"พรสวรรค์งั้นเรอะ?" ซาโซริยิ้มอย่างเบาๆ “แต่ถึงอย่างนั้น ถ้านายต้องการให้ฉันยอมแพ้ด้วยคําพูดแบบนั้น แสดงว่านายกําลังประเมินฉันต่ำเกินไปแล้วล่ะนะ"
"จริงๆฉันเองก็เพิ่งได้รับมันมาและฉันวางแผนที่จะเก็บไว้เพื่อตัวเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันควรจะทําให้นายได้เห็นว่านายกับฉันน่ะไม่เหมือนกัน!!"
ร่างของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามที่เขาเพิ่งได้รับมานั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของซาโซริ
เพราะสุดท้ายหุ่นเชิดก็เป็นเพียงแค่หุ่นเท่านั้น แค่มันพิเศษตรงที่มันเป็นหุ่นเชิดระดับคาเงะ
"งั้นเหรอ" ชินหยูยิ้มและพูดว่า "ฉันเองก็กําลังคิดจะใช้คนๆนั้นออกมาสู้เหมือนกัน มาดูกันว่าวิชาหุ่นเชิดของนายกับคาถาต้องห้ามของฉัน อันไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน?"
"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คาถาสัมภเวสีคืนชีพอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว"
เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของเขาในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะมา
นี่คือม้วนคัมภีร์ที่ชินหยูได้มาเมื่อเขาโจมตีโอโรจิมารุ ซึ่งมันเป็นคาถาสัมภเวสีคืนชีพที่ถูกพัฒนาโดยโอโรจิมารุ
แม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับคาถาสัมภเวสีคืนชีพที่ถูกอัปเกรด แต่แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับโอโรจิมารุแล้ว
"คาถาต้องห้ามงั้นเหรอ?" คาคุซึนั้นตกใจเล็กน้อย ส่วนซาโซริทำเพียงแค่เอียงคอด้วยความสงสัย
ชินหยูหยิบม้วนคัมภีร์ออกมาแล้วเปิดมันทันที
มันมีคําว่า "คาเงะ" เขียนอยู่ตรงกลางของคัมภีร์เล่มนั้น
ซาโซริที่เห็นแบบนั้นจึงไม่คิดที่จะรอให้ชินหยูเริ่มเคลื่อนไหวก่อน แล้วเริ่มใช้วิชาเชิดหุ่นทันที
"ออกมาซะ งานศิลปะของฉัน!"
ซาโซริพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
เมื่อเริ่มทำการประสานอิน กลุ่มควันสีขาวได้ปรากฎขึ้นพร้อมกับหุ่นเชิดในชุดคลุมสีดำที่ปรากฏขึ้นบนอากาศ
ทุกคนที่นี่สามารถได้ยินเสียงแตกจากข้อต่อตรงส่วนปากของหุ่นนั้นได้
"นั่นน่ะเหรอ หุ่นเชิดมนุษย์คาเซะคาเงะรุ่นที่ 3 ?" คาคุซึตะลึงมากที่ได้เห็นหุ่นเชิดมนุษย์ด้วยตาของเขาเอง
ซาโซริแสดงสีหน้าที่ภูมิใจของออกมาก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "ใช่แล้ว และในไม่ช้านายก็จะกลายเป็นคอลเล็กชันของฉันเพิ่มอีกตัวด้วยเหมือนกัน"
"คาถาลับ – ทรายเหล็กขยายพื้นที่!"
เมื่อนิ้วทั้งห้าของซาโซริขยับ หุ่นคาเซะคาเงะรุ่นที่สามก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที
ทรายเหล็กสีดําถูกพ่นออกมาจากปากของหุ่นเชิดที่แสดงใบหน้าที่ไร้ความรู้ของคาเซะคาเงะรุ่นที่สาม
ทรายเหล็กสีดำพุ่งเข้ามาราวกับพายุทรายซึ่งมันพุ่งเข้าหาชินหยูและคาคุซึทันที
เพียงครู่เดียว ท่ามกลางทรายเหล็กที่ถูกพ่นออกมาจำนวนมาก การแสดงออกของคาคุซึกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เพราะชินหยูได้หายตัวไปและไปปรากฏตัวอีกครั้งโดยที่ห่างออกไปหลายสิบเมตรแล้ว!
“พันปักษา!”
จักระสายฟ้าจำนวนมหาศาลปะทุขึ้นราวกับพายุสายฟ้าท่ามกลางเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ตรงนี้?!"
จู่ๆนินจาของหน่วยรากก็ตกใจ
เดิมที เขาคิดว่าชินหยูนั้นคงจะเอาเวลาไปต่อสู้กับหุ่นเชิดคาเซะคาเงะรุ่นที่สามจนอาจจะไม่รู้ว่าเขานั้นจับตาดูอยู่
แต่ทันทีที่นินจาหน่วยรากได้สติอีกครั้ง ประตูนรกก็ถูกเปิดออกแล้ว
"ก็แค่เดาน่ะ" ชินหยูยิ้มเบาๆ
ชั้วะ!
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมาทันที!
มือขวาที่เต็มไปด้วยจักระสายฟ้าทะลวงเข้าที่หน้าอกของนินจาหน่วยรากอย่างรวดเร็ว
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
ซาโซริไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป เขารีบใช้ทรายเหล็กโจมตีโดยทำให้มันทะลุขึ้นมาจากพื้นทันที
ส่วนคาคุซึตอนนี้ก็ล่าถอยออกไปตั้งหลักไกลๆแล้ว
เมื่อเห็นชินหยูเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดเขาภาคภูมิใจแต่ยังมีเวลาที่วกไปโจมตีหน่วยรากก่อน ความโกรธได้ปรากฎขึ้นบนสีหน้าของซาโซริทันที
นี่ไม่ต่างอะไรกับการดูถูกผลงานศิลปะของเขาเลยแม้แต่น้อย!
"เอาล่ะ ฉันอยากรู้จริงๆว่านายมีคาถาต้องห้ามแบบไหนที่จะเอามาสู้กับหุ่นเชิดมนุษย์ของฉันได้" ซาโซริพูดอย่างเย็นชา
ทันทีที่นิ้วทั้งสิบนิ้วของเขาเริ่มขยับ ทรายเหล็กจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากปากของหุ่นคาเซะคาเงะรุ่นที่สามอย่างบ้าคลั่ง
"คาถาลับ – หอกทรายเหล็กเพิ่มพูน!"
ด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ ทรายเหล็กสีดําที่ปกคลุมอยู่เต็มท้องฟ้าได้กลายเป็นหอกสีดําหลายร้อยถึงหลายพันเล่มทันที
ภายใต้การควบคุมหุ่นของซาโซริด้วยนิ้วทั้งสิบนั้น ดูเหมือนว่าหอกทรายเหล็กนั้นกําลังจะพุ่งเข้าหาชินหยู
ซึ่งนั่นหมายความว่าซาโซริตั้งใจที่จะฆ่าชินหยูด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
"คาถาต้องห้าม - สัมภเวสีคืนชีพ!"
มือของชินหยูประสานอินอย่างรวดเร็วแล้วตบลงบนพื้นขณะที่เขามองไปที่ทรายเหล็กที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
"เปรี้ยงงง!"
เสียงฟ้าร้องบนท้องฟ้านั้นส่งเสียงดังออกไปทั่วบริเวณ 10 กิโลเมตร
คลื่นลมขนาดใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นและพัดพาฝุ่นไปจำนวนมาก
เมื่อซาโซริและคาคุซึได้เห็นอย่างชัดเจนนั้น จู่ๆรูม่านตาของทั้งสองคนก็หดตัวลงทันที
หอกที่เกิดจากทรายเหล็กจำนวนมากถูกสกัดกั้นเอาไว้โดยกําแพงทรายเหล็กประเภทเดียวกันซึ่งอยู่ห่างจากชินหยูไปหนึ่งเมตร
ด้านหลังกําแพงทรายเหล็กนั้นมีโลงศพที่ถูกเปิดออกครึ่งหนึ่ง
"ซาโซริ ฉันไม่เคยคิดเลยว่านายจะเปลี่ยนให้ฉันเป็นหุ่นเชิดมนุษย์จริงๆน่ะ"
เสียงที่ซาโซริคุ้นเคยนั้นดังออกมาจากภายในโลงศพ
ขณะที่โลงศพถูกเปิดออกจนสมบูรณ์ ร่างที่สวมเสื้อคลุมก็ค่อยๆเดินมา
"นี่... นี่คือคาเซะคาเงะรุ่นที่สามงั้นเหรอ?"
จู่ๆ รูม่านตาของคาคุซึก็หดตัวลงอย่างรุนแรง
เขามองไปที่ร่างของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามเขาก็มองไปที่หุ่นเชิดคาเซะคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมๆกัน
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?”
"โฮ่ เรียกคนตายงั้นเรอะ?" การแสดงออกของซาโซริก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน
เขาไม่คิดเลยว่าชินหยูจะใช้คาถาต้องห้ามเพื่ออัญเชิญคาเซะคาเงะรุ่นที่สามมาต่อสู้กับเขา
เมื่อมองไปที่คาเซะคาเงะรุ่นที่สามที่กำลังโกรธแค้น ซาโซริจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
"ฮ่าๆๆๆ ฉันไม่เคยคิดว่านายรู้จักศิลปะที่สวยงามแบบนี้ด้วย แต่นายคิดว่านายจะเอาชนะฉันได้ด้วยการเรียกคนตายมางั้นเรอะ?" ซาโซริหยิบม้วนคัมภีร์ใหญ่ด้านหลังของเขาออกมาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ถ้าอย่างนั้น ฉันจะแสดงให้นายเห็นเองว่าฉันฆ่าคาเซะคาเงะรุ่นที่สามยังไง!!"
"วิชาลับ – หุ่นเชิดร้อยศพ!"
เมื่อคัมภีร์ถูกคลี่ออก ร่างสีดําสนิทจํานวนมากได้ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับลูกศรที่แหลมคม
หุ่นเชิดหนึ่งร้อยตัวพุ่งออกมาราวกับพายุซึ่งเข้าปกคลุมท้องฟ้าทันที
อาวุธทุกอย่างของหุ่นเชิดนั้นถูกอาบไปด้วยพิษไม่ว่าจะเป็นเคียวที่ดูเหมือนอาวุธของยมทูติ หรือ ดาบขนาดใหญ่
ท่าทีของคาคุซึเริ่มจริงจังมากขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชินหยูและพูดว่า "ดูเอาไว้ วิชานี้แหละที่ฉันใช้ฆ่าเจ้าคาเซะคาเงะรุ่นที่ 3 นั่นน่ะ!!"
ฮึ!
คาเซะคาเงะรุ่นที่สามพูดออกมาอย่างเย็นชา "เฮอะ! คาเซะคาเงะที่สง่างามได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นหุ่นเชิดของทั้งสองฝ่ายงั้นเรอะ แต่เอาเถอะอย่างน้อยก็ดีกว่าถูกเจ้าโอโรจิมารุควบคุม"
"โดยเฉพาะนายซาโซริ ฉันไม่อภัยให้แกแน่ที่ทำให้ฉันเป็นหุ่นเชิด!"
“อีกอย่างคนที่เรียกฉันขึ้นมาน่ะ มันแข็งแกร่งกว่าเจ้าโอโรจิมารุซะอีก"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved