ตอนที่ 30 คาถาระดับ C ที่เทียบเท่าคาถาต้องห้าม

คลื่นลมร้อนเข้ากระทบกับฟุงาคุจนรู้สึกได้ว่าหน้าของเขาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมองไปที่ลูกไฟที่กำลังขยายตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของฟุงาคุก็เบิกกว้างขึ้นมาก

“เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา!”

จู่ๆแสงสีฟ้าอ่อนๆก็ปรากฏขึ้นบนร่างของฟุงาคุ

เกราะโครงกระดูกเริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ซึ่งนี่ก็คือซูซาโนะโอ!

ตู้มม!

คาถาบอลเพลิงเข้าปะทะลงบนร่างของซูซาโนะโอทันที

ลูกไฟขนาดใหญ่ระเบิดขึ้นทันทีราวกับระเบิดเพลงที่พวยพุ่งไปด้วยเปลวเพลิงขนาดใหญ่

เปลวไฟขนาดใหญ่บางส่วนที่โหมกระหน่ำและพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

พลังมหาศาลของการระเบิดนั้นครอบคลุมพื้นที่ไปเกือบหนึ่งร้อยเมตร

"คุณฟุงาคุ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!"

มินาโตะเป็นคนแรกที่มาถึง

เมื่อรู้สึกถึงคลื่นความร้อนของไฟ เขาก็ประสานอินแล้วใช้คาถาน้ำทันที

"คาถาน้ำ - กระสุนมังกรวารี!"

โฮกกก!

มังกรน้ำสามตัวก่อขึ้นในอากาศและพุ่งไปที่ทะเลเพลิงที่กำลังลุกลามพื้นที่โดยรอบอย่างรวดเร็ว

พวกมันเข้าไปดับเปลวไฟที่กำลังลุกลามทันที

ในขณะเดียวกัน ฟุงาคุก็รีบหนีออกจากทะเลเพลิงที่กำลังลุกลามแล้วถอนเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาออกให้กลายเป็นดวงตาปกติ

"คาถาน้ำ - คลื่นน้ำถาโถม!"

เมื่อจักระน้ำจํานวนมากพุ่งออกมา พวกมันก็เข้าไปดับเปลวไฟทันที

คลื่นเปลวไฟที่ลุกโชนถูกดับทันทีจนระเหยกลายเป็นไอน้ำขึ้นในพื้นที่รอบๆ

"คาถาลม - คลื่นวายุ!"

มินาโตะยังคงใช้คาถาต่อไป

เมื่อคลื่นพายุพัดผ่านพื้นที่บริเวณนั้น ไอน้ำจากการระเหยของเปลวไฟก็กระจายหายไปจากพื้นที่รอบๆทันที

"มินาโตะ เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?" โยรุที่พึ่งมาถึงรีบเข้าไปถามทันที

เขามองไปรอบๆที่มีแต่ต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ก่อนจะพูดอย่างกังวล "เป็นไปได้ไหมว่าชินหยูกําลังพยายามหนีและใช้คาถาต้องห้ามบางอย่างน่ะ?"

"มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเลยพ่อ พวกเราร่วมมือกันเพื่อจับชินหยูกันเถอะ" ฮายาเตะพูดเห็นด้วยทันที

แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องตกใจกับร่างที่ปรากฎขึ้นต่อหน้าเขา

"อะไรกันๆ? นายกําลังพูดไม่ดีถึงฉันอยู่งั้นเหรอ?" ชินหยูมองไปที่ฮายาเตะและยิ้มเบาๆ

ฮายาเตะหวาดกลัวอย่างมากราวกับเห็นผี เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวและสะดุดล้มลงกับพื้น

"โยรุ มินาโตะ อย่าพึ่งเข้าใจผิดไป ฉันแค่ทดสอบความแข็งแกร่งของชินหยูเท่านั้น การระเบิดเมื่อกี้มันเกิดจากคาถาบอลเพลิงยักษ์เท่านั้นเอง" ฟุงาคุเดินตามหลังมาติดๆกัน

ทันทีที่เขาพูดจบ การแสดงออกของทุกคนก็เปลี่ยนไป พวกเขามองดูต้นไม้ที่ไหม้เกรียมภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรและตกตะลึง

"แน่ใจเหรอฟุงาคุ? ฉันได้ยินมาจากอุซึกิว่าชินหยูใช้คาถาต้องห้ามบางอย่างนะ และการโจมตีขนาดใหญ่แบบนี้ต้องเกิดจากคาถาต้องห้ามแน่ๆ" โยรุอดไม่ได้ที่จะถาม

ทันทีที่เขาถามออกไป นินจาคนอื่นๆก็ไม่ได้พูดอะไรแต่การแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขาก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจน

ในสายตาของพวกเขา คาถาบอลเพลิงยักษ์เป็นเพียงคาถาไฟระดับ C เท่านั้น

แม้ว่าตระกูลอุจิวะจะเชี่ยวชาญในด้านคาถาไฟและสามารถปลดปล่อยพลังของคาถาบอลเพลิงยักษ์ได้อย่างเต็มที่

แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเทียบได้กับคาถาระดับ S หรือแม้กระทั่งระดับของคาถาต้องห้าม

"มันคือคาถาบอลเพลิงยักษ์จริงๆ ฉันเห็นมันด้วยตาของฉันเอง แต่ว่าขนาดของมันใหญ่กว่าปกติทั่วไปมากเพราะเส้นผ่านศูนย์กลางของมันใหญ่ประมาณหกสิบถึงเจ็ดสิบเมตรได้" มินาโตะเหลือบไปมองฟุงาคุและพยักหน้าเห็นด้วย

หลังจากนั้นทุกคนก็เงียบกริบ

นินจาโคโนฮะทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความผิดหวัง

แม้แต่การแสดงออกของโยรุเองก็เช่นกัน

ถ้าเป็นคนอื่นที่พูดแบบนี้ พวกเขาจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน

แต่คนที่พูดอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือมินาโตะ ซึ่งทำให้สิ่งที่เขาพูดนั้นน่าเชื่อถือมาก

ชิโอนินที่ใช้คาถาบอลเพลิงยักษ์ที่พลังทำลายล้างเท่ากับคาถาต้องห้าม….

เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไงกัน?

"เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรอีก ฉันยังอยากคุยกับชินหยูอยู่คงจะไม่มีปัญหาใช่ไหม" ฟุงาคุถาม

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการทดสอบของเขา แต่มันก็สร้างความปั่นป่วนและตื่นตระหนกให้กับนินจาโคโนฮะทุกคนอย่างมาก

"ไม่แล้วล่ะ ระวังตัวด้วยนะ" มินาโตะพยักหน้าเห็นด้วย

"ยังไม่จบอีกหรอ?" ชินหยูพูดอย่างเหนื่อยๆ

แต่เมื่อเห็นใบหน้าของฟุงาคุ ชินหยูก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามฟุงาคุไป

เมื่อเห็นทั้งสองคนจากไป มินาโตะก็เหลือบไปมองโยรุและกลับไปที่ฐานทันที

ความแข็งแกร่งของชินหยูนั้นอยู่เกินกว่าความเข้าใจของเขาอย่างมาก

เขาจําเป็นต้องรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่กับโฮคาเงะรุ่นที่สามโดยเร็วที่สุด

"พ่อ!" ฮายาเตะ พยายามอย่างมากที่จะลุกขึ้นจากพื้น

"หุบปากซะ!" โยรุตะคอกใส่ "แกเป็นก็แค่เศษขยะเท่านั้น อย่าได้มองมาที่ฉันแบบนั้นอีก"

"ฉันจะถามแกอีกครั้ง แกยังคิดที่จะเล่นงานชินหยูอยู่อีกมั้ย?"

ฮายาเตะตกใจมากในตอนแรก แต่แล้วเขาก็พูดอย่างอึกอักว่า "ไม่…ผมไม่กล้าทำอะไรเขาอีกแล้ว"

"แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกพ่อ ผมคิดเอาไว้หลายวิธีแล้ว ตราบใดที่พ่อลงมือเอง ผมก็จะทําให้เขาเสียใจที่ทําให้ผมต้องโกรธและอับอาย"

ป้าบบ!

ทันใดนั้นเสียงตบหน้าก็ดังขึ้น

ฮายาเตะตกตะลึง เขาเอามือป้องใบหน้าที่แดงเป็นรอยมือของเขา

"หุบปากซะไอ้เศษขยะ ฉันกําลังเตือนแกอยู่ แกต้องไม่ทำอะไรชินหยูเด็ดขาด เพราะนั่นจะทําให้ทั้งตระกูลของแกล่มสลาย" โยรุ ตะโกนด้วยความโกรธ

"ดูเหมือนว่าตระกูลอุจิวะจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเทพต่างสวรรค์ชิซุยแล้วสินะ"

คําพูดเหล่านี้ทําให้การแสดงออกของนินจาโคโนฮะทั้งหมดในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก

ถ้านินจาที่สร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะนินจาโคโนฮะคือ จิไรยะ โอโรจิมารุและซึนาเดะ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “สามนินจาในตำนาน”

นอกจากนี้ยังรวมถึงแปดตระกูลใหญ่ของโคโนฮะอีก

และแม้ว่าความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้นจะค่อนข้างโดดเด่น แต่มินาโตะนั้นอยู่เหนือกว่าทุกคนที่กล่าวมาในฐานะประกายแสงสีทองแห่งโคโนฮะ

รองลงมาจากมินาโตะคือสามประสาน อิโนะ-ชิกะ-โจ และอื่นๆ

ในหมู่บ้านโคโนฮะ การมีตัวตนของอุจิวะชิซุยนั้นทําให้หลายๆคนรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามอยู่

แต่ตอนนี้กลับมีอุจิวะชินหยูที่น่ากลัวยิ่งกว่าปรากฏตัวขึ้นอีก!!

พวกเขากลัวว่าโครงสร้างของ โคโนฮะทั้งหมดกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

"จำเอาไว้ ถ้าเป็นไปได้ก็จงผูกมิตรกับชินหยูเอาไว้และถึงแม้ว่าแกจะไม่สามารถเป็นเพื่อนกับชินหยูได้ แกก็อย่าทำให้เขาข้องใจกับแกเด็ดขาด"

หลังจากที่พูดจบ โยรุก็หันกลับและจากไป

ฮายาเตะได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

“อะไรกัน…ทำไมพ่อของฉันถึงได้พูดแบบนั้นออกมาล่ะ!”

นินจาโคโนฮะทุกคนต่างก็ตกตะลึง

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหนึ่งในผู้นำแปดตระกูลของโคโนฮะจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา

….

ห่างออกไปหลายกิโลเมตรบนเนินภูเขา

ชินหยูกำลังยืนรับลมอยู่ในขณะที่ฟุงาคุก็กำลังยืนอยู่ด้านหลังเขาด้วยสีหน้าจริงจัง

"ผมไม่เคยคิดเลยว่าลุงฟุงาคุจะกล้าใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้นนะ"

สีหน้าของฟุงาคุแข็งทื่อเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดว่าความลับของเขาจะถูกเปิดเผยออกมาเพราะชินหยู

หลังจากที่ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเป็นครั้งที่สอง ฟุงาคุก็ไม่เคยใช้มันต่อหน้าคนอื่นอีกเลย

เขารู้ดีว่าพลังนี้สามารถปกป้องตระกูลอุจิวะได้

นอกจากนี้มันผลักดันให้ตระกูลอุจิวะล่มสลายได้ด้วยเช่นกัน…