ตอนที่ 72 นายจะให้ฉันเป็นมิซึคาเงะไหม

"นายท่าน ทําไมท่านถึงพูดแบบนั้นล่ะ!" จูโซไม่สามารถระงับอารมณ์ของเขาได้อีกต่อไป

เขานั้นยอมจํานนต่อชินหยูและกลายเป็นลูกน้องของเขา

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งใน 7 ดาบนินจาอยู่

จูโซซึ่งเป็นหนึ่งใน 7 ดาบนินจานั้นก็รู้สึกสนใจในมิซึคาเงะรุ่นที่สามมากเช่นกัน

แต่จู่ๆ ชินหยูกลับพูดขึ้นมาว่ามิซึคาเงะรุ่นที่สามคือพลังสถิตร่างที่ไม่สมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้เรื่องนี้มันทำให้เขาสงสัยอย่างมาก

"ไม่คิดเลยว่าแม้แต่จูโซที่ดื้อรั้นคนนั้นก็ยอมจํานนต่อนายแบบนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินนายต่ำไปจริงๆ" เสียงอันแหบแห้งของมิซึคาเงะรุ่นที่สามดังขึ้น

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมอง เสื้อคลุมของเขาค่อยๆโบกสะบัดเผยให้เห็นใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ด

มันทําให้ผู้ที่ได้เห็นรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนกับมนุษย์ปลา

"นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของมิซึคาเงะรุ่นที่สามงั้นสินะ?" การแสดงออกของนินจาคิริงาคุเระเปลี่ยนไปอย่างมาก บางคนอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปเล็กน้อย

เมื่อเห็นแบบนี้ แม้แต่จูโซเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจ

"ฮึๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายจะรีบลักพาตัวรินและเสี่ยงที่จะแอบเข้าไปในพื้นที่อันห่างไกลจากหมู่บ้านของนายแบบนี้" ชินหยูนั้นไม่รู้สึกประหลาดใจและพูดว่า "ดูเหมือนว่าอักขระในร่างกายของนายจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว และมันกำลังจะถูกกัดกินโดยสัตว์หางสินะ"

"ดูเหมือนว่านายจะเป็นอัจฉริยะที่ปิดบังตัวเองอยู่ในโคโนฮะ นินจาอัจฉริยะชินหยูงั้นสินะ?" มิซึคาเงะรุ่นที่สามไม่ได้สนใจรูปร่างหน้าตาของเขาเลย เขาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า "ในหมู่นินจาหนุ่มนั้น นายนั้นไม่เลวเลยจริงๆ ดูเหมือนว่านายจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับอักขระของฉัน ถ้านายได้เป็นนินจาในหมู่บ้านของฉันคงจะดีไม่น้อยเลย"

คําพูดที่อธิบายไม่ได้นั้นทําให้ทุกคนตกตะลึง

ชินหยูยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "มิซึคาเงะ นายกำลังคิดจะให้ฉันไปที่คิริงาคุเระและมอบตําแหน่งมิซึคาเงะรุ่นที่สี่กับฉันงั้นเหรอ?"

"เงื่อนไขนี้ไม่เลวเลย"

ฮ่ะๆ นายนี่ฉลาดจริงๆ แต่นายยังไม่ได้เป็นสมาชิกในหมู่บ้านของเรา นอกจากนี้ ตระกูลอุจิวะของนายก็ยังมีเรื่องราวมากมายและเป็นตระกูลที่ถูกโคโนฮะกีดกันอำนาจเอาไว้ ถ้าฉันมอบตําแหน่งมิซึคาเงะให้นาย ฉันกลัวว่าคิริงาคุเระจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านอื่นแทน" มิซึคาเงะรุ่นที่สามส่ายหัว

"แม้ว่าฉันจะไม่สามารถมอบตําแหน่งมิซึคาเงะให้นายได้ แต่ถ้านายเข้าร่วมคิริงาคุเระของเรา ฉันจะให้นายเป็นผู้อาวุโสใหญ่และใช้พลังได้ในฐานะชื่อของมิซึคาเงะได้แทน!"

ทันทีที่คําพูดเหล่านี้เงียบลง การแสดงออกของนินจาคิริงาคุเระก็เปลี่ยนไปมาก

แม้แต่ 3 ใน 7 ของกลุ่ม 7 ดาบนินจาในตอนนี้ก็ถูกฆ่าตายโดยชินหยูไปแล้ว

จูโซที่เป็นคนดื้อรั้นนั้นก็เต็มใจที่จะยอมเป็นลูกน้องของชินหยูด้วยเช่นกัน

ในตอนนี้ กลุ่ม 7 ดาบนินจาจึงเหลือเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น!

ถ้าตอนนี้ชินหยูได้กลายเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของหมู่บ้านและเขาสามารถควบคุมอำนาจรวมถึงความเป็นความตายได้

สําหรับพวกเขา นี่จะต้องเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน

"นายว่ายังไงล่ะ?" มิซึคาเงะรุ่นที่สามถามอีกครั้ง

ชินหยูยิ้ม "ดูเหมือนว่าฉันจะถูกประเมินต่ำเกินไปนะ"

"แค่หมู่บ้านเดียวไม่สามารถตอบสนองความทะเยอทะยานของฉันได้ เพราะเป้าหมายของฉันคือโลกนินจาทั้งหมด"

"ไม่สิ ควรจะบอกว่าเป้าหมายของฉันไม่ได้ถูกจํากัดอยู่แค่ในโลกใบนี้ด้วยซ้ำ"

“ไอ้เด็กนี่แม่งบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านี้ ในใจของทุกคนก็คิดเป็นอย่างเดียวกันทันที

แม้แต่เงื่อนไขที่ล่อตาล่อใจขนาดนี้ก็ถูกปฏิเสธอย่างง่ายดาย แถมยังพูดจาไร้สาระออกมาอย่างหน้าไม่อายอีก

ราวกับว่าเขากำลังท้าทายอำนาจนินจาทุกคนบนโลกอยู่

การแสดงออกของมิซึคาเงะรุ่นที่สามเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน สีหน้าของเขามืดลงขณะที่เขาพูดว่า "ไอ้หนู นายน่ะบ้าเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเราคงไม่สามารถเจรจาได้อีกต่อไปแล้ว"

"ใช่ พวกเราเจรจาเรื่องนี้ต่อไม่ได้อีกแล้ว แล้วพวกเราควรจะทํายังไงต่อดีล่ะ?" ชินหยูถามด้วยความสงสัย

คำพูดของชินหยูนั้นทําให้ใบหน้าของมิซึคาเงะรุ่นที่สามนั้นมืดมนมาก จิตสังหารแว่บเข้ามาในดวงตาของเขาขณะที่เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

"ก็ได้! ในเมื่อเจรจาไม่ได้ก้ตายไปพร้อมๆกันนี่แหละ!!"

"โฮกกก!"

ทุกคนได้ยินเสียงตะโกนและคำรามที่ดังมากออกมาจากร่างของมิซึคาเงะรุ่นที่สาม

ในวินาทีต่อมา หางจักระยาวสามอันพุ่งออกมาจากด้านหลังของเขาและพุ่งใส่ชินหยูทันที

ทันทีที่เขาเริ่มโจมตี เขาก็เข้าสู่โหมดสัตว์หางอย่างสมบูรณ์!

ไม่สิ!

อาจกล่าวได้ว่า มิซึคาเงะรุ่นที่สามตั้งใจนั้นเลิกกำราบสัตว์หางในร่างกายแล้วปล่อยให้มันอาละวาดแทน

การโจมตีด้วยหางจักระนั้นทรงพลังและหนักหน่วงอย่างมาก

นอกจากนี้ ในระหว่างการโจมตีนั้นหางจักระนั้นก็ยังขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"นายท่าน ระวัง!"

การแสดงออกของจูโซเปลี่ยนไปอย่างมาก

เมื่อเผชิญกับร่างของสามหาง เขาก็อยากจะเข้าไปช่วยชินหยู แต่ถึงอย่างนั้นพลังของสัตว์หางก็อยู่เหนือกว่าพลังที่เขาสามารถต่อกรด้วยได้

"โฮะโฮ่ เจ้าสามหางนี่น่าสนใจดีแหะ!" ชินหยูยิ้มเล็กน้อย

เนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำนั้นหมุนอย่างรวดเร็วและปล่อยจักระออกมาก่อนที่จะกลายเป็นซูซาโนะโออย่างรวดเร็ว

ตู้มม!

หางจักระทั้งสามที่หนาราวกับเหล็กกล้าเข้าไปกระทบกับร่างของซูซาโนะโออย่างรวดเร็ว

แรงปะทะจากการโจมตีครั้งนี้ทําให้เกิดคลื่นลมกระโชกรุนแรงที่พัดต้นไม้โดยรอบให้โยกได้อย่างรุนแรง

แต่ถึงอย่างนั้น การโจมตีของสามหางก็ไม่สามารถทำอะไรซูซาโนะโอของชินหยูได้เลย ก่อนที่ชินหยูที่อยู่ในซูซาโนะโอจะเริ่มทำการโจมตีกลับ

"เทวีสุริยา!"

ทันใดนั้น เนตรวงแหวนของชินหยูได้หมุนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเปลวไฟสีดําที่มือขวาของซูซาโนะโอที่ขยายใหญ่ขึ้นและควบแน่นเป็นดาบที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำทันที

มันฟันเข้าที่หางทั้งสามนั้นทันที

การโจมตีของซูซาโนะโอนั้น ทําให้ดวงตาของมิซึคาเงะรุ่นที่สามเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจทันที

ทันใดนั้นเขาก็รีบดึงหางกลับมาทันที

ในขณะเดียวกัน เขาก็อ้าปากและรวบรวมจักระขนาดใหญ่ก่อนที่จะทําให้มันระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

“คาถาน้ำ - ธารน้ำตกคลั่ง!”

สายน้ำที่พุ่งพล่านจำนวนมากพุ่งเข้าหาเทวีสุริยาอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะดับมัน

แต่เพียงแค่คลื่นน้ำสัมผัสเข้ากับเปลวไฟนั้น น้ำทั้งหมดก็ระเหยกลายเป็นไอทันทีในขณะที่เปลวสีดำยังคงปรากฎขึ้นที่หางอีกหางหนึ่งของเขา

แคว่กก!

เสียงของเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดนั้นดังก้องออกไปรอบๆ

แม้แต่ชินหยูเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับพลังของเทวีสุริยา

แม้ว่าเขาจะเคยเห็นซาซึเกะเปลี่ยนเทวีสุริยาเป็นลูกศรในผลงานต้นฉบับ แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะทรงพลังได้มากขาดนี้

ไม่สิ!

ต้องบอกว่าพลังของมันในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าของซาสึเกะเสียอีก

หางขนาดใหญ่นั้นถูกตัดออกจากกันทันที

เปลวไฟสีดําที่แต่เดิมเล็กนั้นค่อยๆลุกลามไปที่หางทั้งสองอย่างรวดเร็วเช่นกัน

อ๊ากกกกก!

ด้วยความร้อนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นทำให้มิซึคาเงะตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างบ้าคลั่งทันที

เมื่อครู่นี้ ชินหยูได้คาดเดาพลังของมิตซึคาเงะรุ่นที่สามเอาไว้แล้ว

ซึ่งจนถึงตอนนี้ มิตซึคาเงะรุ่นที่สามได้ใช้พลังในฐานะพลังสถิตร่างไปเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

ในความคิดของมิตซึคาเงะรุ่นที่สามนั้น แค่ใช้หางจักระเพียงสามหางก็มากที่จะจัดการกับเด็กคนนี้ได้แล้ว

แต่เขาไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ได้