ตอนที่ 31 การมีอยู่ของมาดาระ

เมื่อนึกถึงคาถาบอลเพลิงยักษ์ที่ทรงพลังราวกับคาถาต้องห้าม ฟุงาคุก็ยิ้มออกมาด้วยความเหลือเชื่อ

“ฉันคิดว่าฉันน่าจะซ่อนพลังของตัวเองไว้มากแล้วนะ แต่ฉันไม่ได้คิดว่านายจะซ่อนพลังของนายไว้มากกว่าฉันสะอีก นอกจานายจะใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้แล้ว นายยังมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมมากจนนายสามารถใช้คาถาได้ทรงพลังมากขนาดนั้น"

"แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากรู้มาก และเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับการมีอยู่ของตระกูลอุจิวะด้วย"

ชินหยูนั้นไม่ได้อธิบายความเข้าใจผิดของฟุงาคุ

เขาไม่สามารถบอกฟุงาคุได้ตรงๆชินหยูคนเดิมนั้นตายไปแล้ว

และในทางกลับกัน ด้วยความช่วยเหลือจากระบบของเขา เขาจึงเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้ในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

ถ้าหากว่าเขาพูดแบบนี้ออกไปจริงๆ

ชินหยูอาจจะถูกมองว่าเป็นบ้าก็ได้

"คุณกําลังจะถามผมว่าผมรู้จักมาดาระหรือไม่ใช่ไหม?" ชินหยูมองไปที่ฟุงาคุ

เมื่อได้ยินแบบนี้ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อเช่นกัน

แม้ว่าการแสดงออกของเขาจะกลับมาเป็นแบบเดิมอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของชินหยูได้

จากการเปลี่ยนแปลงด้านการแสดงออกของฟุงาคุนั้น

ชินหยูพอจะคาดเดาได้ว่าสาเหตุใหญ่ที่ฟุงาคุไม่ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานั้นเป็นเพราะมาดาระ

ตั้งแต่แรกเริ่มในโลกนี้ มาดาระต้องการใช้ตระกูลของเขาเพื่อทำลายโคโนฮะ

ซึ่งแน่นอนว่ามาดาระได้เลือกฟุงาคุเป็นตัวแทนเพื่อทำลายโคโนฮะ

หลังจากที่เขาช่วยฟุงาคุเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้

แต่เนื่องจากพลังเนตรของฟุงาคุนั้นทรงพลังเกินไป จนทำให้มาดาระที่อยู่ในวัยชรานั้นไม่สามารถควบคุมมันได้เลย จนกระทั่งฟุงาคุหลุดออกจากการควบคุมของมาดาระ

หลังจากนั้นมาดาระจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ อุจิวะ โดได

หลังจากนั้นมาดาระก็คอยบงการโดไดอยู่เบื้องหลังเพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลอุจิวะ

เขาต้องการให้ โดได เข้าร่วมกับดันโซและกําจัดอิทาจิให้ได้

"นายเองก็รู้สินะว่ามาดาระยังมีชีวิตอยู่น่ะ? หรือว่าเขาก็ช่วยนายปลุกเนตรนั่นของนายขึ้นมาด้วยใช่ไหม?" จู่ๆฟุงาคุก็ถามอย่างกังวล

ชินหยูตบไหล่ของฟุงาคุและพูดว่า "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของผมถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเองโดยธรรมชาติ เขาไม่ได้มีส่วนในเรื่องนี้เลย"

"นอกจากนี้ การที่ถ้าผมกล้าฆ่าทัตสึยะก็เป็นเพราะผมต้องการทำแบบนั้นเองไม่ได้ถูกควบคุมแต่อย่างใด"

เมื่อมองไปที่ชินหยูที่กำลังอธิบาย ฟุงาคุก็จ้องมองไปที่เขาและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

แม้แต่เขาเองก็ยังรู้สึกว่าพฤติกรรมของชินหยูยากที่จะคาดเดาได้

มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆที่มาดาระจะทําให้ชินหยูยอมจํานนต่อเขาได้

"ชินหยู ฉันรู้สึกโล่งใจมากที่นายพูดแบบนี้ ฉันจะไม่ถามอะไรเกี่ยวกับนายอีก แต่อย่าไปบอกใครเกี่ยวกับเรื่องของมาดาระเด็ดขาด ผู้ชายคนนั้นมันบ้าไปแล้ว" ฟุงาคุพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แต่ถึงอย่างนั้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะมาหานายในไม่ช้านี้ ฉันหวังว่านายจะพูดเหมือนกับที่นายพูดวันนี้กับฉันนะ"

ว่ากันว่ามาดาระนั้นถูกฆ่าตายที่หุบเขาสิ้นสุดจากการต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่ง เซ็นจู ฮาชิรามะ

หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ฮาชิรามะก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ในท้ายที่สุดเขาก็ตายลงเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

เมื่อฟุงาคุเห็นมาดาระที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขา หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ

แต่เมื่อเผชิญกับการล่อลวงด้วยอํานาจ เขาก็ยอมที่จะเป็นหุ่นเชิดของมาดาระเพื่อแลกมาด้วยพลัง

"ลุงฟุงาคุ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมน่ะไม่เหมือนคุณหรอก"  ชินหยูพูดแล้วหันไปมองบนท้องฟ้า "โลกใบนี้น่ะกว้างใหญ่มาก คุณเคยคิดที่จะออกไปจากโคโนฮะพร้อมกับตระกูลอุจิวะบ้างหรือเปล่า?"

"ชินหยู นายกําลังพูดอะไรน่ะ?" ฟุงาคุตกตะลึง

ฟุงาคุมองไปรอบๆและพูดว่า "นายหมายความว่าพวกเราจะทรยศต่อหมู่บ้านงั้นหรือ? เรื่องนี้จะมีแต่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นไปเท่านั้น และหมู่บ้านก็ไม่อนุญาติแน่ๆ"

ในความคิดของฟุงาคุนั้น เขาตั้งความหวังทั้งหมดนี้ไว้ที่มินาโตะ

ถ้าหากมินาโตะได้กลายเป็นโฮคาเงะรุ่นที่สี่ได้ ด้วยมิตรภาพระหว่างเขากับมินาโตะนั้นพวกเขาจะคิดหาวิธีจัดการลดควาบาดหมางระหว่างโคโนฮะและตระกูลอุจิวะได้

ชินหยูเองก็รู้ว่าเขานั้นคิดแบบนี้ ซึ่งทำให้ฟุงาคุนั้นคิดว่าความคิดของชินหยูเป็นอะไรที่สุดโต่งมากเกินไป

"ผมรู้ว่าคุณได้ตั้งความหวังของคุณไว้ที่มินาโตะ แต่แทนที่จะให้โชคชะตาไปอยู่ในมือของคนอื่น มันคงจะดีกว่าถ้าสามารถควบคุมโชคชะตานั้นได้ด้วยตัวเอง”

เนื่องจากเขาได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งใดๆกับตระกูลอุจิวะ

แต่เขาก็ไม่ต้องการปล่อยให้พวกเขานั้นตายไปเช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ออกมา

เมื่ออการแสดงออกของฟุงาคุเปลี่ยนไปชินหยูก็เงียบลง

แต่หลังจากนั้นไม่นานฟุงาคุก็พูดว่า "ฉันไม่อยากให้ตระกูลอุจิวะต้องถูกรับโทษภายหลัง ชินหยู นายน่ะยังเด็กอยู่ นายยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความยุติธรรมนั้นคืออะไร"

"ความยุติธรรมงั้นเหรอ?" ชินหยูฝืนยิ้มและพูดว่า "เพราะสิ่งนี้มันทำให้ผู้คนต้องตายไปมากไม่ใช่หรือไงกัน?"

“แต่ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคุณหรอกนะถ้าหากคุณจะพูดแบบนั้น ถ้าคนในโคโนฮะไม่มายุ่งกับผม ผมก็จะไม่ทำอะไรพวกเขาเหมือนกัน"

"แต่ถ้าหากพวกเขามายุ่งวุ่นวายกับผม ก็อย่าหาว่าผมโหดร้ายก็แล้วกัน"

เมื่อมองไปที่ชินหยูที่พูดอย่างสงบนั้น ฟุงาคุก็มีความรู้สึกแปลกๆอยู่ในใจของเขา

ในอดีต ชินหยูนั้นเป็นคนที่อ่อนแอและถ่อมตัวมาก

แต่ตอนนี้ ชินหยูกลับกลายเป็นคนที่ไม่ควรยั่วยุไปแล้ว

"เอาล่ะ เลิกพูดถึงเรื่องพวกนี้กันเถอะ" ชินหยูตบไหล่ของฟุงาคุและพูดว่า "ลุงฟุงาคุ ในฐานะผู้นำตระกูล ถ้าคุณมีโอกาสได้พูดคุยกับชิซุย คุณควรจะรู้ว่าเขานั้นสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้แล้ว"

"คุณน่ะควรจะใส่ใจกับอิทาจิมากกว่านี้ ถ้าหากพวกเขาทั้งคู่สามารถเติบโตไปด้วยกันได้พร้อมกัน พวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งในนินจาชั้นนำอย่างแน่นอน"

หลังจากที่พูดจบ ชินหยูก็หันหลังและจากไป

ตอนนี้เหลือเพียงแค่ฟุงาคุเพียงคนเดียวที่อยู่บนภูเขา ซึ่งกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด

ในตอนแรกเขาคิดที่จะต่อสู้กับชินหยูเพื่อสืบหาภูมิหลังของชินหยู

แต่ตอนนี้มันกลับเริ่มทำให้เขานั้นสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาเคยให้ความสนใจกับชิซุยมาก่อน

และเขาก็ยังสงสัยว่าชิซุยนั้นจะตกเป็นเป้าหมายของมาดาระด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าชิซุยจะเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้น มาดาระไม่ได้สนใจอิทาจิเลยแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเท่าๆกันก็ตาม

"ชินหยู นายเป็นใครกันแน่? ทําไมนายถึงได้ทำตัวลึกลับมากขนาดนี้? หรือว่านายจะเป็นผู้ชิงตำแหน่งโฮคาเงะอีกคนกันแน่?" ฟุงาคุอดไม่ได้ที่จะพึมพํากับตัวเอง

หลังจากที่ชินหยูกับฟุงาคุยแยกกันออกไป

ชินหยูเองก็ได้คาดหวังกับทางเลือกของฟุงาคุไว้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ก็มีนินจาที่แข็งแกร่งมากเกินไปอยู่ในตระกูลอุจิวะ

พวกระดับสูงในโคโนฮะเองก็กำลังจับตาดูพวกเขาด้วยความระมัดระวังเช่นกัน

พวกเขามักจะกล่าวโทษตระกูลอุจิวะอยู่ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นในโคโนฮะ

แม้ว่าฟุงาคุจะจัดการรับมือกับเรื่องได้ แต่มันก็เป็นความคิดที่หยั่งรากลึกและไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเลย

และแม้ว่าฟุงาคุจะทรยศต่อตระกูลของเขาจริงๆ แต่คนเหล่านี้ก็จะไม่ปล่อยโอกาสที่จะแก้แค้นโคโนฮะให้หลุดไปได้อย่างแน่นอน

และเมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้น โคโนฮะก็จะมีข้ออ้างในการทำลายล้างตระกูลอุจิวะ