ตอนที่ 22 เกินความคาดหมาย

บนซากปรักหักพังขนาดใหญ่นินจาคิริงาคุเระที่มากกว่านินจาโคโนฮะหลายเท่ากําลังจ้องมองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเหมือนกับเสือที่กำลังจ้องมองเหยื่อของมัน

มันทําให้บรรยากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยความกดดันมหาศาล

โดยเฉพาะมองไปที่ผู้นํา ชูอิคาชัน และ ไรกะ ที่เป็นเจ็ดดาบนินจา

ราวกับว่าหัวใจของพวกเขาถูกกําเอาไว้แน่นด้วยมือที่มองไม่เห็น

"เร็วเข้า รีบไปบอกชินหยูให้จัดการกับพวกมันเร็ว ไม่อย่างงั้นพวกเราทุกคนจะต้องตายแน่ๆ!" ฮายาเตะลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วและตะโกนขึ้น

"ชินหยูเรอะ?" ไรกะเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มอย่างเย้ยหยัน "มันเป็นใครกัน? ทําไมถึงไม่เคยได้ยินชื่อของมันมาก่อนเลย?"

"เป็นไปได้ไหมว่าเขารีบไปเรียกกำลังเสริมมาและตั้งใจทิ้งนินจาอ่อนๆเอาไว้หลอกพวกเราน่ะ?"

"แต่คิริงาคุเระของพวกเราน่ะแตกต่างจากพวกคุโมะงาคุเระพวกนั้นเว้ย"

ทันทีที่คําพูดเหล่านี้ดังขึ้น เสียงหัวเราะที่ดังสนั่นก็ดังขึ้นทันที

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอ้วนๆของชูอิคาชันขณะที่เขาพูดว่า "เอาล่ะ พอได้แล้ว รีบจัดการพวกมันสักที"

“เฮอะ น่าแปลกใจจริงๆที่มีนินจาสาวสวยอยู่ที่นี่ด้วย พวกนายไปจัดการกับคนอื่นเลยเดี๋ยวฉันจัดการกับยัยหนูนี่เอง"

ใบหน้าของยูกาโอะนั้นซีดทันทีที่ได้ยินแบบนี้

เธอไม่คิดเลยว่าชูอิคาชันจะพูดแบบนี้กับเธอ

"ยูกาโอะ พ่อจะหยุดพวกมันเอาไว้เอง รีบกลับเข้าไปที่ถ้ำและบอกเรื่องนี้กับชินหยูเร็วเข้า ตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเราได้!" อุซึกิตะโกนสั่ง

"พวกเราสกัดมันไว้ให้ได้มากที่สุด!"

นินจาโคโนฮะคนอื่นๆนั้นเริ่มตึงเครียดเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องต่อสู้อีกครั้ง

แต่เมื่อได้ยินคําสั่งของอุซึกิ พวกเขาก็ไม่ลังเลและรีบประสานอินเพื่อสร้างเกราะป้องกันทันที

"เฮอะ สายเกินไปแล้วไอ้พวกง่าว" ชูอิคาชันยิ้มอย่างเลือดเย็น

จู่ๆกลุ่มหมอกสีขาวก็ปรากฏขึ้นในพื้นที่โดยรอบ

ชูอิคาชันนั้นเริ่มเคลื่อนไหวทันทีเมื่อหมอกนี้ปรากฎขึ้น

ร่างกายที่ดูอ้วนของเขานั้นคล่องแคล่วว่องไวอย่างผิดปกติและในชั่วพริบตา เขาก็ปรากฎตัวต่อหน้ายูกาโอะแล้ว

"วิชาของพวกคิริงาคุเระ วิชาสังหารไร้เสียงงั้นรึ!" การแสดงออกของอุซึกิเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกถึงแรงกดดันรอบๆตัวเขาและตะโกนด้วยความกังวล "ยูกาโอะ ระวังตัวด้วย"

"เฮ้ยๆ มันสายเกินไปแล้วล่ะ" ชูอิคาชันเยาะเย้ย

"ฉันจะจัดการกับผู้หญิงคนนี้เอง"

ในม่านหมอกนั้น สีหน้าของยูกาโอะซีดอย่างมากและเธอต้องการหลบให้พ้นให้ได้

น่าเสียดายที่ในตอนนี้แม้แต่นิ้วของเธอ เธอก็ไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบการโจมตีไปได้

แต่เมื่อความสิ้นหวังปรากฎขึ้นในใจของเธอ วินาทีต่อมาลูกบอลสีฟ้าที่สว่างขึ้นบนท้องฟ้าก็พุ่งผ่านเธอไปอย่างรวดเร็ว

คลื่นลมเบาๆนั้นพุ่งผ่านหมอกที่ปกคลุมท้องฟ้าและเผยให้เห็นการแสดงออกที่เยาะเย้ยของชูอิคาชันทันที

แต่เมื่อเขาเห็นกระสุนวงจักรที่กําลังพุ่งเข้ามาหาเขา รอยยิ้มของเขาก็เปลี่ยนไป

ทันใดนั้นเขาดึงดาบหนังฉลามที่เขาพาดไว้ด้านหลังออกมาแล้วเอามันมาตั้งไว้ตรงแถวๆหน้าอกเพื่อป้องกันทันที

ตู้มม!

กระสุนวงจักรนั้นปะทะเข้ากับดาบหนังฉลามอย่างรุนแรง

จักระมหาศาลที่พุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำที่โหมกระหน่ำได้ปรากฏขึ้นหลังจากที่การโจมตีนั้นเขาปะทะกับดาบหนังฉลาม

ตู้มมม!

ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังก้องอยู่ในอากาศ

พายุที่เกิดจากการระเบิดนั้นทําให้หมอกโดยรอบกระจายออกไปทันที

ร่างอ้วนๆของชูอิคาชันกระเด็นออกไปไกลราวกับกระสุนปืนใหญ่ทันที

ร่างของชูอิคาชันพี่พุ่งไปอย่างรวดเร็วนั้นเขากระแทกกับนินจาของคิริงาคุเระบางคนที่ไม่สามารถหลบได้ทัน

ในที่สุดชูอิคาชันและนินจาคิริงาคุเระบางคนก็ไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตรและหยุดลง

แต่ภายใต้แรงกระแทกที่มหาศาลนั้น ต้นไม้ขนาดใหญ่ก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ฉากการระเบิดที่รุนแรงนั้นทําให้การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไป แม้แต่ไรกะเองก็เช่นกัน

เพราะเขานั้นเป็นคนที่รู้ดีที่สุดถึงความแข็งแกร่งของชูอิคาชัน

ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้วิชาสังหารไร้เสียงนั้น นินจาคนอื่นๆนอกจากนินจาคิริงาคุเระนั้นไม่ต่างอะไรกับเหยื่อของปลาฉลามเลย

แต่ชูอิคาชันกลับถูกโจมตีได้อย่างรวดเร็วเนี่ยนะ?

นี่มันเกินความคาดหมายของเขาไปมาก…