ตอนที่ 129

ทั้งสามขึ้นไปยังห้องฝึกและล็อกอินเข้าสู่มิติสงครามพร้อมกัน

ทั้งสามปรากฏตัวขึ้นในห้องเริ่มต้นของหลินอวี่

ในมิติสงครามจะสามารถเชิญคนอื่นเข้าสู่ห้องส่วนตัวได้ผ่านการเชิญ

หลินอวี่เชิญตงกงเยว่เข้ามา

วินาทีต่อมา ลำแสงก็สว่างขึ้น ตงกงเยว่ปรากฏตัวออกมา

หลินอวี่มองดูตงกงเยว่

ในใจยังรู้สึกสงสัยว่าใช่ตัวจริงรึเปล่า

ไม่อย่างนั้นทำไมตอนที่แชทกันถึงได้ต่างจากตัวจริงขนาดนั้น?

อย่างไรก็ตาม หลินอวี่พบว่าหลังจากที่ตงกงเยว่ปรากฏตัว สีหน้าของเธอก็ยังคงเรียบเฉยไร้อารมณ์ราวกับตุ๊กตาเหมือนเดิม

เธอหันไปมองจั่วมู่เกอและหยานจี แต่ไม่ได้ถามว่าทำไมพวกเธอถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ คล้ายกับไม่แปลกใจแต่อย่างใด

เธอเปิดปากถามขึ้นเบาๆ

"เริ่มเลยมั้ย?"

หลินอวี่พยักหน้า

ไม่ต่างจากปกติ

ยังคงเป็นตงกงเยว่เหมือนเดิม

แล้วแชทที่ส่งอิโมจิก่อนหน้านี้มันอะไรกัน?

หลินอวี่มองตงกงเยว่และไม่คิดให้ปวดหัวอีก

"เอาล่ะ ฉันจะสร้างห้อง พวกเธอก็จะมาด้วย"

หลินอวี่ชี้ไปยังจั่วมู่เกอและหยานจี

จั่วมู่เกอมองตงกงเยว่ที่มีสีหน้าไร้อารมณ์ ในดวงตาฉายแววสงสัย

คล้ายกับพบบางสิ่งที่น่าสนใจ

เธอยิ้มและโบกมือให้ตงกงเยว่

"ฉันชื่อจั่วมู่เกอ"

"หยานจี"

หยานจีมองตงกงเยว่ด้วยท่าทางระแวดระวังเล็กน้อย

เธอมีความรู้สึกอยู่เสมอว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะล่อลวงหลินอวี่ไป

กระนั้นเปลือกนอกก็ยังพยักหน้าทักทายเป็นมารยาท

ตงกงเยว่ตอบกลับเบาๆ

"ตงกงเยว่"

"สวัสดี กงเยว่~"

จั่วมู่เกอทักทายอย่างเป็นกันเอง

ตงกงเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองจั่วมู่เกออย่างไม่ทราบจะตอบกลับอย่างไร

สุดท้ายเพียงพยักหน้าเบาๆ

ขณะที่ทั้งสามกำลังพูดคุยกัน หลินอวี่ก็ได้สร้างสนามต่อสู้ขึ้นมา

"เอาล่ะ เข้าไปกันเถอะ"

เขายิ้มชวนสามสาว

ทั้งสี่เข้าสู่สนามต่อสู้

จั่วมู่เกอและหยานจีเดินออกไปที่ด้านข้างสนาม เตรียมตัวจะดูการประลอง

ตงกงเยว่เรียกมีดสั้นออกมาถือไว้เงียบๆ สายตาจับจ้องไปที่หลินอวี่

เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของตงกงเยว่ หลินอวี่ก็ยิ้มและเริ่มตั้งท่าเตรียม

ระบบเริ่มนับถอยหลัง

ม่านบาเรียที่กึ่งกลางสนามสลายไป ครั้งนี้ตงกงเยว่ไม่คิดจะซ่อนตัวรอจังหวะ

เธอยกมือขวาเล็งและกำไปที่หลินอวี่

เกิดหมอกมืดลอยเข้าปกคลุมหลินอวี่

"ติ๊ง! ผู้เล่น หลินอวี่ ได้รับคำสาปอ่อนกำลัง"

วินาทีต่อมา หลินอวี่ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาพลันหนักขึ้นมาก พละกำลังเองก็อ่อนแอลง

ลดลงราว 20%

หลินอวี่ประหลาดใจ

สกิลที่คล้ายกับคำสาปแห่งความเสื่อมโทรม?

ก่อนหน้านี้ตงกงเยว่ไม่เคยใช้มันมาก่อน

คงจะเป็นไพ่ตายหรืออะไรสักอย่าง

สกิลสายคำสาปหรือดีบัพ หลินอวี่ไม่มีสกิลที่จะแก้ไขได้โดยตรง

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลินอวี่ก็ชะงัก

ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว

หลินอวี่พบว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาไม่มีสกิลชำระล้างที่ทรงพลังอยู่เลย

สร้อยคอแห่งจิตวิญญาณที่ไม่ยอมจำนนทำให้เขามีความต้านทานต่อสกิลสายควบคุม แต่นั่นไม่อาจป้องกันสกิลสายคำสาปและดีบัฟได้

หากต้องพบเจอคู่ต่อสู้ที่มีสกิลสายดีบัพที่ทรงพลัง

เขาก็จะอ่อนแอลง

หลินอวี่ขมวดคิ้วและจมอยู่ภวังค์

ดูเหมือนว่าเขาคงต้องหาสกิลสายชำระล้างมาไว้บ้างแล้ว

แน่นอนว่าไอเท็มพิเศษใช้แล้วทิ้งก็สามารถทดแทนได้เช่นกัน เขาจำเป็นจะต้องเตรียมการไว้หลายๆวิธี

หลังจากใช้คำสาปอ่อนกำลังใส่หลินอวี่สำเร็จ ตงกงเยว่ก็กลายเป็นเส้นสายสีดำเข้าหาหลินอวี่

ความมืดทะลวง

ฟุ่บ!

ในอากาศบังเกิดเสียงกรีดฝ่าอากาศ

หลินอวี่เงยหน้าขึ้นมอง พลังงานอันน่าตกตะลึงเริ่มหลั่งไหลออกจากร่าง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะใช้ระเบิดกระแทก ตงกงเยว่ก็พลันหายไปและปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังหลินอวี่

ย่างก้าวเงา

หลินอวี่ยิ้ม ร่างกายของเขาพลันหายไป

มีดสั้นจ้วงแทงใส่อากาศที่ว่างเปล่า

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่หลินอวี่ปรากฏตัวขึ้น ร่างของตงกงเยว่ก็หายไปอีกครั้ง

ประกายมีดสั้นพุ่งเข้าหาหลินอวี่จากทางด้านข้าง

-1121

-2182

-2111

…....

ดาเมจลอยขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลินอวี่จงใจไม่ใช้เวทมนตร์ทรงพลังกับตงกงเยว่ แม้แต่โล่เยือกแข็งก็ไม่ใช้

เขามาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนฝีมือและเรียนรู้จากกันและกัน

เขากะประมาณพลังให้เท่ากันเพื่อต่อสู้สาวน้อยนักฆ่าอาชีพยากผู้นี้

เป็นประสบการณ์การต่อสู้อันหาได้ยาก

ตัวเลขค่าความเสียหายลอยขึ้นอย่างต่อเนื่อง พลังชีวิตของหลินอวี่ลดลงไปเกือบ 10,000

ประกายมีดจางหายไป ตงกงเยว่พลันปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของหลินอวี่

ประชิดตัวอีกครั้ง!

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ตงกงเยว่เข้ามาใกล้ เธอก็รู้สึกว่ามีพลังงานที่มองไม่เห็นจับเธอเอาไว้ จากนั้นเธอก็ถูกกระแทกออกไป

พลังไร้ลักษณ์ ระเบิดกระแทก

หลินอวี่ยังไม่ได้เรียนรู้สกิลวงแหวนแห่งไฟ

อย่างไรก็ตาม หลินอวี่พบว่า หากใช้พลังไร้ลักษณ์ดีๆ มันก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน

เพียงแต่ต้องใช้พลังมานามากกว่า

หลังจากกระแทกตงกงเยว่ออกไปแล้ว หลินอวี่ก็โบกมือคราหนึ่ง ศรน้ำแข็งแห่งความมืดพุ่งยิงออกไป

ร่างกายของตงกงเยว่แปรเปลี่ยนเป็นหมอกสีดำและระเบิดออก จากนั้นร่างของเธอก็กลายเป็นเส้นแสงถอยฉากออกไปหลายเมตร

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เธอปรากฏตัวออกมา ร่างกายของเธอก็ถูกแช่แข็ง

ในเวลาเดียวกัน ค่าความเสียหายจำนวนมหาศาลก็ลอยขึ้นมา

-10012

นี่เป็นผลของความพยายามควบคุมค่าความเสียหายของหลินอวี่

มิเช่นนั้นดาเมจคงจะทะลุตัวเลข 5 หลัก

แม้กระนั้น ค่าความเสียหายจำนวนนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ตงกงเยว่จะแบกรับไหว

ชั่วขณะที่ถูกแช่แข็ง ตงกงเยว่ก็สลัดหลุดออกจากน้ำแข็ง ใบหน้าของเธอขาวซีด เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

เปรี้ยง!

ทันทีที่เธอหลุดจากน้ำแข็ง สายฟ้าสีดำก็ผ่าเข้าหาเธอ

ตงกงเยว่กัดฟัน ที่รอบร่างพลันปรากฏโล่แสงสีดำขึ้นคุ้มครอง

สายฟ้าผ่าโล่แสงจนแตกกระจุย สายฟ้าที่เหลือผ่าเข้าใส่ตงกงเยว่

-1921

ดาเมจอาจไม่สูง แต่ที่น่ากลัวก็คือสถานะอัมพาต

เวลาเพียงสามวินาทีก็เพียงพอจะจบการต่อสู้แล้ว

ตงกงเยว่เม้มปาก ทันใดนั้นที่ด้านหลังของเธอก็มีภูติทมิฬปรากฏขึ้น

พริบตาถัดมา ผลของอัมพาตก็สลายไป

ขณะเดียวกัน ความเร็วของเธอก็เพิ่มขึ้นมาก เธอพุ่งเข้าหาหลินอวี่อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะทันได้เข้าใกล้ เธอก็รู้สึกว่าร่างกายถูกพลังงานที่มองไม่เห็นจับเอาไว้ จากนั้นกระสุนเวทจำนวนมากก็พุ่งเข้าหาเธอ

รูม่านตาของตงกงเยว่หดวูบ เธอฝืนสลัดหลุดจากพลังงานที่มองไม่เห็นและหลบไปด้านข้าง

หากไม่มีสกิลที่เคลื่อนย้ายในพริบตา เช่นนั้นก็ยากที่จะเข้าถึงตัวของหลินอวี่

แม้แต่การหนีก็ยังยาก.....