ตอนที่ 100 นายคิดว่าฉันโง่มากเลยงั้นเหรอ

"ฮึๆ ฟู นายนี่ยังเหมือนเดิมนะ" โอโรจิมารุยิ้ม "ถ้านายไม่เชื่อใจฉัน นายก็ต้องเชื่อใจดันโซแล้วล่ะ"

"การที่เขาให้ฉันจัดการเรื่องนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งของสูงแค่ไหน"

"นอกจากนี้ อย่าลืมเด็ดขาดว่าคาถานั้นถูกพัฒนาโดยโฮคาเงะรุ่นที่สอง หลังจากการเอามาดัดแปลงของฉัน มันจะเป็นพลังที่ อุจิวะ ชินหยู ไม่สามารถเอาชนะได้แน่นอน"

เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมา ความมุ่งร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโอโรจิมารุ มือขวาของเขาค่อยๆลูบใบหน้าของเขาและดวงตาที่ขยายขึ้นก่อนที่จะพูดเป็นน้ำเสียงของผู้หญิงว่า "เนตรวงแหวนกระจกเงานั่นมันต้องเป็นของฉัน"

คําพูดที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายนั้นดังก้องอยู่ในป่าบนภูเขา

จู่ๆ เสียงแปลกๆก็ดังขึ้นซึ่งทําให้ฟูถึงกับประหม่าและเกร็ง

"ไม่ต้องห่วงหรอก ดูเหมือนว่าการตายของโทรุเนะจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อนายมากเลยนะ นายตอนนี้น่ะสูญเสียการรับรู้ที่เป็นสิ่งสําคัญที่สุดไปแล้วด้วยซ้ำ" โอโรจิมารุพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย "นี่น่ะคนของฉันเอง และดูเหมือนว่าตอนนี้เหยื่อจะติดเบ็ดซะแล้ว"

"ท่านโอโรจิมารุ ทุกคนตายหมดแล้วครับ!!" นินจาที่สวมหน้ากาเปื้อนเลือดรีบออกมาจากป่าอย่างรวดเร็ว

แต่ทันทีที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าโอโรจิมารุ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขานั้นทําให้รูม่านตาของเขาหดตัวลงทันที

ลิ้นสีแดงเหมือนกับงูพิษฉกเข้าที่คอของนินจาคนนั้นอย่างรวดเร็ว

ฉึกก!

นินจาหน่วยลับคนนั้นล้มลงกับพื้นด้วยสีหน้าที่ตกใจทันที

"ฮึๆๆ ในเมื่อล่อเจ้าเด็กนั่นมาได้แล้วนายก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป" โอโรจิมารุยิ้มขณะที่เขามองไปที่ป่ามืดทึบที่อยู่ไม่ไกลและพูดว่า "นายคิดจะซ่อนตัวไปถึงเมื่อไหร่กัน?"

เสียงของโอโรจิมารุนั้นดังก้องไปทั่ว

ส่วนฟูรีบประสานอินเพื่อสร้างการรับรู้ทันที

วิ้ววว!

เสียงของลมที่ดังทะลุอากาศนั้นดังขึ้น

ร่างเล็กๆพุ่งออกมาจากด้านซ้ายของป่า

ฟูอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเมื่อเห็นร่างที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“เร็วเกินไปแล้ว!”

นี่เป็นความคิดเพียงอย่างเดียวของเขา ซึ่งมันแตกต่างอย่างมากจากที่เคยเห็นชินหยูในครั้งแรก

"อสรพิษคืบคลาน!" อังโกะปรากฏตัวขึ้นห่างจากโอโรจิมารุไปเจ็ดถึงแปดเมตร

งูพิษหลายสิบตัวพุ่งออกมาจากมือขวาของเธอและพุ่งเข้าหาโอโรจิมารุอย่างรวดเร็ว

การโจมตีอย่างรวดเร็วนั้นทําให้การแสดงออกของโอโรจิมารุเปลี่ยนไป เขาตะโกนออกมาทันทีและพูดว่า "อังโกะ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะตามมาที่นี่ด้วย ดูเหมือนว่าอาจารย์คนนี้จะประเมินเธอต่ำเกินไปสินะ"

"ครั้งสุดท้ายที่พวกเราได้เจอกันคือตอนที่อาจารย์บอกว่าจะหนีไป และอีกอย่างตอนนี้นายกับฉันไม่ได้เป็นอาจารย์กับลูกศิษย์อีกแล้ว!!"

โอโรจิมารุซึ่งถูกล้อมรอบด้วยงูพิษนั้นหายตัวไปในอากาศ

ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้านหลังอังโกะ

ร่างกายของเขากลายเป็นงูพิษและอ้าปากเพื่อจะกัดคอของอังโกะ

“แย่แล้ว เร็วเกินไป!”

ความคิดนี้แว่บเข้ามาในความคิดของอังโกะทันที

เดิมทีเธอต้องการใช้การโจมตีแบบเว้นระยะและใช้คาถาเงาอสรพิษคืบคลานเพื่อจัดการกับโอโรจิมารุ

น่าเสียดายที่เธอหุนหันพลันแล่นเกินไปทำให้เธอลืมความแตกต่างด้านพลังระหว่างพวกเขาทั้งสองคนไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อมองไปที่ฟันของงูที่กำลังพุ่งเข้ามากัดคอเธอ อังโกะจึงมีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในใจของเธอตอนนี้

“นี่นายไม่ได้แปรงฟันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย เหม็นปากชะมัด!”

"ตายซะอังโกะ" โอโรจิมารุพูดขึ้นมาอย่างอาฆาต

แต่ขณะที่เขาพูด ร่างที่ห่อหุ้มด้วยจักระสายฟ้านั้นก็พุ่งมาจากพื้น

"ช่างเป็นอาจารย์ที่โหดร้ายจริงๆ กล้าทำกับอดีตลูกศิษย์ได้ลงคอแบบนี้" ชินหยูพูดอย่างเยาะเย้ย

"แต่ดูเหมือนว่าฉันจะซุ่มโจมตีได้ดีกว่าเธอนะอังโกะ"

“กระสุนวงจักร!”

จักระในมือขวาของชินหยูเริ่มก่อตัวเป็นกระสุนวงจักรและปล่อยมันไปที่หน้าอกของโอโรจิมารุทันที

วี้ดดด!!!

จักระที่ถูกบีบอัดอย่างหนาแน่นนั้นระเบิดออกหลังจากที่เข้าปะทะร่างของโอโรจิมารุทันที

แรงกระแทกมหาศาลที่พุ่งออกมานั้นสร้างความเสียหายกับโอโรจิมารุโดยตรง

ภายใต้สายตาของทุกคน ร่างของโอโรจิมารุกระเด็นลอยออกไปอย่างรวดเร็วและกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร

ตู้มมม!

ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นทำลายลงทันทีที่ร่างของโอโรจิมารุเข้าไปกระแทกอย่างรุนแรง

"ท่านโอโรจิมารุ!" ฟูตะโกนเรียกทันทีที่ได้เห็นแบบนี้

แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่คิดอะไรอีกต่อไปและคิดที่จะหนีทันที

แม้ว่าเขาจะต้องการแก้แค้นให้กับโทรุเนะ แต่เขาก็ได้เห็นแล้วว่าชินหยูนั้นหลบหลีกการตรวจจับของเขาได้และยังคงใช้คาถาโจมตีที่รุนแรงกับโอโรจิมารุอีก

ซึ่งนั่นทำให้ความตั้งใจที่จะอยากสู้กับชินหยูนั้นหายไปในทันที

"ฮึๆ ไม่ต้องโวยวายไปหรอก อย่างมันน่ะไม่ตายง่ายๆหรอกนะ" ชินหยูหัวเราะแห้งๆและพูดว่า "ดูเหมือนว่าเจ้างูนั่นกำลังรอฉันอยู่ ส่วนดันโซก็ส่งคนไปล่อฉันออกมาสินะ?"

"ดูเหมือนว่านายอยากจะฆ่าฉันให้ได้ตายคามือเลยสินะ แต่ฉันคิดว่ายังไงนายก็ต้องพยายามมากหน่อยล่ะนะ"

"ถ้าให้ฉันเดา ดูเหมือนว่านายจะได้รับคาถาสัมภเวสีคืนชีพมาและเอามันมาพัฒนาจนสําเร็จแล้วสินะ?"

คำพูดของชินหยูนั้นราวกับเป็นมีดที่แทงเข้าไปในใจของโอโรจิมารุ

โอโรจิมารุซึ่งกำลังนอนแอ้งแม้งอยู่ในซากต้นไม้นั้นกระตุกเล็กน้อยที่ได้ยินแบบนี้

หลังจากที่ลอกคราบออกมา โอโรจิมารุค่อยๆลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยใบหน้าที่น่ากลัวเหมือนกับหน้ากากมนุษย์ที่ถูกฉีกขาดออก

"เจ้าหนู ตอนแรกฉันคิดว่าดันโซประเมินนายสูงเกินไป แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นฉันเองสินะที่ประเมินนายต่ำเกินไปน่ะ?" โอโรจิมารุแลบลิ้นสีแดงของเขาออกมาและพูดว่า "ในเมื่อนายรู้ว่าฉันได้รับคาถาสัมภเวสีคืนชีพมา แล้วทําไมนายถึงยังกล้าไล่ตามฉันมาแบบนี้อีก?"

"อะไรกันที่ทําให้นายมีความกล้ามากขนาดนั้นได้?"

“มันคืออะไรกัน!!?”

ชินหยูยิ้มและพูดว่า "ถ้าฉันบอกว่ามันคือมือทั้งสองของฉันนายจะเชื่อไหม?"

เมื่อมองไปที่ชินหยูกับโอโรจิมารุที่กําลังคุยกันอยู่ อังโกะก็รู้สึกว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่ที่นี่เลย

ซึ่งนั่นทำให้อังโกะไม่สามารถระงับความสงสัยของเธอได้อีกต่อไป

"นาย..นี่นายเป็นใครกันแน่?"

โอโรจิมารุถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนี้ เขายิ้มอย่างน่ากลัวทันทีและพูดว่า "อังโกะ นี่เธอไม่รู้เลยเหรอว่าเขาเป็นใครและเธอยังกล้าที่จะคลุกคลีอยู่กับเขาอีก มันไม่ต่างอะไรกับตอนที่เธอพยามตามฉันมาตอนนั้นเลยนะ"

"เขาคือ อุจิวะ ชินหยู นินจาอัจฉริยะที่โดดเด่นและแข็งแกร่งที่สุดที่ปิดบังพลังของตัวเองอยู่ในตระกูลอุจิวะมาถึงสิบห้าปี"

"นอกจากนี้ เขากล้าต่อสู้กับดันโซและหน่วยรากที่หอคอยของโฮคาเงะและฆ่าคนสนิทของดันโซไปหนึ่งคน และในเมื่อเจ้านั่นกับเธอมาอยู่ที่นี่ นั่นหมายความว่าตอนนี้พวกเธอสองคนได้กลายเป็นนินจาหลบหนีเหมือกับฉันไปแล้ว"

เมื่อพูดถึงตรงนี้ โอโรจิมารุจึงยื่นมือออกไปด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย "อันที่จริง พวกเราทั้งสามคนก็อยู่ในฐานะเดียวกันแล้ว ทําไมพวกเธอไม่มาเป็นพวกเดียวกับฉันล่ะ? ด้วยคาถาสัมภเวสีคืนชีพและวิชาเนตรอันทรงพลังของนาย หมู่บ้านโคโนฮะจะต้องตกอยู่ในกำมือของพวกเราแน่ๆ"

คําพูดของโอโรจิมารุนั้นทําให้อังโกะถึงกับตกตะลึง

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชายหนุ่มที่เธอดูถูกมาโดยตลอดจะแข็งแกร่งมากขนาดนั้น

"เป็นอะไรไป?" ชินหยูยิ้มเล็กน้อย "ฉันว่าฉันก็บอกเธอไปแล้วนะว่าฉันน่ะเป็นคนดัง"

"แต่ตอนนั้นเธอก็เลือกที่จะไม่เชื่อฉันเอง"

"ส่วนนายโอโรจิมารุ ถ้านายต้องการดวงตาคู่นี้ ก็มาสู้กันแล้วชิงไปซะส่วนไอ้สามคนที่อยู่ข้างล่างน่ะจะโจมตีก็เข้ามาเลย" ชินหยูพูด

ท่าทีของโอโรจิมารุเปลี่ยนไปทันที

"นี่นายรู้ด้วยเหรอ?"

"ใช่ ทำไมจะไม่รู้ว่าใต้เท่าของฉันมีคนอยู่น่ะ?” ชายในเสื้อคลุมสีดําสามคนที่นิ่งราวกับรูปปั้นไม่ขยับแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นแบบนี้ชินหยูจึงพูดขึ้น

“นี่นายคิดว่าฉันโง่มากเลยงั้นเหรอ?"