สามวันต่อมา ยามเช้า
ที่ประตูเมืองของเมืองประกายแสง
หลินอวี่ หยานจี และจั่วมู่เกอเดินทางมาด้วยกัน
ที่บริเวณประตูเมืองมีกลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวหลายคนรอคอยอยู่ก่อนแล้ว
บนใบหน้าที่เยาว์วัยเหล่านั้นล้วนฉายแววตื่นเต้นออกมา
ในฐานะผู้มีคุณสมบัติเข้าร่วมการสอบระดับหัวกะทิ พวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะ
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำเป็นสิ่งที่พวกเขาเฝ้าฝัน
ที่เบื้องหน้ากลุ่มของเด็กหนุ่มเด็กสาว เถียนหยวนหลงและผู้คุมคนอื่นๆต่างก็มารวมตัวกัน
หลังจากพวกหลินอวี่สามคนมาถึง ทั้งผู้คุมและนักเรียนคนอื่นๆก็หันมามอง
เหล่านักเรียนนั้นมีทั้งอยากรู้อยากเห็น ชื่นชม ไม่พอใจ อิจฉาริษยาและอื่นๆ พวกเขาล้วนมีอารมณ์แตกต่างกันออกไป
หนุ่มสาวจากโรงเรียนมัธยมหมายเลขหนึ่งต่างพากันเดินเข้ามา
ชายหนุ่มหล่อเหลาที่มีดวงตาเฉียบคมและผมหยักศกสีน้ำตาลยิ้มให้พลางพูดว่า
"พี่ใหญ่หลิน ในที่สุดพี่ก็มาแล้ว! พวกเราทุกคนกำลังรอพี่กันอยู่เลย"
"พี่ใหญ่?"
หลินอวี่ผงะ
จั่วมู่เกอและหยานจีต่างเหลือบมองมาทางเขา
"นายคือ......สวีเผิงเทียน? จากตระกูลสวี?"
จั่วมู่เกอเลิกคิ้วขึ้นอย่างใช้ความคิด
"องค์หญิงจั่วช่างมีความจำเป็นเลิศ! ผมคือสวีเผิงเทียน!"
เมื่อได้เห็นจั่วมู่เกอจำตัวเองได้ สวีเผิงเทียนก็ตัวสั่น เขารีบพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแข็งๆ
หลินอวี่มองสวีเผิงเทียน
"มู่เกอ เธอรู้จักเหรอ?"
เท่าที่จำได้ เหมือนว่าคนที่ชื่อสวีเผิงเทียนนี้จะได้อันดับที่เจ็ดในการสอบสินะ?
แต่ว่า....
ทำไมเขารู้สึกว่าสวีเผิงเทียนดูเหมือนจะกลัวจั่วมู่เกอเลยล่ะ?
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจั่วมู่เกอ เมื่อถูกจั่วมู่เกอจ้องมอง รอยยิ้มแข็งทื่อของสวีเผิงเทียนก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขมขื่น
"อืม เขาเป็นคนตระกูลสวี ฉันเคยพบเขาครั้งนึง แต่ไม่ค่อยประทับใจพี่ชายของเขาน่ะ"
ตระกูลสวี......
หลินอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าตระกูลสวีเองก็นับเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ของเมืองประกายแสง เพียงแต่ยังด้อยกว่าตระกูลหยานและตระกูลจั่ว และพวกเขายังมีคนในตระกูลที่มีตำแหน่งอยู่ในกองทัพ
"มีเรื่องอะไรกับพี่ชายของเขาเหรอ?"
เมื่อหลินอวี่เห็นรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายของจั่วมู่เกอ เขาก็รู้สึกว่าพี่ชายของสวีเผิงเทียนนับว่าเดินชนตอเข้าแล้ว
หยานจีที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเบาๆ
"สวีเฉิงเหอเคยตามจีบมู่เกอ แต่ว่าตอนนี้ยังถูกขังในเรือนจำของกองทัพอยู่เลย"
หลินอวี่ ".........."
ว่าแล้วเชียว
สวีเผิงเทียนชำเลืองมองจั่วมู่เกอที่กำลังแสยะยิ้มให้ เขาสะดุ้งแล้วรีบถอนสายตาทันที
เขาไม่อยากลงเอยเหมือนกับพี่ชาย
เขาไม่กล้ามองจั่วมู่เกออีก
จากนั้นสวีเผิงเทียนจึงกล่าวทักทายหยานจี "สวัสดีครับองค์หญิงหยาน"
ขณะเดียวกันเขาก็อดนับถือหลินอวี่ที่ทำให้สองสาวมาคอยเดินตามไม่ได้
จั่วมู่เกอและหยานจีเป็นใครกัน?
โดยเฉพาะจั่วมู่เกอ เขาทราบดีว่าจั่วมู่เกอจับพี่ชายเขาโยนเข้าคุกได้ยังไง
ผู้หญิงคนนี้เป็นธิดาซาตานชัดๆ!
นึกไม่ถึงเลยว่าพอมาอยู่ข้างหลินอวี่แล้วจะทำตัวดีผิดหูผิดตาขนาดนี้! น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
สมกับเป็นผู้ที่ทำลายทุกสถิติของการสอบ!
ดังนั้นเขาจะต้องเกาะขาหลินอวี่เอาไว้ให้แน่น!
...................
ห่างออกไป เถียนหยวนหลงและผู้คุมคนอื่นๆต่างก็มองประเมินพวกหลินอวี่ทั้งสามคน
ในดวงตาของเหล่าผู้คุมต่างฉายแววสนอกสนใจ
"เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือหลินอวี่?"
ลู่เหยากวาดมองทั้งสาม จากนั้นจึงหยุดสายตาอยู่ที่หลินอวี่
เถียนหยวนหลงพยักหน้า "ใช่"
"เขาแข็งแกร่งจริงๆ?"
ชายร่างสูงเอ่ยถาม
สองสามวันมานี้พวกผู้คุมต่างก็ถามถึงเรื่องนี้
แน่นอนว่าเถียนหยวนหลงเองก็อยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับหลินอวี่ให้มากขึ้นเช่นเดียวกัน
พอเริ่มการสอบได้ไม่นานก็สามารถสังหารบอสคลาสสองลงได้ นี่ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไป
"แข็งแกร่งมาก"
เถียนหยวนหลงพยักหน้าเบาๆ
ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าสุขุมกวาดมองพวกหลินอวี่ จากนั้นจึงหันไปมองดูนักเรียนคนอื่นๆแล้วก็ขมวดคิ้ว
"ครั้งนี้เมืองประกายแสงมีอัจฉริยะเยอะมาก เส้นทางข้างหน้าอาจไม่ปลอดภัย พวกเราต้องเพิ่มความระวัง"
เมื่อเหล่าผู้คุมได้ยินดังนั้น หวกเขาก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขณะพยักหน้ารับ
"ฮึ่ม ไอ้พวกนอกรีตและคนทรยศเหล่านั้น! น่าหงุดหงิดจริงๆ!"
ประกายความรังเกียจฉายผ่านแววตาของลู่เหยา
ทุกครั้งที่มีการสอบระดับหัวกะทิ พวกคนทรยศและพวกนอกรีตก็มักจะปรากฏตัวขึ้นเสมอ บางครั้งยังมีกระทั่งยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์อื่นเสี่ยงมาลอบสังหารอัจฉริยะของมนุษยชาติ
ถึงอย่างไรเวลานี้ทุกฝ่ายต่างก็อยู่ในสภาวะสงคราม
ขณะที่คนรุ่นต่อไปก็คืออนาคตของเผ่าพันธุ์
หากว่าอัจฉิรยะของมนุษยชาติตกตายไปมากมาย นั่นก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างร้ายแรง
นอกจากเป็นผู้ควบคุมการสอบแล้ว พวกเขายังทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันให้กับเหล่านักเรียน
ชายวัยกลางคน จางหงไช่ เป็นหัวหน้าผู้คุมในครั้งนี้
"ว่าแต่ครั้งนี้ดูเอิกเกริกมากเลยนะครับ?"
ชายหนุ่มหันไปมองจางหงไช่
"จำนวนนักเรียนที่มีคุณสมบัติในครั้งก่อนๆยังน้อยกว่านี้ถึงครึ่งหนึ่ง และแม้แต่คุณ หัวหน้าจาง ยอดฝีมือคลาสห้าก็ยังถูกส่งมาที่นี่"
ผู้คุมคนอื่นๆพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
จางหงไช่หันไปมองผู้คุมคนอื่นๆ
"สถานการณ์ในครั้งนี้แตกต่างออกไป มีความซับซ้อนกว่าครั้งที่ผ่านๆมา ไม่นานมานี้เพิ่งปรากฏแสงแห่งอีเทอร์นอลส์ขึ้น ทำให้ทั่วทั้งจักรวาลเกิดคลื่นใต้น้ำขึ้น พวกยอดฝีมือที่ซ่อนตัวมานานก็เริ่มมีความเคลื่นอไหวบ่อยครั้งขึ้น"
"มีความเป็นไปได้ที่เผ่าพันธุ์ต่างๆจะเพิ่งเล็งโจมตีเหล่ารุ่นเยาว์ ดังนั้นพวกเราจึงต้องระวังไว้ให้ดี"
ดังนั้นยินเช่นนี้ สีหน้าของผู้คุมทุกคนก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม พวกเขาพยักหน้าอย่างหนักแน่น
จางหงไช่มองดูเวลา จากนั้นจึงค่อยๆพูดขึ้นว่า
"ใกล้ได้เวลาแล้ว เตรียมตัวออกเดินทาง"
"เตรียมตัวออกเดินทาง เอาล่ะนักเรียนทุกคน ขึ้นรถ!"
เหล่าผู้คุมตะโกนบอกนักเรียน
หลินอวี่และคนอื่นๆที่กำลังพูดคุยกันอยู่ย่อมได้ยิน
สวีเผิงเทียนก้าวเดินออกไปเป็นคนแรก จากนัน้จึงเบี่ยงตัวหลบพลางผายมือ
"พี่ใหญ่หลิน เชิญก่อนครับ"
หลินอวี่หน้าเครียด ".........."
เจ้าหมอนี่มาจากตระกูลใหญ่จริงๆ?
ให้ตายเถอะ มันทำให้เขานึกถึงข้ารับใช้ที่เกือบจะลืมเลือนไปแล้วอย่างคอลลินขึ้นมาเลย......
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved