หลังจากจัดการอาหารเช้าแล้ว พวกหลินอวี่ทั้งสามคนก็ออกจากวิลล่า
หลินอวี่วางแผนจะไปที่ศูนย์การค้าของมหาวิทยาลัย ที่นั่นสามารถใช้เครดิตซื้อหาอุปกรณ์ หนังสือสกิล และอื่นๆตามต้องการ
ขณะที่จั่วมู่เกอและหยานจีจะออกไปล่ามอนสเตอร์ในมิติลับเพื่อหาเครดิต
.......................
เมื่อมาถึงศูนย์การค้าของมหาวิทยาลัย ด้วยความช่วยเหลือจากพนักงาน หลินอวี่ก็มาถึงโซนขายหนังสือสกิลของนักเวท
เขามีเป้าหมายชัดเจน
อย่างแรกเลยคือหาซื้อสกิลที่สามารถตรวจจับศัตรูที่ล่องหน อย่างที่สองคือหาซื้อสกิลที่มีการโจมตีเป็นวงกว้าง
นับว่าโชคเข้าข้างเขา
หลินอวี่พบสกิลไว้ต่อกรกับศัตรูที่ล่องหนอย่างที่หวัง
-----------------------------------------------
สอดส่อง ( D- )
สามารถตรวจจับศัตรูที่ล่องหนในระยะ สกิลจะคงสภาพเป็นเวลา 1 นาที
ระยะเวลาคูลดาวน์: 5 นาที
-----------------------------------------------
ราคา 20,000 เครดิต
อย่างไรก็ตาม หลินอวี่มีสิทธิพิเศษที่เมื่อซื้อของจะได้รับส่วนลด 50%
ดังนั้นเขาจึงซื้อมันมาด้วย 10,000 เครดิต
ทว่าหลังจากที่เขาซื้อหนังสือสกิลไปแล้ว เขาก็เหลือเครดิตติดตัวเพียง 2,000 กว่าเครดิต
หนังสือสกิลเป็นของที่แพงมาก
หลินอวี่รู้สึกลำบากใจ
หลังจากเรียนรู้สกิลสอดส่องแล้ว หลินอวี่ก็ทำการขยายพลังให้มัน
-----------------------------------------------
เนตรตรวจจับ ( B )
ใช้พลังมานาเพื่อเปิดใช้งานเนตรตรวจจับชั่วคราว การคงสภาพเนตรตรวจจับจะใช้พลังมานาทุกวินาที
ระยะเวลาร่าย: ไม่มี
ระยะเวลาคูลดาวน์: ไม่มี
-----------------------------------------------
เป็นสกิลที่ค่อนข้างดีทีเดียว มีผลคล้ายคลึงกับแว่นตาแห่งความจริง
ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องใช้แว่นนั่นอีกต่อไปแล้ว
หลินอวี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ
หลังออกจาศูนย์การค้าแล้ว หลินอวี่ก็กลับเข้าใช้งานมิติสนามรบ
เขาก้าวเดินด้วยท่าทางสบายๆขณะที่มีสายลมเริ่มหนุนเสริมเขาให้ลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
ฝีเท้าของเขาพลันรวดเร็วขึ้นมาก
..................
สองวันต่อมา หลินก็ไปยังมิติลับเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ในระหว่างวัน ส่วนตอนกลางคืนนั้น เขาจะเข้าใช้งานมิติสนามรบเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในการต่อสู้
ในการต่อสู้ประเภทหนึ่งต่อหนึ่ง หลินอวี่ได้เอาชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกัน 98 คน
คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ในคลาส 3
เป็นเพราะชนะต่อเนื่องอย่างยาวนาน คะแนนที่ได้จึงสูงมาก
คะแนนที่มีในตอนนี้ทำให้เขาเข้าสู่ 10,000 อันดับแรกได้แล้ว
เขาไม่ได้เข้าใช้งานประเภทหนึ่งต่อหนึ่งตลอด บางครั้ง เขา จั่วมู่เกอและหยานจีก็จะเข้าใช้งานการต่อสู้ประเภททีมด้วยกัน
ปกติแล้ว ในสนามรบนั้นจะสามารถจับทีมได้ 5 คน
แม้ว่าจะมีกันเพียงสามคน แต่หลินอวี่ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรด้วยซ้ำ เขาปล่อยให้จั่วมู่เกอและหยานจีออกไปต่อสู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์
พวกเขาทำให้คู่ต่อสู้เกิดคำถามขึ้นกับชีวิต
สองสาวเลื่อนคลาสด้วยความยากระดับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งพวกเธอยังมีอาชีพหายาก ดังนั้นในแง่ของสกิลแล้วจึงมีเปรียบเหนือผู้มีพลังพิเศษทั่วไปมาก
ยิ่งกว่านั้น พวกเธอยังมาจากตระกูลใหญ่ ย่อมไม่ขาดแคลนสกิลและอุปกรณ์
ตอนนี้พลังต่อสู้ของพวกเธอเหนือกว่าคนทั่วไปมาก
และยิ่งเมื่อจั่วมู่เกอและหยานจีจับคู่กัน หลินอวี่ก็ทำแค่เพียงเดินเล่นโดยไม่ต้องทำอะไร
น่าเสียดายที่นับตั้งแต่ครั้งนั้น หลินอวี่ก็ไม่พบเจอมอนสเตอร์ลอร์ดอีกเลย
และทุกครั้งที่เขากำจัดศัตรูไปเป็นจำนวนมาก เขาก็ไม่ได้รับความสำเร็จใดๆอีก
ดังนั้นหลินอวี่จึงรู้สึกเหงามากทีเดียว
....................
เช้าวันต่อมา หลินอวี่ตื่นแต่เช้า
วันนี้เขาลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง การกินอาหารข้างนอกบ่อยๆก็ไม่ค่อยดีเท่าไร
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น จั่วมู่เกอและหยานจีเองก็ตื่นตั้งแต่เช้า
ทั้งสามนั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน ตอนนั้นเอง จั่วมู่เกอก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูตื่นเต้น
"ในที่สุดก็คือคาบเรียนบรรยายสักที ฉันตั้งตารอคอยมานานแล้ว"
หลินอวี่ยิ้มพยักหน้า
"ไม่รู้ว่าอจารย์ที่สอนจะเป็นยังไงกันนะ?"
หยานจีพูดว่า
"ได้ยินมาว่าเขาเป็นยอดฝีมือของกองทัพอากาศที่ได้รับเชิญให้มาสอนพวกเรา"
หลินอวี่พยักหน้า ในใจเกิดความคาดหวังขึ้นมา
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็คาบเรียนทฤษฎีอยู่ เป็นคาบเรียนที่บรรยายเกี่ยวกับข้อมูลของเผ่าพันธุ์และโลกต่างๆ
เพียงแต่หลินอวี่ไม่เคยเข้าเรียนเลย
หลังจากจัดการมื้อเช้าเสร็จ ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังอาคารเรียน
พวกเขาสามคนมีอาชีพแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องแยกย้ายกันไปตามอาชีพ
หลินอวี่เป็นนักเวท
ดังนั้นจึงเดินมายังคลาสเรียนของนักเวท
ภายในห้องเรียนมีนักศึกษาหลายคนเข้ามารออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นหลินอวี่เดินเข้ามา หลายคนก็ตาเป็นประกาย พวกเขาเอ่ยทกหลินอวี่ด้วยความตื่นเต้น
การต่อสู้หน้าจุดลงทะเบียนนั้นสร้างความประทับใจแก่พวกเขามาก
แม้แต่นักรบคลาส 4 ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ดังนั้นในสายตาของนักเวทหน้าใหม่แล้ว หลินอวี่ก็ไม่ต่างอะไรจากพระเจ้า!
"อรุณสวัสดิ์ เพื่อนร่วมชั้นหลินอวี่"
"หลินอวี่ มานั่งข้างเรามั้ย?"
".........."
ภายในห้องเรียนดูคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
หลินอวี่ยิ้มตอบก่อนจะหาที่ว่างนั่งลง
หลังจากเขานั่งลงได้ไม่ทันไร สาวสวยที่นั่งอยู่ห่างไปไม่ไกลก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง
เธอเดินเข้าหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลินอวี่ก่อนจะยิ้มหวานให้
"เพื่อนร่วมชั้น ขอเรานั่งตรงนี้ได้มั้ย?"
"อา? ได้"
ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นให้ด้วยรอยยิ้ม
หลินอวี่ "......"
หลังของเขาเหยียดตั้งตรง สายตาไม่มองวอกแวกไปทางไหน
ฉันเป็นสุภาพบุรุษ!
เมื่อสาวสวยคนนี้เริ่มเป็นคนแรก เหล่าหญิงสาวที่เหลือต่างก็พากันลุกขึ้น
ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พวกเธอก็เดินเข้ามาหาที่นั่งอยู่ใกล้ๆกับหลินอวี่
ทำให้ตอนนี้ รอบข้างของหลินอวี่เต็มไปด้วยหญิงสาว
หลินอวี่รู้สึกสิ้นหวัง
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
พวกเธอจะทำอะไรกันน่ะ?
ตอนนี้เอง สาวสวยที่เข้ามานั่งข้างหลินอวี่เป็นคนแรกก็ยื่นหน้าเข้ามาหาหลินอวี่ด้วยรอยยิ้มหวาน
"หลินอวี่ ว่างๆช่วยสอนเราใช้เวทมนตร์ได้มั้ย?"
หลินอวี่หันไปมองเธอด้วยความประหลาดใจ
"หนังสือสกิลมันเรียนรู้ได้ทันทีไม่ใช่เหรอ?"
รอยยิ้มของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นแข็งค้าง
"เรายังใช้มันไม่ค่อยคล่อง......"
หลินอวี่นิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนพูดว่า
"ถ้างั้นเธอก็ต้องฝึกฝนบ่อยๆ ฉันแนะนำให้เธอไปยังมิติสนามรบ ลองจัดการคู่ต่อสู้สักหลายคนก็น่าจะดีขึ้นเอง"
สาวสวย "???"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved