ทุกคนกลับมาสนใจจอแสงกันอีกครั้ง
แต่ผู้คนส่วนใหญ่นั้นจะจับจ้องจอภาพของพวกหลินอวี่
เมื่อเห็นท่าทางผ่อนคลายราวกับมาท่องเที่ยวพักผ่อนของพวกหลินอวี่ ซึ่งขัดแย้งกับจอภาพรอบด้านที่เต็มไปด้วยการต่อสู้อันตึงเครียด หลายคนก็อดส่ายหน้าเบาๆไม่ได้
แตกต่างกันเกินไปแล้ว
สำหรับแผนการสมคบคิดของพวกผ่าพันธุ์ต่างดาวทั้งสี่นั้น พวกเขาไม่คิดจะเข้าไปหยุดยั้งแต่อย่างใด
ในทุกๆปี เหล่าเผ่าพันธุ์ที่อยู่ภายในมิติล้วนมีความคิดกำจัดเหล่านักเรียนที่เข้าร่วมในการสอบระดับหัวกะทิดุจเดียวกันทุกปี.....
เหล่าตัวตนระดับสูงย่อมทราบถึงเรื่องนี้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยใส่ใจใดๆ
ในการสอบระดับหัวกะทิ นักเรียนจะได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา และเหล่าผู้เข้มแข็งจากเผ่าพันธุ์อื่นก็เพียงเป็นด่านทดสอบคัดกรองชั้นหนึ่งเท่านั้น
หากหลบหนีการไล่ล่าไม่ได้ เช่นนั้นก็เท่ากับสอบตก
แน่นอนว่าในแต่ละปีนั้นยังมีนักเรียนที่ตายด้วย แต่สำหรับสนามรบจริงๆนั้น ที่นั่นยังมีคนตายมากกว่านี้อีกหลายเท่า
ในฐานะผู้มีพลังพิเศษแล้ว พวกเขาก็จำเป็นจะต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ตลอดเวลา
................
ผ่านไปสามวัน พวกหลินอวี่ทั้งสามได้เดินทางผ่านดินแดนอันป่าเถื่อนของพวกปีศาจไฟและเข้าสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าได้สำเร็จ
ในทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่นี้มีมอนสเตอร์อยู่มากมาย ทั้งยังมีพวกมนุษย์หนู
เมื่อพวกหลินอวี่มาถึงทุ่งหญ้าแห่งนี้เมื่อวาน พวกเขาก็ได้พบเจอกับมนุษย์หนูจำนวนนับร้อย
ยังไม่ทันที่หลินอวี่ จั่วมู่เกอ และหยานจีจะลงมือ พวกมนุษย์หนูก็ถูกมังกรดินและอัศวินแห่งฝันร้ายทั้งสองตัวเก็บกวาดจนเหี้ยน
วันนี้พวกเขาได้พบกับมนุษย์จำนวนราวห้าถึงหกร้อยตัว แน่นอนว่าพวกมันล้วนถูกกำจัดเช่นเคย
หลินอวี่ตั้งตารอคอยพวกที่จะมาในวันพรุ่งนี้
เมื่อเหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องลำบากไปตามล่าพวกมอนสเตอร์
เนื่องเพราะมีคะแนนเดินได้พาตัวเองมาส่งถึงที่
ตอนนี้เองก็มีเสียงคำรามดังขึ้นจากระยะไกล
พวกหลินอวี่ทั้งสามหันมองตามไปด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
"บอสอีกตัว? ไปกันเถอะ!"
จั่วมู่เกอคือคนที่ตื่นเต้นที่สุด
ทุกครั้งที่เธอพบเจอบอส เธอก็คือผู้ที่ตื่นเต้นมากที่สุด เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่ชอบความสนุกสนานครื้นเครง
เพราะหวังว่าเธอจะได้ใช้สกิลฮีลสักครั้ง
"หวังว่าครั้งนี้จะแข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนๆนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องหาหมอนสักใบมานอนแล้ว"
เธออดบ่นออกมาไม่ได้
ในตลอดทางที่ผ่านมา เธอเพียงทำหน้าที่เป็นหมอนหนุนให้หลินอวี่
ไม่ได้ออกแรงแม้แต่ครั้งเดียว
ได้ยินเพื่อนสนิทบ่นออกมา หยานจีก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
"งั้นไปละนะ"
เธอใช้สกิลสั่งการให้มังกรดินมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่มีเสียงการต่อสู้ดังมา
ในระหว่างทางที่ผ่านมา พวกเขาสังหารบอสไปหลายตัวแล้ว
สองสาวเองก็เป็นคลาสหนึ่ง แต่ยังขาดอุปกรณ์อีกหลายชิ้น หลินอวี่จึงตั้งใจว่าเมื่อกลับไปแล้วจะหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาขยายพลังให้สองสาว
ไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงบริเวณที่เกิดการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม ที่นี่กลับไม่มีบอสดังที่คาด และเมื่อได้เห็นสถานที่ต่อสู้ พวกเขาก็ต้องตกตะลึง
มีกลุ่มของมนุษย์หนู เมอร์ล็อค มนุษย์แมว และปีศาจไฟกว่าห้าสิบตัวกำลังล้อมมนุษย์กลุ่มหนึ่งอยู่
เผ่าพันธุ์ต่างดาวเหล่านี้ย่อมแข็งแกร่งกว่าพวกนักเรียน ดังนั้นพวกนักเรียนจึงถูกกักเอาไว้กลางวงล้อมโดยไม่อาจตีฝ่าออกไปได้
หลินอวี่มองเห็นเงาหลายที่คุ้นเคยอยู่หลายคน
สวีเผิงเทียน ปู้เจิ่งซิ่น ซู่จื่ออันและนักเรียนคนอื่นๆซึ่งอยู่ในท็อปสิบคนของเมืองประกายแสง
ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะทำคะแนนได้ดีขึ้น พวกเขาจึงจับกลุ่มกันและรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่
......................
ในพื้นที่การต่อสู้ สวีเผิงเทียนที่ถือดาบยาวและสวมใส่ชุดเกราะทั้งตัวกำลังยืนรับการโจมตีอยู่เบื้องหน้า
ซู่จื่ออันซึ่งเป็นนักบวชก็กำลังฮีลให้สวีเผิงเทียนอย่างต่อเนื่อง
ดีที่ทั้งสองต่างก็สวมใส่อุปกรณ์ชั้นดี และซู่จื่ออันก็ยังผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับราชา ขณะที่สวีเผิงเทียนผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับจักรพรรดิ
แม้ว่าค่าพลังชีวิตจะลดลงไปบ้าง แต่มันก็จะถูกฟื้นฟูกลับมาในเวลาไม่นาน
ส่วนปู้เจิ่งซิ่นนั้นเป็นนักฆ่า เนื่องเพราะศัตรูคราวนี้แข็งแกร่งเกินไป เขาจึงไม่กล้าฉวยโอกาสโจมตีใส่เพราะกลัวว่าจะถูกสังหารกลับในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
"เวรเอ๊ย! เจ้าพวกต่างดาวนี่! กล้ามาล้อมโจมตีพวกเรา"
สวีเผิงเทียนใช้ดาบปัดขวานศึกของมนุษย์หนูตัวหนึ่งทิ้งก่อนจะยกเท้าถีบมนุษย์หนูนั้นจนถอยหลังไป
"แม่งเอ๊ย! ถ้าลูกพี่ฉันอยู่ที่นี่ด้วย พวกแกไม่เหลือซากแน่!"
สวีเผิงเทียนสบถ กระนั้นการเคลื่อนไหวของเขากลับไม่ได้เชื่องช้าลงแม้แต่น้อย
ปู้เจิ่งซิ่นและคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆต่างมองสวีเผิงเทียนอย่างพูดไม่ออก
"ดูเหมือนว่าหลินอวี่จะไม่ได้นับนายเป็นพี่น้องด้วยซ้ำนะ"
ได้ยินเช่นนั้น สวีเผิงเทียนก็เผยสีหน้าที่เปี่ยมความมั่นใจออกมา
"ฉันไม่มีทางยอมแพ้แน่ เชื่อว่าสักวันลูกพี่จะต้องเห็นความจริงใจของฉัน และเขาจะต้องยอมรับฉันเป็นพี่น้องอย่างแน่นอน!"
ได้ยินคำตอบของสวีเผิงเทียน นักเรียนจากเมืองอื่นๆก็มองสวีเผิงเทียนด้วยแววตาดูถูก
"อยากจะอ้วก ไม่เคยเห็นใครทำตัวเป็นสุนัขเลียขาเจ้านายแบบนี้มาก่อน ประจบประแจงเพื่อเป็นพี่น้องงั้นเหรอ? สติยังดีอยู่รึเปล่า?"
"ใช่ เมืองประกายแสงเองก็ถือเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะปรากฏพวกผ่าเหล่าขนาดนี้ขึ้นมาได้....."
ทุกคนล้วนพูดไม่ออก
สวีเผิงเทียนเหลือบมองนักเรียนที่บ่นออกมาด้วยแววตาดูถูก
"พวกกบในกะลา ยังไม่รู้สินะว่าลูกพี่ฉันเทพขนาดไหน? ไม่อยากจะพูดให้เจ็บคอล่ะ เอาไว้เดี๋ยวพวกนายก็ได้เห็นเอง!"
ปู้เจิ่งซิ่นมีสีหน้าที่ดูซับซ้อนอยู่บ้าง
แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลินอวี่นั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ
"เลิกไร้สาระกันได้แล้ว! พวกเราต้องหาโอกาสตีฝ่าออกไป ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายอยู่ที่นี่แน่!"
ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าคร่งขรึม
เติ้งเฉิงจื่อ เวลานี้เขาอยู่คลาส 1 เลเวล 9 นับเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในนักเรียนกลุ่มนี้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนอื่นๆต่างก็พยักหน้ารับ
"เป็นความคิดที่ดี!"
ผู้เข้มแข็งจากสี่พันธุ์ต่างแสยะยิ้ม
"อยู่ภายใต้วงล้อมของพวกเรา ยังคิดจะตีฝ่าออกไปอีกเหรอ?! ฝันไปเถอะ!"
"กระชับวงล้อม!"
มนุษย์หนูตัวหนึ่งคำรามสั่งการ
ในแววตาของนักรบทั้งสี่เผ่าพันธุ์ฉายแววฆ่าฟันอย่างไม่ปิดบัง พวกเขาใข้สกิลออกโดยไม่คิดจะประหยัดพลังไว้แต่อย่างใด
พวกเขาล้วนต้องตายอยู่แล้ว
แต่ก่อนที่จะตาย พวกเขาก็จะให้พวกมนุษย์ได้จ่ายค่าตอบแทนอย่างหนักเสียก่อน!
"อ๊าก! รีบฮีลให้ฉันเร็ว มือฉัน!"
"พวกมันบ้าไปแล้ว?!"
"คนอื่นๆไม่เหลือสกิลเสริมพลังป้องกันแล้วรึไง?!"
เมื่อพวกสี่เผ่าพันธุ์บุกโจมตีอย่างดุดัน นักเรียนหลายคนก็เริ่มลนลานขึ้นมา
นักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้กับพวกต่างเผ่าพันธุ์มาก่อน
ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
ในการพบกันในทางแคบ มีเพียงฝ่ายที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะได้รับชัยชนะ
แต่ที่ทำให้พวกเขารู้สึกกังวลก็คือ พวกต่างดาวเหล่านี้ยังมีเลเวลสูงกว่าพวกเขา
เหล่านักรบและอัศวินที่เคยต่อสู้อยู่ในแนวหน้าเริ่มไม่กล้าเข้่าปะทะกับศัตรู พวกเขาถอยร่นกลับมาเรื่อยๆจนวงล้อมเริ่มแคบลง
เหล่านักเรียนที่อยู่ในแนวหลังเองก็ได้รับผลกระทบจากการที่แนวหน้าหดแนวป้องกันกลับมา การตอบโต้จึงค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
แน่นอนว่าในบรรดานักเรียนเหล่านี้ยังมีผู้ที่เคยผ่านการต่อสู้เป็นตายมาก่อน
เติ้งเฉิงจื่อ สวีเผิงเทียน และคนอื่นๆบางคนล้วนเป็นคนประเภทนั้น
เติ่งเฉิงจื่อพยายามจะรักษาแนวรบอย่างสุดความสามารถ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวก่อนจะคำรามขึ้นว่า
"อย่าถอย! ถ้าถอยพวกเราจะตายกันหมด! อย่าถอยกลับมา!"
"ไอ้พวกสารเลวเอ๊ย!"
สวีเผิงเทียนคำราม
ที่แถวหน้า เวลานี้เหลือเพียงสายต่อสู้ระยะประชิดเพียงสี่ห้าคนที่ยังสู้ไม่ถอย....
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved