ตอนที่ 106 จะเป็นลูกน้องหรือจะตาย

"จริงเหรอ? ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกแปลกๆนะที่ฉันได้คำชมจากคนตายน่ะ" ชินหยูลูบปลายจมูกของเขาอย่างช่วยไม่ได้

"จริงๆฉันก็อยากจะเล่นกับนายมากกว่านี้อีกหน่อยนะ แต่ดูเหมือนว่าถ้ารีบจบเรื่องนี้น่าจะเป็นการดีกว่า"

“รีบจบงั้นเหรอ?”

การแสดงออกของซาโซริเปลี่ยนไป หลังจากนั้นเขาก็เผยให้เห็นการแสดงออกที่ดุร้ายขณะที่ตะโกนออกมา "ก็ได้ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะจบการต่อสู้นี่เร็วๆได้ยังไงน่ะ!!"

"คาถาลับ - ร้อยหุ่นเชิดสังหาร!"

ซาโซริตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว หลังจากนั้นนิ้วทั้งสิบของเขาก็ควบคุมหุ่นเชิดที่ปรากฎขึ้นเต็มท้องฟ้าให้พุ่งลงมาราวกับห่าฝน

ใบหน้าของคาคุซึและคาเซะคาเงะรุ่นที่สามเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเห็นฉากที่ปรากฎขึ้น

พวกเขาบอกว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาชินหยูได้ก็จริง แต่เมื่อต้องเผชิญกับหุ่นเชิดจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาเองก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ชินหยูเริ่มขยับตัวขณะที่เขามองไปที่หุ่นเชิดที่กำลังใกล้เข้ามา

จู่ๆ เนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำก็หมุนพร้อมกับพลังเนตรสีแดงที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น เสียงคํารามที่บ้าคลั่งได้ดังออกมาจากปากของซูซาโนะโอ

ทันทีที่ร่างของซูซาโนะโอที่สูงหลายสิบเมตรปรากฎขึ้น หุ่นเชิดที่พุ่งเข้าหาชินหยูเขามากกว่าครึ่งหนึ่งนั้นถูกทำลายด้วยแขนทั้งหกของมัน

เมื่อมองไปที่การโจมตีที่ตกลงมาราวกับห่าฝนที่ไม่สามารถทำอะไรชินหยูได้เลยนั้น

การแสดงออกของซาโซริได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เมื่อเขามองไปที่ซูซาโนะโอตรงหน้าเขา ความโกรธก็ปรากฎขึ้นไปทั่วใบหน้าขณะที่เขาฉีกเสื้อผ้าของเขาออกทันที

"ฮึๆๆ ดูเหมือนว่านายจะแตกต่างจากเจ้าโอโรจิมารุนั่นจริงๆ" การแสดงออกของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามเปลี่ยนไปอย่างมาก

"แต่เจ้าเด็กนั่นมันบ้าไปแล้วจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่มันไม่ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั้น เพราะมันก็เปลี่ยนให้ตัวเองเป็นหุ่นเชิดเหมือนกันนี่เอง!"

"อุจิวะ ชินหยู ให้ฉันสู้เองเถอะ บางทีฉันอาจจะทำอะไรให้นายบ้างก็ได้"

เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดนับร้อยตัวกับซาโซริที่ใช้ร่างกายของตัวเองเข้าสู้ คาเซะคาเงะรุ่นที่สามจึงไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป

"ฮึๆๆ ต้องบอกว่าเป็นเกียรติของนายนะที่ได้เห็นคาถาลับขั้นสูงสุดของฉัน แต่นายบอกว่านายจะรีบจบการต่อสู้ไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมถึงไม่รีบทำสักทีล่ะ?!" ใบหน้าของซาโซรินั้นเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่ดุร้าย

" เนตรวงแหวนแปลกๆของนายและคาถาอันทรงพลังนั้นเหมาะมากจริงๆที่จะเป็นคอลเล็กชันของฉัน!!"

เนตรวงแหวนคู่นั้นของชินหยู อาจเติมเต็มให้ซาโซริกลายเป็นหุ่นเชิดที่ทรงพลังได้อย่างสมบูรณ์

"ฮ่าๆๆ ถ้านายต้องการมัน นายก็ต้องเข้ามาชิงเองแล้วล่ะ" ชินหยูยิ้มและพูดว่า "แต่ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะหาวิธีจัดการกับปัญหานี้ก่อนแล้วค่อยพูดถึงเรื่องเนตรวงแหวนของฉันนะ!"

ชินหยูชี้ขึ้นไปที่ท้องฟ้า

ทันใดนั้น เงาสีดําขนาดใหญ่ได้ปรากฎขึ้นพร้อมกับบรรยากาศบนท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนไป

ออร่าจักระที่ไม่สามารถอธิบายได้นั้นแผ่กระจายออกไปราวกับพายุลูกใหญ่

เสียงของชั้นบรรยากาศอากาศที่ถูกทำลายออกจากกันนั้น ทําให้ทุกคนที่ได้เห็นถึงกับตะลึง

โดยเฉพาะแรงลมที่พัดลงมาจากท้องฟ้านั้นทําให้ผู้คนแทบจะไม่สามารถยืนตรงๆได้

ฉากแปลกๆที่เกิดขึ้นนั้น ทําให้คาคุซึและอีกสองคนตกตะลึง

เมื่อพวกเขารีบเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า ฉากที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขานั้นทําให้ดวงตาของพวกเขาถึงกับเบิกโพลง

อุกกาบาตขนาดยักษ์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 กิโลเมตรกำลังลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขาจะไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าชินหยูอัญเชิญอุกกาบาตลงมาได้

"เฮ้ยไอ้หนู เมื่อกี้นี้นายไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดเมื่อสู้กับโอโรจิมารุงั้นเรอะ?!" คาเซะคาเงะรุ่นที่สามรีบถามด้วยความตกใจ

เดิมทีในสายตาของเขา การที่ชินหยูสามารถโจมตีทะลวงผ่านการป้องกันของโอโรจิมารุได้นั้นเป็นเพราะโอโรจิมารุประมาทเกินไป

แต่เมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า คาเซะคาเงะรุ่นที่สามจึงรู้ได้อย่างชัดเจน

ว่าการต่อสู้ของชินหยูกับโอโรจิมารุนั้น แม้ว่าชินหยูจะไม่ใช้คาถาที่ทรงพลังใดๆ เขาก็ยังสามารถจัดการกับนินจาระดับคาเงะทั้งสามคนได้เพราะมันเป็นร่างที่มีพลังเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น หลังจากชินหยูจึงจัดการกับโอโรจิมารุทันที

"เอาล่ะ ถ้าเทียบกับโอโรจิมารุแล้วดูเหมือนว่าฉันต้องเอาจริงกับนายสักหน่อยล่ะนะ" ชินหยูพูดแล้วยิ้ม

"เอาล่ะ ถ้านายยังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะก็ จงยอมกลายเป็นลูกน้องของฉันซะดีๆ"

เมื่อพูดจบ ชินหยูได้ยกเลิกคาถาสัมภเวสีคืนชีพและคว้าร่างของคาคุซึมาด้วยจักระสายฟ้าบนร่างกายของเขาที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นชินหยูออกไปจากพื้นที่แล้ว ร่างของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามจึงค่อยๆสลายไปขณะที่มองไปที่หุ่นเชิดที่อัดแน่นอยู่บนท้องฟ้า

ซาโซริซึ่งยืนอยู่ตรงกลางด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจนั้นกลับโกรธมากยิ่งขึ้น

ตอนแรกเขาคิดว่าการก่อกบฏของเขานั้นได้สร้างความเสียหายกับสึนะงาคุเระมาแล้ว

แต่เมื่อเทียบกับชินหยูตอนนี้ การกระทำของซาโซรินั้นเป็นเด็กๆไปเลย

ความแข็งแกร่งอันทรงพลังแบบนี้ต่อหน้าเขา ในความคิดของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามนั้นมีเพียงโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งและ อุจิวะ มาดาระ เท่านั้นที่สามารถทําได้

"ซาโซริ ถ้านายยังไม่อยากตายและยังคงสนใจความสัมพันธ์เก่าๆของนายกับสึนะงาคุเระล่ะก็ อย่าลืมบอกใครก็ตามในหมู่บ้านว่าอย่าไปยุ่งกับเด็กคนนี้เป็นอันขาด ถ้าหากนายทำตามที่ฉันบอก ฉันจะลืมเรื่องที่นายใช้ร่างกายของฉันเพื่อเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิด"

คําพูดของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามนั้นดังก้องไปทั่วบนท้องฟ้า

หลังจากนั้นร่างของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามค่อยๆสลายไปเหมือนกับฝุ่น

เมื่อได้ฟังคําพูดที่ไม่คาดคิดของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามกับอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า ความไม่แน่นอนได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของซาโซริ

"คาถาลับ - ร้อยหุ่นตั้งรับ!" ซาโซริเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

หุ่นเชิดนับร้อยตัวเคลื่อนไหวอีกครั้งราวกับโครงตาข่ายขนาดใหญ่ก่อนที่จะกระจายไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน พวกมันได้กางมือออกพร้อมกับข้อต่อที่มือทั้งสี่ชิ้นได้แยกออกจากกันทันที ตราอักขระสาปที่บรรจุอยู่ภายในแท่งจักระนั้นถูกรีดออกมาอย่างมาก

ทันใดนั้น หุ่นเชิดนับร้อยตัวนั้นได้เข้าไปโจมตีที่อุกกาบาตบนท้องฟ้าทันที

หุ่นเชิดนับร้อยตัวรวมถึงซาโซริและคาถาทรายเหล็กของคาเซะคาเงะรุ่นที่สามไปโจมตีเข้าไปที่อุกกาบาตอย่างพร้อมเพรียงกัน

การโจมตีที่ปรากฎขึ้นเต็มท้องฟ้านั้นเข้าปะทะกับอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่กำลังตกลงมา

ตู้มม!

ผลจากการโจมตีขนาดใหญ่ครั้งนี้เริ่มปรากฎขึ้นอย่างรวดเร็ว

ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นในบริเวณโดยรอบได้ถูกผลกระทบจากการโจมตีที่รุนแรงนี้ด้วยเช่นกัน

คาคุซึซึ่งหนีไปจากจุดที่อุกกาบาตตกลงมาหกถึงเจ็ดกิโลเมตรนั้นหยุดลง และรีบใช้คาถาป้องกันทุกอย่างเพื่อป้องกันตัวเอง

เมื่อเทียบกับชินหยูที่ยืนอยู่อย่างนิ่งๆภายในซูซาโนะโอนั้น คาคุซึได้ใช้คาถาธาตุทั้งห้าเพื่อสร้างการป้องกันขึ้นมาทันที

"คาถาดิน - กำแพงศิลา!"

มือของคาคุซึประสานอินแล้วตบลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

โล่กำแพงปรากฏขึ้นมาจากพื้นดินและก่อตัวเป็นแนวกำแพงป้องกันที่แข็งแกร่งตรงหน้าเขา

เมื่อแนวกำแพงป้องกันที่แข็งแกร่งนับสิบชั้นถูกสร้างขึ้น คลื่นกระแทกจากการโจมตีนั้นก็พุ่งเข้ามาทันที

พื้นดินโดยรอบนั้นเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แรงกระแทกขนาดใหญ่นั้นทําให้กําแพงดินพังทลายลงทันที

คาคุซึรู้สึกราวกับว่าเขาถูกค้อนขนาดใหญ่ฟาดอย่างรุนแรงและกระเด็นออกไปด้วยแรงกระแทก

หลังจากนั้น ภายใต้เศษซากพื้นดินและต้นไม้ที่พังทลายบิน คาคุซึซึ่งเคยใช้คาถากำแพงศิลานั้นรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงไปทั่วร่างกายของเขามาก

เมื่อเริ่มตั้งสติและรู้สึกตัวได้ คาคุซึจึงค่อยๆผลักเศษซากที่ปกคลุมร่างกายของเขาออกไป

เมื่อเห็นชินหยูยังคงยืนอยู่อย่างนิ่งๆในเศษซากนั้น คาคุซึจึงหันไปมองที่ที่อุกกาบาตตกลงมาอีกครั้ง

และภาพที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขานั้นทําให้เขาตกตะลึงอย่างมาก!!