ตอนที่ 34 ฉันเรียนรู้มันได้แล้ว

ยามค่ำคืนนั้นอากาศเย็นสบายมาก

ชินหยูไม่ได้กลับไปที่ถ้ำเพื่อพักผ่อน แต่เขาหันกลับมาและเข้าไปในป่าที่อยู่ไม่ไกลก่อนที่เขาจะหยุด

"ตามฉันมานานแล้วนะ ได้เวลาออกมาได้แล้วมั้ง?"

ร่างสองร่างนั้นโผล่ออกมาจากความมืด

ด้วยแสงจันทร์ที่ส่องสว่างทำให้เห็นว่าร่างทั้งสองนั้นคือ โยรุ กับ ฮายาเตะ

"ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่านายจะรู้ว่าพวกเราสองคนตามนายมาได้แบบนี้" โยรุพูดขึ้น

ด้วยพลังที่หายากของเขานั้น เขาได้กลายเป็นนักฆ่าไร้เสียงที่ทรงพลังที่สุดในโคโนฮะ

ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะใช้ความสามารถของเขาเพื่อทำให้เขาตามชินหยูมาได้อย่างเงียบๆ แต่เขาไม่คิดเลยว่าชินหยูจะรู้ได้ง่ายๆแบบนี้

“เมื่อกี้นายแสดงความปรารถนาดีกับฉันต่อหน้าทุกคน และตอนนี้นายก็กําลังตามฉันมา นายต้องการอะไรงั้นรึ?" ชินหยูหันกลับมาและมองไปที่ฮายาเตะ

"ชินหยู อย่าพึ่งเข้าใจผิดไป ที่ฉันตามนายมาก็เพื่อคลายความบาดหมางระหว่างนายกับฮายาเตะเท่านั้น"โยรุพูดเข้าประเด็นทันที

"นอกจากขีดจำกัดทางสายเลือดแล้ว ตระกูล เก็คโคของพวกเรายังเชี่ยวชาญวิชาดาบจักระด้วยเช่นกัน"

"เหตุผลที่คนอื่นๆเอาฉันไปเปรียบเทียบกับเขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะอย่าง ฮายาเตะ ซาคุโมะนั้นก็เป็นเพราะวิชาดาบด้วยเช่นกัน"

ชินหยูรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการกระทําของโยรุ

แต่หลังจากที่เขาได้รับดาบซาเมะฮาดะ กับ ดาบสายฟ้ามาแล้ว ชินหยูจึงต้องการเรียนรู้วิชาดาบด้วยเช่นกัน

มิฉะนั้น ถ้าดาบนินจาที่ทรงพลังตกอยู่ในมือของชินหยูที่ไม่มีความสามารถด้านวิชาดาบ ก็ไม่ต่างอะไรกับดาบนินจาธรรมดาๆ

เดิมที ชินหยูนั้นคิดที่จะไปที่หาคาคาชิหลังจากกลับไปที่โคโนฮะ เพื่อดูว่าเขาจะได้รับวิชาดาบของซาคุโมะพ่อของเขามาหรือไม่

เขาไม่เคยคิดเลยว่าจู่ๆจะมีคนมาเสริฟ์สิ่งที่เขากำลังต้องการอยู่แบบนี้

"ชินหยู ฉันไม่ขออะไรนายมากหรอกนะ ตราบใดที่นายสามารถปกป้องฮายาเตะในช่วงเวลาแบบนี้ได้ ฉันจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และฉันจะสอนวิชาดาบประจำตระกูลให้กับนายด้วย" โยรุพูดด้วยความกังวล

ชินหยูขมวดคิ้ว เขามองไปที่ฮายาเตะซึ่งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและพูดว่า "ก็นะ ฉันเองก็ไม่ต้องการข่มขู่เด็กคนนี้ไปตลอดเหมือนกัน"

เขามองไปที่ฮายาเตะและเพิกเฉยเขาทันที หลังจากที่พูดจบ เขาก็หันกลับมาและเตรียมที่จะหันหลังไป ขณะที่โยรุรีบพูดว่า "ชินหยู อย่าได้เข้าใจผิดไป ฉันวางแผนที่จะสอนวิชาดาบนี้ให้กับนายตั้งแต่แรกแล้ว"

นี่เป็นครั้งแรกที่ชินหยูได้เห็นความรักของพ่อที่มีต่อลูกด้วยตัวเอง

และด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ทำให้เขาได้วิชาดาบลับของตระกูลโยรุมา

ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่ชินหยูต้องการจริงๆ

"ชินหยู นายควรเก็บมันไว้อย่างดี ไม่อย่างนั้นคนในตระกูลของฉันคงจะไม่มีวันสบายใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ" โยรุพูดอย่างกังวล

หลังจากนั้นชินหยูได้เปิดม้วนคัมภีร์ที่ได้รับมาจากโยรุทันที

เมื่อได้เห็นสิ่งที่เขียนไว้ การแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขาทันที

"ตรวจพบวิชาดาบระดับ S ดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะ ท่านต้องการอัปเกรดเป็นระดับสูงสุดเลยหรือไม่?"

"อัปเกรดเป็นระดับสูงสุดเดี๋ยวนี้!" ชินหยูไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“ติ๊ง! "ขอแสดงความยินดีกับท่าน วิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว"

หลังจากที่รู้สึกถึงความสามรถใหม่ของวิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะในใจของเขา ชินหยูก็เก็บม้วนคัมภีร์และส่งคืนให้โยรุทันที

"เป็นอะไรไปรึชินหยู?" โยรุถามด้วยความตกใจ

ในสายตาของเขา ชินหยูใช้เวลาเพียงหนึ่งถึงสองนาทีในการมองม้วนคัมภีร์นั้นเท่านั้น

"หรือว่านายคิดว่าคัมภีร์นี้เป็นของปลอมงั้นเหรอ?"

โยรุนั้นกลัวมากว่าชินหยูนั้นจะเข้าใจผิด

"เปล่าหรอก ฉันได้เรียนรู้มันแล้วและมันก็ไม่มีประโยชน์สําหรับฉันอีกต่อไปที่จะเก็บม้วนคัมภีร์นี้ไว้” ชินหยูพูดอย่างเฉยเมย

โยรุและฮายาเตะมองไปที่ชินหยูด้วยความตกตะลึงทันที

ในฐานะผู้สืบทอดตระกูลเก็คโค แม้ว่าพรสวรรค์ของโยรุนั้นจะไม่ธรรมดาแต่เขาต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปีในการฝึกฝนวิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะได้

และแม้พรสวรรค์ของฮายาเตะจะต่ำกว่าเขาเล็กน้อย แต่เขาก็ใช้เวลามากกว่าสองปี

ซึ่งนั่นทำให้ทั้งสองคนเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สืบทอดที่มีความสามารถมากที่สุดนอกเหนือจากผู้นำตระกูลรุ่นแรกที่สร้างวิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะขึ้น

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่แห่งโคโนฮะ โยรุยังเป็นที่รู้จักในนามการของผู้ที่นำความรุ่งเรืองมาสู่ตระกูลเก็คโค

ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาภาคภูมิใจในวิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะมาโดยตลอด

แต่เมื่อได้ยินชินหยูพูดว่าเขาใช้เวลาแค่สองนาทีเพื่อเรียนรู้วิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะได้แบบนี้…

พวกเขาทั้งคู่นั้นรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป

"นี่พวกนายไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ?" ชินหยูถามด้วยรอยยิ้ม

โยรุสะดุ้งในตอนแรก แต่เขาก็รู้สึกดีที่ได้ยินแบบนั้น

เหตุผลที่เขามอบวิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะให้กับชินหยูนั้นคือการแก้ไขความขุ่นเคืองระหว่างพวกเขาและเป็นสร้างโอกาสที่ดีสําหรับพวกเขาไปพร้อมกันๆ

ถ้าหากชินหยูไม่สามารถเรียนรู้วิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะได้ ความพยายามทั้งหมดของเขาก็จะไร้ผล

โยรุไม่ต้องการยั่วยุอะไรชินหยูก็จริง แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ชินหยูเช่นกัน

"เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นอันตรายกับคนอื่นๆ ฉันจะใช้กิ่งไม้แทนก็แล้วกัน" ชินหยูเอื้อมมือขวาของเขาออกไป

กิ่งไม้ที่ยาวเกือบหนึ่งเมตรสองกิ่งตกลงมาอยู่ในมือของพวกเขาแล้ว

"ด้ายจักระงั้นเหรอ? นี่มันพื้นฐานของนินจาเชิดหุ่นไม่ใช่เหรอ?!" การแสดงออกของโยรุเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เป็นอีกครั้งที่เขาตกใจกับการควบคุมจักระอันทรงพลังของชินหยู

"เอาล่ะ มาเริ่มกันเถอะ" ชินหยูไม่ได้สนใจความตกใจของโยรุเลย

ทันทีที่เขามองไปที่โยรุ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าทันที

"วิชาดาบจันทราร่ายรำงั้นเหรอ?" การแสดงออกของโยรุเปลี่ยนไปอย่างมาก

เขาไม่มีเวลาคิดมากแล้ว เขารีบหันไปด้านหลังและเอากิ่งไม้ไปป้องกันที่ด้านหลังของเขาทันที

ปั้กก!

แม้ว่าโยรุจะถือกิ่งไม้ธรรมดาเพียงกิ่งเดียว แต่เมื่อมันอยู่ในมือของเขา กิ่งไม้นั้นก็ทรงพลังราวกับเป็นดาบที่แหลมคม

เมื่อได้ยินเสียงหวีดหวิงอยู่ในอากาศ จักระของเขาก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก

เสียงหวีดหวิวนั้นดังขึ้นรอบๆกิ่งไม้อย่างรวดเร็วโดยที่มันเพิ่มพลังในการฟาดฟันไปด้วย

ในขณะเดียวกัน กิ่งไม้นั้นก็ทะลวงเข้าไปในร่างของชินหยู

แต่มันกลับไม่มีเลือดไหลออกมาจากกิ่งไม้เลย ก่อนที่ชินหยูซึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังเขาจะค่อยๆบิดเบี้ยวและเป็นภาพลวงตา

"ฉันอยู่ด้านหลังนายนะ" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง

การแสดงออกของโยรุเปลี่ยนไปอย่างมาก

"วิชาดาบเงาจันทราสะท้อน!"

นี่เป็นหนึ่งในสามของวิชาดาบจันทราร่ายรำแห่งโคโนฮะ ซึ่งมันคือวิชาดาบเงาจันทราสะท้อน

เป็นการใช้ภาพลวงตาหรือร่างปลอมเพื่อสร้างความสับสนให้กับศัตรู ก่อนที่จะใช้ร่างจริงเข้าจัดการศัตรูในช่วงที่ศัตรูเสียจังหวะ

ในตอนแรก โยรุนั้นคิดว่าชินหยูกำลังล้อเขาเล่น

แต่ตอนนี้ นอกจากชินหยูจะใช้วิชดาบได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วรู้ เขายังใช้ความสามารถด้านวิชาลวงตาของเขาผสานเข้ากับวิชาดาบเงาจันทราสะท้อนได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย

ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่โยรุไม่อยากจะเชื่อถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาของเขาเอง