ตอนที่ 91 นี่แค่ลูกเล็กนะ

เสียงของระบบนั้นดังสะท้อนอยู่ในใจของชินหยู ซึ่งทําให้การแสดงออกของเขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง

ตามผลงานต้นฉบับ สิ่งที่ทําให้ชินหยูตกใจมากที่สุดไม่ใช่ตอนที่มาดาระได้เป็นเซียนหกวิถีหรือกำราบสัตว์หางทั้งหมดได้

แต่มันคือคาถามหาศิลาทำลายพิภพ ซึ่งเขาใช้มันเมื่อเผชิญหน้ากับ 5 คาเงะ

มันเหมือนกับอุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 1 กิโลเมตร ซึ่งมันเป็นการโจมตีที่ทำให้ผู้ที่ได้เห็นถึงกับหายใจได้ไม่ทั่วท้อง

เดิมที ชินหยูเองก็พอใจมากกับคาถานินที่เขาได้รับมาจากพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลอุจิวะแล้วอย่างวิชาเนตรขยายขอบเขต

แต่เมื่อเทียบกับคาถามหาศิลาทำลายพิภพนั้น มันทำให้ชินหยูรู้สึกดีใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

"อัปเกรดเป็นระดับสูงสุดทันที!"

"ดิ๊ง ได้โปรดรอสักครู่!"

"ขอแสดงความยินดี คาถามหาศิลาทำลายพิภพอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว"

เสียงของระบบค่อยๆจางหายไปในใจของเขาเมื่อชินหยูลืมตาขึ้นอีกครั้ง

ทันทีที่เนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำหมุนอย่างรวดเร็ว หัวสามหัวและมือหกมือของซูซาโนะโอจึงเริ่มเคลื่อนไหวทันที

"นายตั้งใจจะใช้วิชาเนตรขยายขอบเขตเพื่อโจมตีแล้วสินะ?" ฟุงาคุที่เห็นแบบนี้จึงสะดุ้งเล็กน้อย

เขานึกถึงบันทึกของมาดาระที่เขาเคยอ่านซึ่งมันทำให้การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป

เขารีบมองไปที่ชินหยูที่อยู่ในทะเลเพลิง เมื่อเขาเห็นซูซาโนะโอกำลังประสานอินด้วยมือทั้งหกของมัน รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงและเขาก็ออกคำสั่งทันที

"รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า การใช้วิชาเนตรขยายขอบเขตเพื่อโจมตีนั้นสามารถทําลายหมู่บ้านนินจาได้แทบจะทันที!!"

เสียงตะโกนของฟุงาคุนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ

แต่ก่อนที่พวกเขาจะตอบสนอง เงาสีดําขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า

แรงกดดันบางอย่างที่อธิบายไม่ได้นั้นได้ปรากฎขึ้นในใจของพวกเขาทั้งสามคน

เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ประหลาด พวกเขาทั้งสามจึงรีบเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า และทันทีที่พวกเขาได้เห็นมัน พวกเขาถึงกับตกตะลง

อุกกาบาตขนาดมหึมามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณหนึ่งกิโลเมตรกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า

แรงดันจากท้องฟ้านั้นทําให้ชั้นบรรยากาศและก้อนเมฆนั้นถูกฉีกกระชากออกจากกันทันที

ในตอนนี้อุกกาบาตขนาดใหญ่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับเสียงที่ดังราวกับระเบิด

"รีบหนีเร็วเข้า!!!"

ฟุงาคุตะโกนออกมาอย่างตื่นกลัว

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ เขาก็ไม่เคยคิดที่จะสู้อีกต่อไป

ความคิดเดียวในใจของเขาตอนนี้คือการหนีเท่านั้น!

"บ้าน่า นี่มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ!!" เสียงของกามะบุนตะนั้นเต็มไปด้วยความกลัวก่อนที่มันจะพูดว่า "มินาโตะ ถ้านายไม่หนีไปตอนนี้นายตายแน่ๆ!!"

"ตอนนี้ข้าเองก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ดังนั้นข้าขอตัวกลับก่อนล่ะ!!"

ทันใดนั้น กามะบุนตะได้หายไปทันที

มินาโตะค่อยๆลงมาที่พื้นดินและมองไปที่ ฟุงาคุ กับ ชิซุย ที่กําลังรีบหนีอย่างกลัวตาย

ทันใดนั้น มินาโตะก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน

"ชิซุย ฟุงาคุ มอบจักระให้ผมที ถ้าหากเราปล่อยให้อุกกาบาตลูกนี้ตกลงมา ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นวงกว้างมากแน่ๆ ดังนั้นผมอยากจะย้ายมันไปไว้ที่อื่นเอง"

จู่ๆมินาโตะก็ปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองคน

ฟุงาคุ และ ชิซุย ที่กำลังหวาดกลัวตกตะลึง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

"มินาโตะ นายแน่ใจเหรอ?" ฟุงาคุถามด้วยความสงสัยของเขา

แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงความไร้พลังในใจ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่มินาโตะพูดจริงๆ

หากพวกเขาหนีไป ผลที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะต้องใหญ่มากแน่ๆ

"ผมมั่นใจแค่ 30% เท่านั้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ย้ายอะไรใหญ่ขนาดนี้" มินาโตะปากสั่นขณะที่เขาพูด "แต่ถ้าได้การช่วยเหลือจากจักระของคุณ ผมคิดว่าโอกาสน่าจะเพิ่มเป็น 50 %"

"พวกเราไม่มีเวลามากแล้ว รีบทำเลยเร็วเข้า!"

เมื่อมองไปที่อุกกาบาตที่กำลังตกเข้ามาอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า มันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วในดวงตาของเขา

ทันใดนั้น มินาโตะได้หยิบคุไนเทพสายฟ้าเหินมาไว้ในมือของเขา

ในขณะเดียวกัน ฟุงาคุ กับ ชิซุย วางมือเอาไว้บนไหล่ของมินาโตะ

จักระในร่างกายของเขาค่อยๆถ่ายทอดไปที่มินาโตะอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นคุไนเทพสายฟ้าเหินทั้งสามก็ชนเข้ากับอุกกาบาตทันที

ปั่ก ปั่ก ปั่ก!

คุไนเทพสายฟ้าเหินได้ปักลงไปในอุกกาบาตแล้ว

ในขณะเดียวกันมินาโตะก็เริ่มประสานอิน

มินาโตะกำลังประสานอินด้วยความเร่งรีบก่อนที่เขาจะพูดขึ้นหลังจากประสานอินเสร็จ

"คาถาเกราะเทพสายฟ้าเหิน!"

วิ้งงง!

จู่ๆ คลื่นอากาศได้สั่นดังขึ้น ฟุงาคุ กับ ชิซุย รู้สึกราวกับว่าจักระในร่างกายของพวกเขากำลังถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ประสานอินเสร็จ เกราะเทพสายฟ้าเหินที่เข้าปกคลุมท้องฟ้าไว้ทั่วบริเวณนั้นได้ปรากฎขึ้นทันที

อุกกาบาตสีดําสนิทเข้าปะทะกับเกราะเทพสายฟ้าเหินที่ปกคลุมท้องฟ้าไว้ทันที

ผลกระทบมหาศาลของคลื่นกระแทกอันมหาศาลนี้ ทําให้เกิดรอยแตกที่ไม่สามารถต้านทานได้จนเกิดเป็นเสียงแตกออกบนอากาศ

รอยแตกที่แผ่ออกไปคล้ายใยแมงมุมแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ทันด้วยตาเปล่า

"มินาโตะ นายแน่ใจใช่ไหมว่าจะหยุดมันได้จริงๆน่ะ" ฟุงาคุไม่สามารถห้ามความสงสัยได้จึงรีบถาม

อุกกาบาตในตอนนี้กำลังตกลงมาจากท้องฟ้าที่สูงเพียงหลายร้อยเมตรเหนือหัวของพวกเขา

เพียงแค่เงยหน้าขึ้น พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าแห่งความตายที่อธิบายไม่ได้กำลังพุ่งตรงมาที่เขา

ถ้าหากมินาโตะไม่สามารถต้านทานได้ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่มีเพียงความตายเท่านั้น

"ไม่ต้องห่วง มันจะต้องได้ผลแน่ๆ!" เส้นเลือดที่คอของมินาโตะค่อยๆปูดขึ้น และทันใดนั้นเขาก็ประสานฝ่ามือเข้าหากันทันที

จักระที่ยังเหลืออยู่ในร่างกายของเขาถูกดูดไปจนเกือบหมดทันที

เกราะเทพสายฟ้าเหินเองก็ขยายออกไปเล็กน้อยเช่นกัน

ในช่วงเวลาต่อมา สถานการณ์ที่เหมือนจะตกอยู่ในทางตันกลับคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว

อุกกาบาตที่ลงมาจากท้องฟ้าดูดเข้าไปโดยรอยแยกเชิงมิติสีดำสนิททันที

หลังจากผ่านไปสิบวินาที อุกกาบาตที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งกิโลเมตรก็ถูกดูดไปอย่างสมบูรณ์

เมื่อมองไปที่ท้องฟ้าที่กลับมาสว่างและรอยแตกเชิงมิติที่ค่อยๆหายไป มินาโตะจึงล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นและหอบอย่างแรง

เหงื่อบนหน้าผากของเขาปรากฎขึ้นพร้อมกับจักระที่หมดลงจนเกือบหมด ทําให้เขาไม่สามารถยืนขึ้นได้ชั่วขณะหนึ่ง

เส้นจักระทั้งหมดในร่างกายของเขากำลังเจ็บปวดหลังจากที่ดูดกลืนและใช้จักระอย่างมหาศาล

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ดีใจ คําพูดที่ดังเข้าไปในหูของพวกเขากลับเหมือนเป็นโซ่ตรวญที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดนิ่ง

"ยอดเยี่ยมมาก แต่ถึงอย่างนั้นนี่เป็นเพียงลูกเล็กๆเท่านั้น ยังมีอีกลูกที่กำลังตกลงมานะ" ชินหยูยิ้มเล็กน้อย

มินาโตะและคนอื่นๆรีบเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าทันที

เงาสีดำ ที่ตกลงมาอย่างรวดเร็วนั้นปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาอีกครั้ง

“บ้าไปแล้ว!”

“เป็นไปไม่ได้!”

เมื่อครู่ที่ผ่านมา พวกเขาพยายามจนจักระเกือบจะหมดเพื่อหยุดอุกกาบาตเอาไว้ได้

แต่ตอนนี้ ชินหยูกลับบอกพวกเขาว่านี่เป็นเพียงลูกเล็กๆเท่านั้น

ยังมีอีกลูกที่ใหญ่กว่านั้น ที่กำลังจะตกลงมาอีก

"ดูเหมือนว่าพวกเราจะเล่นกับไฟที่ไม่มีวันดับได้ซะแล้วล่ะครับ" มินาโตะอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น

ตอนนี้ อย่าว่าแต่จะใช้วิชาเทพสายฟ้าเหินเลย แม้แต่นิ้วของเขาก็ยังขยับแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

สิ่งเดียวที่เขาทําได้ตอนนี้คือนอนรอความตายเท่านั้น!!