ภายในห้องทำงานโฮคาเงะในตอนนี้นั้นเงียบสนิท

โฮคาเงะรุ่นที่สามก็ยืนกอดอกและรักษาท่าทีที่สงบนิ่งของเขาอยู่

แต่ในสายตาของดันโซนั้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความอัปยศของเขาเท่านั้น

ราวกับว่าเขากำลังโดนเด็กรุ่นใหม่ชี้หน้าด่าว่าตาแก่โง่เง่า

เมื่อครู่นั้น เขาได้บอกว่าเขาคิดที่จะฆ่าชินหยูเพื่อเป็นการตัดปัญหาทั้งหมดของทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ตอนนี้เขากลับถูกจิไรยะตรึงร่างเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

และที่สําคัญที่สุดคือจิไรยะบอกว่าชินหยูนั้นแข็งแกร่งกว่าเขา

เขาบอกว่าชินหยูนั้นเป็นหนึ่งในความแกร่งในอนาคตของโคโนฮะ

สําหรับดันโซแล้ว นี่เป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่มากเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ

"งั้นเรอะ นายจะเอาแบบนี้แน่ใช่ไหมจิไรยะ?" ดันโซถาม

"อย่าลืมว่าฉันเป็นที่ปรึกษาของโคโนฮะ ส่วนนายน่ะไม่ได้มีอำนาจอะไรมากเท่าฉัน"

"เจ้าเด็กคนนั้นเองก็ด้วย!"

เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ดันโซก็กระแทบไม้เท้าในมือของเขาและพูดอย่างเคร่งขรึม "ทุกสิ่งที่ฉันทำก็เพื่อความปลอดภัยของโคโนฮะ นายควรรู้เอาไว้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากข่าวนั้นรั่วออกมา?"

"ตอนนี้ ทางเลือกเดียวของนายคือฟังคําแนะนําของฉันเท่านั้น มิฉะนั้น นายจะต้องรับมือกับการต่อสู้ที่บ้าคลั่งของคิริงาคุเระและซึนะงาคุเระ"

ปั้งงง!

"ดันโซ นี่นายบ้าไปแล้วรึไง? นายคงไม่ได้คิดที่จะใช้เรื่องนี้เพื่อข่มขู่ให้เราให้ตัดสินใจเห็นด้วยกับนายใช่ไหม?"

โฮคาเงะรุ่นที่สามนั้นรู้ทันทีว่าตอนนี้ดันโซกำลังคิดอะไรอยู่

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดันโซจะยอมทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา

"ฮึ!" ดันโซตะคอกอย่างเย็นชาและพูดด้วยสีหน้าดุร้ายว่า "ฉันกําลังทําเพื่อประโยชน์ของโคโนฮะ ไปเรียกชินหยูกับมินาโตะกลับมาทันที ถ้าหากพวกเขาไม่พอใจ ก็เท่ากับว่าพวกเขาตั้งใจทรยศพวกเรา"

"ถ้าหากว่าเจ้าเด็กนั่นกลับมาที่โคโนฮะ พวกเราจะจับมันเพื่อผนึกสามหางเอาไว้ และต้องไม่ปล่อยให้เรื่องของมิซึคาเงะรุ่นที่สามที่ถูกฆ่ารั่วไหลได้"

"และถ้าจำเป็น พวกเราจะต้องผนึกสัตว์หางไว้ในร่างของชินหยู"

การแสดงออกของจิราอิยะเปลี่ยนไป เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกหยุดไว้โดยโฮคาเงะรุ่นที่สาม

"พอได้แล้วดันโซ" รุ่นที่สามพูดอย่างเย็นชา "นายลืมไปแล้วรึไงว่าใครคือโฮคาเงะน่ะ?"

"การที่ชินหยูฆ่ามิซึคาเงะรุ่นที่สามนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเรา แต่พวกเราก็ไม่สามารถกักขังเขาเอาไว้หรือปฏิบัติต่อเขาด้วยความแตกต่างได้ มิฉะนั้นฉันจะกลับไปใช้วิธีการของฉันเอง"

ทันทีที่คําพูดของโฮคาเงะรุ่นที่สามออกจากปากของเขา ออร่ารอบๆรุ่นที่สามก็เปลี่ยนไปทันที

ผู้คนส่วนมากนั้นมักจะพูดกันว่าโฮคาเงะรุ่นที่สามเป็นโฮคาเงะที่เป็นมิตรต่อผู้คนในหมู่บ้านมากๆ

แต่ตอนนี้รุ่นที่สามกลับเต็มไปด้วยท่าทีของความเด็ดขาด

ซึ่งนี่คือวิธีของเขาที่แสดงออกในฐานะโฮคาเงะ!

"นี่แก!" การแสดงออกของดันโซนั้นเปลี่ยนไปมากพร้อมกับใบหน้าของเขาที่กระตุก

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮิรุเซ็นนั้น กลับกลายเป็นว่าดันโซไม่สามารถพูดหรือทำอะไรได้เลย

เนื่องจากเขามีจุดอ่อนที่รุ่นที่สามนั้นรู้อยู่มาก

อย่างเช่น เขาร่วมมือกับนินจาเร่ร่อนเพื่อลอบสังหารโฮคาเงะรุ่นที่สามแต่มันกลับล้มเหลว

เขายังแอบใช้คนของหน่วยรากของเขาเพื่อฆ่าคู่แข่งของเขาในการชิงตำแหน่งโฮคาเงะด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นการกระทําที่ออกมามาจากแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวของดันโซเอง

และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ดันโซเคยสงสัยว่ารุ่นที่สามอาจรู้ว่าเขานั้นสมรู้ร่วมคิดกับโอโรจิมารุด้วย

สถานการณ์ในตอนนี้ทําให้การแสดงออกของดันโซเปลี่ยนไป และสุดท้ายเขาทำได้เพียงสะบัดแขนเสื้อและจากไปทันที

"นายจะทำอะไรก็ทำ แต่ฉันจะส่งคนไปติดตามสถานการณ์ด้วย"

เมื่อเห็นดันโซหายตัวไป โฮคาเงะรุ่นที่สามก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกและมองไปที่จิไรยะ

"นายน่ะทำเกินไป นายทําให้ดันโซไม่พอใจเข้าให้แล้ว"

สีหน้าของ โฮมุระ กับ โคฮารุ กระตุกเล็กน้อย

ในสายตาของพวกเขา เป็นเรื่องปกติมากที่อาจารย์กับลูกศิษย์จะพูดเตือนต่อหน้าคนอื่น

และเมื่อพวกเขานึกถึงการตกลงดันโซจากปากของโฮคาเงะรุ่นที่สาม ทั้งสองคนก็กระแอมก่อนที่โฮมุระจะพูดขึ้น

“ในเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว พวกเราก็ขอตัวลาล่ะนะ"

หลังจากที่พูดจบ โฮมุระ กับ โคฮารุ ก็รีบจากไปทันที

ในตอนนี้ มีเพียงจิไรยะและโฮคาเงะรุ่นที่สามเท่านั้นที่ยังอยู่ในห้องทำงาน

"เอาล่ะ พวกเขาไปหมดแล้ว ฉันรู้ว่านายยังมีเรื่องที่จะพูดอยู่อีก?" โฮคาเงะรุ่นที่สามพูดอีกครั้ง

จิไรยะดึงเก้าอี้และนั่งลงโดยไม่เกรงใจทันที

"นอกเหนือจากเรื่องเมื่อกี้แล้ว ท่านฟุคาซาคุยังส่งข้อความมาถึงผมด้วย"

"โลกนินจากําลังจะเปลี่ยนไป!"

“ว่าอะไรนะ?”

การแสดงออกของโฮคาเงะรุ่นที่สามเปลี่ยนไปอย่างมาก

ความหมายของประโยคนี้มันยิ่งใหญ่มากเกินไป

ถ้าหากเป็นคนธรรมดา เขาคงไม่ให้ค่าอะไรกับคำพูดบ้าๆแบบนี้แน่นอน

แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งที่ชินหยูแสดงออกมาและพรสวรรค์อันสุดยอดของเขานั้น ทําให้เขาประทับใจอย่างมาก

และตอนนี้เขาก็ได้คำทำนายจากเซียนกบอีก มันจะทำให้เขาไม่ตกใจได้อย่างไร?

“อาจารย์ ผมเดาว่าชินหยูจะต้องรู้ว่าเซียนกับใหญ่ทั้งสามจะพูดแบบนี้กับผม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาพูดแบบนี้ออกมา" จิไรยะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"ตอนที่ผมสอนคาถาอัญเชิญให้เขา ผมก็คิดเหมือนกับดันโซ ผมคิดว่าผมน่าจะกำราบเจ้าเด็กนั่นด้วยตัวเองได้ง่ายๆ แต่น่าเสียดายที่ผมคิดผิด"

"นอกจากเขาจะใช้คาถาอัญเชิญได้ทันทีแล้ว เขายังสามารถอัญเชิญกบใหญ่ทั้งสามออกมาได้อย่างพร้อมกันในครั้งด้วย ซึ่งแม้แต่ผมเองก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ"

ในฐานะผู้ที่ใช้คาถาอัญเชิญกบคนพิเศษ จิไรยะจึงสามารถเดินทางไปที่ภูเขาเมียวโบคุได้

แน่นอนว่าเขาสามารถอัญเชิญเซียนกับทั้งสองตนและใช้วิชาเซียนกบผสานได้ด้วย

และเขาเองก็สามารถเข้าไปในภูเขาเมียวโบคุได้ตามที่เขาต้องการ

แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาได้รับการยินยอมจากเซียนกบใหญ่ด้วยเช่นกัน

แต่ชินหยูที่ไม่เคยเข้าไปในภูเขาเมียวโบคุมาก่อนกลับรู้ถึงการมีอยู่ของเซียนกบทั้งสาม

แค่เรื่องนี้เพียงอย่างเดียว ก็มากแล้วที่จะบอกว่าชินหยูนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ

"นายกําลังบอกว่าแม้แต่เซียนกับใหญ่ทั้งสองแห่งภูเขาเมียวโบคุเองก็กำลังจับตาดูชินหยูด้วยสินะ?" โฮคาเงะรุ่นที่สามพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ

จิไรยะพยักหน้า “เซียนกบใหญ่ได้พยากรณ์เอาไว้ว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น"

"ตอนแรกผมคิดว่ามันอาจสงครามโลกนินจาครั้งที่สาม แต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับชินหยูแล้ว"

"นอกจากนี้ ท่านฟุคาซาคุยังบอกผมว่าท่านเซียนกบใหญ่ได้ตัดสินใจให้ชินหยูเข้าไปในภูเขาเมียวโบคุเพื่อฝึกฝนโหมดเซียนได้ ซึ่งท่านเซียนหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อตรวจสอบความลับของความก้าวหน้าด้านพรสวรรค์ของชินหยูด้วยเช่นกัน"

“ให้เขาฝึกโหมดเซียนงั้นเหรอ?”

การแสดงออกของโฮคาเงะรุ่นที่สามเปลี่ยนไป "จิไรยะ นายกําลังบอกว่าท่านฟุคาซาคุตั้งใจจะใช้โหมดเซียนเพื่อทดสอบความสามารถของชินหยูด้านการเรียนรู้ใช่ไหม?"

“ความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมานั้นอยู่เหนือกว่าขอบเขตความรู้ของเรามาก ถ้าหากเขาเชี่ยวชาญโหมดเซียนได้ทันที นั่นหมายความว่าชินหยูมีความสามรถด้านการเรียนรู้ที่เหนือกว่าทุกคนในโคโนฮะแน่ๆ"

เป็นเวลาสิบห้าปีที่เขาปิดบังพลังของเขาเอาไว้

เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา โหมดสายฟ้าที่ทรงพลัง พรสวรรค์ด้านการเรียนรู้ที่สุดยอด

ตอนนี้ แม้แต่มิซึคาเงะรุ่นที่สามก็ถูกฆ่าตายและเขายังกำราบสามหางได้อย่างง่ายดายอีก

เรื่องทั้งหมดนี้ แม้แต่โฮคาเงะรุ่นที่สามก็แทบจะทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ถ้าหากชินหยูใช้โหดมเซียนที่จิไรยะพยายามฝึกฝนอย่างยากลำบากได้สำเร็จอย่างรวดเร็วนั้น…

พลังของชินหยูอาจจะเพิ่มขึ้นไปสู่อีกระดับที่อาจจะเหนือระดับคาเงะไปแล้วแน่ๆ