ตอนที่ 37 ที่นี่คนเยอะนะ

บรรยากาศภายในห้องทำงานของโฮคาเงะในตอนนี้เต็มไปด้วยความกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้

เมื่อเผชิญกับความโกรธของโฮคาเงะรุ่นที่สาม สีหน้าของโคฮารุและโฮมุระก็เปลี่ยนไปมาก

แต่เมื่อได้รู้ว่าดันโซส่งคนไปจัดการชินหยูนั้น พวกเขาก็ไม่พอใจไม่เหมือนกัน

"เฮอะ ซารุโทบิ นายน่ะไม่ใช่นายคนเดิมอีกต่อไปแล้ว" ดันโซพูดอย่างเย็นชา ทัศนคติของเขาที่มีต่อโฮคาเงะรุ่นที่สามนั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะทําอะไร โฮคาเงะรุ่นที่สามก็จะทำเป็นหลับตาข้างนึงมาตลอด

เขาเองก็พยายามหลายครั้งเพื่อให้ได้มาซึ่งตําแหน่งโฮคาเงะ แต่เขาก็ยังพ่ายแพ้ต่อฮิรุเซ็น

หากไม่ใช่เพราะประโยชน์ของโคโนฮะและความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีหน่วยรากของดันโซอาจจะไม่มีอยู่ก็ได้

"ไม่ต้องห่วง คนที่ฉันไปในครั้งนี้ไม่ได้มาจากโคโนฮะ พวกมันเป็นนินจาเร่ร่อน ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง พวกมันจะไม่รู้ตัวตนของฉันอยู่ดี" ดันโซพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ

"ถ้าพวกมันทำไม่สำเร็จ ชินหยูก็จะคิดแค่ว่าพวกมันมาจากหมู่บ้านอื่นเท่านั้น"

หลังจากที่พูดจบ ดันโซก็หันหลังและเดินจากไป

เมื่อมองไปที่ประตูที่ปิดลง โฮคาเงะรุ่นที่สามก็อดไม่ได้ที่จะเอามือกุมขมับของเขา

"ซารุโทบิ นายจะทำยังไงต่อล่ะ?" โฮมุระอดไม่ได้ที่จะถาม

โคฮารุยังไม่พูดอะไร เธอกำลังมองไปที่โฮคาเงะรุ่นที่สามเพื่อฟังคำตอบ

พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ดันโซพูดนั้นคือการประนีประนอมที่ดีที่สุดแล้ว

ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโฮคาเงะรุ่นที่สาม

"เจ้าดันโซนั่นชอบทําให้ฉันปวดหัวจริงๆ" โฮคาเงะรุ่นที่สามถอนหายใจออกมายาวๆ

"ส่งคนไปแจ้งมินาโตะว่ามีนินจาเร่ร่อนปรากฏตัวขึ้นในแคว้นไฟและบอกให้พวกเขาระวังตัวด้วย"

ในความคิดของโฮคาเงะรุ่นที่สาม สิ่งที่ดันโซทำนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของโคโนฮะ

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็รู้แค่ว่าดันโซใช้วิธีการบางอย่างเพื่อติดต่อกับนินจาเร่ร่อน

ไม่มีใครรู้ว่านินจาเร่ร่อนเหล่านี้เป็นใครด้วยซ้ำ

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดนินจาที่เร่ร่อนเหล่านั้นได้

วิธีเดียวคือแจ้งมินาโตะให้เพิ่มความระมัดระวังในระหว่างการเดินทางกลับหมู่บ้าน

ถ้าหากชินหยูรอดกลับมาได้ จะถือว่าเขานั้นแข็งแกร่งในระดับนึงเช่นกัน

ถ้าหากเขาถูกฆ่าตายระหว่างทาง ทุกอย่างจะเหมือนว่าสิ่งที่ดันโซพูดนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"สิ่งที่ซารุโทบิพูดนั้นถูกต้อง นี่เป็นสิ่งเดียวที่พวกเราสามารถทําได้ในตอนนี้" โฮมุระพยักหน้าเห็นด้วย "สถานการณ์ในแคว้นไฟกําลังอยู่ในความโกลาหล ความเร็วของการโจมตีและรูปแบบสงครามของแคว้นดินเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน"

“ดูเหมือนว่าสงครามที่กินเวลาเกือบสองปีนี้กําลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่ช้าแล้ว ตราบใดที่มินาโตะกลับมาถึงโคโนฮะได้ เขาจะนํากลุ่มของเขาไปยังแคว้นดินเพื่อปฏิบัติภารกิจสุดท้ายให้สำเร็จได้"

…..

โลกภายนอก

ทันทีที่ดันโซออกจากห้องทำงานของโฮคาเงะนั้น ฟูและโทรุเนะ ก็ปรากฏตัวขึ้นในเงามืด

"ท่านดันโซ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไหมครับ?" ฟูไม่สามารถเก็บความสงสัยได้อีกต่อไป

"ท่านจะต้องล้างแค้นให้พ่อของผม"

ทัตสึยะเป็นพ่อของฟูและเป็นลูกน้อยที่มีความสามารถมากที่สุดของดันโซด้วยเช่นกัน

เมื่อเขารู้ว่าฟูเกือบถูกชินหยูฆ่าตาย ทัตสึยะจึงอาสาช่วยเขาเพื่อระบายความโกรธของเขา

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือทัตสึยะจะตายเพราะชินหยูแบบนี้

"ฟู ไม่ต้องห่วงไป นินจาเร่ร่อนที่ฉันติดต่อไปในครั้งนี้เป็นตระกูลเล็กๆที่กำลังจะสิ้นสกุล นอกจากนี้ยังมีอย่างอื่นที่แข็งแกร่งมากด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็จะต้องตายเพราะเขายังขาดประสบการณ์ด้านการต่อสู้อีกมาก" ดันโซพูดขึ้น

การแสดงออกของฟูเปลี่ยนไป "ท่านดันโซ ท่านกําลังพูดถึงสัตว์ประหลาดที่เพิ่งปรากฏตัวในสนามรบต่างๆใช่ไหม?"

โทรุเนะซึ่งเงียบมาตลอด เมื่อได้ยินแบบนี้การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากด้วยเช่นกัน

ถ้าดันโซไปขอความช่วยเหลือจากคนในตํานานคนนั้นจริงๆ ชินหยูจะต้องตายอย่างแน่นอน

การเดินทางจากฐานมาที่โคโนฮะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่วัน และสี่วันนั้นจะต้องเป็นการเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดด้วย

เนื่องจากมินาโตะต้องการกลับไปที่โคโนฮะและตรวจสอบสถานการณ์อย่างเร่งด่วน เขาจึงใช้วิชาเทพสายฟ้าเหินและออกเดินทางไปก่อน

มินาโตะได้บอกว่าเขาสามารถใช้วิชาเทพสายฟ้าเหินเพื่อพาทุกคนไปอย่างรวดเร็วได้ด้วยเช่นกัน

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถูกปฏิเสธโดยชินหยู

วิชาเทพสายฟ้าเหินนั้นไม่แตกต่างจากการกระโดดข้ามมิติของเนตรสังสาระของซาสึเกะมากนัก

แต่ซาสึเกะนั้นสามารถเปิดประตูมิติได้จากทุกทิศทางด้วยเนตรสังสาระ

ในขณะที่มินาโตะต้องใช้อักขระเพื่อใช้วิชาเทพสายฟ้าเหินเพื่อทำการเดินทางข้ามมิติได้เท่านั้น

นอกจากนี้ ด้วยจํานวนคนที่เยอะ การใช้จักระจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

แม้กระทั่งระยะทางของการวาร์ปข้ามมิติเองก็อาจจะสั้นลงด้วย

ดังนั้นชินหยูจึงปฏิเสธ

"ชินหยู ข้างหน้ามีที่พักอยู่ด้วย ทําไมพวกเราถึงไม่พักที่นี่ก่อนสักพักล่ะ?" ฮายาเตะถามอย่างอ่อนล้า

ระหว่างทางนั้น ฮายาะเตะได้รักษาระยะห่างจากชินหยูไว้ตลอดเวลา

แต่การเดินทางเป็นเวลาหลายวันนั้นมันก็ยากเกินไปสําหรับเขา แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากโคโนฮะเพียง 20กิโลเมตรก็ตาม

"ชินหยู สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับเขตรักษาความปลอดภัยของโคโนฮะ ทําไมพวกเราถึงไม่หยุดพักก่อนล่ะ?" ยูกาโอะปาดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากของเธอและเผยให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า

ชินหยูเป็นคนแรกที่หยุดเดินทาง เขาลงไปหยุดข้างล่างและมองไปที่กลุ่มของเขาเล็กน้อย

"ไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าที่นี่อาจจะมีเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดคิดบางอย่างอยู่ก็ได้"

ยูกาโอะตกใจเมื่อเธอได้ยินที่ชินหยูพูด แต่ฮายาเตะนั้นได้วิ่งเข้าไปข้างในแล้ว

"ลุงครับ ขอชาหนึ่งหม้อกับดังโงะสามไม้ให้ผมที" ฮายาเตะนั้นจําได้ว่าโยรุได้ขอให้เขายอมรับว่าชินหยูเป็นผู้นํากลุ่มของเขาในครั้งนี้

เมื่อเห็นชินหยูกำลังเดินเข้ามานั้นเขาจึงรีบพูดว่า "ฉันกำลังสั่งดังโงะเผื่อนายด้วยน่ะ "

เมื่อเห็นสีหน้าของฮายาเตะ ชินหยูก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและพูดว่า "นายกินได้เลย ฉันยังไม่ค่อยหิว"

"คุณลูกค้า ชากับดังโงะได้แล้วครับ" ชายชราหน้าเหี่ยวๆเดินออกมาจากครัว

"นี่เจ้าหนู ฉันแนะนําให้นายลองกินดังโงะก่อนเลย ถ้าหากนายได้ลองกินสักครั้ง นายจะต้องกลับมากินอีกแน่นอน"

"รสชาติของมันจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเองก็พึ่งได้ยินเรื่องนี้" ดวงตาของยูกาโอะเป็นประกายมากขึ้น

พวกเขานั้นไม่ได้รู้สึกผิดปกติเหมือนกับชินหยูเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ปฏิบัติภารกิจนอกหมู่บ้าน

เนื่องจากการเดินทางที่แสนไกล ท้องของพวกเขาจึงร้องโครกครากมาตลอดทั้งทางแล้ว

และเมื่อพวกเขาได้ยินชายชราพูดแบบนี้ พวกเขายิ่งอดไม่ได้ที่จะหยิบดังโงะขึ้นมาแล้วกำลังจะยัดมันเข้าไปในปาก

"เอาล่ะ ดังโงะนี่น่ะฉันว่าอย่าไปกินมาเลยดีกว่า" ทันใดนั้นชินหยูก็คว้ามือของยูกาโอะไว้

ยูกาโอะถึงกับสะดุ้งเมื่อชินหยูคว้ามือของเธอไว้ และทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่เธอพูดว่า "ชินหยู ที่นี่มันคนเยอะนะรีบเอามือออกไปได้แล้ว.."

เมื่อมองไปที่ยูกาโอะที่ทำตัวราวกับเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ชินหยูก็เอามือออกอย่างรวดเร็ว