ตอนที่ 134

สุดท้ายเฮาส์ก็ไม่ได้ดื่มสมใจ

นั่นก็เพราะขณะที่ฮอร์จสันกำลังจะรินไวน์ เขาก็ได้รับคำเชิญจากหลินอวี่

"มาแล้ว!"

ฮอร์จสันลุกพรวดอย่างมีความสุขพลางโยนแก้วไวน์ทิ้งอย่างไม่ใยดี

เฮาส์ที่นั่งอยู่ข้างกัน "....."

เขามองดูไวน์ที่หกอยู่บนพื้นด้วยแววตาราวกับจะร้องไห้

"ไปดูกัน"

ฟีลลิสบอก

ในดวงตาทอประกายวูบ

เอลลิสและเฮาส์ก็ลุกขึ้นแล้วเช่นกัน

พวกเขาต่างก็ให้ความสนใจการต่อสู้ระหว่างหลินอวี่และฮอร์จสัน

"อ้อใช่ ข้ายังมีเพื่อนที่จะมาดูด้วยอีกสองสามคน"

"ของข้าก็ด้วย"

ทั้งสามชะงักก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา

เมื่อได้ยินว่าฮอร์จสันกำลังจะไปต่อสู้กับหลินอวี่ เหล่าผู้เข้มแข็งของแต่ละเผ่าพันธ์ุต่างก็ส่งคนไปดู

แวดวงของผู้เข้มแข็งนั้นกว้างขวางยิ่ง ทุกฝ่ายต่างก็มีเส้นสายของตนเอง ดังนั้นข่าวจึงแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

......................

ในสนามต่อสู้

ร่างของหลินอวี่ปรากฏขึ้น ขณะที่อีกด้านก็มีหมีขาวที่สวมใส่ชุดเกราะปรากฏตัวขึ้นในเวลาเดียวกัน

หมีขาวตัวนี้มีส่วนสูงกว่าสี่เมตร ยังสูงใหญ่กว่าหมีสีเาก่อนหน้านี้เสียอีก

มือทั้งสองของหมีขาวสวมใส่ถุงมือเหล็ก เมื่อเขายกหมัดทั้งสองขึ้นชนกันก็บังเกิดเป็นระลอกคลื่นพลังกระจายออกมา

เขาเงยหน้าขึ้นมองหลินอวี่ ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดต่อสู้

"นักเวทมนุษย์ ข้าคือบุตรของผู้นำเผ่าธันเดอร์ ฮอร์จสัน ธันเดอร์ ข้าอยากจะสู้กับเจ้าเต็มแก่แล้ว!"

หลินอวี่ยิ้ม

"ฉันก็ตั้งตารอเหมือนกัน"

จากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ฮอร์จสันเริ่มจัดท่าทางปละปรับสภาวะให้พร้อมต่อสู้

สภาวะของฮอร์จสันพุ่งทะยานประดุจพายุทอร์นาโดกำลังก่อตัว

อย่างไรก็ตาม หลินอวี่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจอะไร

นั่นทำให้ดวงตาของฮอร์จสันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมกว่าเดิม ในใจบังเกิดความสงสัยขึ้นมา

แต่เขาก็ยิ่งกระหายอยากต่อสู้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

"การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว!"

ทันทีที่ม่านพลังหายไป ฮอร์จสันก็คำราม ประจุสายฟ้าพลันแพร่กระจายปกคลุมทั่วร่าง

สภาวะราวกับพร้อมจู่โจมทำลายทุกสรรพสิ่ง

นี่ก็คืออาชีพหายากของคลาสนักรบ นักรบอัสนี

นอกจากนี้มันยังเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาของเผ่าธันเดอร์

บุตรชายของผู้นำเผ่าย่อมมีอาชีพนักรบอัสนี และในอนาคตเขาจะต้องกลายเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

ขาอันหนาหนักย่ำลงบนพื้นดิน

ตึง!

ประจุสายฟ้าพลันพุ่งออกไป

ประจุสายฟ้า

มันแตกต่างจากประจุสายฟ้าของมนุษย์หมีก่อนหน้านี้

ประจุสายฟ้าของฮอร์จสันนั้นเป็นสีม่วง ดูทรงพลังและสูงส่งกว่าสายฟ้าของมนุษย์หมีก่อนหน้านี้มาก

หลินอวี่อดประหลาดใจขึ้นเล็กน้อยไม่ได้

ท็อป 10,000 ของคลาสสองแข็งแกร่งระดับนี้?

ก็นับว่ามีของอยู่บ้าง

หลินอวี่ยกไม้เท้าในมือขึ้นเล็กน้อย

ระเบิดกระแทก

ตู้ม!!

ระเบิดพลังเวทและประจุสายฟ้าปะทะกันอย่างรุนแรง ฮอร์จสันที่กำลังพุ่งโถมเข้ามาพลันชะงักค้างอยู่กับที่

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้กลับไม่มีค่าความเสียหายปรากฏขึ้นมาแต่อย่างใด

แม้จะเป็นเช่นนั้น ฮอร์จสันก็ยังตกตะลึงอย่างหนัก

รูม่านตาของเขาหดตัวอย่างรุนแรง

เป็นไปได้ยังไงกัน?!

ประจุสายฟ้าของเขาและกิกิอยู่คนละระดับกันโดยสิ้นเชิง

แล้วมันจะถูกยับยั้งได้ยังไง?!

และมนูษย์ผู้นี้ก็ยังไม่ได้ทุ่มสุดตัวเลยด้วยซ้ำ!

ขณะที่ในหัวของฮอร์จสันเต็มไปด้วยความคิดมากมาย ร่างกายของเขาซึ่งถูกหยุดโดยระเบิดเวทก็เริ่มขเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ด้วยแรงหนุนจากประจุสายฟ้า การพุ่งของเขาจึงรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

เขาบรรลุถึงตัวของหลินอวี่แทบจะในชั่วพริบตา

ประกายสายฟ้าไหลเวียนอยู่บนหมัดของเขาขณะต่อยใส่หลินอวี่

หมัดอัสนี

หลินอวี่ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย เขาก้าวเท้าถอยหลังหนึ่งก้าว จากนั้นร่างกายของเขาก็กลายเป็นแสงหายไปในขณะที่หมัดสายฟ้าชกใส่อากาศธาตุ

หลินอวี่ปรากฏตัวขึ้นในที่ห่างออกไปราวหนึ่งร้อยเมตร

เมื่อเขาชี้นิ้วออก ศรน้ำแข็งแห่งความมืดดอกหนึ่งก็พุ่งเข้าหาฮอร์จสัน

"โฮก!!"

เมื่อฮอร์จสันคำราม โล่คริสตัลก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา

ศรน้ำแข็งแห่งความมืดยิงกระทบโล่คริสตัล ที่คาดไม่ถึงก็คือ ศรน้ำแ๘้งนั้นกลับเด้งสะท้อนและมุ่งตรงกลับไปหาหลินอวี่

สกิลสะท้อนการโจมตี!

หลินอวี่เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

มีกระทั่งสกิลแบบนี้ด้วย?

ตอนที่เล่ยอิ่งจีสอนภาคทษฤฎีให้พวกเขา เธอบอกว่ามีสกิลบางจำพวกที่สามารถคุกคามอาชีพนักเวทได้อย่างร้ายแรง

และสกิลสะท้อนการโจมตีก็เป็นหนึ่งในนั้น

การพลาดเพียงครั้งเดียวก็อาจพ่ายแพ้ทั้งกระดาน

แน่นอนว่าศรน้ำแข็งแห่งความมืดย่อมไม่ใช่ภัยคุกคามอะไรสำหรับหลินอวี่

มีกลุ่มลมหมุนวนขึ้นรอบร่างของเขา จากนั้นความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

เมื่อเขาก้าวเท้าออกก็บังเกิดเป็นภาพติดตาทิ้งค้างเอาไว้ ขณะที่คนนั้นหายไปแล้ว

ศรน้ำแข็งแห่งความมืดพุ่งทะลุภาพติดตาและระเบิดใส่พื้น

"ความเร็วนั่นมันอะไรกันน่ะ?!"

ฮอร์จสันอุทานด้วยความเหลือเชื่อ เขาได้จำลองการต่อสู้เอาไว้ก่อนที่จะเริ่มต้นขึ้น

แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ หลินอวี่ถึงกับมีสกิลเร่งความเร็วที่ทรงพลังขนาดนี้

เพียงด้านโจมตีก็น่ากลัวมากแล้ว ตอนนี้ยังมีสกิลเร่งความเร็วที่เกินจริงนี้อีก!

แล้วแบบนี้ใครจะไปสู้ได้กัน?!

เพียงไม่รู้ว่าสกิลด้านป้องกันของมนุษย์ผู้นี้เป็นอย่างไร

ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นแค่คลาส 2 คงเป็นไปไม่ได้ที่ด้านป้องกันก็จะแข็งแกร่งเหมือนกันหรอกใช่มั้ย?

ขณะที่ฮอร์จสันนึกคิด เขาก็เห็นหลินอวี่โบกมือคราหนึ่ง จากนั้นหอกน้ำแข็งที่แผ่ซ่านไอเย็นก็พลันพุ่งฉิวเข้าหาเขา

พร้อมกันนั้น ร่างกายของเขาก็ถูกพลังไร้สภาพยึดจับเอาไว้กับที่

"มาเลย!"

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหลินอวี่ยังมีสกิลที่แข็งแกร่งอยู่สองสกิล นั่นคือหอกน้ำแข้งและพลังไร้สภาพ

หากว่าสองสกิลนี้ถูกใช้งานร่วมกัน ศัตรูก็อาจจะดับดิ้นได้หากไม่ระวังตัว

ขอเพียงถูกหลินอวี่ควบคุมเอาไว้ จังหวะการต่อสู้หลังจากนั้นก็จะตกอยู่ในการควบคุมของหลินอวี่ทั้งหมด!

เผชิญกับคู่ต่อสู้ที่จัดเจนในด้านการควบคุมการต่อสู้ ผิดพลาดเพียงก้าวเดียวก็อาจหมายถึงความพ่ายแพ้

ฮอร์จสันที่เจนสนามรบย่อมทราบถึงความสำคัญของการชิงจังหวะควบคุมการต่อสู้

ตอนนี้เขายังเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ

มนุษย์ผู้นี้ยังไม่รู้ว่าเขามีสกิลอะไรบ้าง

ขณะที่เขารู้จักสกิลของนักเวทผู้นี้ไปหลายสกิลแล้ว!

ทันทีที่พลังไร้สภาพปรากฏขึ้นยึดจับร่าง ฮอร์จสันก็ปะทุพลังจากภายในร่างทำลายพลังไร้สภาพนั้นไป

ด้วยการปะทุพลังนี้ ความเร็วของเขาพลันเพิ่มขึ้นมาก ทำให้เขาพุ่งหลบพ้นหอกเยือกแข็งไป

วินาทีถัดมา ทั่วร่างของเขาก็ปรากฏกลิ่นอายพลังอันแข็งแกร่ง กระแสไฟฟ้าไหลวนอยู่รอบร่างของเขาขณะที่เขาพุ่งตรงเข้าหาหลินอวี่

ในขณะที่เขาพุ่งตัวออกไป ดวงตาของเขาก็มีประกายสายฟ้าสว่างวาบก่อนจะพุ่งออกจากดวงตาของเขาโดยมีเป้าหมายอยู่ที่หลินอวี่

ค้อนศึกที่มีสายฟ้าล้อมรอบทุบเข้าใส่ศีรษะของหลินอวี่อย่างดุดัน

ค้อนสายฟ้า

สตั้น!

สำเร็จ!

ฮอร์จสันดีใจ

อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา หลินอวี่ก็ขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง

จิตใจของฮอร์จสันเขม็งเกร็ง แต่ก็ไม่ได้ประหลาดใจมากนัก

เขาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าหลินอวี่จะต้องมีสกิลหรือว่าอุปกรณ์ที่สามารถสลัดหลุดจากสกิลประเภทควบคุม

ที่อากาศว่างเปล่าข้างบนพลันปรากฏค้อนสายฟ้าขึ้นอีกอัน

ค้อนสายฟ้า!

อันที่สอง!

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮอร์จสัน

ในบรรดาคลาส 2 ทั้งหมด มีคนอยู่ไม่มากที่จะมีสกิลหรืออุปกรณ์ที่จะป้องกันสกิลควบคุมได้ถึงสองครั้ง