ตอนที่ 32 การตัดสินใจของโยรุ

"กลับมาแล้วเหรอชินหยู?"

ภายในถ้ำนั้น มินาโตะจ้องมองไปที่ชินหยูและถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ไม่สิ!

ควรจะบอกว่าทุกคนในตอนนี้นรวมถึงโยรุเองก็กำลังเดิมพันกันอยู่

พวกเขาเดิมพันกันว่าชินหยูจะทรยศพวกเขาและออกจากโคโนฮะไปหรือไม่

เพราะพวกเขาก็ได้เห็นด้วยตาของพวกเขาเองว่าชินหยูสามารถใช้คาถาระดับ C ให้ทรงพลังราวกับเป็นคาถาต้องห้ามได้

นั่นจึงทำให้เขาอาจจะทำการทรยศต่อหมู่บ้านแล้วหนีไปก็เป็นได้

"เป็นอะไรไป? นายคิดว่าฉันจะหนีไปรึไง?" ชินหยูมองไปที่มินาโตะแล้วถาม

"ไม่ต้องห่วงไปหรอก ไม่มีใครในโลกนี้ที่ฉันต้องกลัวหรอกนะ"

ชินหยูพูดด้วยความมั่นใจ แม้ว่าคําพูดของเขาจะดูเกินไปจริงไปสักหน่อย แต่ก็ไม่มีใครกล้าเถียงเขาเลย

มินาโตะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มจางๆและพูดว่า "แน่นอน ฉันรู้ดี"

"นายเอาชนะการบุกมาโจมตีของคิริงาคุเระและคุโมะงาคุเระได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น พวกเขาคงจะไม่กล้าเข้ามาที่นี่อีกแน่ๆ"

“ดังนั้น ฐานแห่งนี้จะถูกโยรุรับช่วงต่อเพื่อดูแล ส่วนนายกับฉันจะกลับไปที่โคโนฮะ หากนายไม่อยากกลับไป นายก็บอกฉันได้"

ทันทีที่คําพูดนั้นออกมาจากปากของมินาโตะ พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่ชินหยูทันที

"เป็นเพราะสะพานคันนาบิหรือเปล่า"

ชินหยูรู้เพียงช่วงเวลาโดยประมาณของสงครามเท่านั้นแต่ไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด

ถ้าเป็นการต่อสู้ที่สะพานคันนาบินั้น ก็สมควรแล้วที่มินาโตะจะรีบร้อนได้ขนาดนี้

นั่นหมายความว่าสงครามโลกนินจาครั้งที่สามนี้กําลังจะสิ้นสุดลง

"นายรู้ได้ยังไงน่ะ?" การแสดงออกของมินาโตะเปลี่ยนไปทันที

"ถ้าบอกว่าฉันเดานายจะเชื่อมั้ยล่ะ?" ชินหยูถามกับมินาโตะอีกครั้ง "แล้วเราจะออกเดินทางเมื่อไหร่?"

"พรุ่งนี้เช้า" มินาโตะตอบอย่างโล่งใจ

พวกเขากังวลว่าชินหยูจะเข้าใจผิดที่เรียกเขากลับไปที่โคโนฮะในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้

"ตกลง"

ชินหยูตอบตกลงที่จะกลับไปที่โคโนฮะ ซึ่งเป้าหมายแรกของเขาคือการเข้าไปนำคาถาต้องห้ามเหล่านั้นออกมาฝึก และเป้าหมายที่สองคือการเตรียมความพร้อมสำหรับโอบิโตะที่กำลังเข้าสู่ด้านมืด

ซึ่งรินจะตกเป็นเป้าหมายของคิริงาคุเระในอีกไม่ช้า ซึ่งเธอจะกลายเป็นพลังสถิตร่างและทําลายหมู่บ้านโคโนฮะ

ถ้าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างถูกจังหวะ ชินหยูจะมีโอกาสได้เจอสามหางและทำให้มันกลายเป็นแหล่งจักระสำรองได้

"แต่ตอนนี้ฉันเริ่มหิวแล้วล่ะ ออกไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ" มินาโตะเรียกนินจาทั้งหมดออกไปข้างนอก

หลังจากนั้นเขาก็เดินนำกลุ่มนินจาโคโนฮะไป

ชินหยูเองก็เดินตามเขาไปด้วยเช่นกัน

"พ่อ พ่ออยากให้ผมกลับไปกับชินหยูด้วยจริงๆเหรอ"? ฮายาเตะถามอย่างกังวล

"พ่อไม่กลัวว่าเขาจะทําร้ายผมเลยเหรอ?" ฮายาเตะถาม

เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวของชินหยู ฮายาเตะก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ

เพียงผู้หญิงแค่คนเดียว เขาได้ทําให้การคนที่แข็งแกร่งอย่างพ่อของเขากลัวจนทำให้ไม่พอใจเขาได้

ตราบใดที่ชินหยูยังไม่ตาย เขาจะกลายเป็นฝันร้ายสําหรับเขาไปตลอดชีวิต

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นไป เขาได้ปิดบังพลังของตัวเองเอาไว้จนสามารถเอาชนะ คุโมะงาคุเระ กับ คิริงาคุเระ ในช่วงเวลาวิกฤตได้ นี่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขานั้นทำทุกอย่างเพื่อโคโนฮะ" โยรุพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ถ้าหากลูกขอโทษเขาอย่างจริงใจและมอบคาถาลับของตระกูล มันอาจทำให้ความบาดหมางของพวกเรากับเขาลดลงได้"

ฮายาเตะตกใจมาก แต่แล้วเขาก็รีบพูดขึ้น "พ่อ นั่นมันไม่ต่างอะไรกับความลับของตระกูลเลยนะ นี่มันไม่มากเกินไปไปหน่อยเหรอ?"

"ไม่!" โยรุส่ายหัวแล้วพูด "ถ้าหากเขายอมรับมัน มันจะเป็นโอกาสที่ดีของตระกูลด้วยซ้ำ"

"นอกจากนี้ พ่อเองก็ได้ตัดสินใจไปแล้วและหวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้นายคงจะได้เรียนรู้แล้วว่านายไม่ควรยั่วยุใครไปทั่วน่ะ"

ฮายาเตะเงียบไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานด้วยการจ้องมองของโยรุ เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย

"ไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าจะมีงานเลี้ยงกองไฟอยู่ด้านนอกน่ะ"

ในตอนนี้มีนินจาโคโนฮะเจ็ดสิบถึงแปดสิบคนกำลังนั่งล้อมวงอยู่

มีกองไฟขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางซึ่งทําให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความสว่างไสว

เปลวไฟที่ร่ายรำไปกับสายลมทําให้อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นเล็กน้อย

บรรยากาศในตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากเดิมมากนัก

การจ้องมองของนินจาโคโนฮะหลายๆคนนั้นมองไปที่ชินหยูโดยไม่รู้ตัว

“อะแฮ่มๆ ฉันไปล่าแกะมาได้สามตัวล่ะ เพราะฉะนั้นคืนนี้มากินเนื้อแกะย่างกันเถอะ!!" อุซึกิกระแอมเพื่อพยายามคลายความกดดันของบรรยากาศ

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเห็นว่าทุกคนนั้นเงียบ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นกลัวชินหยอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงหุบปากเงียบไว้

"เนื่องจากพรุ่งนี้ฉันจะกลับหมู่บ้านแล้ว ฉันจะทำอาหารให้ทุกคนกินเอง" มินาโตะพยายามทำลายบรรยากาศที่กดดันนี้

ขณะที่เขากำลังยืนขึ้น เขาก็ถูกชินหยูหยุดเอาไว้

"ฉันเคยเรียนทำอาหารมาก่อน ให้ฉันทําเองเถอะ" ชินหยูพูดกับมินาโตะ

ภายใต้การจ้องมองที่ตกใจของทุกคน ชินหยูจึงเดินออกไปช้าๆ

ในฐานะนินจา การล่าแกะสามตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยากใดๆ

"ชินหยู นายทําได้จริงๆใช่มั้ย?" อุซึกิอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย

ชินหยูกลอกตาของเขามองไปข้างบน

"อย่าถามว่าทำไมผู้ชายถึงทําอาหารไม่ได้ดีกว่า ถ้าผู้ชายทําเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ผู้หญิงที่ไหนจะมาสนใจกัน? เอาล่ะ ใครก็ได้ขอยืมมีดจักระหน่อยซิ"

อุ้บ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นจากนินจากหลายสิบคนทันที

มินาโตะส่ายหัวเบาๆและยิ้มออกมาเล็กน้อย

มีเพียงยูกาโอะและชิซุเนะสองคนเท่านั้นที่ตกตะลึง

"พ่อๆ ที่ชินหยูหมายถึงอะไรเหรอ?" ยูกาโอะถาม

อุซึกิหน้าแดงเล็กน้อยและมองไปที่ยูกาโอะ "เอ่อ.. ทําไมลูกถึงต้องย้ำพ่อด้วยล่ะ? แค่นี้พ่อก็อายมากแล้วนะ"

เมื่อเห็นอุซึกิกำลังดุเธอ หลายๆคนที่กลั้นเสียงหัวเราะไว้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที

เมื่อเห็นชินหยูทําลายบรรยากาศที่กดดันนั้น มินาโตะ กับ อุซึกิ ก็ดูประหลาดใจมาก

"ชินหยู ฉันไม่คิดเลยว่านายก็เป็นคนตลกด้วย และในเมื่อเป็นแบบนี้ฉันจะให้ยืมมีดจักระของฉันเอง" โยรุเดินเข้าไปพร้อมกับฮายาเตะ

หลังจากนั้นโยรุก็หยิบมีดสั้นออกมาจากต้นขาของเขาแล้วโยนมันไป

ชินหยูรู้ว่าโยรุคิดจะทําอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธอะไรและหยิบมีดมาจากโยรุ

มีดสั้นจักระที่ถูกดึงออกมานั้น มีจักระจางๆที่เคลือบอยู่บนคมมีด

แต่ทันทีที่ชินหยูเปลี่ยนมันไปเป็นจักระสายฟ้า กระแสไฟฟ้าก็สว่างวาบขึ้นทันที

"มีดจักระอันนี้ค่อนข้างดีทีเดียว" ชินหยูพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

โยรุพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้น

"ถ้านายชอบมันจริงๆนายเอาไปเลยก็ได้นะ"