ตอนที่ 62

บ้านตระกูลจั่ว

จั่วจิงเย่วางสายจากการติดต่อก่อนจะมือขึ้นคลึงขมับ

จั่วหมิงเพิ่งติดต่อมา

ถึงอย่างไรคะแนนของหลินอวี่ก็สูงเกินไป

กระทั่งทำลายทุกสถิติที่เคยมีมา

นับเป็นผลคะแนนที่น่ากลัวยิ่ง

จั่วหมิงติดต่อมาสอบถามจั่วจิงเย่

แน่นอนว่าเขาย่อมต้องด่าจั่วจิงเย่อีกชุดใหญ่

จั่วจิงเย่หรี่ตาลงพลางมองท้องฟ้าที่นอกหน้าต่าง

"หลินอวี่...."

ได้คะแนนเกือบ 180,000 คะแนน....

สังหารบอสมอนสเตอร์คลาสสองได้ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ.....

ตอนนี้เอง จั่วจิงเย่ก็เห็นสายเรียกเข้าอีกสายหนึ่ง

เขาตกตะลึง มองดูชื่อผู้ติดต่อแล้ว ผู้ติดต่อมาคือ หยานอวี้ ไม่ใช่จั่วหมิง

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หลังจากกดรับสายแล้ว เสียงของหยานอวี้ก็ดังขึ้น

"ตาแก่จั่ว รู้เรื่องการสอบระดับทั่วไปรึยัง? หลินอวี่นั่น นายคงรู้จักใช่ไหม?"

จั่วจิงเย่ชะงักไป จากนั้นจึงมีสีหน้าแปลกๆ

"นายไม่รู้จักหลินอวี่?"

หยานอวี้ "???"

หยานอวี้พอถูกถามกลับแบบนี้ก็งุนงง

"ฉันต้องรู้จักรึไง?"

ได้ยินแบบนี้ จั่วจิงเย่ก็ยิ้ม

"เขาเป็นเพื่อนหยานจี ลูกสาวนาย แล้วก็ยังนั่งโต๊ะเดียวกันด้วย นี่นายไม่รู้เหรอ? ดูเหมือนลูกสาวนายจะไม่ค่อยสนิทกับนายสินะ?"

หยานอวี้ "???"

แม่ม!

ที่แท้หลินอวี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหยานจีหรอกเหรอ??

ทำไมไม่เห็นลูกสาวเคยพูดถึงเลย?!

"นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?"

หยานอวี้ไม่อาจทำตัวสบายๆเหมือนก่อนหน้าได้อีก

"แน่นอนว่าย่อมเป็นลูกสาวสุดที่รักของฉันที่เป็นคนบอก"

จั่วจิงเย่เผยยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า

หยานอวี้มีสีหน้าว่างเปล่า

เป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวตัวน้อยของเขา พอโตขึ้นก็เริ่มจะมีความลับกับเขาแล้ว?

ลูกโตขึ้นแล้วสินะ.....

หยานอวี้ค่อยๆเปิดปากพูดว่า

"ในเมื่อนายรู้จักหลินอวี่ แล้วนายเคยพบเขาไหม?"

รอยยิ้มของจั่วจิงเย่ค่อยๆจางหาย สีหน้าแววตาเปลี่ยนเป็นจริงจัง

"ไม่นานมานี้ นายยังจำเรื่องที่ป้อมปราการจอมเชือดถูกทำลายลงได้รึเปล่า?"

"ไร้สาระน่า เรื่องใหญ่แบบนั้นใครจะลืมได้ลง?"

หยานอวี้หงุดหงิดขึ้นมา

"ลอร์ดอีเทอร์นอลส์อะไรนั่นทำฉันไม่ได้นอนไปหลายวัน"

จั่วจิงเย่ค่อยๆพูดขึ้นว่า

"ในช่วงที่ป้อมปราการจอมเชือดถูกทำลาย เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หลินอวี่ไปยังเทือกเขาเป่ยเย่ ฉันตรวจสอบเรื่องนี้จากบันทึกการผ่านเข้าออกประตูมิติ"

"ว่าไงนะ?!"

หยานอวี้ตกตะลึง เขาไม่อาจทำใจเชื่อได้ลง

"เขาอยู่แค่คลาสหนึ่ง ทำไมถึงไปที่เทือกเขาเป่ยเย่ได้ล่ะ?!"

"ไม่....นายพูดผิดแล้ว หลินอวี่ในตอนนั้น ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขาควรจะเป็นเพียงนักเวทฝึกหัด"

จั่วจิงเย่แก้

หลังจากเงียบไปครู่หนึาง เขาก็เสริมขึ้นว่า

"หลังจากออกมาแล้วเขาก็อยู่ในคลาสหนึ่ง"

หยานอวี้ "........"

บรรยากาศพลันจมลงสู่ความเงียบ

หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน หยานอวี้ก็ค่อยๆพูดขึ้นอย่างยากจะทำใจเชื่อว่า

"นายต้องการจะบอกอะไร? นายคิดว่าเขาคือคนที่ผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับอีเทอร์นอลส์งั้นเหรอ?"

จั่วจิงเย่นิ่งเงียบ จากนั้นจึงถอนหายใจ

"นายก็รู้ว่าด้วยพลังต่อสู้ของเขาแล้ว นั่นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดคือ....ฉันมองเขาไม่ออก"

"มองไม่ออก?"

หยานอวี้ชะงัก

"ใช่ ตอนที่เขายังอยู่ในระดับฝึกหัด เขาก็แข็งแกร่งมากแล้ว"

จั่วจิงเย่พยักหน้า

"ต่อให้เขาไม่ใช่คนที่ผ่านภารกิจระดับอีเทอร์นอลส์ เขาก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับลอร์ดอีเทอร์นอลส์.... ยังไงก็ตาม ฉันอยากให้เขาเป็นลอร์ดอีเทอร์นอลส์เองมากกว่า"

พูดจบ จั่วจิงเย่ก็ยิ้มกว้าง

"เจ้าหนูนั่น กลัวว่าคงรู้แต่แรกว่าพวกเราจะจับตาดูเขา ดังนั้นจึงไม่ได้ลบทำลายหลักฐานการเข้าออกประตูมิติ และ........"

เขายังมีความสัมพันธ์กับจั่วมู่เกอและหยานจี

ไม่ว่าจะเพื่อส่วนตัวหรือว่าส่วนรวม ทั้งตระกูลหยานและตระกูลจั่วก็จะต้องตรวจสอบภูมิหลังของหลินอวี่

"เจ้าหนูนี่ฉลาดมาก คงเดาไว้แล้วว่าพวกเราจะไม่ปล่อยข้อมูลใดๆให้กับเผ่าพันธุ์อื่น บางทีเขาอาจจะต้องการให้พวกเราคอยตามเช็ดตามล้างให้"

จั่วจิงเย่ยกมือขึ้นนวดหน้าผาก เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

"เจ้าหนูนั่นคงกำลังจะเปลี่ยนจากเก็บตัวเป็นลงมือเคลื่อนไหว"

หยานอวี้ยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของจั่วจิงเย่

"เด็กนี่คงถูกใจนายน่าดู เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นนายชมใคร"

จั่วจิงเย่ยิ้ม

"นายลองไปถามจากลูกสาวนายเองสิ ไม่ต้องมาถามจากฉันหรอก แต่....ฉันกลัว่าคนจากตระกูลอื่นๆจะเทียบเขาไม่ได้ อยู่คนละชั้นกันอย่างสิ้นเชิงเลย"

"ถ้างั้น พวกเราควรจะทำยังไง?"

หยานอวี้หรี่ตาถาม

จั่วจิงเย่ส่ายหัวเบาๆ

"พวกเราจัดการเรื่องป้อมปราการจอมเชือดไปแล้ว ส่วนบันทึกการเข้าออกประตูมิติของเจ้าหนูนั่น เช่นเดียวกับบันทึกของเมืองรุ่งอรุณแห่งสงคราม พวกเราก็ทำลายหลักฐานทิ้งก่อน"

หยานอวี้พยักหน้า "จะรายงานท่านบรรพชนไหม?"

จั่วจิงเย่ใช้มือนวดขมับ

"นี่แหละที่ฉันกำลังปวดหัว ฉันกลัวว่าเจ้าหนูนั่นจะไม่อยากได้ปัญหาเพิ่ม แต่ถ้าเรื่องสำคัญแบบนี้พวกเราไปม่รายงานขึ้นไป หากว่ามีคนนอกรู้เรื่องนี้เข้า กลัวว่าพวกเราคงกลายเป็นคนทรยศแล้ว"

หยานอวี้ "....."

เขาเองก็ปวดหัวเช่นกัน

"ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเจ้าเด็กนั่นโหดจังนะ?"

"ยังโหดกว่านายสมัยหนุ่มอีก"

".....ถ้างั้น คงต้องหาโอกาสพบกับเขา"

"ก็ดี จะได้พูดคุยกับเขาก่อน"

จั่วจิงเย่พยักหน้า "จะดีที่สุดหากเป็นภายในสองวันนี้ เพราะว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะเดินทางไปเข้าร่วมการสอบระดับหัวกะทิ"

"อืม"

หยานอวี้พยักหน้าก่อนจะวางสายไป

ตอนนี้เอง เสียงของหยานจีก็ดังมาจากด้านนอก

"กลับมาแล้วค่ะ"

หยานอวี้ชะงัก จากนั้นจึงยิ้ม

"กลับมาแล้วเหรอลูกรัก?"