ตอนที่ 93 การรับน้อง

"เยี่ยมมาก" รูปลักษณ์ที่โหดร้ายปรากฎไปทั่วใบหน้าของดันโซ "ซารุโตบิเป็นคนตาแก่โง่เง่าเท่านั้น เขารู้ว่า อุจิวะ ชินหยู เป็นหมาบ้าที่ทำให้เชื่องไม่ได้ เขาเลยขอให้จิไรยะส่งเขาไปที่ภูเขาเมียวโบคุเพื่อเรียนรู้โหมดเซียน"

"ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขานั้นก็มากพออยู่แล้ว ดังนั้นฉันจะพานายไปที่พื้นที่ของตระกูลเดี๋ยวนี้ล่ะ ฉันอยากฆ่ามันก่อนที่มันจะเรียนรู้โหมดเซียนได้"

"โหมดเซียนงั้นเหรอ?" สีหน้าของโอโรจิมารุมืดมนลง เขานึกถึงการต่อสู้กับจิไรยะในตอนนั้นและพูดอย่างจริงจังว่า "ไม่ต้องห่วง โหมดเซียนไม่ใช่สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ง่ายนักหรอก"

“จิไรยะใช้เวลาถึงสามเดือนในการฝึกฝนมัน แต่ฉันน่ะหาทางเข้าถ้ำเซียนงูยังไม่เจอเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเด็กนั่นจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จได้ และมันก็เป็นการฝึกที่เสี่ยงตายเอามากๆด้วย"

หลังจากที่พูดแบบนั้น ดันโซจึงมองไปที่โอโรจิมารุซึ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ ดันโซเม้มริมฝีปากของเขาเป็นรอยยิ้มและพูดว่า "งั้นก็รีบไปเถอะ เพราะที่เหลือมันขึ้นอยู่กับนายแล้ว"

"ฉันต้องการตัวเด็กคนนั้น ฉันจะทำให้มันเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่มันจะเอาชนะได้!!"

ภายในบ้านของฟุงาคุ ชินหยูและอีกสามคนรีบกลับไปที่ห้องรับแขกทันที

แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นกลับทําให้มินาโตะและคนอื่นๆทำได้เพียงแค่ยิ้มแห้งๆเท่านั้น

ก๊องง! จิไรยะยกมือขึ้นและเขกมันลงบนหัวของมินาโตะทันที

"จะบ้ารเอะ! ถ้าพวกนายไม่โผล่มาแบบนี้ ฉันก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนายอาจจะหนีไปแล้วน่ะ!" จิไรยะบ่นใส่มินาโตะทันที

"นายต้องจําเอาไว้ว่าในฐานะผู้พิทักษ์ สิ่งเดียวที่นายต้องทําคืออย่าปล่อยให้ดันโซหาข้ออ้างที่จะโจมตีชินหยูได้เด็ดขาด"

"แต่ตอนนี้พวกนายกลับเอาเขาออกไปทำอะไรลับๆล่อแทนเนี่ยนะ!!"

เมื่อเห็นว่าจิไรยะไม่ได้ไปถ้ำมองตามปกติ ชินหยูจึงนั่งลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา "ไม่ต้องห่วงหรอก ดันโซน่ะอยากให้ผมตายจะตาย"

"แต่เขาต้องเลือกที่จะทํามันอย่างลับๆ ถ้าฉันคิดไม่ผิด บางทีเขาอาจจะสมคบคิดกับใครสักคนเพื่อเอาจะจัดการฉันอยู่ก็ได้"

"ฉันคิดว่านายเองก็น่าจะได้พบกับเบาะแสบางอย่างและกําลังวางแผนที่จะส่งฉันไปที่ภูเขาเมียวโบคุล่วงหน้าสินะ?"

คําพูดของชินหยูนั้นทําให้บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเปลี่ยนไปทันที

การแสดงออกของจิไรยะหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เขากลอกตาและพูดว่า "ตามที่คิดไว้ ไม่มีทางปิดบังนายได้เลยจริงๆ"

“ฉันมีเรื่องสําคัญที่ต้องจัดการ ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะส่งนายกับมินาโตะไปที่ภูเขาเมียวโบคุเพื่อเรียนรู้โหมดเซียนล่วงหน้า และฉันก็นําม้วนคัมภีร์มาด้วย"

ขณะที่เขาพูด จิไรยะก็ปลดม้วนคัมภีร์ที่เอวของเขาและคลี่ออก

วิธีที่เร็วที่สุดในการไปที่สู่ภูเขาเมียวโบคุ คือการใช้คาถาอัญเชิญย้อนกลับไปที่ภูเขาเมียวโบคุ

แต่ด้วยการเคลื่อนผนึก ทําให้จิไรยะมีพลังจํานวนหนึ่งที่สามารถใช้เพื่อใช้คาถาอัญเชิญย้อนกลับไปยังภูเขาเมียวโบคุได้

"อาจารย์ ผมเองก็ด้วยงั้นเหรอ?" มินาโตะตกตะลึง "สถานการณ์ในโคโนฮะยังไม่คลี่คลายเลยด้วยซ้ำ แล้วผมจะไปได้จริงๆงั้นเหรอ?"

ตอนนี้อิวะงาคุเระกําลังทําสงครามกับคุโมะงาคุเระ

มิซึคาเงะรุ่นที่สามของแคว้นน้ำถูกชินหยูฆ่าตายโดยอ้อม ซึ่งทำให้ซึนะงาคุเระเสียเปรียบ

แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์ในสนามรบก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากมีอะไรเกิดขึ้น มินาโตะยังคงสามารถใช้วิชาเทพสายฟ้าเหินเพื่อมาสนับสนุนได้อย่างรวดเร็ว

"นายน่ะไม่ต้องอะไรมากหรอก" จิไรยะชายตามองและพูดว่า "ถ้าหากนายไม่แข็งแกร่งพอ นายก็คงไม่ได้รับเลือกหรอก และโอกาสแบบนี้น่ะไม่ได้หาได้ง่ายๆนะ"

"แม้ว่าสนามรบจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความแข็งแกร่งของนาย ยังไงนายก็สามารถกลับมาเพื่อช่วยเหลือหมู่บ้านได้"

"เอาล่ะ อย่ามัวเสียเวลามากนักเลย ฉันจะส่งพวกนายสองคนไปที่ภูเขาเมียวโบคุเดี๋ยวนี้แหละ!!"

"คาถาอัญเชิญย้อนกลับ!

มินาโตะอดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อได้ยินคําพูดแปลกๆของจิไรยะ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีเวลาได้ทันตอบสนอง

จิไรยะได้ใช้คาถาอัญเชิญย้อนกลับเพื่อพาพวกเขาทั้งสองคนออกไปแล้ว

ภายในภูเขาเมียวโบคุ บนลานกว้างขนาดใหญ่

นอกจาก ฟุคาซาคุและชิมะแล้ว กามะเก็นกับกามะฮิโระเองก็อยู่ที่นั่นพร้อมกับกลุ่มกับตัวเล็กๆ

"โฮะๆ ฉันไม่คิดเลยว่ามินาโตะจะถูกเรียกตัวมาที่นี่ด้วย พวกนายว่าไงบ้างล่ะ?" ฟุคาซาคุถือไม้เท้าของเขาและถาม

"ท่านว่ายังไง พวกผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ" กามะเก็นพยักหน้าเห็นด้วย

กามะฮิโระเองก็เช่นกัน มันพูดว่า "คราวที่แล้ว เจ้าเด็กนั่นอัญเชิญพวกเราไปจัดการสามหาง ตอนนี้แหละถึงเวลาแล้วที่จะทำให้เจ้าเด็กนั่นรู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของพวกเรา"

"ใช่แล้ว"

"เจ้าเด็กคนนั้นคงต้องอยู่เพื่อฝึกฝนอยู่ที่นี่อีกสักพักแน่ๆ ได้เวลารับน้องแล้วล่ะนะ"

"ว่าแต่มันจะดีจริงๆเหรอ? ความแข็งแกร่งของเด็กคนนั้นสูงมากเลยนะ ถ้าเขาว่าเจ้าเด็กนั่นฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วล่ะ?" ชิมะอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย

ฟุคาซาคุยิ้มและส่ายหัว "ที่นี่คือภูเขาเมียวโบกุ มันคืออาณาเขตของเรา ต่อให้เจ้าเด็กนั่นจะฝึกได้เร็วแค่ไหน แต่ระหว่างการฝึกมันจะทำตัวหยิ่งผยองกับพวกเราได้ยังไง?"

เมื่อมองไปที่ฟุคาซาคุที่ดื้อรั้น ชิมะจึงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่จู่ๆเธอจะสะดุ้งแล้วพูดขึ้น

"พวกเขามาแล้ว!"

ฟุคาซาคุและกลุ่มกบที่ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของพวกมันเผยให้เห็นความตื่นเต้นทันที

"เอาล่ะเตรียมตัวให้พร้อม ได้เวลารับน้องใหม่แล้ว" ฟุคาซาคุตะโกนเสียงดัง

ป๊อง!

ภายในพื้นที่เปิดโล่งอันกว้างใหญ่ของลานกว้าง ทันทีที่ยันต์อักขระปรากฏขึ้น กลุ่มควันสีขาวก็ปรากฎขึ้นพร้อมกับร่างสองร่างที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อเผชิญกับการข้ามมิติที่ไกลแบบนี้ แม้ว่ามินาโตะจะชินกับการใช้วิชาเทพสายฟ้าเหิน แต่เขาก็ยังมีอาการเวียนหัวอยู่บ้าง

เมื่อเขากลับมาได้สติอีกครั้งและเห็นว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ภูเขาเมียวโบคุแล้ว เสียงของอากาศที่ถูกฉีกออกจากทุกทิศทางทําให้รูม่านตาของเขาหดตัว

"คาถาน้ำ กระสุนปืนใหญ่น้ำ!"

กระสุนน้ำจํานวนมากพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับลูกปืนใหญ่ซึ่งมีมากกว่าร้อยลูก

แต่สิ่งที่มินาโตะตกใจก็คือกระสุนน้ำนั้นจะขยายใหญ่ตามขนาดของกบที่ใช้วิชา

โดยเฉพาะกามะเก็นและกามะฮิโระ กระสุนน้ำที่ทั้งสองปล่อยออกมานั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึงหลายสิบมเตร

ถ้ากระสุนน้ำที่ใหญ่ขนาดนั้นเข้ามากระแทกกับร่างของเขาล่ะก็ ร่างกายของเขาจะต้องแตกสลายแน่ๆ

การรับน้องในครั้งนี้เป็นเรื่องที่มินาโตะไม่ได้คิดเอาไว้เลย

"ฮึๆ น่าสนใจดีนะ" จู่ๆชินหยูก็หัวเราะเบาๆ

ทันใดนั้น มินาโตะก็รู้สึกเสียวสันหลังของเขา เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น