ตอนที่ 76 จริงๆแล้วสัตว์หางตอนเด็กน่ะน่ารักมากเลยล่ะ

“ย่างงั้นเรอะ?”

ท่าทีของสามหางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

แม้ว่าคําพูดของชินหยูอาจจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เมื่อมันได้รู้ถึงพลังของชินหยูด้วยตัวมันเองแล้ว

มันรู้ได้ทันทีว่าชินหยูจะทำแบบนั้นกับมันแน่ๆ…

นอกจากที่จะรู้ถึงพลังของชินหยูแล้ว กบใหญ่ทั้งสามตัวที่ถูกอัญเชิญมานั้นก็แข็งแกร่งเช่นกัน

แม้ว่าสามหางจะถูกพันธนาการเอาไว้ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็แทบจะไม่ลดลงเลย

แต่ถึงอย่างนั้น ชินหยูก็สามารถทำให้มันตกอยู่ในโลกแห่งภาพลวงตาได้ด้วยการมองเท่านั้น

แค่นี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าความห่างของพลังระหว่างทั้งคู่นั้นมากมายเพียงใด

"เอาล่ะ รีบออกไปเถอะ" เนตรวงแหวนในดวงตาของชินหยูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน ชินหยูก็ค่อยๆหายตัวไปในอากาศบางๆ

ในโลกภายนอก แม้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของอ่านจันทรานั้นจะยาวนานมาก

แต่ในสายตาของกบใหญ่ทั้งสาม มันเป็นเวลาเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น

เมื่อได้เห็นภาพสะท้อนของเนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำในรูม่านตาของสามหางหายไป พวกมันก็สะดุ้งเล็กน้อย

"ฉันคิดว่าเจ้าเด็กนั่นต้องทำพลาดแน่ รีบเตรียมตัวใช้วิชาพันธนาการอีกครั้งเร็วเข้า" กามะบุนตาออกคำสั่งทันที

แม้ว่ามันจะไม่อยากฟังคําสั่งของชินหยู แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาคิดแบบนั้นอีกต่อไป

ถ้ามันปล่อยให้สามหางอาละวาดได้เต็มที่ พวกมันทั้งสามก็จะไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้เช่นกัน

"ทําไมนายต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ?" ทันใดนั้นเสียงของชินหยูก็ดังขึ้น

มือของกบทั้งสามซึ่งที่กําลังจะสร้างผนึกนั้นหยุดลงทันที พวกมันมองไปที่ชินหยูด้วยสีหน้าผ่อนคลาย

หลังจากนั้นพวกมันก็รีบมองไปที่สามหาง

เมื่อพวกมันเห็นว่าสามหางกลับมาได้สติแล้ว พวกมันก็รู้สึกว่าสามหางนั้นดูว่าง่ายกว่าปกติ

กบใหญ่ทั้งสามตัวถึงกับตกใจที่ได้เห็นแบบนี้

“สามหางถูกควบคุมไปแล้วเรอะ!”

“ไม่สิ!”

“จะเรียกว่าควบคุมก็คงไม่ถูกต้องมากนัก”

"เอาล่ะๆ" หลังจากนั้นชินหยูจึงพูดกับสามหางต่อ

"หลังจากนี้จงเรียกฉันว่านายท่านชินหยูสะ"

"แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของแกจะดูใหญ่มากเกินไปสักหน่อย ถ้าแกตัวเท่าตุ๊กตาก็คงดีสิ"

ชินหยูเริ่มแสดงท่าทางของเขา

ราวกับว่าเขากําลังคิดที่จะแบกสามหางติดตัวไปด้วย

"ไอ้หนู แกให้ข้าต้องอับอายโดยการเรียกแกว่าท่านชินหยูแล้ว แกยังจะทำให้ข้าตัวเล็กแบบตุ๊กตาอีกงั้นเรอะ? ศักดิ์ศรีของสัตว์หางของข้าจะไม่เหลืออยู่แล้วนะ" สามหางพูดกับชินหยูด้วยความโกรธอีกครั้ง

ความรู้สึกของสามหางในครั้งนี้เป็นความรู้สึกที่ราวกับว่ามันหมดความอดทนกับชินหยูแล้ว

ความรู้สึกของสามหางในครั้งนี้ทําให้กบใหญ่ทั้งสามตัวนั้นถอยหลังไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวทันที

ชินหยูชำเลืองตาไปมองและพูดว่า "แกเข้าไปสำนึกตนอีกรอบไหม? หรือว่าแกอยากจะถูกผนึกตอนนี้เลย? แกคิดดีๆนะ"

เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของชินหยูที่กำหนดทางเลือกให้กับมัน สามหางก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

มันรีบข่มอารมณ์และพูดว่า "ท่านชินหยู ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ได้โปรดอย่าจริงจังมากนักเลย อันที่จริงสัตว์หางอย่างพวกข้าตอนเด็กๆน่ะน่ารักมากๆเลยนะ"

"ดูเหมือนว่าท่านจะไม่รู้สินะ ว่าเจ้าทานุกิกับจิ้งจอกนั่นคิดจะเป็นแค่สัตว์หางตัวเล็กๆเมื่อครั้งอดีต"

“ในตอนนั้น ข้าเป็นคนที่พยายามห้ามความคิดของพวกมันทั้งคู่เอาไว้ มิฉะนั้นพวกข้าคงไม่เติบโตมาขนาดนี้ได้หรอก"

เมื่อมองไปที่สามหางที่กำลังพูดกับชินหยูด้วยความเกรงกลัว

จูโซกับนินจาคิริงาคุเระที่กําลังเฝ้าดูจากด้านข้างนั้นถึงกับตัวแข็งทื่อไปทันที

ทักษะการประจบประแจงที่เก่งกาจของสัตว์หางนั้นทําให้พวกเขาเองก็รู้สึกละอายใจกับความต่ำต้อยกว่าของพวกเขาด้วยเช่นกัน

จูโซที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้านั้นก็แทบไม่อยากเชื่อจึงต่อยไปที่นินจาคิริงาคุเระคนหนึ่งทันที

"บอกฉันทีว่าตอนนี้ไม่ใช่ความฝันน่ะ?"

นินจาคิริงาคุเระที่ถูกต่อยนั้นเอามือป้องหน้าเอาไว้และพูดว่า "ความฝันกับผีน่ะสิเจ็บขนาดนี้ จู่ๆจะมาต่อยกันทำไมล่ะเนี่ย?"

"ทำไมแกถึงไม่ต่อยตัวเองฟะ? ทำไมจะต้องมาต่อยฉันที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย"

ชินหยูที่ได้ยินการสนทนานี้ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก

เขาส่งสัญญาณให้สามหางมาอยู่บนไหล่ของเขา หลังจากที่ปรับขนาดลงหลายๆครั้ง ในที่สุดเขาก็มองไปที่กบใหญ่ทั้งสามตัวด้วยความพอใจ

"กามะบุนตะ ขอบใจมากนะ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกนายฉันคงจัดการสามหางง่ายๆแบบนี้ไม่ได้แน่"

ใบหน้าของกามะบุนตะกระตุกเล็กน้อย

ตอนนี้มันกำลังเห็นชินหยูเล่นกับสัตว์หางเหมือนเล่นกับแมวด้วยตาของมันเอง

ซึ่งมันเองก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ชินหยูพูดออกมาด้วยเช่นกัน

"ไอ้หนู หยุดพูดไร้สาระของนายได้แลว ด้วยความแข็งแกร่งของนายแค่คนเดียวก็มากพอแล้วที่จะจัดการกับสามหางได้" กามะบุนตะสูดหายใจเข้าลึก ๆและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆว่า "คราวนี้นายคิดที่จะใช้เรื่องของสามหางเพื่อทำให้พวกข้าต้องสู้ก็เท่านั้นเอง"

"เนื่องจากนายรู้ถึงการมีอยู่ของท่านฟุคาซะคุและท่านชิมะ นายคิดที่จะเรียนรู้วิชาเซียนอย่างจิไรยะด้วยงั้นสินะ?"

กามะบุนตะจ้องมองไปที่ชินหยูโดยที่พูดความคิดของมันออกมา

ชินหยูยิ้มเล็กน้อย "ที่นายพูดน่ะมันถูกแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น"

"แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็อยากเรียนรู้คาถาเซียนอยู่ดีนั่นแหละ"

“ฉันรู้ว่านายอาจจะคิดว่าฉันมีเจตนาที่ไม่ดี แต่นั้นไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินได้ กลับไปบอกทั้งสองท่านซะแล้วให้ทั้งสองท่านนั้นตัดสินใจเองเถอะ"

ชินหยูหยุดสักครู่และพูดต่อ "บอกพวกท่านด้วยว่าหลังจากนี้โลกกําลังจะเปลี่ยนไปแล้ว"

การแสดงออกของกามะบุนตะเปลี่ยนไป แม้แต่กบใหญ่อีกสองตัวที่อยู่ด้านหลังเขาเองก็เช่นกัน

คําพูดของชินหยูนั้นดูคลุมเครือมาก แต่พวกมันก็มีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าพวกมันรู้ว่าชินหยูกำลังหมายถึงอะไร

หลังจากที่กบใหญ่ทั้งสามหันมามองกัน กามะบุนตะก็พูดอย่างเย็นชา "ไม่ต้องห่วง ฉันจะบอกเรื่องนี้ให้ทั้งสองท่านเอง และคราวหน้าอย่าเรียกพวกข้ามาเล่นๆอีก"

หลังจากที่พูดจบ กบใหญ่ทั้งสามก็หายไปทันที

"เฮอะ ครั้งต่อไปที่ท่านชินหยูจะอัญเชิญพวกแกออกมา คือตอนที่ได้เจอกับสัตว์หางตัวอื่นๆเท่านั้น ข้าอยากรู้จริงๆว่าพวกแกจะตกใจขนาดไหน?" สามหางพูดออกมาอย่างเย็นชา

ชินหยูที่ได้ยินแบบนั้นจงไม่ได้สนใจและพูดว่า "ฉันหิวแล้ว ไปจับปลามาสักสองตัวให้ฉันที"

"ให้สัตว์หางไปจับปลางั้นเหรอ?" จูโซที่เห็นว่าการต่อสู้นั้นได้จบลงแล้วจึงรีบวิ่งไปหาชินหยูทันที

ในฐานะหนึ่งใน 7 ดาบนินจานั้น เขาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนินจาที่มีระดับที่สูงกว่านินจาคนอื่นๆ

และเขาก็รู้ว่าสัตว์หางนั้นถูกบูชาราวกับเป็นเทพเจ้าในหมู่บ้าน

แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์และตําแหน่งของสัตว์หางต่อหน้าชินหยูนั้นกลับตาลปัตไปอย่างสิ้นเชิง

ถ้าหากเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของเขาเอง เขาก็คงไม่มีทางเชื่อแน่นอน

"นายท่าน ท่านจะทำอะไรต่องั้นรึ?" จูโซเดินเข้ามาหาชินหยูแล้วถาม

แม้แต่สัตว์หากที่ทรงพลังก็ยังตกอยู่ในภายใต้อำนาจพลังของชินหยูได้ ดันนั้นเขาจึงไม่กล้าทําตัวประมาท

"ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรต่อนะ" ชินหยูผายมือและไปนั่งบนแนวโขดหิน จากนั้นเขาก็เลิกคิ้วและพูดว่า "อีกอย่าง ตอนนี้ฉันอยากให้นายไปตามหาคิซาเมะให้ฉันหน่อย"

“คงจะดีมากถ้านายพาเขามาหาฉันได้ ถ้าหากนายทําไม่ได้ก็ติดต่อฉันมา และฉันจะไปที่นั่นเอง"

“โฮชิงากิ คิซาเมะ งั้นเหรอ?”

จูโซอดไม่ได้ที่จะตกใจ เขาพูดทันทีว่า "นายท่าน นายท่านกำลังหมายถึงชายหน้าฉลามคนนั้นอย่างงั้นเหรอ?"

"แม้ว่าผู้ชายคนจะดูนิ่งๆแต่เขาก็แข็งแกร่งมาก ฉันได้ยินมาว่าเขามีคุณสมบัติที่จะชิงตำแหน่ง 7 ดาบนินจาคนใหม่ด้วย"

คิซาเมะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เป็นนินจาระดับ S ในคิริงาคุเระ ไม่ว่าจะเป็นในผลงานต้นฉบับหรือโลกแห่งนี้

ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นด้านความฉลาดหรือด้านความแข็งแกร่ง เขาถือว่ามีความโดดเด่นในทั้งสองด้านนี้มากๆ

"จูโซ นายคิดผิดแล้ว" ชินหยูส่ายหัว "คิซาเมะน่ะแข็งแกร่งกว่านายซะอีก"

"จริงสิ ตอนนี้มีคนกําลังจะเข้ามาที่นี่ นายน่ะรีบออกไปได้แล้ว"