ตอนที่ 66 กระสุนวงจักรดาวกระจายวงจักรขนาดยักษ์

ชินหยูแบมือขวาของเขาพร้อมกับกระสุนวงจักรดาวกระจายลมที่เริ่มก่อตัวอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน ร่างแยกสิบร่างก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยที่ถ่ายเทจักระลมลงไปในกระสุนวงจักรในมือของชินหยูอย่างรวดเร็ว

เดิมที นี่เป็นหนึ่งในคาถาที่อยู่ในสมมุติฐานของชินหยูเท่านั้น น่าเสียดายที่เขายังมีจักระไม่พอ และยังไม่มีศัตรูที่เขาควรใช้คาถานี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ฝึกฝนมันและใช้พลังของระบบเพื่อเพิ่มเป็นระดับสูงสุด

แต่เมื่อเขากำลังเผชิญกับคาถาดาราสวรรค์ระเบิดพิภพของมาดาระ ชินหยูจึงต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อใช้คาถานี้เท่านั้น

ด้วยการถ่ายเทจักระลมเข้าไป มันทําให้ขนาดของกระสุนวงจักรนั้นขยายอย่างรวดเร็วและในพริบตามันก็กว้างถึงถึงแปดเมตร

จักระที่ถูกบีบอัดและหมุนอย่างรวดเร็วนั้นทําให้ผิวหนังบนมือของชินหยูเริ่มฉีกขาด

วิ้งง!

เมื่อถึงจุดที่เขาทนจะรับไหวแล้ว ชินหยูจึงเข้าใจว่านี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงคาถาจนถึงขีดจํากัดเท่านั้น แต่จักระในร่างกายของเขาก็แทบจะหมดลงแล้วเช่นกัน

เมื่อมองไปที่อุกกาบาตที่ลุกเป็นไฟซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้ากิโลเมตรที่กำลังตกลงมานั้น ทันใดนั้นกระสุนวงจักรลมขนาดมหึมาในมือของชินหยูก็ถูกปาออกไป

วี้ดดด!

เสียดที่ดังเสียดกับอากาศของลมนั้นดังขึ้น

กระสุนวงจักรลมขนาดมหึมาในมือของชินหยูกลายเป็นกระสุนแสงที่ถูกปาไปสุดแรงจากชินหยู

แม้ว่าจะมีระยะห่างกันถึงห้ากิโลเมตร แต่มันก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นก่อนที่จะเข้าไปปะทะกับอุกกาบาต

และทันใดนั้นการโจมตีจากทั้งสองก็เข้าปะทะกัน

ตู้มมม!

เสียงของการระเบิดนั้นดังสั่นไปทั่วท้องฟ้าราวกับโลกกำลังจะล่มสลาย

กระสุนวงจักรลมขนาดมหึมานั้นกลายเป็นคมดาบหลายร้อยล้านเล่มและพุ่งทะลวงเข้าไปในอุกกาบาตทันที

เปลวไฟและกระแสลมที่เต็มไปด้วยไฟนั้นพุ่งกระจายออกมาบนท้องฟ้าราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังถูกอุกกาบาตขนาดเล็กพุ่งเข้ามาโจมตี

เมื่อมองจากระยะไกล ฉากที่เกิดขึ้นนั้นราวกับว่าท้องฟ้ากําลังลุกเป็นไฟ

ชินหยูซึ่งอยู่ภายใต้การโจมตีนั้นก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถลืมตาขึ้นไปมองได้

และทันใดนั้นคลื่นลมจากการปะทะก็เข้ามากระแทกร่างของชินหยูทันที

บู้มมมมม!

เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า อุกกาบาตขนาดใหญ่นั้นก็กระจายอออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

อุกกาบาตขนาดมหึมาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

ชินหยูซึ่งอยู่ท่ามกลางการโจมตีนั้นถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ร่างแยกเงาสิบร่างรอบตัวเขาก็หายไปแล้วเพราะจักระที่หายไป

แม้แต่ซูซาโนะโอของชินหยูนั้นก็เปราะบางมากจนแทบจะไม่สามารถป้องกันสะเก็ดหินได้

เมื่อทุกอย่างกลับสู่ความสงบ หุบเขาแห่งนี้ก็กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ไปทั่วบริเวณ

แม้แต่พื้นที่ภายนอกหมู่บ้านนั้นก็ยังเต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้

….

ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร เซ็ทสึดำได้ปรากฎตัวออกมาจากความมืด มันตกใจมากเมื่อได้เห็นอุกกาบาตขนาดใหญ่บนท้องฟ้าถูกชินหยูทำลายเป็นชิ้นเล็กๆและทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเศษของอุกกาบาต

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคาถาที่ทำให้มาดาระใช้ก่อนตายนั้นจะถูกทำลายได้ง่ายขนาดนี้

ตอนที่ชินหยู ใช้กระสุนวงจักรสายฟ้ากับกระสุนวงจักรน้ำนั้น มาดาระรู้ได้ทันทีว่าด้วยพลังจากร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียวเขาไม่สามารถเอาชนะ ชินหยูได้

ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสปล่อยให้เซ็ทสึดำหลบหนีไปผ่านพื้นดิน จากนั้นเขาก็ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาโดยตั้งใจจะทำให้ชินหยูตายไปด้วย

ในความคิดของเขา ความแข็งแกร่งของชินหยูนั้นถือว่าดีมาก แต่เขายังขาดคาถาขนาดใหญ่และการโจมตีที่ทรงพลัง

ถ้าใช้เหตุผลแล้ว เขาไม่สามารถต้านทานดาราสวรรค์ระเบิดพิภพได้ แต่น่าเสียดายที่การคาดเดาของเขานั้นยังไม่ดีมากพอ

เพราะสุดท้าน ชินหยูก็เสี่ยงที่จะใช้กระสุนวงจักรขนาดใหญ่พิเศษเพื่อทำลายดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ

“มาดาระ นายบอกว่าถ้าเด็กคนนั้นไม่ตาย นายอยากให้ฉันไปแก้แค้นให้นายงั้นสินะ ฉันล่ะอยากให้นายมาเห็นคาถาของเจ้าเด็กนั่นด้วยตาของนายเองจริงๆ" เซ็ทสึดำพึมพํากับตัวเอง

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เลิกคิดเรื่องนี้ทันที

เซ็ทสึดำจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามกับคู่ต่อสู้ที่แม้แต่มาดาระก็ไม่สามารถเอาชนะได้เด็ดขาด

เขาหันกลับไปมองที่ที่ชินหยูกำลังยืนอยู่ หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและหนีผ่านใต้ดินไปทันที

ภายในเศษซากนั้น ชินหยูกำลังยืนอยู่นิ่งๆพักหนึ่งและถอนหายใจออกมาเบาๆ

"ดูเหมือนว่าเจ้าเซ็ทสึดำนั่นจะหนีไปแล้วสินะ"

ชินหยูเองก็คิดไว้แล้วว่าเซ็ทสึดำจะไม่ตายไปพร้อมกับมาดาระแน่นอน

นอกจากนี้ มาดาระก็จะไม่ปล่อยให้เซ็ทสึดำตายด้วย

ดังนั้นเขาจึงพยายามหลบหนีไปก่อนที่มาดาระจะใช้ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพอย่างแน่นอน

หลังจากที่ชินหยูจัดการกับดาราสวรรค์ระเบิดพิภพและสลายซูซาโนะโอออก เขาก็ไม่ได้ใช้พลังเนตรของเขาอีกเลย

ที่เขาทำแบบนั้นก็เป็นเพียงการล่อให้เซ็ทสึดำออกมา

แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่ามันจะไม่หลงกล

แต่เซ็ทสึดำก็มีชีวิตอยู่มานานกว่าพันปีแล้ว อาจเป็นเพราะมันเอาแต่หนีแบบนี้ก็ได้เลยอยู่มาได้ถึงพันๆปี

"เอาเถอะ ตอนนี้ต้องไปหาร่างของมาดาระก่อน" ชินหยูเงยหน้าขึ้นและพูดกับตัวเอง

หากเขาได้เนตรสังสาระมา เขาจะปลูกถ่ายเซลล์ของฮาชิรามะลงในร่างกายด้วย

ถ้าหากเขาได้ทั้งเนตรและเซลล์ของฮาชิรามะในร่างของมาดาระ มันจะช่วยเขาประหยัดเวลาได้อย่างมาก

แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าชินหยูจะพยายามค้นหาอย่างไร ร่างของมาดาระก็ดูเหมือนจะหายไปในอากาศและเหลือไว้เพียงขี้เถ้าบางส่วนเท่านั้น

ดูเหมือนว่ามาดาระเองก็กังวลว่าร่างกายของเขาจะตกไปอยู่ในมือของชินหยู เมื่อเขาตายเขาจึงทำลายร่างของตัวเอง

"ช่างเป็นคนที่สุดยอดจริงๆ" ชินหยูล้มเลิกความคิดในการค้นหาร่างของมาดาระทันที

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมองหาของใช้ของมาดาระต่อ

ชินหยูประสานอินอย่างรวดเร็วและใช้จักระที่เหลือเพื่อใช้บอลเพลิงยักษ์

แต่ถึงจะเผาพื้นที่โดยรอบเพื่อตรวจสอบ เขาก็ไม่พบอะไรเลยที่หลงเหลือเอาไว้

หลังจากที่พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ชินหยูก็ไม่ได้อยู่ทีนี่อีกต่อไป

ไม่กี่นาทีต่อมา ร่างๆหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาและปรากฎขึ้นต่อหน้ากองไฟที่โหมกระหน่ำ ใบหน้าที่ซีดแต่เดิมของเขากลับซีดลงเรื่อยๆอีก

"ไอ้เด็กบ้านั่น ดูเหมือนว่าฉันจะมาช้าไปสินะ" โอโรจิมารุในตอนนี้กำลังสะกดรอยตามชินหยูอยู่

แม้ว่าเขาจะมาถึงที่นี่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว

แต่เมื่อเขาได้เห็นดาราสวรรค์ระเบิดพิภพบนท้องฟ้า โอโรจิมารุก็ไม่กล้าปรากฎตัวและทำได้เพียงแค่หลบซ่อนเท่านั้น

หลังจากที่ทุกอย่างสงบลงแล้ว เขาก็กล้าที่จะเสี่ยงออกมาเพื่อดูสถานการณ์รอบๆ

"อุกกาบาตเมื่อกี้มาจากชินหยูรึเปล่า? ถ้าหากเป็นเขาจริงๆดูเหมือนว่าฉันจะต้องคิดใหม่เกี่ยวกับเขาแล้ว" สีหน้าของโอโรจิมารุเปลี่ยนไป

เขามองไปทางซ้ายและขวา ด้วยสีหน้าของเขาที่น่าเกลียดมากยิ่งขึ้นไปอีก

"เด็กคนนั้นไม่ได้เหลือศพใครเอาไว้เลยงั้นเรอะ หรือว่ามันจะรู้ว่าฉันสะกดรอยตามมันมาน่ะ?"

อันที่จริง ชินหยูเองก็ไม่รู้ว่าโอโรจิมารุสะกดรอยตามเขามา

สิ่งที่เขาทํานั้นมันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น

แต่ดูเหมือนว่าความบังเอิญของเขาจะเป็นเรื่องที่ดี