ตอนที่ 106

หลังจากอาบน้ำเสร็จและทิ้งตัวลงบนเตียงแล้ว หลินอวี่ก็เริ่มทำการตรวจสอบหนังสือสกิลที่เพิ่งได้มา

-----------------------------------------------

เกราะแสงเงิน ( E+ )

ใช้พลังมานาเพื่อสร้างเกราะแสงเงินให้กับเป้าหมายโดยจะมีค่าเกราะ (พลังป้องกันทางกายภาพและป้องกันเวทมนตร์ 90+1.5 x พลังโจมตีเวทมนตร์)

ระยะเวลาร่าย: ไม่มี

ระยะเวลาคงสภาพ: 40 นาที

ระยะเวลาคูลดาวน์: 10 นาที

-----------------------------------------------

-----------------------------------------------

อ่อนแอ ( C+ )

ใช้พลังมานาเพื่อทำให้เป้าหมายอ่อนแอลง ลดค่าสถานะทั้งหมดของอีกฝ่ายลงได้สูงสุด 15% คงอยู่เป็นเวลา 5 นาที

ระยะเวลาร่าย: ไม่มี

ระยะเวลาคูลดาวน์: 1 ชั่วโมง

-----------------------------------------------

หลินอวี่ทำการเรียนรู้สกิลทั้งสอง

จากนั้นเขาก็ใช้ค่าประสบการณ์ขยายพลังให้ทั้งสองสกิล

การใช้พยายพลังกับสกิลระดับ C+ นั้นต้องใช้ค่าประสบการณ์เกือบหนึ่งล้านหน่วย

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้จัดว่าคุ้มค่ามาก

-----------------------------------------------

เกราะสงครามแสงเงิน ( B+ )

ใช้พลังมานาเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับเป้าหมาย โดยจะมีค่าเกราะป้องกันทางกายภาพและป้องกันเวทมนตร์ (1,000 + 3 x พลังโจมตีเวทมนตร์)

ระยะเวลาร่าย: ไม่มี

ระยะเวลาคงสภาพ: 12 ชั่วโมง

ระยะเวลาคูลดาวน์: 3 นาที

-----------------------------------------------

-----------------------------------------------

คำสาปแห่งความเสื่อมโทรม ( A )

ใช้พลังมานาเพื่อทำให้ค่าสถานะทั้งหมดของเป้าหมายลดลง 35% เป็นเวลา 15 นาที

ระยะเวลาร่าย: ไม่มี

ระยะเวลาคูลดาวน์: 30 นาที

-----------------------------------------------

เป็นสกิลที่ทรงพลังมาก

ด้วยพลังโจมตีวทมนตร์ของเขาแล้ว รวมกับโบนัสการเพิ่มพลังป้องกันจากเซ็ตผู้ใฝ่รู้

เกราะสงครามแสงเงินก็จะมอบค่าเกราะทั้งทางกายภาพและเวทมนตร์ให้เขาถึง 93,000 หน่วย!

นอกจากนี้อุปกรณ์ที่เขาสวมใส่ยังเพิ่มค่าความอึดเป็นส่วนใหญ่

ทำให้ตอนนี้เขามีพลังป้องกันทางกายภาพและเวทมนตร์ทะลุ 95,000 หน่วยไปแล้ว!

ต้องทราบว่า ต่อให้เขามีค่าสถานะและอุปกรณ์ชั้นยอด แต่สกิลส่วนใหญ่ของเขาก็ยังไม่อาจทำลายพลังป้องกันของตัวเขาเองได้ด้วยซ้ำ!

มีเพียงแค่สกิลระดับ B+ อย่างสายฟ้าทมิฬเท่านั้นที่ทำได้!

สำหรับคลาสสี่ทั่วไปนั้น จะมีสกิลระดับ B หรือไม่ก็ยังไม่แน่

และต่อให้อีกฝ่ายทำลายค่าเกราเข้ามาได้ แต่ก็ยังมีโล่เยือกแข็งป้องกันเอาไว้อีกชั้น

ดังนั้นจึงสามารถจินตนาการได้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังป้องกันน่ากลัวเพียงใด

สกิลคำสาปแห่งความเสื่อมโทรมนับเป็นสกิลที่ทรงพลังอย่างมาก

จะเป็นเช่นไรหากขณะที่กำลังต่อสู้กันอยู่พลันถูกลดค่าสถานะลง 35%?

เดิมทีก็เป็นเรื่องยากที่จะโจมตีทะลุพลังป้องกันของเขาเข้ามาได้ หากถูกลดค่าสถานะลงอีก 35% พวกเขายังจะทำอะไรหลินอวี่ได้?

และหากว่าอีกฝ่ายมีพลังป้องกันสูงกว่าพลังโจมตีของเขา เมื่อใช้คำสาปแห่งความเสื่อมโทรมออกไป เขาก็จะสามารถโจมตีทะลุพลังป้องกันของอีกฝ่ายได้สบายๆ

ลดค่าสถานะลง 35% นั่นแทบเป็นการพิพากษาความตายแก่ศัตรู!

แน่นอนว่าสกิลคำสาปนี้เป็นสกิลประเภทดีบัฟ หากอีกฝ่ายมีสกิลที่ทรงพลังมากพอ อีกฝ่ายก็จะสามารถลบล้างดีบัฟออกไปได้ ดังนั้นจึงต้องกะจังหวะเวลาในการใช้งานให้ดี

เพียงแต่การจะล้างดีบัฟจากสกิลระดับ A ได้นั้นอาจะต้องเป็นผู้มีพลังพิเศษคลาส 5 หรือกระทั่งคลาส 6 เลยทีเดียว

สกิลนี้นับเป็นหนึ่งในไพ่ตายที่ยอดเยี่ยมที่สุด

หลินอวี่ค่อยๆสงบใจลง

เมื่อมีสกิลนี้อยู่ โอกาสที่เขาจะทำภารกิจเลื่อนคลาสของคลาส 1 สำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นอีกมาก!

หลินอวี่คลี่ยิ้ม

เขารู้สึกพึงพอใจกับของที่ได้มาในครั้งนี้

................................

เช้าวันต่อมา หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันแล้ว ทั้งสามก็นั่งพูดคุยกันอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น

จั่วมู่เกอและหยานจีต่างเล่าความสำเร็จที่พวกเธอประสบมาเมื่อวาน

ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเธอ ดังนั้นพวกเธอจึงได้รับชัยชนะในการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งอย่างต่อเนื่อง

จั่วมู่เกอชนะ 28 รอบติด

ต้องทราบว่าเธอนั้นเป็นอาชีพสายนักบวช!

ขณะที่หยานจีชนะ 35 รอบติด

"ว่าแต่อาหวี่ นายยังไม่ได้บอกชื่อในโลกเสมือนให้พวกเรารู้เลย มาแอดเพื่อนกันเถอะ พวกเราจะได้ตั้งทีมไปลุยการต่อสู้ประเภททีมและแบทเทิลรอยัลด้วยกัน"

จั่วมู่เกอหันมาถามหลินอวี่

หลินอวี่ที่ได้ยินดังนั้นก็มุมปากกระตุก

"ชื่อของฉัน....."

"ใช่แล้ว ชื่อนายน่ะ"

"ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ไม่นึกว่าพวกเธอจะโหดขนาดนี้"

หลินอวี่ถอนหายใจก่อนจะบอกชื่อออกมา

จั่วมู่เกอและหยานจีต่างชะงักไปครู่หนึ่ง หยานจีกระพริบตาปริบๆด้วยความสับสน จากนั้นเธอจึงอดทุบหลินอวี่เบาๆไปหนึ่งทีไม่ได้

"อะไรกัน? นายทำอะไรผิด? ทำไมต้องขอโทษพวกเราด้วย? พวกเราไปทำอะไรนาย...ถ้างั้นพวกเรา...."

หยานจีลังเลอยู่นาน ใบหน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ

จั่วมู่เกอพลันพูดว่า

"ปลอบให้เอามั้ย?"

หยานจีก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย

จั่วมู่เกอเดินมานั่งลงบนตักของหลินอวี่ก่อนจะยื่นมือไปคล้องคอหลินอวี่เอาไว้พลางจ้องมองหลินอวี่เขม็ง

"นี่ เล่ามาสิ นายไปทำอะไรผิดมา หรือว่าไปแอดเพื่อนกับแม่สาวตงกงเยว่นั่นมา? หรือว่านายแอบไปเต๊าะสาวอื่นลับหลังพวกเรางั้นเหรอ?"

หลินอวี่พูดไม่ออก

"ห้ะ?"

หลินอวี่ถอนหายใจก่อนจะอธิบาย

"ที่ฉันพูดไปเป็นชื่อของฉันในมิติสนามรบ ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ไม่นึกว่าพวกเธอจะโหดขนาดนี้"

".............."

บรรยากาศพลันเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วน

จั่วมู่เกอและหยานจีจ้องมองหลินอวี่ด้วยความสับสน

จากนั้นจั่วมู่เกอก็ยกมือทุบหน้าอกของหลินอวี่

"อุ๊บ....."

เธอพยายามกลั้นขำจนไหล่สั่นอย่างรุนแรง

หลินอวี่พลันหน้าเครียด ร่างกายของเขามีการตอบสนองขึ้นมาแล้ว

นี่คุณหนู เธอนั่งบนตักฉันอยู่นะ.......

ตัวเธอสั่นแบบนี้ จะให้ฉันทำยังไง?!

หยานจีที่นั่งอยู่ด้านข้างขำกลิ้งอยู่บนโซฟาไปแล้ว มือของเธอทุบโซฟาอย่างยากจะกลั้นไม่ให้หัวเราะ

หลินอวี่หน้าดำคร่ำเครียด

เพี๊ยะ!

เพี๊ยะ!

หลินอวี่ตีก้นสองสาวไปคนละทีพลางขู่อย่างดุร้าย

"ถ้ายังหัวเราะฉันอีก พวกเธอโดนดีแน่!"

สองสาวชะงักก่อนจะรีบกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ

"ฉะ...ฉันไม่ได้หัวเราะนะ!"

"ใช่!..ฉัน...ฉันก็ไม่ได้หัวเราะเหมือนกัน!"

ทั้งสองพยายามหุบยิ้มขณะแก้ตัว

"ติ๊งต่อง"

ตอนนี้เองก็มีเสียงกริ่งดังมาจากหน้าวิลล่า

หลินอวี่จ้องมองสองสาวที่ยังพยายามกลั้นขำกันอยู่ก่อนจะกลอกตาพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า

"ฉันจะไปเอาอาหารเช้า"

วันนี้หลินอวี่เกิดขี้เกียจทำอาหารเช้า ดังนั้นจึงสั่งอาหารเข้ามา

เมื่อเปิดประตูออก พนักงานที่มาส่งอาหารนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง หลินอวี่รู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่าย

เมื่อเห็นหลินอวี่ ชายหนุ่มนั้นก็อึ้ง จากนั้นจึงยิ้มพูดด้วยความประหลาดใจว่า

"หลินอวี่ นายนั่นเอง"

หลินอวี่พลันนึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นนักศึกษาใหม่เหมือนกับเขา เขาเคยพบกับอีกฝ่ายตอนลงทะเบียนเมื่อวาน

ไม่แปลกใจทำไมรู้สึกคุ้นหน้า

สีหน้าของเขาฉายแววแปลกใจ

"นายเปลี่ยนอาชีพไปเป็นพนักงานส่งอาหารแล้ว?"

ชายหนุ่มนั้นเกาศีรษะก่อนจะยิ้มอย่างเขินๆ

"ฮะๆ....ถือโอกาสรับจ๊อบพิเศษยามเช้าน่ะ"

หลินอวี่อึ้ง

สำหรับนักศึกษาใหม่แล้ว ภารกิจบางภารกิจก็ยากจะทำได้

ดังนั้นหลายคนจึงได้แต่ต้องรับภารกิจง่ายๆเพื่อหาเครดิต

หากบอกต่อคนอื่นว่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างขงหมิงทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเชื่อรึเปล่า

"นักเรียนหลินอวี่ ฉันยังมีอีกหลายออเดอร์ที่ต้องไปส่ง ดังนั้นขอตัวก่อนล่ะ ทานอาหารให้อร่อยนะ"

ชายหนุ่มยิ้มให้หลินอวี่ จากนั้นออกจากหน้าวิลล่าของเขาไป

หลินอวี่มองตามเงาหลังของชายหนุ่มนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา

"นี่ล่ะน้าคนหนุ่ม....."