"คุณจิไรยะ คุณก็พูดเกินไป" ชินหยูยิ้มเล็กน้อย
"ผมแค่อยากอยู่เงียบๆและผมเองก็อยากเขียนหนังสือเล่มเล็กๆเหมือนกับคุณ ชีวิตของผมน่ะยังเต็มไปด้วยความหมายมากมาย ถ้าหากผมไม่ได้ถูกแสดงพลังของผมออกมา มันก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้หรอก"
ชินหยูถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "น่าเสียดายที่ผมน่ะใจอ่อนเกินไป ผมจึงต้องช่วยเหลือพรรคพวกของผม"
จิไรยะถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของชินหยู คําพูดเของเขานั้นไม่ต่างจากที่มินาโตะพูดถึงเขามากนัก
แต่น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่จิไรยะต้องการ
"ชินหยู นายควรจะรู้เอาไว้ว่าเมื่อนายเลือกที่จะทำอะไรแล้ว นายจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้" จิไรยะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครั้งนี้ฉันกลับมาเพราะฉันอยากรู้ว่านายกำลังคิดยังไงกับสถานในการณ์ในสงครามโลกนินจาครั้งที่สามของโคโนฮะ"
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่สะพานคันนาบิกําลังจะเริ่มต้นขึ้น
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ตัวแปรที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือชินหยู
ด้วยความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมา เขาสามารถต่อสู้กับศัตรูนับพันได้อย่างง่ายดายด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว
ถ้าหากเขาเลือกที่จะแปรพักต์ มันจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่สําหรับโคโนฮะ
"ไม่ต้องห่วง ผมจะไปที่นั่น" ชินหยูยิ้มและพูดว่า "และการต่อสู้ที่สะพานคันนาบิโคโนฮะจะเป็นฝ่ายชนะ"
จิไรยะนั้นไม่ได้คิดเลยว่าชินหยูจะเห็นด้วยง่ายๆแบบนี้
และเรื่องนี้มันสามารถช่วยแก้ปัญหาความกังวลของเขากับหมู่บ้านโคโนฮะได้อีกด้วย
แทนที่จะให้ชินหยูอยู่แต่ในโคโนฮะแล้วถูกจับตามองเอาไว้
มันคงจะดีกว่าถ้าให้ชินหยูกับมินาโตะไปสนามรบที่นั่นด้วยกัน
อย่างน้อย มันก็ทําให้โคโนฮะมีกำลังที่แข็งแกร่งขึ้น
"แต่ถึงอย่างนั้น ฉันเองก็มีเงื่อนไขของฉัน" จู่ๆชินหยูก็พูดขึ้น
จิไรยะสะดุ้งและพูดว่า "นายมีเงื่อนไขอะไรเรอะ? ถ้าหากว่ามันไม่กระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของโคโนฮะ ฉันก็เห็นด้วยกับนาย"
"ไม่ต้องห่วง อย่าทำเหมือนกับว่าผมเป็นคนอันตรายแบบนั้นเลย ผมบอกว่าผมแค่อยากอยู่เฉยๆมากกว่าเสอนหน้าตัวเองให้เด่นกว่าชาวบ้านเขา แต่น่าเสียดายที่คนทั่วไปนั้นมักจะกลัวต่อคนที่มีชื่อเสียง ผมก็เลยไม่มีทางเลือกน่ะ" ชินหยูยิ้มเล็กน้อย
เดิมทีชินหยูนั้นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มินาโตะไม่มียันต์อัญเชิญย้อนกลับไปที่ภูเขาเมียวโบคุอยู่กับตัวเขา
แต่เขาเองไม่ก็คิดว่าจู่ๆจะได้เจอกับจิไรยะแบบนี้
นี่ช่างเป็นโชคของเขาอย่างแท้จริง
"นายอยากให้ฉันสอนคาถาอัญเชิญสินะ?" จิไรยะเลิกคิ้วและพูดต่อว่า "มินาโตะน่ะบอกฉันว่า เขาบอกฉันว่านายต้องการทำสัญากับกบที่ภูเขาเมียวโบคุ"
“เรื่องนั้นน่ะไม่ใช่ปัญหา แต่ฉันต้องขอเตือนนายไว้ก่อนว่านายจะต้องไม่มีเจตนาที่คิดร้ายต่อภูเขาเมียวโบคุเด็ดขาด มิฉะนั้น ฉันจะเอาสัญญาจากนายคืนมา"
ในฐานะเซียนกบแห่งภูเขาเมียวโบคุนั้น จิไรยะจึงได้สิทธิพิเศษมากมายจากภูเขาเมียวโบคุ
จิไรยะสามารถใช้โหมดเซียนโดยที่ใช้ควบคู่กับเซียนกับทั้งสองตัวจากภูเขาเมียวโบคุได้
"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก แต่ผมขอกินราเม็งให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปทำสัญญาแล้วกันนะ" ชินหยูยิ้มและมองไปที่ลุงอิจิราคุที่กําลังเดินออกมา
กลิ่นหอมของราเม็งนั้นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งร้าน
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่าง จิไรยะ กับ ชินหยู อิจิราคุก็รู้สึกโล่งใจออกมา
"ราเม็งได้แล้วล่ะ เอ้าๆจิไรยะเอาสาเกไปสิ"
"ทําไมนายถึงให้ฉันดื่มล่ะ? นายไม่กลัวว่าฉันจะเมาและพูดเรื่องไร้สาระออกมาอีกรึไง?"
"ฮ่าๆๆๆ คุณจิไรยะ คุณกำลังกินราเม็งกับเด็กๆตั้งสามคนไม่ใช่เหรอ? ถ้านายเป็นแบบนั้นแล้วเมากลับไม่ไหวเดี๋ยวเด็กๆก็ช่วยนายเองแหละ"
อิทาจิ กับ ยูกาโอะ ไม่ได้พูดอะไรแล้วรีบโซ้ยราเม็งอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นสีหน้าที่กังวลของพวกเขา ชินหยูจึงรู้ว่าพวกเขาเองก็อยากเห็นการทำสัญญาอัญเชิญอย่างแน่นอน
เพราะมีคนน้อยมากที่สามารถทำสัญญาคาถาอัญเชิญที่เป็นแบบเดียวกับโฮคาเงะในอนาคตได้
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำสัญญาได้จริงๆ แต่ความแข็งแกร่งของสัตว์อัญเชิญที่ถูกอัญเชิญออกมานั้นจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ผู้ใช้ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับป่าแห่งทาก ถ้ำงู และภูเขาเมียวโบคุนั้น ทั้งสามสถานที่นั้นมีความแตกต่างออกไปอย่างมาก
เพราะการทำสัญญาอัญเชิญกับสามสถานที่นี้เป็นสถานที่ที่สามนินจาในตำนานทำสัญญาอัญเชิญเอาไว้
และตอนนี้ ชินหยูเองก็กำลังจะได้ทำสัญญากับภูเขาเมียวโบคุ ซึ่งนี่คือข้อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของชินหยูได้เป็นอย่างดี
"อิ่มแล้วล่ะ ขอบคุณสําหรับอาหารครับ/ค่ะ" ยูกาโอะ กับ อิทาจิ พูดพร้อมกัน
รู้สึกถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาทั้งสองคน ความอยากอาหารของชินหยูก็ลดลงทันที
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ได้ทำสัญญาอัญเชิญกับภูเขาเมียวโบคุแล้ว เขาจะสามารถหาวิธีฝึกโหมดเซียนได้ในภายหลัง ซึ่งทำให้ชินหยูรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เขากำลังรออยู่ได้ในอนาคต
"พวกเธอสามคนน่ะ อย่าเอาแต่จ้องมาที่ฉันตลอดเวลาแบบนั้นสิ ความสุขในการดื่มของฉันมันแทบจะหายไปหมดแล้วนะ" จิไรยะเองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เขาตบกระเป๋าเงินของเขาและพูดว่า "ครั้งนี้ฉันเลี้ยงเอง เพราะนานๆทีฉันจะได้กลับมาที่โคโนฮะ และฉันก็ต้องเลี้ยงเจ้าเด็กนั่นอยู่แล้ว"
"มันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันเอาเงินไปเข้าบ่อน้ำร้อนรวมน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ"
เมื่อนึกถึงบ่อน้ำพุร้อนรวมที่มีสาวๆแช่อยู่ในบ่อนั้น ใบหน้าของจิไรยะก็แสดงให้เห็นร่องรอยของหื่นกามออกมา
"เอาล่ะ ไปกันเถอะ อย่าเที่ยวไปบอกกับใครแล้วกันว่าคุณคือจิไรยะหลังจากที่ออกจากร้านน่ะ เพราะตอนนี้คุณดูเหมือนกับขี้เมาคนนึงเท่านั้นและมันช่างน่าอับอายเหลือเกิน" ชินหยูชำเลืองไปมองจิไรยะและเดินนําออกไปพร้อมกับ อิทาจิ และ ยูกาโอะ
"ไอ้หนู นายพูดเรื่องอะไรน่ะ? นายน่ะยังเด็ก นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกของผู้ใหญ่นั้นคืออะไร ถ้าหากนายได้รู้สึกถึงสิ่งเดียวกับที่ฉันคิดล่ะก็ มันจะช่วยให้นายเปิดมุมมองที่มีต่อโลกเพิ่มได้นะ นายไม่จําเป็นต้องอยู่เฉยๆตลอดเวลาหรอก หันทำอะไรให้ชีวิตมันมีสันบ้างเถอะ" หลังจากที่จิไรยะจ่ายเงินแล้ว เขาก็รีบตามชินหยูไป
เมื่อทั้งสี่คนจากไป ร่างๆหนึ่งก็ปรากฎออกมาจากเงามืดและเดินไปที่นินจาของหน่วยรากอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่อิทาจิเดินตามมาได้สักพัก ในที่สุดชินหยูก็มาถึงแอ่งน้ำที่เงียบสงบแห่งหนึ่งนอกหมู่บ้าน
เขามองไปรอบๆและเห็นว่ามีคนอยู่ไม่กี่คนรอบๆเท่านั้น ซึ่งในกลางของพื้นที่นี้เปิดโล่งมากและมีหุ่นไล่กาจํานวนมากที่ใช้สําหรับฝึกดาบและร่องรอยของความเสียหายจากการโจมตีที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น
ดูเหมือนว่าอิทาจิในตอนนี้จะแข็งแกร่งไม่แพ้กับชิซุยเลย
"ฉันไม่คิดเลยว่าตระกูลอุจิวะจะมีอัจฉริยะถึงสามคนในตอนนี้ ด้วยอายุแค่เจ็ดปีแต่ความสามารถในการฝึกฝนกลับก้าวหน้าไปได้มากขนาดนี้ ถ้าหากเขาอายุเท่านั้น จิไรยะคนนี้ก็คงจะต้องแพ้แน่ๆ”
“ไม่หรอกครับ ตอนนี้คุณเองก็เป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนานแล้ว การที่คุณถูกยอมรับด้วยฐานะนั้นได้คุณก็คงจะสุดยอดมากๆเหมือนกับไม่ใช่เหรอครับ?”
นี่เป็นพูดคุยกันของอัจฉริยะแห่งอุจิวะกับหนึ่งในสามนินจาในตำนาน
"เจ้าหนู ทําไมนายไม่มาเป็นลูกศิษย์ของฉันล่ะ ถ้านายเป็นลูกศิษย์ฉันล่ะก็นายจะได้ออกผจญภัยไปกับฉันด้วยนะ" จู่ๆ จิไรยะก็พูดชวนอิทาจิโดยไม่ทันตั้งตัว
อิทาจิถึงกับสะดุ้ง เขาส่ายหัวและพูดว่า "เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นผมก็อยากให้พี่ชายของผมไปกับผมด้วย"
"ให้เจ้านั่นไปด้วยงั้นเหรอ?" จิไรยะหันไปมองไปที่ชินหยูและพูดว่า "ถ้านายเอาแต่ตามเจ้านั่นนายก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้นได้ในแบบของเจ้านั่น แต่ถ้านายติดตามฉัน ฉันก็จะทำให้นายแข็งแกร่งขึ้นในแบบของฉันได้เหมือนกัน"
"นายจะต้องรู้ก่อนว่าโลกใบนี้น่ะกว้างใหญ่มาก บางอย่างนั้นได้มาอย่างง่ายดายมากราวกับว่านายกำลังอยู่บนสวรรค์ด้วยซ้ำ ตราบใดที่นายพยายามมากพอล่ะก็นะ"
จิไรยะพูดแล้วรีบเข้าไปหาชินหยูทันที
ชินหยูเหลือไปมองเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดว่า "คุณจิไรยะ ถ้าหากคุณต้องการสร้างปัญหาล่ะก็ ให้กลับไปสร้างปัญหากับมินาโตะเถอะ ตอนนี้สะพานคันนาบิกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะฉะนั้นรีบทำสัญญานี่ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูดทีหลังก็ได้"
"เฮอะ นายนี่นะ แข็งทื่ออย่างกับขอนไม้ชะมัด" จิไรยะพูดด้วยความเบื่อหน่าย
แต่ถึงอย่างนั้น อักขระบางอย่างก็ปรากฎขึ้นบนร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
"เอาล่ะเจ้าหนู นี่คือคัมภีร์สัญญาของภูเขาเมียวโบคุ นายสามารถอัญเชิญกับของภูเขาเมียวโบคุได้หลังจากที่ลงชื่อของนายลงไปในสัญญาบนคัมภีร์นี้เท่านั้น" จิไรยะคลี่ม้วนคัมภีร์ขนาดใหญ่ออก
“จริงสิ ถ้าหากนายมีสัตว์อัญเชิญตัวอื่น นายจะต้องสามารถยกเลิกสัญญาก่อนเท่านั้น กบในภูเขาเมียวโบคุน่ะส่วนใหญ่มักจะชอบหัวร้อน หากพวกมันรู้ว่านายมีสัตว์อัญเชิญอยู่ก่อนแล้ว นายจะต้องโดนเจ้าพวกนั้นเล่นงานแน่"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved