ตอนที่ 79 พวกนายลืมใครไปคนนึงรึเปล่า

ในที่สุด คาคาชิ ริน และโอบิโตะก็ไม่อดทนอีกต่อไป

เมื่อพวกเขากัดเข้าไปคำแรก ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่านอกจากสัตว์หางจะแข็งแกร่งแล้วแต่ยังขี้โกหกอีกด้วย

และพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทําไมมินาโตะถึงได้บอกว่าอิจิราคุราเม็งนั้นสู้ชินหยูไม่ได้

เมื่อมองไปที่คนสี่คนและสัตว์หางตัวหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อผุดขึ้นมา ขณะที่เขาเช็ดหน้า เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยัดอาหารเข้าไปในปาก

ในที่สุดชินหยูก็เข้าใจแล้วว่าคนที่ยอมกินของเผ็ดเพราะอร่อยนั้นรู้สึกอย่างไร

และหลังจากที่ทานอาหารกันจนอิ่มแล้ว สามหางกับโอบิโตะจึงคิดจะไปล่าปลามากินเพิ่ม

แม้ว่าพวกเขาจะมีความคิดแบบเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่หลังจากลองทำตามชินหยูแล้ว สิ่งที่ได้พวกเขาได้นั้นกลับเป็นปลาย่างทั่วไปเท่านั้น

สุดท้าย พวกเขาจึงจ้องไปที่ชินหยูด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

เมื่อแบ่งสดส่วนของปลาสี่ตัวกับคนห้าคนและสัตว์หางอีกหนึ่งตัวนั้น

ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอกินจริงๆ!

"เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว พวกเราควรจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้ ถ้าเรื่องที่มิซึคาเงะรุ่นที่สามที่ถูกฆ่าตายแพร่งพรายออกไป พวกเราจะตกเป็นเป้าจากนินจาของคิริงาคุเระมากขึ้นเท่านั้น" มินาโตะปัดฝุ่นออกจากร่างกายของเขาและยืนขึ้น

หลังจากที่พักผ่อนไปได้ครึ่งกลายคืน พวกเขาก็ฟื้นฟูจักระจนกลับมาได้เกือบเหมือนเดิมแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น มินาโตะเองก็ไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องที่ชินหยูสามารถจับสามหางได้ต่อนินจาต่างแคว้นด้วย

เพราะนอกจากชินหยูแล้ว ก็มีเพียงโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งเท่านั้นที่สามารถทําแบบนั้นได้

แต่ถึงอย่างนั้น โฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งก็ไม่ได้กำราบสัตว์หางได้ง่ายๆเหมือนกับชินหยู

เพราะชินหยูได้ทำให้สัตว์หางนั้นย่อตัวลงเหมือนกับลูกสุนัขที่เชื่อฟังได้

ซึ่งเรื่องนี้มันแตกต่างกันอย่างมาก

"นายท่าน ข้าขออาหารเพิ่มหน่อยเถอะ เอาปลาย่างมาให้ข้าเพิ่มที ข้าจะเชื่อฟังทุกอย่างขอแค่ได้กินปลานั่นเพิ่ม" สามหางส่ายหางทั้งสามของมันและนั่งยองๆอยู่บนไหล่ของชินหยูขณะที่มันพูดว่าอยากกินปลาเพิ่ม

ชินหยูชำเลืองไปมองและพูดว่า "ฉันเองก็หิวเหมือนกัน แต่นายน่ะตัวใหญ่เกินไป แล้วฉันจะทำให้แกอิ่มได้ยังไงล่ะ? ถ้าหิวมากก็ไปจับปลากินแบบดิบๆเถอะ"

"หรือไม่ถ้าเรื่องมากนัก ฉันจะส่งให้แกไปกินปลาในโลกของฉันเอาไหม?"

"อะ..เอ่อ ไม่นายท่าน ข้าไม่อยากกินแล้ว!"

เมื่อได้ยินคำพูดของชินหยู สามหางก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที

อันที่จริงสัตว์หางนั้นสามารถอาศัยอยู่ได้ด้วยจักระและไม่จําเป็นต้องกินอะไรเลยด้วยซ้ำ

แต่หลังจากที่มันได้กินปลาย่างของชินหยูแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เมื่อมองไปที่สามหางที่นั่งอยู่บนไหล่ของชินหยู มินาโตะก็ยิ้มอย่างขมขื่นและเกาหัวของเขา

นี่มันไม่ใช่เรื่องที่เขาชินตาเลยแม้แต่น้อย!

โคโนฮะ ภายในห้องทำงานโฮคาเงะ

สํานักงานที่แต่เดิมเคยมืดตอนนี้สว่างไสวแล้ว

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบกำลังดังเข้ามาในห้องทำงาน

นอกจากโฮคาเงะรุ่นที่สามแล้ว ยังมี โฮมุระ และ โคฮารุ รวมถึงดันโซด้วยเช่นกัน

"ซารุโทบิ ทําไมนายถึงเรียกพวกเราออกมากลางดึกแบบนี้" ดันโซถามด้วยความไม่พอใจและพูดว่า "หรือเป็นเพราะคำสั่งที่ล้มเหลวของนายทำให้เกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมาน่ะ?"

"ซึ่งเรื่องนี้จะทําให้ตำแหน่งโฮคาเงะของนายสั่นคลอน"

เมื่อมองไปที่ดันโซที่เอาแต่พูด โฮคาเงะรุ่นที่สามก็หน้าซีดลงก่อนที่เขาจะกล่าวว่า "มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆในสนามรบ"

"แต่มันไม่เกี่ยวกับโคโนฮะของเรา แต่เกี่ยวกับมิซึคาเงะรุ่นที่สามแห่งคิริงาคุเระที่ถูกฆ่าตาย"

เสียงของซารุโทบิที่แผ่วเบานั้น ทําให้การแสดงออกของที่ปรึกษาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามเปลี่ยนไปอย่างมาก

นินจาระดับคาเงะที่เป็นตัวแทนของหมู่บ้าน และยังแข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านตายไปแล้วหนึ่งคน…

นั่นหมายความว่าการต่อสู้ระหว่างแคว้นน้ำและแคว้นไฟกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว

"ซารุโทบิ ข้อมูลของนายไม่ผิดแน่ใช่ไหม? แล้วทําไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนั้น?" ดันโซถามอย่างสงสัย

"เป็นไปได้ไหมว่าพวกนินจาคิริงาคุเระจงใจปล่อยข่าวปลอมเพื่อหลอกให้นายไปปรากฎตัวในสนามรบน่ะ?"

โฮมุระ และ โคฮารุ เองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับดันโซ

"ซารุโทบิ สิ่งที่ดันโซพูดนั้นถูกต้องแล้ว ถ้าหากพวกเราตัดสินใจผิด มันจะเป็นภัยร้ายแรงต่อโคโนฮะเอานะ" โฮมุระพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ไม่ผิดหรอก มิซึคาเงะรุ่นที่สามแห่งคิริงาคุเระตายแล้วด้วยฝีมือของนินจาโคโนฮะ" น้ำเสียงของโฮคาเงะรุ่นสามนั้นเริ่มจริงจังขึ้น

การแสดงออกของโฮมุระและอีกสองคนเปลี่ยนไปอย่างมากอีกครั้ง

ดันโซที่ได้ยินแบบนั้นอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคืองว่า "ซารุโทบิ นายรู้ใช่ไหมว่านายกําลังพูดอะไรออกมาน่ะ?"

"จากข้อมูลของฉัน มิซึคาเงะรุ่นที่สามคือพลังสถิตร่างและใครก็ตามที่สามารถฆ่าเขาได้จะต้องอยู่ในระดับคาเงะเป็นอย่างต่ำ"

"ในโคโนฮะแล้ว นอกจากสามนินจาในตำนานแล้ว มินาโตะและฉันเองก็ยังทําแบบนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ"

สิ่งที่ดันโซพูดนั้นไม่ได้ทำให้โฮมุระกับโคฮารุเข้าใจถึงความแตกต่างมากนัก

เพราะพวกเขานั้นแตกต่างจากดันโซ

เพื่อที่จะได้เป็นโคโนฮะ ดันโซพยายามหาวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง

ส่วนโฮมุระกับโคฮารุนั้นพวกเขาเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นแตกต่างกัน

"ผิดแล้ว นายน่ะลืมใครคนนึงไปนะ" จิไรยะเดินเข้ามาในห้องอีกคน

"คนที่ฆ่ามิซึคาเงะรุ่นที่สามคือ อุจิวะ ชินหยู และเขายังจับสามหางได้อีกต่างหาก"

เมื่อได้ยินแบบนี้ การแสดงออกของดันโซและอีกสองคนถึงกับเปลี่ยนไปอย่างมาก

เมื่อครู่ที่ผ่านมา ดันโซยังคงพูดว่าจำเป็นต้องใช้นินจาระดับคาเงะกับสามนินจาในตำนานเพื่อฆ่ามิซึคาเงะรุ่นที่สามอยู่เลย

แต่เมื่อจิไรยะเดินออกมาและบอกพวกเขาว่าเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบสี่ถึงสิบห้าปีนั้นกลับฆ่ามิซึคาเงะได้อย่างง่ายดายแบบนั้น

เรื่องแบบนี้มันยากเกินไปที่จะยอมรับได้

"จิไรยะ สิ่งที่นายพูดเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?" ดันโซไม่สามารถระงับความสงสัยของเขาได้อีกต่อไป

ในสายตาของเขา ชินหยูนั้นเป็นแค่เด็กที่มาจากตระกูลอุจิวะเท่านั้น

ไม่สิ!

อาจกล่าวได้ว่าใครก็ตามที่เป็นภัยคุกคามต่อเขา เขาจะทำให้คนๆนั้นต้องหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้เท่านั้น

"นี่คือข้อมูลที่มินาโตะขอให้นินจาส่งต่อให้กับฉัน" จิไรยะหยิบม้วนคัมภีร์สองม้วนออกมา

"หนึ่งในนั้นมาจากนินจากบสามตัวแห่งภูเขาเมียวโบคุที่บอกว่าชินหยูนั้นกําลังต่อสู้กับมิซึคาเงะรุ่นที่สามอยู่"

"มิซึคาเงะรุ่นที่สามถูกฆ่าตายจากการดึงจักระของสัตว์หางออกมาใช้ หลังจากที่ชินหยูอัญเชิญกบใหญ่สามตัวมาจัดการกับสามหาง เขาก็ใช้ เนตรวงแหวนของเขาเพื่อกำราบมัน"

“อัญเชิญกบสามตัวออกมาได้พร้อมกันงั้นเรอะ?”

ทุกคนในตอนนี้ถึงกับตกตะลึง ในความคิดของพวกเขา เรื่องแบบนี้มันอยู่เหนือจินตนาการของพวกเขาไปอย่างมาก

การอัญเชิญสัตว์อัญเชิญขนาดใหญ่ทั้งสามออกมาได้ในคราวเดียวนั้น นอกจากต้องใช้จักระจำนวนมหาศาลแล้ว ยังต้องมีความเข้าใจในระดับสูงถึงคาถาอัญเชิญอีกด้วย

ในความคิดของดันโซนั้น นอกเหนือจากเทพเจ้านินจาอย่างโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่ง และ อุจิวะ มาดาระ ก็มีน้อยคนมากที่สามารถทำได้

แต่ตอนนี้จิไรยะกำลังบอกพวกเขาอยู่ว่าชินหยูนั้นสามารถทำได้จริงๆ

เรื่องแบบนี้จึงอยู่เหนือเกินกว่าความคาดหมายของพวกเขาไปมาก

"จิไรยะ นายบอกว่าอุจิวะ ชินหยูจับสัตว์หางได้สําเร็จสินะ? เป็นไปได้ไหมว่าเขาใช้วิชาปิดผนึกได้อย่างเชี่ยวชาญด้วยน่ะ?" ดันโซถามด้วยความสงสัย

ในฐานะอาวุธอันทรงพลังของหมู่บ้านนินจาอย่างสัตว์หาง พวกเขารู้ดีว่าการผนึกสัตว์หางให้สงบได้นั้นมันยากเพียงใด

ถ้าไม่ใช่คนที่มีร่างกายอย่างคนในตระกูลอุซึมากิ แทบจะไม่มีใครเลยที่จะสามารถเป็นพลังสถิตร่างได้

เขากลัวว่าชินหยูเองอาจจะต้องเป็นเหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆที่จะต้องเสียสละชีวิตของนินจาจํานวนมากเพื่อที่ปิดผนึกสัตว์หางเอาไว้ในร่างกายให้สําเร็จ

แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าชินหยูสามารถจัดการกับสัตว์หางได้ด้วยตัวเองนั้น มันจึงกลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก

"เปล่า ข้อมูลที่มินาโตะส่งกลับมานั้นแปลกมาก เพราะดูเหมือนว่าสามหางจะไม่ได้ถูกผนึกเอาไว้และชินหยูเองก็ให้มันไปหาอาหารมาให้เขาทำด้วย ส่วนสามหางก็กินอาหารที่ชินหยูกินอย่างเอร็ดอร่อย" จิไรยะลูบหัวของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อย