาลอยขึ้น
ร่างของหลินอวี่ลอยขึ้นไปอยู่กลางอากาศ
นี่เป็นการบินในอากาศครั้งแรกของเขา ดังนั้นจึงยากที่จะทรงตัว หลังจากส่ายไปส่ายมาอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็สามารถควบคุมการทรงตัวได้
หลังจากปลดสกิลและกลับมายืนบนพื้นห้องแล้ว หลินอวี่ก็ยิ้มออกมา
นี่เป็นสกิลที่จะทำให้เขารวดเร็วขึ้นอีกมาก
เยี่ยมเลยแฮะ
จากนั้นหลินอวี่จึงตรวจดูอีกสกิล
-----------------------------------------------
สายฟ้าทมิฬ ( B+ )
ใช้พลังมานาเพื่อเรียกสายฟ้าอันเกรี้ยวกราดให้จู่โจมใส่เป้าหมาย สร้างค่าความเสียหายจำนวนมากและทำให้ศัตรูติดสถานะอัมพาต
ใช้พลังมานา 3,000 หน่วย สร้างค่าความเสียหาย (5,000 + 5 x พลังโจมตีเวทมนตร์) และทำให้เป้าหมายติดสถานะอัมพาตเป็นเวลาสามวินาที
ระยะเวลาร่าย: ไม่มี
ระยะเวลาคูลดาวน์: 10 วินาที
-----------------------------------------------
สายฟ้าทมิฬ นี่ก็เป็นอีกสกิลที่ทรงพลังอย่างมาก
ด้วยค่าพลังโจมตีเวทมนตร์ของเขาในปัจจุบันแล้ว เขาก็สามารถสร้างค่าความเสียหายได้เกิน 40,000 หน่วย
แน่นอน เมื่อหักลบกับค่าพลังป้องกันของเป้าหมายแล้ว ค่าความเสียหายก็อาจจะลดลงไปบ้าง
อย่างไรก็ตาม สกิลนี้ก็ยังสามารถคุกคามศัตรูระดับสูงได้
อย่างน้อยก็จะไม่มีสถานการณ์ที่เขาโจมตีอีกฝ่ายไม่เข้าอีกแล้วใช่รึเปล่า?
เมื่อใช้ร่วมกับสกิลศรน้ำแข็งแห่งความมืดที่สามารถลดค่าพลังป้องกันของเขาเป้าหมายลงได้แล้ว สกิลโจมตีนี้ก็จะยิ่งมีอานุภาพน่ากลัวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สกิลนี้ใช้พลังมานาค่อนข้างสูง เป็นปริมาณเกือบหนึ่งในสิบของพลังมานาที่เขามีอยู่
หลินอวี่หันไปตรวจสอบ ไอเท็มอีกสองชิ้นที่ได้มา
-----------------------------------------------
สร้อยคอฟื้นฟู ( D+ )
สร้อยคอ
+300 ค่าสติปัญญา
ฟื้นฟูพลังมานา 8% ของค่าพลังมานาต่อวินาที
เงื่อนไขในการใช้: คลาส 1
-----------------------------------------------
-----------------------------------------------
สร้อยคอแห่งความมุ่งมั่น ( D- )
สร้อยคอ
เมื่อถูกคลาส 3 หรือต่ำกว่าใช้สกิลควบคุม ผู้ใช้จะสามารถสลายผลของสกิลควบคุมนั้น
ระยะเวลาคูลดาวน์: 5 นาที
เงื่อนไขในการใช้: คลาส 1
-----------------------------------------------
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved