ตอนที่ 73 แม้แต่สัตว์หางก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉันหรอกนะ

เหนือหน้าผานั้น หางสองหางครึ่งกำลังถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง

เปลวไฟสีดํานั้นยังคงเผาไหม้ไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะดับแม้แต่น้อย

ภายใต้ผลกระทบของคลื่นน้ำขนาดใหญ่ แม้ว่าความเร็วในการแพร่กระจายจะช้าลง แต่ถ้าหากยังคงดําเนินต่อไปก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะป้องกันได้เลย

แม้แต่ชีวิตของเขาเองก็อาจจะถูกเผาไหม้ไปด้วยพลังไฟสีดำนี้

"แค่กๆ ฉันขอบอกนายนะ ถึงหางนายจะขาดแต่มันก็ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วเหมือนจิ้งจกเลยล่ะ" ชินหยูไอแห้งๆและเลียนแบบมิตซึคาเงะรุ่นที่สาม

"แน่นอนว่า ถ้าสองหางนั่นเป็นแค่การทดสอบเท่านั้น ต่อไปมันจะเผาร่างของนายแล้ว!!"

นินจาคิริงาคุเระและแม้แต่จูโซที่รีบหนีไปในระยะไกลก็ถึงกับตกตะลึง

ในความเข้าใจของพวกเขานั้น ทุกครั้งที่สัตว์หางปรากฏตัวขึ้น มันให้ความรู้สึกราวกับว่าโลกกำลังจะถูกทำลาย

แม้แต่ผู้อาวุโสและนินจาระดับสูงจํานวนมากในหมู่บ้านก็ต้องแลกด้วยชีวิตของพวกเขาเพื่อที่จะกำราบมันให้ได้

แต่ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนกำลังเห็นนั้นคือชินหยูกำลังเยาะเย้ยสัตว์หางอยู่…

การที่พวกเขาได้เห็นแบบนี้ มันทําให้พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังตกอยู่ในความฝัน

"แก แกกำลังรนหาที่ตายซะแล้ว!!!"

สามหางตะโกนออกมาเสียงดัง

เสียงคำรามของมันทำให้พื้นผิวทะเลสาบนั้นเกิดเป็นระลอกคลื่นขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

ภายใต้คลื่นเสียงของมัน ผู้คนที่ได้ฟังต่างเริ่มรู้สึกแสบแก้วหูมากขึ้นเรื่อยๆ

และเมื่อเปลวไฟเริ่มลามมากขึ้นเรื่อยๆ สามหางจึงรีดจักระของมันไว้ที่ปากแล้วฉีดกระสุนน้ำออกมาตัดหางที่ถูกเทวีสุริยาเผาไหม้ไปทันที

เลือดจากหางของมันค่อยๆหยดลงมาจนกระทั่งย้อมพื้นผิวทะเลสาบทั้งหมดให้เป็นสีแดง

ดูเหมือนว่าการที่มันเลือกที่จะตัดหางของมันนั้นจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องของมัน

“นี่มันยังเป็นสัตว์หางอยู่หรือเปล่า”

“ชื่อเสียงและความน่ากลัวของสัตว์หางนั่นหายไปหมดแล้วงั้นหรือ?”

ไม่สิ!

“ควรจะถามว่าความโหดร้ายและพลังที่แข็งแกร่งของสัตว์หางนั้นหายไปอยู่ไหนหมดแล้วน่าจะดีกว่า?”

เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสายตาจากรอบข้าง สีหน้าของสามหางนั้นก็กระตุกเล็กน้อย

เมื่อมองไปที่ชินหยูที่ยืนอยู่ตรงหน้ามัน มันก็เริ่มคลั่งขึ้นอีกครั้ง

โฮกกก!

เสียงคํารามที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งนั้นดังก้องไปทั่วพื้นที่ทันที

เมื่อหางทั้งสามของมันเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ร่างของมิซึคาเงะรุ่นที่สามก็ระเบิดออกและกลายเป็นหมอกเลือดที่กระจัดกระจายอยู่บนท้องฟ้า

และจู่ๆร่างที่สูงหลายสิบเมตรได้ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในสายตาของทุกคน

ดวงตาสีแดงของมันจับจ้องไปที่ชินหยู

ร่างๆนั้นอ้าปากออกมากว้างก่อนที่จะควบจักระไว้ที่ปากแล้วเริ่มทำการโจมตีชินหยูด้วยความเกลียดชังทันที

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

กระสุนน้ำขนาดใหญ่สามลูกพุ่งออกมาจากปากของสามหางอย่างรวดเร็ว

ด้วยระยะทางที่ใกล้บวกกับความเร็วของกระสุนน้ำที่เร็วมากๆนั้น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้แน่ๆ

"โฮ้ เริ่มตอบโต้แล้วแหะ!" ชินหยูยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับปีกคู่หนึ่งด้านหลังซูซาโนะโอค่อยๆกางออกและสกัดกั้นการโจมตีนั้นเอาไว้

ตู้มมม!

เสียงของการระเบิดที่ดังจากกระสุนน้ำทั้งสามนั้นดังขึ้นทันที

คลื่นน้ำได้กระเซ็นพัดไปทั่วพื้นที่ราวกับพายุฝน

นินจาคิริงาคุเระและจูโซที่อยู่ในระยะไกลนั้นพยายามใช้คาถาของตนเองเพื่อป้องกันคลื่นน้ำเอาไว้ทันที

แต่แม้ว่ามันจะอันตรายมากจนอาจคร่าชีวิตของพวกเขาไปได้ พวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นี่เพื่อจับตาดูการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจระหว่างนินจาเด็กกับสามหางอยู่ดังเดิม

พวกเขานั้นอยากรู้มากๆว่าชินหยูจะใช้คาถาแบบใดเพื่อตอ่สู้กับสัตว์หางในตํานาน

เมื่อคลื่นน้ำที่ซัดกระเซ็นลงมาจากท้องฟ้าจนหมดแล้ว ร่างของซูซาโนะโอก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเผชิญกับการโจมตีที่รวดเร็วแบบนี้ การป้องกันของซูซาโนะโอก็ยังไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

แต่ถึงอย่างนั้น ชินหยูก็พึ่งต่อสู้กับมาดาระมาและเขาเองก็ใช้พลังของเนตรกับจักระไปค่อนข้างมาก ถ้าพวกเขายังคงต่อสู้ต่อไปชินหยูจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบลงเรื่อยๆ

"ไอ้เด็กบ้า ถ้าแน่จริงก็อย่าเอาแต่หลบอยู่ในกระดองของแกสิวะ" สามหางส่งเสียงคำรามที่ดังราวกับฟ้าร้องอออกมา

"เอ้า แล้วแกไม่มีปัญญาทำให้ฉันออกมาเองรึไง? ดูเหมือนว่าแกจะโตแต่ตัวของจริงแฮะ" ชินหยูไอแห้งๆและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น ถ้าแกเอาชนะคนของฉันได้ ฉันจะยืนอยู่นิ่งๆแล้วปล่อยให้แกฆ่าฉันเลย "

คําพูดแปลกๆนั้นทําให้กระดูกสันหลังของจูโซเสียววาบขึ้นมาทันที

นินจาคิริงาคุเระที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขานั้นก็ตกใจเช่นกัน

ในความคิดของพวกเขา มีเพียงจูโซเท่านั้นที่เป็นลูกน้องของชินหยู

แม้ว่าในฐานะ 7 ดาบนินจาเขาอาจเป็นนินจาที่แข็งแกร่งมากๆก็จริง

แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าสามหาง 7 ดาบนินจาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับแมลงที่เป็นตอมร่างของสัตว์หางเลย

และตอนนี้การที่เขาถูกทำให้ต้องออกไปสู้นั้น มีเหตุผลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เขากำลังถูกใช้เป็นตัวล่อสัตว์หาง!

"จูโซ อย่าทำตัวเป็นเด็กกำลังร้องให้แบบนั้น นายน่ะสู้สามหางนี่ไม่ได้หรอก" ชินหยูชำเลืองไปมองจูโซ

เขาเอานิ้วชี้ขวาเข้าปากแล้วกัด ทันทีที่เลือดไหลออกมา เขาก็ประสานอินอย่างรวดเร็ว

"เดี๋ยวนะ คาถาอัญเชิญงั้นเหรอ?" จูโซถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็แอบตกใจเล็กน้อย

ในความคิดของเขา มีคนมากมายที่สามารถใช้คาถาอัญเชิญได้

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสัตว์อัญเชิญเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับสัตว์หางได้

สามหางที่ตอนแรกนั้นตกตะลึง แต่จู่ๆมันก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“ไอ้หนู แกคงไม่ได้กำลังดูถูกฉันอยู่ใช่ไหม? สัตว์อัญเชิญของแกเนี่ยนะจะสู้กับฉันได้? ถ้าแกไม่ได้โง่ แกก็น่าจะรู้ดีนะว่ามันเป็นไปไม่ได้น่ะ"

เสียงของสามหางนั้นดังก้องไปพื้นที่

ชินหยูยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "ฉันคิดว่าแกต่างหากที่กำลังคิดผิด"

“คาถาอัญเชิญ!”

ทันทีที่เขาพูดจบ ชินหยูก็ตบมือขวาของเขาลงบนพื้นทันที

ป๊องง!

อักขระของคาถาอัญเชิญนั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วจากทุกทิศทาง ในช่วงเวลาต่อมากลุ่มควันจำนวนมากก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

ร่างขนาดมหึมาทั้งสามร่างนั้นใหญ่พอๆกับหอคอยเหล็กซึ่งทําให้ทุกคนตกใจ

เมื่อมองไปที่สัตว์อัญเชิญที่ใหญ่พอๆกับสามหางนั้น ทั้งจูโซและนินจาคิริงาคุเระต่างก็ตกใจอย่างมาก

แม้แต่สามหางเองก็เกือบจะกัดลิ้นของมัน

"ไอ้หนู แกเรียกพวกเรามาอีกแล้วเรอะ ถ้าไม่ใช่เรื่องสําคัญล่ะก็แกจะต้องชดใช้!!" กามะบุนตะพ่นควันออกมาและหรี่ตาลงขณะที่มันจ้องไปที่ชินหยู

แต่เมื่อเทียบกับเขาแล้ว รูม่านตาของ กามะเก็น กับ กามะฮิโระ นั้นหดตัวลงอย่างรวดเร็ว

"ก็นะ ฉันเองก็ได้ยินชื่อเสียงของพวกนายมามากแล้วเหมือนกัน ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าสุดยอดกบทั้งสามแห่งภูเขาเมียวโบคุจะเอาชนะสัตว์หางได้ไหม? อ้อ แล้วก็ไม่ต้องทำให้มันตายนะ ฉันอยากจับมันทั้งเป็นน่ะ" ชินหยูยักไหล่แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

กามะบุนตะถึงกับตกตะลึง เขาเพิ่งรู้สึกถึงความเงียบของบรรยากาศโดยรอบของมัน

เขารีบหันไปมองทางกามะเก็น และ กามะฮิโระ ที่กำลังมองสามหางที่ทําหน้าตกตะลึงทันที

ในตอนนี้ พวกเขาทั้งสามรู้สึกสงสารอย่างอธิบายไม่ได้

เพราะสามหางที่อยู่ต่อหน้าเขากำลังจะกลายเป็นแมงป่องย่างในอีกไม่นานแล้ว!

แม้ว่ากบที่ปรากฏตัวต่อหน้ามันนั้นจะไม่แข็งแกร่งอะไรมากนัก

แต่ตอนนี้กบทั้งสามนั้นได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งทำให้ความแข็งแกร่งของกบทั้งสามนั้นอาจจะเหนือกว่ามันไปแล้ว

กามะบุนตะนั้นก็เป็นกบที่ได้ต่อสู้กับหางเดี่ยวในผลงานต้นฉบับเช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายนั้นต่างจดจำกันได้ทันทีที่กบทั้งสามนั้นปรากฎตัวขึ้น

ดูเหมือนว่ากามะบุนตะนั้นจะต่อสู้กับสัตว์หางมาแล้วหลายครั้งในผลงานต้นฉบับ

บางทีในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่สอง จิไรยะเองก็อาจอัญเชิญมาเพื่อต่อสู้กับสัตว์หางด้วยซ้ำ

แต่เมื่อเทียบกับอดีต กามะบุนตะรู้สึกเห็นอกเห็นใจเล็กน้อยในตัวของสามหาง

ตอนนี้ชินหยูได้อัญเชิญกบทั้งสามแห่งภูเขาเมียวโบคุอออกมาช่วยเขาแล้ว ซึ่งทำให้มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกรุมทำร้ายโดยนินจากบทั้งสามตัว

ซึ่งอีกไม่นานต่อจากนี้ สามหางอาจจะถูกกบทั้งสามรุมกระทืบจนหมดสภาพเลยก็ได้!