ตอนที่ 87 พื้นที่ต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ

"ฟุงาคุ อย่าจริงจังมากนัก นี่คุณกำลังทำให้เด็กๆกลัวอยู่นะ" มิโคโตะจ้องไปที่เขาและพูดว่า "ชินหยู เดี๋ยวน้าจะทําอาหารอร่อยๆให้เธอกินนะ"

"และฉันเองก็มีเรื่องสําคัญที่จะบอกเช่นกัน"

“เรื่องที่สําคัญ?”

ฟุงาคุและคนอื่นๆตกตะลึง

ชินหยูเองก็เช่นกัน แต่เขามองไปที่ท้องที่พองขึ้นเล็กน้อยของมิโคโตะอย่างรวดเร็ว

"หรือว่าคุณน้าท้องหรอ?!"

คําพูดอย่างกะทันหันของชินหยูนั้น ทําให้การแสดงออกของฟุงาคุหยุดนิ่งไปและถามอย่างรวดเร็ว "มิโคโตะ ที่ชินหยูพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?"

"ชินหยู?" มิโคโตะพูดขึ้น "ฉันเพิ่งไปหาหมอนะทำไมนายถึงรู้ได้น่ะ?"

ในตอนนี้ แม้แต่ฟุงาคุและคนอื่นๆก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกๆ

"บางทีมันอาจเป็นพลังของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปฝางั้นสินะ?" ฟุงาคุขมวดคิ้วและถาม "มิโคโตะ ตั้งแต่นี้ไปเธอทำอะไรระมัดระวังให้มากขึ้นด้วยนะ"

"อิทาจิ ชิซุย ไปช่วยแม่ทำอาหารเถอะ มินาโตะ นายอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ นายกับฉันไม่ได้ดื่มด้วยกันมาปีกว่าแล้วนะ"

"ฮ่ะๆๆ ขอบคุณครับคุณฟุงาคุ ผมเองก็ไม่ได้ทานอาหารของคุณมิโคโตะนานแล้วเหมือนกัน" มินาโตะพูดอย่างขอบคุณ

"มินาโตะ นายน่ะเข้าไปนั่งรอได้เลยนะ" หลังจากนั้น ฟุงาคุจึงมองไปที่ชินหยูและพูดว่า "ชินหยู นายน่ะมากับฉัน ฉันอยากคุยกับนายเป็นการส่วนตัว"

"ได้สิ!" ชินหยูไม่ได้ปฏิเสธเพราะในอดีต ร่างเดิมของเขานั้นให้การเคารพครอบครัวของฟุงาคุมาก

หลังจากนั้นชินหยูจึงเอาสามหางไปฝากไว้กับอิทาจิที่ตกใจเมื่อเห็นสามหางตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอดของเขา

"ฝากนายให้อาหารมันทีนะ มันไม่ทำอะไรนายหรอก"

"ใช่ ใช่ นายท่านพูดถูก แค่ให้อาหารข้าสักหน่อยข้าจะก็อยู่เฉยๆให้" สามหางไม่ได้สนใจการดูหมิ่นของชินหยูเลย

เมื่อมองไปที่สัตว์หางตกลงเพื่อแลกกับอาหาร ชินหยูจึงพอใจ

ความแตกต่างอย่างมากนี้ทําให้ มินาโตะเองก็รู้สึกหมดคำพูดเช่นกัน

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงตกใจกับวิธีการของชินหยูอยู่ดี

ถ้าหากเขาเจอสัตว์หางตัวอื่นจริงๆ เขาจะทำให้มันเชื่องเหมือนกับสามหางได้ไหม?

บางที ถ้าชินหยูได้สัตว์หางมาไว้เพิ่ม นินจาทั้งหมดในหมู่บ้านอาจจะตัวสั่นด้วยความกลัวก็ได้

หลังจากนั้น ชินหยูจึงเดินตามฟุงาคุไปจนสุดทางห้องใต้ดิน

เมื่อเห็นคาถาปิดผนึกลึกลับถูกลบออกโดยฟุงาคุทีละขั้น ชินหยูจึงรู้ทันทีว่าจุดประสงค์ของเขานั้นน่าจะเป็นพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ

หลังจากผ่านทางเดินห้องสุดท้าย ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงหน้าประตูที่ถูกปิดผนึก

ประตูนี้ถูกสร้างมาจากเหล็กจักระหนาพิเศษและมีความสามารถในการดูดซับจักระมาก

ซึ่งทำให้มันสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงระดับหนึ่งได้

ซึ่งคาถาที่ใช้ปิดผนึกนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกเปิดออกด้วยคาถาเกรด S เท่านั้น

"ชินหยู นายน่าจะพอเดาได้ว่านี่คือพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ นอกจากผู้นำตระกูลของแต่ละรุ่นแล้ว ยังมีผู้ที่สามารถเบิก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเท่านั้นที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้" ฟุงาคุพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ครั้งนี้ นายจะต้องเป็นคนเปิดมัน"

ชินหยูไม่ได้ปฏิเสธคำขอนั้น เขาก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว พร้อมกับเนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำที่ค่อยๆปรากฎขึ้นและคลายผนึกนั้นอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาต่อมา ดวงตาของชินหยูได้กลายเป็นสีแดงสนิท

จักระจํานวนมากกำลังพุ่งเข้ามาในจิตใจของชินหยูอย่างรวดเร็ว

"ฮึ มาดาระงั้นเรอะ ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว!" ชินหยูพูดอย่างเย็นชาพร้อมกับจักระจํานวนมหาศาลที่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง

นี่คือคาถาปิดผนึกของมาดาระ เมื่อถูกเปิดใช้งานโดยเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา มันจะสร้างการโจมตีด้วยภาพลวงตาเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของผู้สืบทอดตระกูล

เมื่อมองไปที่ชินหยูที่ได้สติอย่างรวดเร็วนั้น ท่าทีของฟุงาคุก็เปลี่ยนไป

นี่เป็นครั้งแรกที่ชินหยูเข้าสู่เขตพื้นที่ต้องห้าม และแม้ว่าเขาจะเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ก็ไม่มีทางที่เขาจะทำได้อย่างชินหยูแน่ๆ

ตอนที่ฟุงาคุเขามาพื้นที่ต้องห้ามครั้งแรก เขาใช้เวลาหนึ่งนาทีเพื่อหลุดออกมาจากภาพลวงตานั้น และได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะต่อจากพ่อของเขาซึ่งเป็นผู้นำตระกูลคนก่อน

แต่ตอนนี้ ชินหยูกลับใช้เวลาเพียงสั้นราวกับแค่หายใจออกมาเท่านั้น ความแตกต่างอย่างมากนี้ทําให้ฟุงาคุนั้นตกใจมาก

ถ้าหากเขาเป็นอัจฉริยะของตระกูล ชินหยูที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คงเป็นปีศาจที่อยู่ในร่างมนุษย์ของตระกูล

"ไปกันเถอะ" ชินหยูเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในห้องลับนี้

ข้างในนั้นมีม้วนคัมภีร์อยู่มากมายและแผ่นศิลาที่มีรูปของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาสลักอยู่

ฟุงาคุกลับมาตั้งสติอีกครั้งแล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็ว

"นี่คือที่ที่ตระกูลอุจิวะเก็บม้วนคัมภีร์คาถาและทรัพย์สินของตระกูลเอาไว้ ส่วนแผ่นศิลาตรงนั้น นายสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเพื่ออ่านมันได้ บางทีนายอาจจะรู้อะไรบางอย่างเพิ่มก็ได้"

"แต่ก่อนหน้านั้น ฉันอยากรู้ว่านายกําลังคิดอะไรอยู่ นายวางแผนที่จะทำแบบที่มาดาระทำอีกครั้งหรือไม่?"

เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ สายตาของฟุงาคุก็เปลี่ยนไป เขาต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการแสดงออกของชินหยู

"ถ้าฉันบอกว่าฉันได้เจอกับมาดาระในสนามรบล่ะ นายจะเชื่อฉันไหม" ชินหยูยิ้มและมองเข้าไปในดวงตาของฟุงาคุ

คำพูดของชินหยูนั้นทำให้ฟุงาคุถึงกับนิ่งไปทันที

“นาย…นายไปเจอกับเขาแล้ว และนายก็ไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของเขาจริงๆ" การแสดงออกของฟุงาคุเปลี่ยนไปอย่างมาก

จากการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขา ชินหยูจึงมั่นใจมากขึ้นว่ามาดาระนั้นไม่เคยยอมแพ้ในการสรรหาตัวแทนในการล้างแค้น ซึ่งฟุงาคุที่เบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้ก็เป็นเพราะเกือบตกอยู่ในการควบคุมของมาดาระ

ยิ่งไปกว่านั้น ตราบใดที่เขาสามารถควบคุมผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลอุจิวะได้ มันจะไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขาที่จะล้างแค้นโคโนฮะ

"ดูเหมือนว่านายจะประเมินฉันต่ำเกินไปนะ" ชินหยูส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและพูดว่า "เขาต้องการให้ฉันสืบทอดเจตจํานงของเขาจริงๆ แต่ถ้าฉันบอกนายว่าฉันฆ่าเขาไปแล้ว นายจะเชื่อไหม?"

"นายฆ่าเขาไปแล้วงั้นเหรอ?"

ฟุงาคุถาม

ในความคิดของพวกเขา อุจิวะ มาดาระนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปรียบเสมือนพระเจ้า

หลังจากที่เบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาแล้ว ฟุงาคุก็เคยติดต่อกับเขามาก่อน แน่นอนว่าเขารู้ดีว่ามาดาระนั้นน่ากลัวแค่ไหน

"ใช่ เขาน่ะตายไปแล้ว และฉันก็ไม่จําเป็นต้องโกหกนายด้วย" ชินหยูพูดอย่างจริงจัง

ฟุงาคุเงียบไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า "เมื่อสิบปีก่อน ฉันเคยเจอกับเขามาก่อนเหมือนกัน แม้ว่าเขาจะแก่มากแล้ว แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าฉันในตอนนี้มาก"

"และเพื่อความอยู่รอดของตระกูลอุจิวะ ฉันจึงต่อสู้กับเขา น่าเสียดายที่ฉันไม่มีความสามรถเหมือนกับนายในตอนนี้"

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายน่าจะได้เห็นความเสื่อมโทรมของตระกูลอุจิวะ อันที่จริง ถ้าเขาไม่เอาคาถาต้องห้ามทั้งหมด และสิ่งของอื่นๆของตระกูลอุจิวะออกไป ตระกูลอุจิวะก็คงจะไม่เป็นแบบนี้"