"คุณจิไรยะ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำสัญญาอัญเชิญ ผมหวังว่ากบจากภูเขาเมียวโบคุต่างหากที่จะไม่ยั่วโมโหผมน่ะ" ชินหยูพูดด้วยรอยยิ้ม
"นายกล้าพูดแบบนั้นได้ยังไงน่ะ?" จิไรยะมองบนและพูดว่า "เอาเถอะ แล้วอย่ามาร้องให้ขอให้ฉันช่วยก็แล้วกัน"
"เอาล่ะ ก่อนอื่นก็กัดนิ้วชี้ของนายซะแล้วเขียนชื่อของนายด้วยเลือดนั่นไว้ ฉันจะใช้คาถาก็ต่อเมื่อทําสัญญาเสร็จแล้ว และนายก็ไม่สามารถทรยศภูเขาเมียวโบคุได้ มิฉะนั้นนายจะต้องกลายเป็นหิน"
จิไรยะเองก็ไม่ลืมที่จะเตือนเขาในตอนท่าน
เมื่อมองไปที่ม้วนคัมภีร์ที่เปิดอยู่ ชินหยูก็กัดนิ้วของเขา ทันทีที่เลือดไหลออกมาจากนิ้ว เขาก็เขียนชื่อของเขาลงไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ชินหยูดึงมือของเขากลับมา จิไรยะประสานอินของเขาอย่างรวดเร็วก่อนที่ผนึก 5 วิถีจะปรากฎขึ้นบนม้วนคัมภีร์
ตราอักขระในมือของจิไรยะรวมตัวกันเข้ากับชื่อของชินหยูและกลายเป็นผนึกที่หนาแน่นทันที
"เอาล่ะ ทำสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้นายลองใช้คาถาอัญเชิญได้เลย แต่ฉันขอแนะนําให้นายระวังสักหน่อย และอย่าทําให้ตัวเองอับอายล่ะ" จิไรยะเก็บม้วนคัมภีร์แล้วเอาไปไว้ด้านหลังของเขาอีกครั้ง
“อีกอย่าง ผมยังไม่รู้เลยว่าคาถาอัญเชิญต้องประสานอินอะไรบ้าง" จู่ๆชินหยูก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่รู้อินของคาถานี้เลย
ร่างกายของเขานั้นอ่อนแอมาตลอดกว่าสิบปีแล้ว แม้แต่คาถาธรรมดาๆบางอย่างเขายังใช้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
"นี่นายไม่รู้อินของคาถาอัญเชิญงั้นเรอะ?" จิไรยะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เพราะเขานั้นได้ยินมาจากมินาโตะว่าชินหยูเป็นินนจาอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งปิดบังพลังของตัวเองอยู่ในหมู่บ้านโคโนฮะมานานกว่าสิบปี ดังนั้นเขาจึงกลับมาที่หมู่บ้านโคโนฮะเพื่อมาตรวจสอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่ตอนนี้ชินหยูกลับบอกเขาว่าไม่รู้อินของคาถาอัญเชิญ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จิไรยะเองก็คาดไม่ถึง
เมื่อมองไปที่ชินหยู เขาจึงส่ายหัวเบาๆอีกครั้ง จิไรยะถอนหายใจและพูดว่า "เอาล่ะ ฉันจะแสดงให้นายดู แต่มีโอกาส 90% ที่นายจะล้มเหลว เพราะฉะนั้นจำไว้ให้ดีก็พอแล้ว"
"ดูเอาไว้ให้ดีอย่ากระพริบตาล่ะ จิไรยะเซียนแห่งภูเขาเมียวโบกุจะแสดงให้นายดูเดี๋ยวนี้!"
จิไรยะตะโกนออกมาขณะที่เอามือขวาไปที่ปากและกัด
หลังจากที่ประสานอินแล้ว จิไรยะตบพื้นด้วยมือขวาของเขา
"คาถาอัญเชิญ!"
อักขระที่แผ่ออกไปเหมือนใยแมงมุมขยายออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันสีขาว
ร่างของกบขนาดหนึ่งเมตรได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา
นี่คือกับที่สวมชุดเกราะและเกราะแขนเอาไว้ที่มือทั้งสองข้าง
มันคล้ายกับกบตอนที่จิไรยะอัญเชิญออกมาตอนที่เขาสู้กับคิซาเมะและอิทาจิในนารูโตะต้นฉบับ
"นี่น่ะเหรอสัตว์อัญเชิญน่ะ?" ดวงตาของยูกาโอะเบิกกว้างขึ้น “ฉันเคยได้ยินมาว่าหลังจากทำสัญญาแล้ว เราสามารถอัญเชิญสัตว์ออกมาเพื่อช่วยต่อสู้ได้ นั่นหมายความว่าความแข็งแกร่งด้านการต่อสู้ของคนๆนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า"
"ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์อัญเชิญจะไม่มีทางทรยศต่อผู้อัญเชิญเด็ดขาด"
ชินหยูที่ได้ยินแบบนี้ถึงกับแอบหัวเราะในใจ
ถ้าหากมันดะได้ยินแบบนี้ มันก็คงจะหัวเราะจนเขี้ยวของมันหลุดออกมาแน่นอน
"พี่ชินหยู พี่แน่ใจแล้วจริงๆนะ?" อิทาจิอดไม่ได้ที่จะถาม
ชินหยูหันไปมองอิทาจิและยิ้ม "นายเองก็อยากเห็นเหมือนกันแหละน่า อย่ามาทำเป็นพูดแบบนั้นเลย"
"ฉันจะลองดูก็แล้วกัน บางทีฉันอาจจะอัญเชิญออกมาได้ก็ได้นะ"
ขณะที่เขาพูดนั้น ชินหยูได้พูดในใจกับระบบในร่างกายของเขาไปพร้อมๆกัน
"ดิ๊ง ตรวจพบคาถาอัญเชิญในร่างกายของท่าน ท่านต้องการเพิ่มเป็นระดับสูงสุดในครั้งเดียวเลยหรือไม่?"
"เพิ่มเป็นระดับสูงสุดทันที!"
ชินหยูตอบกลับระบบอย่างไม่ลังเล
"ดิ๊ง ขอแสดงความยินดีกับท่าน คาถาอัญเชิญของท่านอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว"
ข้อมูลเกี่ยวกับคาถาอัญเชิญถูกถ่ายทอดเข้าไปในจิตใจของชินหยูจนทําให้เขาเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้
"ชินหยู ถ้านายไม่มั่นใจนายก็ลองฝึกดูก่อนก็ได้ ไม่จําเป็นต้องรีบมากนักหรอก" จิไรยะพูดกับชินหยูและพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า "นายไม่ต้องรู้สึกท้อหรอกนะ เพราะไม่มีใครเหมือนฉันแน่ๆ ฉันน่ะคืออัจฉริยะที่สามารถอัญเชิญกบออกมาได้ในครั้งแรกเลยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ"
เมื่อมองไปที่จิไรยะที่กำลังพูดโม้อยู่นั้น ชินหยูก็กลอกตาของเขาแล้วพูด "ครั้งแรกของคุณไม่ใช่ว่าอัญเชิญตัวเองไปที่ภูเขาเมียวโบกุหรอกเหรอ?"
"ผมน่ะไม่เหมือนคุณหรอกนะ"
จิไรยะตกใจมากที่ได้ยินแบบนี้ เพราะนี่คือความลับของเขา
นอกจากโฮคาเงะรุ่นที่สามแล้ว เขายังบอกเรื่องนี้กับซึนาเดะด้วย
ไม่สิ!
กับโอโรจิมารุเขาก็เคยบอกด้วยเหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สนใจและทำเป็นเมินคำพูดของชินหยู
“เฮอะ นายนี่รู้ดีจริงๆนะ ฉันหวังว่านายจะไม่อัญเชิญกบที่เป็นลูกอ๊อดไม่มีแม้กระทั่งขาออกมาหรอกนะ"
ยูกาโอะโบกมือให้ชินหยูเป็นการแสดงออกว่าเธอเอาใจช่วยเขาอยู่
ส่วนอิทาจิยังคงยืนนิ่งๆด้วยสีหน้าเรียบๆ แต่เมื่อเขามองไปที่ชินหยู เขาก็แอบลุ้นให้ชินหยูทำได้สำเร็จอยู่เล็กน้อย
"ซู้ดดด ~"
ชินหยูสูดหายใจเข้าลึกๆ
เนื่องจากเลือดที่นิ้วชี้ขวาของเขายังไม่แห้งสนิท เขาจึงเช็ดฝ่ามือและยกมือของเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว
การแสดงออกของจิไรยะเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นแบบนี้
ตอนแรกเขาคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ชินหยูจะใช้คาถาอัญเชิญ ดังนั้นมันคงจะติดๆขัดๆเล็กน้อยในระหว่างขั้นตอน
แต่ตอนนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและว่องไวของการประสานต่อหน้าเขานั้น มันทำให้จิไรยะคิดผิดไปทันที
"คาถาอัญเชิญ!"
เมื่อประสานอินสุดท้ายเสร็จ จู่ๆชินหยูก็ตบลงที่พื้นทันที
เขารู้สึกว่า 80% ของจักระทั้งหมดในร่างกายถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้การแสดงออกของชินหยูนั้นเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
บ๊องงง!
ทันใดนั้นคลื่นเสียงอันทรงพลังก็ดังขึ้น ภายใต้กลุ่มควันสีขาวที่พวกพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ร่างสามร่างที่ใหญ่เท่ากับภูเขาลูกเล็กๆได้ปรากฎอยู่หลังกลุ่มควัน
เมื่อกลุ่มควันสลายไปนั้น มันทําให้ยูกาโอะกับอิทาจิรู้สึกราวกับว่าพวกเขาไม่สามารถกระพริบตากับภาพตรงหน้าได้
แต่เมื่อเทียบกับจิไรยะแล้ว ดวงตาของจิไรยะแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา
เขามองไปที่ กามะบุนตะ กามะเก็น กามะฮิโระ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าหนึ่งในสามนักรบกบที่ทรงพลังที่สุดในภูเขาเมียวโบคุด้วยสีหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
"จิไรยะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเรอะ? อย่าบอกนะว่านายไปเข้าร่วมสงครามโลกนินจาครั้งที่สามน่ะ? แล้วนายไปเจออะไรมาล่ะถึงได้อัญเชิญพวกข้าออกมาทั้งสามพร้อมกันได้แบบนี้? " กามะบุนตะที่คาบไปบ์ในปากของเขาพ่นควันออกมา แล้วพูดว่า "นายต้องตอบแทนพวกข้าอย่างดีด้วยล่ะ"
"ไปหาแมลงให้พวกข้า 2-3 ตันซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการนายซ้ำอีกรอบ"
กามะเก็นและกามะฮิโระอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆเลย
มีเพียงเด็กสองคนกับจิไรยะเท่านั้นที่ยืนตกตะลึงอยู่
"จิไรยะ นายตอบพวกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าทำไมถึงอัญเชิญพวกข้ามาเล่นๆน่ะ" กามะฮิโระพูดขึ้น
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved