ตอนที่ 94

หลินอวี่และคนอื่นๆมาถึงลานกว้างอย่างรวดเร็ว

"หือ? ดูเหมือนว่าพวกนั้นก็นักศึกษาใหม่เหมือนกันสินะ?"

หยานจีเลิกคิ้ว

นักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยขงหมิงแน่นอนว่าย่อมเป็นระดับหัวกะทิ

ตอนนี้เอง เหล่านักศึกษาใหม่กำลังล้อมมุงดูอะไรอย่างบางอยู่ สีหน้าของพวกเขาไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าใด

เปรี้ยง!!

เกิดเสียงดังขึ้นจากภายในวงล้อม

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นย่ำแย่

"เวรเอ๊ย แพ้อีกแล้ว"

นักศึกษาใหม่คนหนึ่งสบถออกมา

"พวกเด็กเก่ารังแกกันเกินไปแล้ว!"

"ใช่! ก็แค่ปลุกพลังก่อนหน้าพวกเราไม่กี่ปีไม่ใช่เหรอ?! มีอะไรน่าอวดกัน?"

"......."

พวกนักศึกษาใหม่ดูหงุดหงิดเพราะได้รับความอยุติธรรม

พวกหลินอวี่หันไปมองหน้ากันด้วยความสงสัย

"ไปดูกัน"

หลินอวี่จูงมือหยานจีและจั่วมู่เกอเดินเข้าไป เกิดพลังที่มองไม่เห็นค่อยๆแหวกฝูงชนออกไป

"ใครผลักวะ?! ไอ้หอกหักเอ๊ย....."

นักศึกษาใหม่คนหนึ่งที่ดันไปด้านข้างขมวดคิ้วและหันกลับมามอง

แต่เมื่อเห็นหลินอวี่ สีหน้าที่เกรี้ยวกราดก็พลันชะงักค้าง

มุมปากของเขากระตุกเบาๆก่อนจะเผยยิ้มเจื่อน

"นายนั่นเอง นักเรียนหลินอวี่ ทำไมไม่บอกแต่เนิ่นๆ ฉันจะได้หลีกทางให้นายได้เดินสะดวก"

เขาเดินหลบไปด้านข้างให้ทันที

ไม่ช้า หลินอวี่ก็พาจั่วมู่เกอและหยานจีมาถึงแถวหน้าได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม สวีเผิงเทียนและคนอื่นๆต่างก็มีไหวพริบ พวกเขาทำตัวเป็นสุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือ ตามเข้ามาติดๆ

ภายในวงล้อมมีพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่

ในพื้นที่โล่งนั้นมีอัศวินคนหนึ่งกำลังยืนถือดาบและโล่อยู่

ที่อยู่เบื้องหน้าของเขาก็คือนักเวทที่สภาพอับเยินผู้หนึ่ง

เวลานี้ นักเวทผู้นั้นหน้าขาวซีดเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก จนลุกไม่ขึ้น

นักบวชเดินเข้าไปรักษาให้นักเวทนั้น

นักเวทพยายามจะลึกขึ้นช้าๆ

แต่นักบวชก็กดเขาลงไป

อัศวินที่ยืนมองอยู่แสยะยิ้ม

"มาเลย! มีใครอยากจะลองอีกมั้ย?!"

เขากวาดมองฝูงชนที่มุงดูโดยรอบ

"คงมีคนมหาใหม่และยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นสินะ จะบอกให้ก็แล้วกัน หากว่าต้องการจะลงทะเบียน ย่อมลงได้! แต่ต้องมอบเครดิตออกมาคนละ 20 เครดิต ไม่อย่างนั้นก็ต้องออกมาต่อสู้และเอาชนะฉันให้ได้"

"อะไรกัน?!"

เมื่อคนที่เพิ่งมาถึงได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็หน้าเปลี่ยนสี

แม้แต่สวีเผิงเทียนและคนอื่นๆก็ขมวดคิ้ว

"นี่มันกฏบ้ากฏบออะไรกัน?! ในเอกสารลงทะเบียนไม่เห็นมีเขียนเอาไว้เลย!"

บางคนท้วงด้วยความไม่พอใจ

อัศวินนั้นหันไปยิ้มให้ผู้พูดก่อนจะพูดว่า

"ฉันได้ตอบคำถามไปหลายครั้งแล้ว ตอนนี้ฉันจะตอบอีกครั้งก็ได้"

"นี่เป็นกฏที่ไม่ได้มีบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่หากผิดกฏ ทำไมรปภ.ของมหาลัยไม่มาจับฉันไปล่ะ?"

"พวกนายเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะไม่ใช่เหรอ? มาสิ วันนี้รุ่นพี่จะแสดงให้เห็นว่าโลกนี้กว้างใหญ่เพียงใด เมื่อจบออกไปจะได้อยู่ในสังคมได้"

ขณะพูด เขาก็ปรายตามองนักเรียนหญิงที่หน้าตาดีหลาย รวมทั้งจั่วมู่เกอและหยานจี จากนั้นเขาจึงยิ้มพูดว่า

"สำหรับพวกน้องๆ ถ้าแอดคอนแทคกับพี่ไว้ก็ไม่ต้องจ่ายเครดิตนะ สนใจมั้ย?"

หลินอวี่ขมวดคิ้ว

หมอนี่วอนซะแล้ว

ขณะที่เขาคิด หยานจีและจั่วมู่เกอก็ขมวดคิ้วพร้อมกัน

ขณะที่หยานจีกำลังจะเคลื่อนไหวลง แต่เธอก็ถูกเงาร่างหนึ่งตัดหน้าไปซะก่อน

เกิดภาพติดตาขึ้นกลางลาน

เป็นหญิงสาวผมสั้นหน้าตางดงาม หากทว่าสีหน้าของเธอกับเรียบเฉยจนไม่ต่างจากตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

หลินอวี่เลิกคิ้ว

"เธอนั่นเอง?"

ตงกงเยว่

เมื่ออัศวินนั้นเห็นตงกงเยว่โผล่ออกมา เขาก็ตาเป็นประกาย มุมปากยกยิ้มใจดี

"น้องจะมาแลกคอนแทคกับพี่ใช่มั้ยจ๊ะ?"

ตงกงเยว่เพียงมองเขาเงียบๆ จากนั้นมีดสั้นก็ปรากฏขึ้นในมือทั้งสอง

จากนั้นปากน้อยๆของเธอก็อ้าขึ้นแล้วพูดว่า

"สู้"

อัศวินนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร ตงกงเยว่ก็หายตัวไป

ฉึก ฉึก!!

พริบตาเดียวก็ปรากฏเส้นแสงสีดำปรากฏขึ้นรอบร่างของอัศวินนั้น

-12192!

-13129!

……

ทั้งหมดล้วนการโจมตีที่ติดคริติตอล

เพียงชั่วพริบตา อัศวินนั้นก็คุกเข่าลง

สีหน้าของเขายังคงประดับไว้ด้วยแววสับสนงุนงง

บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบชั่วขระ จากนั้นก็มีเสียงเฮดังสนั่น

เหล่านักศึกษาใหม่ต่างพากันส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น

"เธอก็คือตงกงเยว่ อันดับที่สี่ในการสอบหัวกะทิ!"

"รู้รึยังว่าเธอแข็งแกร่งขนาดไหน?!"

"เด็กใหม่อย่างพวกเรารังแกไม่ง่ายนะจะบอกให้!"

สวีเผิงเทียนและคนอื่นๆดวงตาเบิกกว่างด้วยความความกลัว

"ธะ...เธอน่ากลัวขนาดนี้เลย?"

ซูจื่ออันหันไปมองปู้เจิ่งซิ่นที่อยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าซับซ้อน

"อาซิ่น พวกเราก็เป็นนักฆ่าเหมือนกัน นายคิดยังไง?"

ปู้เจิ่งซิ่น "???"

เขามีประโยคหนึ่งในใจ แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปดีรึเปล่า

จั่วมู่เกอและหยานจีเองก็ขมวดคิ้วเบาๆ พวกเธอต่างมองตงกงเยว่ด้วยความประหลาดใจ

ในดวงตาของหยานจีเผยความคิดต้องการต่อสู้ "แข็งแกร่งจริงๆ"

จั่วมู่เกอที่อยู่ด้านข้างลอบมองหลินอวี่ก่อนจะขมวดคิ้วเบาๆ

"อาชีพนักฆ่าน่ารำคาญที่สุด"

ในฐานะอาชีพสายระยะประชิดแล้ว ที่น่ากลัวที่สุดก็คือนักฆ่าที่มีฝีมือแข็งแกร่งเช่นนี้

หลินอวี่เองก็รู้สึกประหลาดใจ

ตงกงเยว่ค่อนข้างแข็งแกร่งทีเดียว

บางทีอาจจะด้อยกว่าหยานจีและจั่วมู่เกอเพียงเล็กน้อย

จะเป็นอาชีพหายากรึเปล่านะ?

ตอนนี้เอง อัศวินรุ่นพี่จึงค่อยคืนสติกลับมา

สีหน้าของเขาขาวซีดลงเล็กน้อย

ดีที่ภายในลานกว้างนั้นเป็นพื้นที่สำหรับการประลอง การต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่นี่จึงถูกนับว่าเป็นการประลองและไม่มีการตายจริงๆ

มิเช่นนั้นเมื่อครู่เขาคงจะตายโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ

ในใจเกิดความกริ่งเกรงต่อหญิงสาวที่เบื้องหน้าขึ้นไม่น้อย

"นายแพ้แล้ว"

เสียงใสดังขึ้น

อัศวินรุ่นพี่เงยหน้าขึ้น และเมื่อสบเข้ากับด้วยตาที่เยือกเย็นไร้อารมณ์ ในใจเขาก็พลันสั่นสะท้าน

ตอนนี้เอง นักฆ่าหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมา

เขาคลี่ยิ้มบาง

"เมื่อกี้เจ้านี่ไม่ได้พูดให้ชัดเจน ไม่เพียงแต่ต้องเอาชนะเขา แต่เป็น.....พวกเราทั้งหมด"

เขายกนิ้วโป้งชี้กลับหลัง ที่นั่นเป็นโต๊ะลงทะเบียน และที่บริเวณนั้นเป็นกลุ่มชายหญิงจำนวนราวยี่สิบคน

ทั้งหมดล้วนเป็นรุ่นพี่!

เมื่อพวกนักศึกษาใหม่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี

แม้แต่แววตาสีดำของตงกงเย่วก็ยังบังเกิดละลอกของความผันผวน.....