ตอนที่ 61 สถานหลบซ่อนของนินจาในตำนาน

"เอาล่ะ พวกนายอยู่ที่นี่และรอมินาโตะซะ ส่วนฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำอีก" หลังจากนั้นชินหยูก็คลายซูซาโนะโอของเขา

คาคาชิและคนอื่นๆต่างตกตะลึง พวกเขาถามด้วยความสงสัยทันที "ทำไมเหรอชินหยู? หรือว่ายังมีนินจาคนอื่นอยู่อีก?"

ชินหยูเองก็คิดที่จะหาข้อแก้ตัวอยู่เหมือนกัน แต่คาคาชินั้นได้พูดขึ้นเพื่อช่วยเขาเอาไว้แล้ว

"ใช่ ยังมีนินจาคนอื่นๆที่แอบดูจากระยะไกลอยู่อีก" ชินหยูพยักหน้าและพูด “แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็อาจถูกโจมตีด้วยพลังสายฟ้าของฉันและน่าจะบาดเจ็บอยู่"

"ชินหยู ถ้าอย่างนั้นเราไปด้วยกันกันเถอะ" โอบิโตะนั้นตกใจมากและอยากไปช่วยชินหยูสุดๆ

เมื่อได้ยินแบบนี้ชินหยูตอบกลับ "นายไม่กลัวเหรอ?"

"นายไม่ได้เบิกเนตรนี้ขึ้นมาเพราะช่วยเพื่อนของนายงั้นเหรอ? เพราะนายเอาแต่หลีกเลี่ยงการต่อสู้มาโดยตลอด นายเลยไม่สามารถเบิกเนตรขึ้นมาได้ แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงตาย นายเป็นคนเดียวที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ดังนั้นนายควรจะอยู่กับเพื่อนของนายดีกว่า"

ชินหยูพูดกับโอบิโตะเสร็จ จากนั้นจึงมองไปที่คาคาชิและพูดว่า "หัวหน้าทีมคนต่อไปคือนาย"

"ฉันไม่ต้องการดาบสายฟ้านี่อีกแล้ว ฉันจะมอบมันให้นายเป็นของขวัญสําหรับการได้เป็นจูนิน"

"อย่าลืมว่าเขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะเป็นคนที่อยู่ระดับเดียวกับสามนินจาในตำนานแห่งโคโนฮะ นายควรมีได้รับมันเอาไว้ และอย่าลืมฝึกวิชาดาบของเขี้ยวสีขาวให้ดี ถ้าหากนายไม่อยากใช้มัน นายค่อยเอามาคืนฉันทีหลังก็ได้"

“ฉันไปก่อนนะ” หลังจากที่พูดจบ จักระสายฟ้าก็ปรากฎขึ้นบนร่างของชินหยูทันที

หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปแล้ว…

"เขาไปแล้วจริงๆ" โอบิโตะอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น

"แล้วชินหยูจะกลับมาไหมนะ?"

…..

"หรือว่าเราควรจะตามไปช่วยเขาดีล่ะ?" รินพูดขึ้นต่อ "พวกเราเป็นทีมเดียวกันนะ บางทีพวกเราอาจไม่แข็งแกร่งเท่าชินหยู แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้เขาไปทำอะไรคนเดียวแบบนั้น"

"รินพูดถูก พวกเราควรจะไปช่วยชินหยูมากกว่า" โอบิโตะเห็นด้วยกับริน

แต่คาคาชิได้ห้ามทั้งสองคนเอาไว้

"โอบิโตะ นายคิดว่าพวกเราสามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ที่แม้แต่ชินหยูเองก็คิดว่ารับมือได้ยากงั้นเหรอ?"

"อย่าลืมว่าเมื่อกี้พวกเราไร้ประโยชน์มาก สิ่งเดียวที่พวกเราทําได้ตอนนี้คือรอให้ครูมินาโตะมาแล้วบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่เท่านั้น"

ในขณะเดียวกัน ร่างสีดำสนิทได้โผล่ออกมาจากพื้นดินใกล้กับที่ที่ชินหยูและนินจาอิวะงาคุเระกําลังต่อสู้อยู่

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว

"เกือบไปแล้ว ถ้าหากไม่ได้ทำร่างแยกเอาไว้ล่วงหน้าและเหลือแผนสํารองเอาไว้ ฉันต้องตายแน่ๆ " ใบหน้าของเซ็ทสึดำซีดลง

ตอนนี้เขาอยู่กับนินจาอิวะและกำลังวางแผนที่จะหาโอกาสให้เด็กจากตระกูลอุจิวะไปหามาดาระ

และเขาก็กําลังจะดําเนินการตามแผนต่อไป

จากข้อมูลที่เขารวบรวมมา สมาชิกสองคนของตระกูลอุจิวะได้ปรากฏตัวขึ้นในสนามรบในครั้งนี้

ในตอนแรก จำนวนคนเกือบสองร้อยคนก็มากเพียงพอแล้วที่จะจับสมาชิกสองคนของตระกูลอุจิวะไปได้

ดังนั้นเขาจึงเป่าหูการิอย่างต่อเนื่อง และไม่ว่าเขาจะต้องแลกกับอะไรเขาก็ต้องจับสมาชิกสองคนของตระกูลอุจิวะมาให้ได้

แต่เซ็ทสึดำก็ไม่คิดว่าเขาจะเจอกับเด็กที่มีพลังมากขนาดนี้ได้ ที่

ความแข็งแกร่งของเขา เพียงแค่คาถากิเลนเพียงคาถาเดียวนั้นฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ในทันที

ถ้าหากไม่ระวังตัวไว้ตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาก็คงตายไปแล้ว

"ไม่สิ ต้องไปบอกมาดาระให้รู้ว่ามีเด็กที่แข็งแกร่งมากๆปรากฎตัวขึ้นในตระกูลอุจิวะแล้ว " เซ็ทสึดำมองไปรอบๆ หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วเขาก็รีบหนีไปทันที

จากความรู้ทั้งหมดของเขา เนตรแปลกๆคู่นั้นของชินหยูเกือบจะเหมือนกับของมาดาระมาก

"หึ ตายยากอย่างกับแมลงสาบเลยนะ" ชินหยูเดินออกมาจากความมืด

เมื่อมองไปที่ร่างที่กำลังหนีไป ท่าทีที่ขี้เล่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

ในผลงานต้นฉบับ หลังจากที่โอบิโตะถูกหินถล่มใส่ คาคาชิก็ฆ่านินจาอิวะไปหนึ่งคนและจากนั้นเขาก็ได้พบกับกลุ่มใหญ่ของนินจาอิวะงาคุเระ หลังจากนั้นมินาโตะก็รีบมาที่นี่ด้วยเทพสายฟ้าเหินเพื่อช่วยคาคาชิ

น่าเสียดายที่หลังจากต่อสู้เสร็จแล้ว พวกเขากลับไม่พบศพของโอบิโตะ

เรื่องนี้ทําให้ชินหยูคาดเดาได้ว่า เซ็ทสึดำจะต้องซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ต่อสู้มาตั้งแต่แรก

บางทีเขาอาจควบคุมนินจาอิวะเลยด้วยซ้ำ

ดังนั้นชินหยูจึงได้เตรียมการเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

เขาตั้งใจที่จะเซอร์ไพรซ์ที่เซ็ทสึดำและนั่นคือเหตุผลที่เขาใช้คาถากิเลน

และตอนนี้เขาได้ไว้ชีวิตเซ็ทสึดำไว้เพื่อให้มันนำทางไปเจอกับมาดาระ

ตามไทม์ไลน์ของผลงานต้นฉบับ มาดาระในตอนนี้ได้ย้ายเนตรสังสาระเข้าไปในร่างของนางาโตะแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากอายุขัยของเขาและการต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งในวันนั้น พละกำลังของมาดาระจึงแทบจะไม่ต่างอะไรกับตาแก่ธรรมดาๆทั่วไปแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น การได้เผชิญหน้ากับนินจาในตํานานก็ทำให้ชินหยูต้องวางแผนด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

มิฉะนั้น เขาจะล้มเหลวและอาจเสียท่าให้กับเซ็ทสึดำได้

หลังจากนั้นครึ่งวันต่อมา ชินหยูได้มองไปที่คุซะงาคุเระที่ยังคงเงียบด้วยสีหน้าของเขาที่แข็งกระด้างขึ้น

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไมคุซะงาคุเระถึงได้ไม่ห้ามอิวะงาคุเระเอาไว้เลย

เพราะตอนนี้เซ็ทสึดำได้หนีมาถึงที่นี่แล้ว ซึ่งนั่นอาจหมายความว่าที่นี่คือที่ซ่อนของมาดาระ

ในขณะเดียวกันคุซะงาคุเระก็อาจจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาด้วย

"พวกนายทุกคนจับตาดูไว้ให้ดีเพราะว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สําคัญมาก ผู้นำหมู่บ้านได้บอกว่าห้ามไม่ให้นินจาโคโนฮะหรืออิวะงาคุเระเข้าไปในหมู่บ้านได้เด็ดขาด" ผู้นําตัวเล็กๆได้ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าหมู่บ้านและออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้ม

นินจาหญ้าสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมุ่งความสนใจไปที่เสียงนั้นทันที

แต่หลังจากนั้นในช่วงเวลาต่อมา จู่ๆรูม่านตาของพวกเขาก็หดตัวลง

ร่างที่ปกคลุมไปด้วยสายฟ้าได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้นําคนนั้นและใช้มือฟันไปคอของผู้ออกคำสั่งจนคอขาด

"ศัตรูบุกเข้ามาโจมตีแล้ว!"

ความคิดนี้แวjบเข้ามาในจิตใจของนินจาทั้งสองคนทันที

ขณะที่พวกเขากําลังจะส่งสัญญาณฉุกเฉิน ร่างที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆพวกเขาอย่างรวดเร็ว

"พวกนายเองก็ควรนอนอยู่เฉยๆไปซะนะ" มือของชินหยูกลายเป็นดาบจักระและเฉือนที่หลังคอของพวกเขาจางๆ

นินจาสองคนนั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งเสียงร้อง พวกเขาสลบไปทันที

หลังจากที่จัดการกับนินจาด้านนอกหมู่บ้านได้แล้ว ชินหยูจึงรีบเข้าไปในคุซะงาคุเระทันที

เมื่อเทียบกับโคโนฮะแล้ว คุซะงาคุเระนั้นมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขามากกว่า

หมู่บ้านแห่งนี้เพียงไม่กี่พันคนเท่านั้นและมีเพียงหลักร้อยคนเท่านั้นที่ได้กลายเป็นนินจา

ในหมู่ของนินจาทั้งหมด มีน้อยกว่าหนึ่งในสามที่ได้กลายเป็นระดับจูนิน ส่วนระดับโจนินนั้นแทบจะใช้นิ้วนับได้เลย

ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา คุซะงาคุเระจึงเป็นเพียงหมู่บ้านที่อยู่เป็นกลางระหว่างโคโนฮะกับอิวะงาคุเระเท่านั้น

แต่ครั้งนี้พวกเขาได้ทําบางอย่างที่ทําให้อิวะงาคุเระได้เปรียบ เพราะพวกเขาล่วงรู้ความลับบางอย่างของโคโนฮะได้

"ดูเหมือนว่าถ้ำตรงหน้าจะเป็นพื้นที่ต้องห้ามของคุซะงาคุเระสินะ หมายความว่ามาดาระอาจจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก็เป็นได้" ชินหยูพูดกับตัวเอง

ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา เขาสามารถเข้าและออกจากหมู่บ้านโคโนฮะได้อย่างอิสระ แล้วนับประสาอะไรกับคุซะงาคุเระ

ถ้าหากเขาไม่คอยกังวลเกี่ยวกับการแจ้งเตือนศัตรูและปล่อยให้มาดาระกับเซ็ทสึดำหนีไปได้ เขาก็คงจะเดินเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวอะไรแน่นอน

"หือ เสียงนั่นหรือว่าจะเป็นเซ็ทสึดำ?" ชินหยูเงยหน้าขึ้นและเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย