หลังจากนั้นไม่นาน หลินอวี่ก็มาถึงร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
เมื่อเป็นนักผจญภัยแล้ว ทำไมจะดื่มล่ะ?
ทันที่ที่เข้ามา เสียงพูดคุยของลูกค้าที่มาใช้บริการก็ลอยปะทะหน้า
หลินอวี่เดินมาถึงบาร์แล้วจึงนั่งลง เป็นเวลาเดียวกับที่บาร์เทนเดอร์หันมาต้อนรับ
"จะดื่มอะไรล่ะ?"
หลินอวี่มองเขา "มีที่แนะนำมั้ย?"
บาร์เทนเดอร์ยิ้มพูดว่า "ถ้าของขึ้นชื่อของที่นี่ ก็ต้องเป็นเหล้าทรายแดง รสชาติค่อนข้างจะร้อนแรง ราคาก็ไม่ถูก"
"เอามาเลย"
หลินอวี่ไม่ได้ถามว่าราคาเท่าไหร่ ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ขาดเงินอยู่แล้ว เมื่อเขามีเวลา เขาก็มักจะขยายพลังให้ไอเทมและนำไปขายทำกำไร
ตอนนี้เขาไม่ได้นับแล้วด้วยซ้ำว่าเขามีเงินอยู่มากเท่าไร
"ได้เลย!"
หลินอวี่ปรายตามองรอบข้าง นักผจญภัยส่วนใหญ่พูดคุยอยู่กับเพื่อนฝูง แต่มีนักผจญภัยคนหนึ่งที่นั่งดื่มอยู่เงียบๆคนเดียว
ไม่นาน บาร์เทนเดอร์ก็ผลักแก้วที่บรรจุเหล้าสีแดงมาให้
หลินอวี่ตรวจสอบสอบคุณสมบัติของเหล้าทรายแดง และพบว่ามันสามารถเพิ่มค่าความแข็งแกร่ง 50 หน่วยเป็นเวลา 1 วัน
น่าสนใจแฮะ
เสียดายที่ค่าความแข็งแกร่งไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อเขาที่เป็นนักเวทเท่าไหร่
หลินอวี่ยกแก้วขึ้นจิบ รสชาติอันร้อนแรงฟุ้งกระจายทั่วปาก จากนั้นจึงค่อยๆไหลผ่านลำคอลงไป
รสชาติค่อนข้างดีทีเดียว
เขาเปิดปากพูดขึ้นว่า
"ได้ยินมาว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่เมืองชิงซง"
ได้ยินคำถามนี้ ทั้งบาร์เทนเดอร์และนักดื่มที่กำลังพูดคุยกันอยู่ที่หน้าบาร์หรือว่าผู้ที่กำลังนั่งดื่มเงียบๆ
ทุกสายตาล้วนหันมามองเขา
หลายคนกระดกเบียร์ที่ยังเหลือแล้วลุกออกจากร้านไป
ขณะที่อีกหลายคนก้มหน้าก้มตาดื่มเงียบๆ เสียงที่ใช้พูดคุยกันก็เบาลงกว่าเดิมมาก
ทุกคนปฏบัติต่อเขาราวกับเขาเป็นเทพเจ้าโรคห่า
หลินอวี่ "???"
เรื่องบ้าอะไรกัน?
ทำไมล่ะ?
ทำไมถึงมีท่าทางแบบนี้กันหมด?
บาร์เทนเดอร์ได้แต่ขำแห้งๆก่อนจะลงเสียงลงพูดว่า
"นี่คุณนักผจญภัย ฉันขอแนะนำอะไรอย่างนะ อย่าถามเกี่ยวกับเรื่อที่ชิงซง อย่าคิดถึงเรื่องที่ชิงซง มีแต่ทำแบบนี้ถึงจะอายุยืน"
หลินอวี่หันมามองเขาก่อนจะยิ้ม
"ไม่เป็นไร ฉันไม่กลัวตายน่ะ"
บาร์เทนเดอร์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ สายตาที่ใช้มองดูหลินอวี่เผยแววสับสน
ราวกับเขาเพิ่งเคยพบเจอคนประเภทนี้
เขาเปิดปากขึ้นจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและถอยห่างจากหลินอวี่
เขายังต้องการจะอยู่ใช้ชีวิตต่อไป
เห็นฉากนี้ หลินอวี่ก็รู้สึกจนปัญญา
ดูเหมือนว่าเขาคงจะไม่ได้อะไรจากที่นี่
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคนในตระกูลหลี่จะแข็งแกร่งอย่างมาก
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่มีท่าทางหวาดกลัวถึงขนาดนี้
เขาส่ายหน้าเบาๆ หลังจากกระดกเหล้าทรายแดงในอึกเดียว เขาก็เตรียมจะออกจากที่นี่
ตอนนั้นเอง เสียงแก้วเหล้ากระทบกับโต๊ะก็ดังขึ้น
จากนั้นเสียงแหบแห้งก็ดังขึ้น
"บาร์เทนเดอร์! เอาเหล้าทรายแดงมาอีกแก้ว!"
หลินอวี่หันไปมอง
เขาพบว่าเป็นผู้ชายที่นั่งดื่มอยู่คนเดียวในตอนแรก
ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิง ใต้คางมีหนวดเคราหรอมแหรม สภาพดูโทรมอย่างมาก
ราวกับเขาไม่ได้ดูแลตัวเองมานานแล้ว
ได้ยินดังนั้น บาร์เทนเดอร์ก็กลอกตา จากนั้นจึงด่าทอออกมา
"เจ้าขี้เหล้า เมาจนเพี้ยนแล้วรึไง? แกจะไปมีเงินจากไหนมาซื้อเหล้าทรายแดงกัน?"
ขี้เมานั้นเหลือบมองหลินอวี่ก่อนจะยิ้มพูดว่า
"น้องชาย เลี้ยงเหล้าฉันสักแก้วเป็นไง?"
หลินอวี่เลิกคิ้ว เขาจ้องหน้าชายขี้เมา
"ทำไมฉันต้องเหล้านายด้วย?"
ชายขี้เมานั้นยิ้มและเรอออกมา
"ฉันจะตอบคำถามของนายเมื้อกี้นี้ให้"
ได้ยินแบบนั้น บาร์เทนเดอร์ก็หน้าเปลี่ยนสี เขาพลันก่นด่าออกมา
"ไอ้เวรขี้เมา แกบ้าไปแล้วรึไง?!"
หลินอวี่มองเขา จากนั้นจึงหันไปหาบาร์เทนเดอร์
"เอาเหล้าทรายแดงมาอีกสองแก้ว"
บาร์เทนเดอร์อ้าปากราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาจึงถอนหายใจแล้วจึงส่ายหน้า
"ฉันไม่เคยพบใครที่รนหาที่ตายขนาดนี้มาก่อน"
ขณะพูด เขาก็จัดเตรียมเหล้าทรายแดง
หลินอวี่เดินเข้าไปนั่งข้างชายขี้เมานั้น
"ตอนนี้เล่ามาได้รึยัง?"
ชายขี้เมายิ้ม
"รอฉันดื่มก่อน"
หลินอวี่จ้องหน้าเขา
"ถ้านายโกหก นายจบไม่สวยแน่"
"สบายใจได้"
ชายขี้เมาโบกมืออย่างไม่แยแส จากนั้นจึงเริ่มกระดกเหล้าต่อไป
ไม่นาน เหล้าทรายแดงสองแก้วก็ถูกผลักมาถึงหน้าหลินอวี่และชายขี้เมา
ชายขี้เมานั้นราวกับเห็นขุมสมบัติ เขารีบคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาและกระดกลงคอ
จากนั้นเขาจึงหลับตาและระบายลมหายใจด้วยความพึงพอใจ
"รสชาติดีเป็นบ้า....ไม่มีเหล้าดีแบบนี้ตกถึงท้องมานานแล้ว"
หลินอวี่ยกแก้วขึ้นจิบโดยไม่พูดอะไร
จากนั้นสักพัก ชายขี้เมาก็ค่อยๆเปิดปากพูดขึ้นว่า
"อยากรู้เกี่ยวกับตระกูลหลี่งั้นเหรอ?"
หลินอวี่หันไปมอง
"อืม"
"หึหึ..." ชายขี้เมายิ้ม เขาเหลือบมองบาร์เทนเดอร์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล จากนั้นจึงพูดว่า
"บาร์เทนเดอร์พูดถูก หากว่านายยังไม่อยากตาย นายควรอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้"
"แม้แต่พวกมือปราบก็ยังรับมือเรื่องนี้ไม่ไหว"
หลินอวี่ขมวดคิ้วเบาๆ
หน่วยมือปราบเป็นกองกำลังหัวกะทิของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน ไม่เพียงรับผิดชอบระวังป้องกันภัยคุกคามจากพวกต่างเผ่าพันธุ์ แต่ยังมีหน้าที่รักษาความสงบภายในดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
บางที อาจเป็นเพราะเมืองชิงซงไม่ใช่เมืองใหญ่ พวกมือปราบที่มาประจำการที่นี่จึงไม่ได้แข็งแกร่งอะไร
แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นหน่วยมือปราบ ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่อ่อนแอ
กระทั่งหน่วยมือปราบยังทำอะไรต่อผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ได้?
"อยากจะรู้เรื่องอะไรล่ะ?"
หลินอวี่จ้องตาเขา
"ฉันไม่ค่อยรู้อะไรนัก"
ชายขี้เมายกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
จากนั้นจึงหลับตาดื่มด่ำกับรสชาติ
"เรื่องแบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก"
ม่านตาของหลินอวี่หดวูบ
"ไม่ใช่ครั้งแรก?"
"อืม ราวสิบปีก่อน ตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้นิดหน่อย"
เขาหยุดลงพลางกวาดตามองรอบร้านเหล้า
"ดูอย่างเมืองเฟิงซา"
"ในตอนนั้น มีเมืองเล็กๆที่คล้ายกับเมืองเฟิงซาอยู่ เกิดเหตุการณ์ที่คนหลายร้อยคนเสียชีวิต สถานการณ์คล้ายกับที่เกิดกับตระกูลหลี่"
"ตอนนั้น พวกมือปราบก็ไม่พบเจอเบาะแสใดๆ"
หลินอวี่ชะงัก จากนั้นจึงขมวดคิ้ว
"ในเมืองไม่มีใครรู้อะไรเลยงั้นเหรอ?"
ชายขี้เมามองหลินอวี่ด้วยสีหน้าแปลกๆ
"ใช่"
"ไม่มีใครรายงานเรื่องนี้เลยเหรอ?"
หลินอวี่เปลี่ยนเป็นโง่งม
ชายขี้เมาแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูลี้ลับ
"นั่นก็เพราะ ทุกคนล้วนตาย แบบนี้......"
พูดจบ ผิวหนังของเขาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ใต้ผิวหนังของเขาเกิดความเคลื่อนไหวราวกับมีบางสิ่งกำลังชอนไช ดูขนลุกและน่าสยดสยองอย่างมาก
จากนั้นทั้งตัวคนก็กลายเป็นอ่อนยวบและกลายเป็นแผ่นหนังบางๆ
คล้ายกับเนื้อภายในระเหยหายไปในอากาศ
เพียงชั่วพริบตาเดียว มนุษย์คนหนึ่งก็กลายเป็นแผ่นหนังมนุษย์ลงตกลงบนพื้น ไม่หลงเหลือหยดเลือดแม้สักหยด....
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved