ตอนที่ 84 ผู้คนที่หลบซ่อน

ภายในห้องทำงานของโฮคาเงะนั้นเงียบสนิท

ดวงตาของของที่ปรึกษาทั้งสามซึ่งรวมทั้งดันโซนั้นเบิกกว้างขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นร่างของสามหางที่หดตัวเหมือนกับตุ๊กตาและนอนอยู่ในกระเป๋าของชินหยู

ฉากตรงหน้าพวกเขามันน่าตกใจเกินไป

ในสายตาของพวกเขาสัตว์หางนั้นควรได้รับการผนึกหรืออยู่ในร่างกายมนุษย์

แต่การที่มันหกตัวลงขนาดนี้ได้และแสดงความไม่เป็นอันตรายออกมานั้น มันอยู่เหนือเกินความเข้าใจของพวกเขาอย่างมาก

ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ใครจะเชื่อบ้าง?

"ชินหยู ยินดีต้อนรับกลับนะ" โฮคาเงะรุ่นที่สามเป็นคนแรกที่พูดขึ้น

"ฉันได้ยินจากมินาโตะว่านายทำภารกิจนี้ด้วยตัวเอง"

"และฉันก็ได้ยินมาว่าพวกแคว้นน้ำลักพาตัวโนฮาระ รินไปเพื่อจะทำให้เธอเป็นพลังสถิตร่างของสามหาง"

“แต่ถึงอย่างนั้น คนที่ตายในครั้งนี้คือมิซึคาเงะรุ่นที่สาม และเนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองในหมู่บ้านระดับสูงสุด ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของนายและโคโนฮะ พวกเราจึงได้ตัดสินใจสองสามอย่างหลังจากปรึกษากันแล้ว"

ทันทีที่รุ่นที่สามพูดขึ้น เขาก็เข้าประเด็นทันที ในขณะเดียวกัน เขาก็จ้องไปที่ชินหยูเพื่อพยายามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกบนใบหน้าของเขา

"โฮคาเงะรุ่นที่สามนั้นตรงไปตรงมาจริงๆ ฉันชอบวิธีจัดการกับเรื่องต่างๆแบบนี้มาก บอกฉันทีว่านายคิดจะทำยังไงต่อ ถ้าหากว่ามันสมเหตุสมผล ฉันก็จะยอมรับมัน" ชินหยูยิ้มเบาๆ

"ไอ้หนู รู้จักมารยาทบ้างนะ!" ดันโซตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา

การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

"ฉันกล้าดียังไงถึงทําตัวไม่มีมารยาทงั้นเรอะ?" ชินหยูยิ้มเบาๆ "แล้วนายจะให้ฉันทำตัวยังไงล่ะ?"

“อย่าลืมว่าฉันกลับมาพร้อมกับการกระทําอันสมควรแล้ว ฉันควรได้รับรางวัลสําหรับการกระทําอันสมควรของฉัน ไม่ใช่ฟังนายมาพร่ำเรื่องมารยาทใส่ฉันแบบนี้"

เมื่อพูดจบ การแสดงออกของดันโซนั้นหยุดนิ่งทันที

แต่ก่อนที่เขาจะพูดโต้กลับ เขาก็ถูกหยุดเอาไว้โดยโฮคาเงะรุ่นที่สาม

"เอาล่ะ สิ่งที่ชินหยูพูดนั้นก็ถูกต้อง" ดวงตาของโฮคาเงะรุ่นที่สามกระพริบ "ครั้งนี้ชินหยูนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ มิซึคาเงะรุ่นที่สามในทางอ้อมเท่านั้น"

“และนายก็มีส่วนร่วมมากมายในสนามรบ แต่คราวนี้ดูเหมือนว่ามันจะอยู่การควบคุมมากเกินไป ดังนั้นฉันหวังว่านายคงต้องอยู่ในหมู่บ้านโคโนฮะไปก่อนและรอให้สงครามสิ้นสุดลงเท่านั้น"

"ในช่วงนี้ ฉันจะให้หน่วยลับไปปกป้องนาย"

หลังจากที่คําพูดของโฮคาเงะเงียบลง สายตาของทุกคนก็สบกับชินหยู ซึ่งแม้แต่จิไรยะก็ประหม่า

เขาได้รับความไว้วางใจจากมินาโตะให้จัดการเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่

หากมีอะไรผิดพลาด มันจะต้องเป็นความผิดของเขาเต็มๆ

"แค่นี้เหรอ?" ชินหยูพูดเบาๆว่า "ตราบใดที่พวกเขาไม่มายุ่งฉันจากการกิน ดื่ม และจีบสาว ฉันก็ไม่มีปัญหาหรอก ฉันยังมีอะไรให้ทำอีกมากในหมู่บ้านนี้"

จิไรยะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินชินหยูพูดแบบนั้น

ถ้าหากชินหยูเต็มใจที่จะยอมรับเงื่อนไขนี้ เรื่องราวที่เหลือก็จะถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย

"เอาล่ะ ในเมื่อชินหยูเห็นด้วยกับคําขอนี้ มินาโตะจะรับผิดชอบเรื่องที่เหลือเอง" รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของโฮคาเงะรุ่นที่สาม

"ชินหยู ถ้านายไม่มีอะไรจะพูดอีก นายสามารถออกไปได้เลย"

ในช่วงนี้ เขาได้คิดหนักเกี่ยวกับการจะใช้ใครสักคนเพื่อจับตาดูชินหยูอย่างใกล้ชิด

แต่หลังจากที่พยายามคิดและไตร่ตรองอย่างสมบูรณ์แล้ว รุ่นที่สามยังตัดสินใจใช้มินาโตะเหมือนเดิม

เพราะมินาโตะ มีวิชาเทพสายฟ้าเหินที่เพิ่มความคล่องตัวได้อย่างมาก ทำให้เขามีคุณสมบัติมากขึ้นสําหรับภารกิจนี้

"ถ้างั้นฉันจะไปก่อนนะ" ชินหยูจ้องมองไปที่ดันโซที่มีสีหน้ามืดมน เขายิ้มอย่างอบอุ่นและหันหลังเพื่อจากไป

ส่วนจิไรยะนั้นทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น

เขากลัวว่าชินหยูจะสร้างปัญหาอะไรกับดันโซมากขึ้น

"ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอตัวด้วยเหมือนกัน" จิไรยะเองก็ตามชินหยูไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

"คาถาลับ - วิชาสลับจิต!"

นินจาห้าคนปรากฏตัวขึ้นทันทีและใช้คาถาลับของตระกูลยามานากะอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน หน่วยรากทั้งห้าคนก็รีบออกมาเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดรีบใช้วิชาปิดผนึกทันที

"วิชาผนึกห้าทิศ!"

ฉากที่เกิดขึ้นนั้นทําให้ทุกคนตกใจอย่างมาก

แม้แต่โฮคาเงะรุ่นที่สามและจิไรยะเองก็เช่นกัน

มุมปากของดันโซค่อยๆโค้งขึ้นเล็กน้อย ทันทีที่เขาเปิดเผยรอยยิ้มออกมาเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที

ด้วยวิชาสลับร่าง ดันโซเป็นคนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นหลังชินหยูพร้อมกับคาถาผนึกในมือที่เข้าไปปะทะร่างของสามหาง

"คาถาปิดผนึก คาถาผนึกมาร!"

ทันทีที่ดันโซเริ่มโจมตี ชายทั้งห้าคนจากตระกูลยามานากะก็ใช้คาถาสลับจิตภายใต้การนําของยามานากะ ฟู ทันที

จากนั้นพวกเขาก็ให้โทรุเนะเปิดใช้งานคาถาผนึกเพื่อจํากัดการเคลื่อนไหวของชินหยู

ส่วนดันโซนั้นเขาเป็นคนที่เข้าไปโจมตีสามหางด้วยตัวเอง

ในสายตาของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และคนอื่นๆ การทำแบบนี้อาจจะไม่ได้ผล

เพราะคนที่พวกเขากำลังเผชิญในครั้งนี้คือ ชินหยู ที่ปิดบังพลังของตัวเองมาตลอดสิบห้าปีและทําให้หลายคนต้องตกตะลึงด้วยความสําเร็จอันยอดเยี่ยมเพียงครั้งเดียว

นั่นทำให้คาถาแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้

"ดันโซ วิธีการของนายช่างน่าผิดหวังจริงๆ" ชินหยูยิ้มเบาๆ

ทันทีที่เขาหันกลับมา เขาได้เปิดใช้งานเนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำแล้ว

ทันทีที่ชินหยูใช้เนตรวงแหวนของเขา พวกเขาทั้งห้าคนก็ถูกดึงเข้าไปในพื้นที่ลวงตาของชินหยูทันที ซึ่งสิ่งแรกที่พวกเขาเห็นคือ เนตรวงแหวนขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในพื้นที่ลวงตานั้น

การประสานอินของพวกเขาหยุดลงทันที พร้อมกับการแสดงออกของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

เมื่อมองไปที่ โทรุเนะ และคนอื่นๆที่กําลังโจมตีพวกเขาเนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำของชินหยูค่อยๆก่อตัวเป็นซูซาโนะโออย่างรวดเร็ว

ร่างขนาดใหญ่และคลื่นกระแทกพัดเข้าใส่ร่างของ ดันโซ, โทรุเนะ และคนอื่นๆที่กําลังเข้าใกล้เขาให้ออกไปทันที

ทันใดนั้น ห้องทำงานแคบๆก็ถูกทําลายลงอย่างรวดเร็ว

ฉากที่เกิดขึ้นนั้นทําให้ทุกคนตื่นเต้นมาก เมื่อมองไปที่ร่างขนาดใหญ่ที่สูงหลายสิบเมตร แม้แต่ดันโซเองก็ยังตกตะลึง

เขาเคยเห็นซูซาโนะโอแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในร่างกายของมาดาระ

และเป็นเพราะการต่อสู้ครั้งนั้นเองที่ทำให้โฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งต้องตายลงด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส

อาจกล่าวได้ว่า ซูซาโนะโอที่อยู่ตรงหน้าเขาถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมของความหายนะของทุกสิ่ง

พื้นผิวสีแดงของซูซาโนะโอตอนนี้กำลังเปล่งออร่าจักระที่ดุร้ายออกมา