ในเวลาเพียงแค่คืนเดียว หลินอวี่ก็ได้ชัยชนะติดต่อกัน 80 สนาม
ในลีดเดอร์บอร์ด อันดับเปลี่ยนจากตัวเลขหลายหลักเป็นอันดับหลักร้อยล้าน
แม้จะเป็นอันดับที่ไม่สูง แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถนับหลักได้
จากนั้น วิถีชีวิตของหลินอวี่ก็วนเวียนและจำเจ
ไปยังมิติลับเพื่อเก็บค่าประสบการณ์ในตอนกลางวัน
ใช้ค่าประสบการณ์เพื่อขยายพลังให้ไอเท็ม เก็บจำนวนครั้งการขยายพลังไปเรื่อยๆ
พอตกกลางคืนก็เข้ามิติสงครามไปรังแกคู่ต่อสู้
ด้วยชัยชนะอย่างต่อเนื่อง หลินอวี่จึงค่อยๆมีชื่อเสียงขึ้นมาในหมู่คลาส 2
ถึงอย่างไรผู้แข็งแกร่งย่อมต้องมีแวดวงสังคม บางคนยังมีเพื่อนเข้ามาร่วมชมการต่อสู้
อีกทั้งชื่อของหลินอวี่โดดเด่นสะดุดตา....
เมื่อรวมกับความแข็งแกร่งอันน่ากลัว
เขาย่อมกลายเป็นที่จดจำได้โดยง่าย
บางคนกระทั่งตั้งฉายาแปลกๆให้เขา
อย่างเช่น ลูกพี่โหด
บางคนยังแปลกได้กว่านั้น บางคนยังยกเขาเป็น จอมเวทความหวังใหม่แห่งมวลมนุษยชาติ
นอกจากกิจวัตรประจำวันทั้งสองแล้ว เมื่อมีคาบเรียน หลินอวี่ก็จะไปเรียน
หลังจากผ่านไปสามวัน ในที่สุดหลินอวี่ก็ขยายพลังครบพันครั้ง
เพื่อการนี้ เขาต้องใช้ค่าประสบการณ์กว่าหลายสิบล้าน!
จนถึงตอนนี้ ค่าประสบการณ์ที่เขาสะสมมาถูกใช้จนหมดเกลี้ยง
ตรงกันข้ามกับหยานจีและจั่วมู่เกอที่เลเวลเพิ่มขึ้นอีกคนละ 1 เลเวล
หลังจากสกิลขยายพลังได้เลื่อนขึ้นไปอีกขั้น สิ่งแรกที่หลินอวี่ทำก็คือเปลี่ยนอุปกรณ์
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปมิติลับด้วยตัวเอง
แต่หยานจีและจั่วมู่เกอก็ไปเก็บค่าประสบการณ์อยู่เป็นประจำ
พวกเธอย่อมเก็บอุปกรณ์ที่เหมาะกับเขาเอาไว้ให้
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เปลี่ยนเซ็ตผู้ใฝ่รู้ออก
เครื่องสวมใส่เซ็ตนี้นับว่าแข็งแกร่งไม่เบา
เว้นแต่เขาจะหาเซ็ตที่ดีกว่ามาได้ ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะไม่เปลี่ยนอีกจนกว่าจะถึงคลาส 2 ระดับสูงสุด
แต่สร้อยและแหวนของเขายังไม่ดีเท่าไหร่
สร้อยคอปะทุมานาเป็นเครื่องประดับคลาส 1 ระดับ B และแหวน และแหวนกระดูกแห่งความตายก็เป็นเครื่องประดับ เลเวล 5 ระดับ D+
ยังมีแหวนแห่งโทสะที่เป็นเครื่องประดับเลเวล 10 ระดับ C+
โดยเฉพาะแหวนราชาอันเดดและแหวนแห่งโทสะ
ทั้งสองเป็นเครื่องดับของสายกายภาพ
น่าเสียดายที่เขาใช้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เครื่องประดับเลเวล 10 ระดับ B และเลเวล 10 ระดับ C+ ก็เป็นของที่ล้ำค่ามาก
ล้ำค่าพอที่จะกลายเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูล
ถึงอย่างไรมันก็เป็นอุปกรณ์ชั้นเลิศในระดับต่ำ ซึ่งสามารถทำให้รุ่นเยาว์ของตระกูลมีโอกาสที่จะผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับสูง
มันยังล้ำค่ากว่าอุปกรณ์สวมใส่ทั่วไปด้วยซ้ำ
เขาตั้งใจจะเก็บพวกมันเอาไว้ก่อน บางทีอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง
อุปกรณ์ที่หยานจีและจั่วมู่เกอมอบให้กับเขาเป็นสร้อยหนึ่งเส้นและแหวนสองวง
แหวนทั้งสองวงเรียกว่า แหวนขุนนางที่สง่างาม ทั้งสองวงเป็นเครื่องประดับระดับ C
ส่วนสร้อยคอนั้นชื่อว่า สร้อยแดงชาด เป็นระดับ C เช่นเดียวกัน
หลินอวี่ขยายพลังขึ้นพันเท่า และค่าสถานะของอุปกรณ์ก็เปลี่ยนไป
-----------------------------------------------
สมบัติแห่งราชวงศ์ ( A+ )
แหวน
ค่าความแข็งแกร่ง +500
ค่าความคล่องตัว +500
ค่าความอึด +500
ค่าสติปัญญา +500
เพิ่มโอกาสโจมตีติดคริติคอล 10%
เงื่อนไขในการสวมใส่: คลาส 2 เลเวล 1
-----------------------------------------------
แหวนสมบัติแห่งราชวงศ์จำนวนสองวง!
เครื่องประดับที่เกิดจากการขยายพลังขึ้นพันเท่า!
เพิ่มโอกาสในการติดคริติคอลนั้นคลอบคลุมทั้งการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีด้วยเวทมนตร์
แหวนสองวง โอกาสติดคริติคอลก็เพิ่มขึ้น 20%
มันเทียบได้กับเซ็ตผู้ใฝ่รู้!
ขณะที่มันเป็นเพียงแหวนแค่สองวงเท่านั้น!
ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นจากแหวนนั้นยอดเยี่ยมมาก
ไอเท็มระดับ A+ ก็ไอเท็มชั้นรอง หากว่าเป็นไอเท็มชั้นหนึ่งล่ะ? นั่นจะน่ากลัวขนาดไหน!
ทว่าสร้อยคอนั้นยังสร้างความตกตะลึงแก่หลินอวี่ยิ่งกว่า
-----------------------------------------------
สร้อยดาราชาด ( S- )
สร้อย
ค่าความอึด +1,200
ค่าสติปัญญา +1,500
ทุกการโจมตีด้วยเวทมนตร์จะได้รับพรจากสร้อยดาราชาด เพิ่มค่าความเสียหายขึ้น 20%
ทุกหการโจมตีมีโอกาสที่จะสร้างโล่ผลึกดาราชาด มีค่าโล่อยู่ที่ 120,000 หน่วย เอฟเฟกต์มีคูลน์ดาวน์ 30 วินาที
เงื่อนไขในการสวมใส่: คลาส 2 เลเวล 1
-----------------------------------------------
อุปกรณ์ระดับ S!!
หลินอวี่แทบจะลืมหายใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินอวี่ได้รับไอเท็มระดับ S
เพียงแค่มองดูค่าคุณสมบัติที่เพิ่มให้ก็รู้แล้วว่ามันทรงพลังแค่ไหน
เพิ่มค่าคุณสมบัติให้ 2,700 จุด มีเอฟเฟต์ติดมา 2 เอฟเฟกต์
แต่ละอันก็ทรงพลังมาก
หลังจากสวมใส่ของใหม่ทั้งสามแล้ว ค่าสติปัญญาของหลินอวี่ก็ทะลุ 15,000 ทำให้ค่าการโจมตีด้วยเวทมนตร์ของเขาเกิน 30,000 ไปด้วยโดยปริยาย
แม้แต่ค่าพลังชีวิตก็เกิน 50,000 แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรอดชีวิตหรือการโจมตีต่างก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลินอวี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจ
เมื่อเขาไปถึงคลาส 2 ระดับสูงสุด เชื่อว่าทั้งตัวของเขาคงจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ระดับ S
ไร้เทียมทาน!
คืนนั้น หลินอวี่ จั่วมู่เกอ และหยานจีก็ทานอาหารเย็นร่วมกัน จากนั้นจึงเตรียมพร้อมเข้าสู่มิติสงคราม
ทันใดนั้นหลินอวี่ก็พลันได้รับข้อความจากเพื่อน
เขาเปิดข้อความขึ้นมาดูก่อนจะนิ่งตะลึง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นข้อความจากตงกงเยว่
"มาคุยกันมั้ย?"
ที่ท้ายของข้อความยังมีอิโมจิแมวน่ารักพ่วงมาด้วย
หลินอวี่จ้องมองอิโมจิแมวนั้นด้วยความอึ้ง
อะไรกันล่ะนั่น?
ผู้หญิงคนนั้นชอบทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมถึงส่งอิโมจิมาได้?
หลินอวี่นิ่งคิด ดูเหมือนว่าหลังจากรับปากตงกงเยว่แล้ว เขาจะไม่เคยได้ติดต่อใดๆกับเธอเลย
เขาพิมพ์ตอบกลับไปว่า
"โอเค ออนไลน์เลย"
"อือ"
ที่ท้ายข้อความเป็นอิโมจิแมวยิ้ม
หลินอวี่จ้องมองมันด้วยความสับสน
คงไม่ใช่ตัวปลอมหรอกใช่มั้ย?
จั่วมู่เกอหรี่ตาลงด้วยความสงสัย เธอจ้องหน้าหลินอวี่เขม็ง
"แปลกๆ อาหวี่ นายกำลังทำอะไรอยู่? แชทกับสาวรึไง?"
หลินอวี่ตกใจ
บ้าอะไรเนี่ย!
เธอรู้ได้ยังไง?
เซ้นส์ของผู้หญิงงั้นเหรอ?
เมื่อหยานจีที่นั่งอยู่อีกด้านได้ยินก็หันมองมาเช่นกัน
หลินอวี่ไม่คิดปิดบังสองสาว
ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้จะไปจีบตงกงเยว่สักหน่อย แค่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเท่านั้น
"แชทกับตงกงเยว่ เธออยากจะเรียนรู้จากฉัน"
"ฮึ่ม!!!"
หยานจีแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ
"นายชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆด้วย!"
เห็นท่าทางโมโหของหยานจี หลินอวี่ก็ดึงเธอเข้ามา
เขาก้มลงไปจูบเธอ
หลังจากนั้นครู่หนึ่งจึงปล่อยตัวหยานจี หยานจีหน้าแดงฉาน เธอเอาหน้าซุกแขนหลินอวี่และไม่พูดอะไรอีก
หลินอวี่ยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า
"มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่า"
จากนั้นจึงเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
จั่วมู่เกอและหยานจีต่างก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
ทันใดนั้นจั่วมู่เกอก็เผยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ออกมา
"ผู้หญิงที่น่ารักเหมือนตุ๊กตานั่นยังมีด้านนี้ด้วย?"
ดวงตาดำขลับของเธอจ้องมองหลินอวี่ เธอยื่นมือไปจับมือหลินอวี่ก่อนจะเขย่าเบาๆ
"อาหวี่ พาพวกเราไปด้วย นะนะ?"
หลินอวี่ยักไหล่
"ไม่มีปัญหา"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved