"ฟุงาคุ อย่าจริงจังมากนัก นี่คุณกำลังทำให้เด็กๆกลัวอยู่นะ" มิโคโตะจ้องไปที่เขาและพูดว่า "ชินหยู เดี๋ยวน้าจะทําอาหารอร่อยๆให้เธอกินนะ"
"และฉันเองก็มีเรื่องสําคัญที่จะบอกเช่นกัน"
“เรื่องที่สําคัญ?”
ฟุงาคุและคนอื่นๆตกตะลึง
ชินหยูเองก็เช่นกัน แต่เขามองไปที่ท้องที่พองขึ้นเล็กน้อยของมิโคโตะอย่างรวดเร็ว
"หรือว่าคุณน้าท้องหรอ?!"
คําพูดอย่างกะทันหันของชินหยูนั้น ทําให้การแสดงออกของฟุงาคุหยุดนิ่งไปและถามอย่างรวดเร็ว "มิโคโตะ ที่ชินหยูพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?"
"ชินหยู?" มิโคโตะพูดขึ้น "ฉันเพิ่งไปหาหมอนะทำไมนายถึงรู้ได้น่ะ?"
ในตอนนี้ แม้แต่ฟุงาคุและคนอื่นๆก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกๆ
"บางทีมันอาจเป็นพลังของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปฝางั้นสินะ?" ฟุงาคุขมวดคิ้วและถาม "มิโคโตะ ตั้งแต่นี้ไปเธอทำอะไรระมัดระวังให้มากขึ้นด้วยนะ"
"อิทาจิ ชิซุย ไปช่วยแม่ทำอาหารเถอะ มินาโตะ นายอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ นายกับฉันไม่ได้ดื่มด้วยกันมาปีกว่าแล้วนะ"
"ฮ่ะๆๆ ขอบคุณครับคุณฟุงาคุ ผมเองก็ไม่ได้ทานอาหารของคุณมิโคโตะนานแล้วเหมือนกัน" มินาโตะพูดอย่างขอบคุณ
"มินาโตะ นายน่ะเข้าไปนั่งรอได้เลยนะ" หลังจากนั้น ฟุงาคุจึงมองไปที่ชินหยูและพูดว่า "ชินหยู นายน่ะมากับฉัน ฉันอยากคุยกับนายเป็นการส่วนตัว"
"ได้สิ!" ชินหยูไม่ได้ปฏิเสธเพราะในอดีต ร่างเดิมของเขานั้นให้การเคารพครอบครัวของฟุงาคุมาก
หลังจากนั้นชินหยูจึงเอาสามหางไปฝากไว้กับอิทาจิที่ตกใจเมื่อเห็นสามหางตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอดของเขา
"ฝากนายให้อาหารมันทีนะ มันไม่ทำอะไรนายหรอก"
"ใช่ ใช่ นายท่านพูดถูก แค่ให้อาหารข้าสักหน่อยข้าจะก็อยู่เฉยๆให้" สามหางไม่ได้สนใจการดูหมิ่นของชินหยูเลย
เมื่อมองไปที่สัตว์หางตกลงเพื่อแลกกับอาหาร ชินหยูจึงพอใจ
ความแตกต่างอย่างมากนี้ทําให้ มินาโตะเองก็รู้สึกหมดคำพูดเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงตกใจกับวิธีการของชินหยูอยู่ดี
ถ้าหากเขาเจอสัตว์หางตัวอื่นจริงๆ เขาจะทำให้มันเชื่องเหมือนกับสามหางได้ไหม?
บางที ถ้าชินหยูได้สัตว์หางมาไว้เพิ่ม นินจาทั้งหมดในหมู่บ้านอาจจะตัวสั่นด้วยความกลัวก็ได้
หลังจากนั้น ชินหยูจึงเดินตามฟุงาคุไปจนสุดทางห้องใต้ดิน
เมื่อเห็นคาถาปิดผนึกลึกลับถูกลบออกโดยฟุงาคุทีละขั้น ชินหยูจึงรู้ทันทีว่าจุดประสงค์ของเขานั้นน่าจะเป็นพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ
หลังจากผ่านทางเดินห้องสุดท้าย ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงหน้าประตูที่ถูกปิดผนึก
ประตูนี้ถูกสร้างมาจากเหล็กจักระหนาพิเศษและมีความสามารถในการดูดซับจักระมาก
ซึ่งทำให้มันสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงระดับหนึ่งได้
ซึ่งคาถาที่ใช้ปิดผนึกนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกเปิดออกด้วยคาถาเกรด S เท่านั้น
"ชินหยู นายน่าจะพอเดาได้ว่านี่คือพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ นอกจากผู้นำตระกูลของแต่ละรุ่นแล้ว ยังมีผู้ที่สามารถเบิก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเท่านั้นที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้" ฟุงาคุพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครั้งนี้ นายจะต้องเป็นคนเปิดมัน"
ชินหยูไม่ได้ปฏิเสธคำขอนั้น เขาก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว พร้อมกับเนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำที่ค่อยๆปรากฎขึ้นและคลายผนึกนั้นอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาต่อมา ดวงตาของชินหยูได้กลายเป็นสีแดงสนิท
จักระจํานวนมากกำลังพุ่งเข้ามาในจิตใจของชินหยูอย่างรวดเร็ว
"ฮึ มาดาระงั้นเรอะ ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว!" ชินหยูพูดอย่างเย็นชาพร้อมกับจักระจํานวนมหาศาลที่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง
นี่คือคาถาปิดผนึกของมาดาระ เมื่อถูกเปิดใช้งานโดยเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา มันจะสร้างการโจมตีด้วยภาพลวงตาเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของผู้สืบทอดตระกูล
เมื่อมองไปที่ชินหยูที่ได้สติอย่างรวดเร็วนั้น ท่าทีของฟุงาคุก็เปลี่ยนไป
นี่เป็นครั้งแรกที่ชินหยูเข้าสู่เขตพื้นที่ต้องห้าม และแม้ว่าเขาจะเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ก็ไม่มีทางที่เขาจะทำได้อย่างชินหยูแน่ๆ
ตอนที่ฟุงาคุเขามาพื้นที่ต้องห้ามครั้งแรก เขาใช้เวลาหนึ่งนาทีเพื่อหลุดออกมาจากภาพลวงตานั้น และได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะต่อจากพ่อของเขาซึ่งเป็นผู้นำตระกูลคนก่อน
แต่ตอนนี้ ชินหยูกลับใช้เวลาเพียงสั้นราวกับแค่หายใจออกมาเท่านั้น ความแตกต่างอย่างมากนี้ทําให้ฟุงาคุนั้นตกใจมาก
ถ้าหากเขาเป็นอัจฉริยะของตระกูล ชินหยูที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คงเป็นปีศาจที่อยู่ในร่างมนุษย์ของตระกูล
"ไปกันเถอะ" ชินหยูเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในห้องลับนี้
ข้างในนั้นมีม้วนคัมภีร์อยู่มากมายและแผ่นศิลาที่มีรูปของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาสลักอยู่
ฟุงาคุกลับมาตั้งสติอีกครั้งแล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
"นี่คือที่ที่ตระกูลอุจิวะเก็บม้วนคัมภีร์คาถาและทรัพย์สินของตระกูลเอาไว้ ส่วนแผ่นศิลาตรงนั้น นายสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเพื่ออ่านมันได้ บางทีนายอาจจะรู้อะไรบางอย่างเพิ่มก็ได้"
"แต่ก่อนหน้านั้น ฉันอยากรู้ว่านายกําลังคิดอะไรอยู่ นายวางแผนที่จะทำแบบที่มาดาระทำอีกครั้งหรือไม่?"
เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ สายตาของฟุงาคุก็เปลี่ยนไป เขาต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการแสดงออกของชินหยู
"ถ้าฉันบอกว่าฉันได้เจอกับมาดาระในสนามรบล่ะ นายจะเชื่อฉันไหม" ชินหยูยิ้มและมองเข้าไปในดวงตาของฟุงาคุ
คำพูดของชินหยูนั้นทำให้ฟุงาคุถึงกับนิ่งไปทันที
“นาย…นายไปเจอกับเขาแล้ว และนายก็ไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของเขาจริงๆ" การแสดงออกของฟุงาคุเปลี่ยนไปอย่างมาก
จากการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขา ชินหยูจึงมั่นใจมากขึ้นว่ามาดาระนั้นไม่เคยยอมแพ้ในการสรรหาตัวแทนในการล้างแค้น ซึ่งฟุงาคุที่เบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้ก็เป็นเพราะเกือบตกอยู่ในการควบคุมของมาดาระ
ยิ่งไปกว่านั้น ตราบใดที่เขาสามารถควบคุมผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลอุจิวะได้ มันจะไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขาที่จะล้างแค้นโคโนฮะ
"ดูเหมือนว่านายจะประเมินฉันต่ำเกินไปนะ" ชินหยูส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและพูดว่า "เขาต้องการให้ฉันสืบทอดเจตจํานงของเขาจริงๆ แต่ถ้าฉันบอกนายว่าฉันฆ่าเขาไปแล้ว นายจะเชื่อไหม?"
"นายฆ่าเขาไปแล้วงั้นเหรอ?"
ฟุงาคุถาม
ในความคิดของพวกเขา อุจิวะ มาดาระนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปรียบเสมือนพระเจ้า
หลังจากที่เบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาแล้ว ฟุงาคุก็เคยติดต่อกับเขามาก่อน แน่นอนว่าเขารู้ดีว่ามาดาระนั้นน่ากลัวแค่ไหน
"ใช่ เขาน่ะตายไปแล้ว และฉันก็ไม่จําเป็นต้องโกหกนายด้วย" ชินหยูพูดอย่างจริงจัง
ฟุงาคุเงียบไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า "เมื่อสิบปีก่อน ฉันเคยเจอกับเขามาก่อนเหมือนกัน แม้ว่าเขาจะแก่มากแล้ว แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าฉันในตอนนี้มาก"
"และเพื่อความอยู่รอดของตระกูลอุจิวะ ฉันจึงต่อสู้กับเขา น่าเสียดายที่ฉันไม่มีความสามรถเหมือนกับนายในตอนนี้"
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายน่าจะได้เห็นความเสื่อมโทรมของตระกูลอุจิวะ อันที่จริง ถ้าเขาไม่เอาคาถาต้องห้ามทั้งหมด และสิ่งของอื่นๆของตระกูลอุจิวะออกไป ตระกูลอุจิวะก็คงจะไม่เป็นแบบนี้"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved