ตอนที่ 128

ในเวลาเพียงแค่คืนเดียว หลินอวี่ก็ได้ชัยชนะติดต่อกัน 80 สนาม

ในลีดเดอร์บอร์ด อันดับเปลี่ยนจากตัวเลขหลายหลักเป็นอันดับหลักร้อยล้าน

แม้จะเป็นอันดับที่ไม่สูง แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถนับหลักได้

จากนั้น วิถีชีวิตของหลินอวี่ก็วนเวียนและจำเจ

ไปยังมิติลับเพื่อเก็บค่าประสบการณ์ในตอนกลางวัน

ใช้ค่าประสบการณ์เพื่อขยายพลังให้ไอเท็ม เก็บจำนวนครั้งการขยายพลังไปเรื่อยๆ

พอตกกลางคืนก็เข้ามิติสงครามไปรังแกคู่ต่อสู้

ด้วยชัยชนะอย่างต่อเนื่อง หลินอวี่จึงค่อยๆมีชื่อเสียงขึ้นมาในหมู่คลาส 2

ถึงอย่างไรผู้แข็งแกร่งย่อมต้องมีแวดวงสังคม บางคนยังมีเพื่อนเข้ามาร่วมชมการต่อสู้

อีกทั้งชื่อของหลินอวี่โดดเด่นสะดุดตา....

เมื่อรวมกับความแข็งแกร่งอันน่ากลัว

เขาย่อมกลายเป็นที่จดจำได้โดยง่าย

บางคนกระทั่งตั้งฉายาแปลกๆให้เขา

อย่างเช่น ลูกพี่โหด

บางคนยังแปลกได้กว่านั้น บางคนยังยกเขาเป็น จอมเวทความหวังใหม่แห่งมวลมนุษยชาติ

นอกจากกิจวัตรประจำวันทั้งสองแล้ว เมื่อมีคาบเรียน หลินอวี่ก็จะไปเรียน

หลังจากผ่านไปสามวัน ในที่สุดหลินอวี่ก็ขยายพลังครบพันครั้ง

เพื่อการนี้ เขาต้องใช้ค่าประสบการณ์กว่าหลายสิบล้าน!

จนถึงตอนนี้ ค่าประสบการณ์ที่เขาสะสมมาถูกใช้จนหมดเกลี้ยง

ตรงกันข้ามกับหยานจีและจั่วมู่เกอที่เลเวลเพิ่มขึ้นอีกคนละ 1 เลเวล

หลังจากสกิลขยายพลังได้เลื่อนขึ้นไปอีกขั้น สิ่งแรกที่หลินอวี่ทำก็คือเปลี่ยนอุปกรณ์

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปมิติลับด้วยตัวเอง

แต่หยานจีและจั่วมู่เกอก็ไปเก็บค่าประสบการณ์อยู่เป็นประจำ

พวกเธอย่อมเก็บอุปกรณ์ที่เหมาะกับเขาเอาไว้ให้

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เปลี่ยนเซ็ตผู้ใฝ่รู้ออก

เครื่องสวมใส่เซ็ตนี้นับว่าแข็งแกร่งไม่เบา

เว้นแต่เขาจะหาเซ็ตที่ดีกว่ามาได้ ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะไม่เปลี่ยนอีกจนกว่าจะถึงคลาส 2 ระดับสูงสุด

แต่สร้อยและแหวนของเขายังไม่ดีเท่าไหร่

สร้อยคอปะทุมานาเป็นเครื่องประดับคลาส 1 ระดับ B และแหวน และแหวนกระดูกแห่งความตายก็เป็นเครื่องประดับ เลเวล 5 ระดับ D+

ยังมีแหวนแห่งโทสะที่เป็นเครื่องประดับเลเวล 10 ระดับ C+

โดยเฉพาะแหวนราชาอันเดดและแหวนแห่งโทสะ

ทั้งสองเป็นเครื่องดับของสายกายภาพ

น่าเสียดายที่เขาใช้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เครื่องประดับเลเวล 10 ระดับ B และเลเวล 10 ระดับ C+ ก็เป็นของที่ล้ำค่ามาก

ล้ำค่าพอที่จะกลายเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูล

ถึงอย่างไรมันก็เป็นอุปกรณ์ชั้นเลิศในระดับต่ำ ซึ่งสามารถทำให้รุ่นเยาว์ของตระกูลมีโอกาสที่จะผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับสูง

มันยังล้ำค่ากว่าอุปกรณ์สวมใส่ทั่วไปด้วยซ้ำ

เขาตั้งใจจะเก็บพวกมันเอาไว้ก่อน บางทีอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง

อุปกรณ์ที่หยานจีและจั่วมู่เกอมอบให้กับเขาเป็นสร้อยหนึ่งเส้นและแหวนสองวง

แหวนทั้งสองวงเรียกว่า แหวนขุนนางที่สง่างาม ทั้งสองวงเป็นเครื่องประดับระดับ C

ส่วนสร้อยคอนั้นชื่อว่า สร้อยแดงชาด เป็นระดับ C เช่นเดียวกัน

หลินอวี่ขยายพลังขึ้นพันเท่า และค่าสถานะของอุปกรณ์ก็เปลี่ยนไป

-----------------------------------------------

สมบัติแห่งราชวงศ์ ( A+ )

แหวน

ค่าความแข็งแกร่ง +500

ค่าความคล่องตัว +500

ค่าความอึด +500

ค่าสติปัญญา +500

เพิ่มโอกาสโจมตีติดคริติคอล 10%

เงื่อนไขในการสวมใส่: คลาส 2 เลเวล 1

-----------------------------------------------

แหวนสมบัติแห่งราชวงศ์จำนวนสองวง!

เครื่องประดับที่เกิดจากการขยายพลังขึ้นพันเท่า!

เพิ่มโอกาสในการติดคริติคอลนั้นคลอบคลุมทั้งการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีด้วยเวทมนตร์

แหวนสองวง โอกาสติดคริติคอลก็เพิ่มขึ้น 20%

มันเทียบได้กับเซ็ตผู้ใฝ่รู้!

ขณะที่มันเป็นเพียงแหวนแค่สองวงเท่านั้น!

ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นจากแหวนนั้นยอดเยี่ยมมาก

ไอเท็มระดับ A+ ก็ไอเท็มชั้นรอง หากว่าเป็นไอเท็มชั้นหนึ่งล่ะ? นั่นจะน่ากลัวขนาดไหน!

ทว่าสร้อยคอนั้นยังสร้างความตกตะลึงแก่หลินอวี่ยิ่งกว่า

-----------------------------------------------

สร้อยดาราชาด ( S- )

สร้อย

ค่าความอึด +1,200

ค่าสติปัญญา +1,500

ทุกการโจมตีด้วยเวทมนตร์จะได้รับพรจากสร้อยดาราชาด เพิ่มค่าความเสียหายขึ้น 20%

ทุกหการโจมตีมีโอกาสที่จะสร้างโล่ผลึกดาราชาด มีค่าโล่อยู่ที่ 120,000 หน่วย เอฟเฟกต์มีคูลน์ดาวน์ 30 วินาที

เงื่อนไขในการสวมใส่: คลาส 2 เลเวล 1

-----------------------------------------------

อุปกรณ์ระดับ S!!

หลินอวี่แทบจะลืมหายใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินอวี่ได้รับไอเท็มระดับ S

เพียงแค่มองดูค่าคุณสมบัติที่เพิ่มให้ก็รู้แล้วว่ามันทรงพลังแค่ไหน

เพิ่มค่าคุณสมบัติให้ 2,700 จุด มีเอฟเฟต์ติดมา 2 เอฟเฟกต์

แต่ละอันก็ทรงพลังมาก

หลังจากสวมใส่ของใหม่ทั้งสามแล้ว ค่าสติปัญญาของหลินอวี่ก็ทะลุ 15,000 ทำให้ค่าการโจมตีด้วยเวทมนตร์ของเขาเกิน 30,000 ไปด้วยโดยปริยาย

แม้แต่ค่าพลังชีวิตก็เกิน 50,000 แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรอดชีวิตหรือการโจมตีต่างก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

หลินอวี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจ

เมื่อเขาไปถึงคลาส 2 ระดับสูงสุด เชื่อว่าทั้งตัวของเขาคงจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ระดับ S

ไร้เทียมทาน!

คืนนั้น หลินอวี่ จั่วมู่เกอ และหยานจีก็ทานอาหารเย็นร่วมกัน จากนั้นจึงเตรียมพร้อมเข้าสู่มิติสงคราม

ทันใดนั้นหลินอวี่ก็พลันได้รับข้อความจากเพื่อน

เขาเปิดข้อความขึ้นมาดูก่อนจะนิ่งตะลึง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นข้อความจากตงกงเยว่

"มาคุยกันมั้ย?"

ที่ท้ายของข้อความยังมีอิโมจิแมวน่ารักพ่วงมาด้วย

หลินอวี่จ้องมองอิโมจิแมวนั้นด้วยความอึ้ง

อะไรกันล่ะนั่น?

ผู้หญิงคนนั้นชอบทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ?

แล้วทำไมถึงส่งอิโมจิมาได้?

หลินอวี่นิ่งคิด ดูเหมือนว่าหลังจากรับปากตงกงเยว่แล้ว เขาจะไม่เคยได้ติดต่อใดๆกับเธอเลย

เขาพิมพ์ตอบกลับไปว่า

"โอเค ออนไลน์เลย"

"อือ"

ที่ท้ายข้อความเป็นอิโมจิแมวยิ้ม

หลินอวี่จ้องมองมันด้วยความสับสน

คงไม่ใช่ตัวปลอมหรอกใช่มั้ย?

จั่วมู่เกอหรี่ตาลงด้วยความสงสัย เธอจ้องหน้าหลินอวี่เขม็ง

"แปลกๆ อาหวี่ นายกำลังทำอะไรอยู่? แชทกับสาวรึไง?"

หลินอวี่ตกใจ

บ้าอะไรเนี่ย!

เธอรู้ได้ยังไง?

เซ้นส์ของผู้หญิงงั้นเหรอ?

เมื่อหยานจีที่นั่งอยู่อีกด้านได้ยินก็หันมองมาเช่นกัน

หลินอวี่ไม่คิดปิดบังสองสาว

ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้จะไปจีบตงกงเยว่สักหน่อย แค่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเท่านั้น

"แชทกับตงกงเยว่ เธออยากจะเรียนรู้จากฉัน"

"ฮึ่ม!!!"

หยานจีแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ

"นายชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆด้วย!"

เห็นท่าทางโมโหของหยานจี หลินอวี่ก็ดึงเธอเข้ามา

เขาก้มลงไปจูบเธอ

หลังจากนั้นครู่หนึ่งจึงปล่อยตัวหยานจี หยานจีหน้าแดงฉาน เธอเอาหน้าซุกแขนหลินอวี่และไม่พูดอะไรอีก

หลินอวี่ยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า

"มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่า"

จากนั้นจึงเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

จั่วมู่เกอและหยานจีต่างก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

ทันใดนั้นจั่วมู่เกอก็เผยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ออกมา

"ผู้หญิงที่น่ารักเหมือนตุ๊กตานั่นยังมีด้านนี้ด้วย?"

ดวงตาดำขลับของเธอจ้องมองหลินอวี่ เธอยื่นมือไปจับมือหลินอวี่ก่อนจะเขย่าเบาๆ

"อาหวี่ พาพวกเราไปด้วย นะนะ?"

หลินอวี่ยักไหล่

"ไม่มีปัญหา"