ตอนที่ 77 เกิดอะไรขึ้นที่นี่น่ะ?

"มันจะแข็งแกร่งกว่าฉันอีกงั้นเหรอ?" ท่าทีของจูโซนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าตั้งคําถามอะไรกับคําพูดของชินหยู

เขาทําได้เพียงหันหลังและจากไปด้วยความสงสัยในใจ

ส่วนจูโซจะทรยศเขาหรือไม่ ชินหยูก็ไม่ได้สนใจแล้ว

ถ้าหากว่าเขาไม่กลัวตาย ก็จะลองทรยศดูก็ได้

"ชินหยู นายปลอดภัยดีไหม?"

ร่างทั้งสามร่างรีบวิ่งออกมาจากป่าด้วยความเหน็ดเหนื่อย

เนื่องจากมินาโตะไม่เคยมาบริเวณนี้ เขาจึงไม่ได้ทิ้งอักขระเทพสายฟ้าเหินเอาไว้ ทำให้เขาต้องมาที่นี่ด้วยการวิ่งเท่านั้น

เขารีบมาที่นี่อย่างรวดเร็วภายในไม่ถึงหนึ่งวันพร้อมกับ คาคาชิ และ โอบิโตะ ที่หอบหายใจอย่างหนัก

แม้ว่าพวกเขาจะมาถึงสนามรบแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีแม้แต่กําลังที่จะต่อสู้

"ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจบแล้ว และฉันก็ช่วยเธอไว้ได้ด้วย" ชินหยูเหลือบไปมองคาคาชิและคนอื่นๆจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปที่หน้าผาที่ถล่มลงมา

ตอนที่กบทั้งสามตัวกำลังต่อสู้กับสามหาง ชินหยูได้ใช้โอกาสนี้พารินไปซ่อนไว้แล้วสร้างกำแพงกั้นขึ้น

ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาพาเธออกมาแล้ว

"ครูมินาโตะรอผมด้วย" โอบิโตะหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้งและเริ่มเดินตามมินาโตะไป

เขาล้มลงกับพื้นหลังจากที่ก้าวไปได้เพียงสองสามก้าว คาคาชิเองก็เช่นกัน

เขานั้นไม่มีแรงแม้แต่แรงที่จะเดินได้อีกต่อไป

"เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็อยู่ที่นี่ไปก่อน ฉันจะไปดูเอง" มินาโตะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

แม้ว่าชินหยูจะแก่กว่าคาคาชิ กับ โอบิโตะ สองปี แต่ความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งนั้นถือว่าห่างกันอย่างมาก

"ชินหยู ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉันเอาไว้!"

มินาโตะที่เพิ่งถอนหายใจนั้น กำลังเห็นรินวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของชินหยู

ลูกบอลนุ่มๆสองลูกนั้นทําให้ชินหยูตกตะลึงเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นประโยชน์ของการได้ช่วยเหลือสาวสวยสินะ”

"นี่ๆ พวกเธอจะกอดกันอีกนานแค่ไหนน่ะ? ถ้าหากสองคนนั้นเห็นเข้าล่ะก็ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะต้องรับไม่ได้แน่ๆ" มินาโตะพูดขึ้น

ในฐานะครู เห็นรู้ได้อย่างชัดเจนว่าระหว่างทั้งสามคนนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง

ถ้าพวกเขารู้ว่าผู้หญิงที่กําลังจะได้รับการช่วยเหลือกระโจนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของชายอื่นล่ะก็…

ความรู้สึกแบบนั้นอาจจะทำให้ทั้งสองคนนั้นทรมานมากขึ้นก็ได้

"ครูมินาโตะ นี่ครูกําลังพูดอะไรน่ะ? หนูกับชินหยูไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย" รินหน้าแดงเล็กน้อย

"ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่ช่วยเธอเอาไว้สองครั้งแค่นั้นเอง" ชินหยูพูดเบาๆ

"ชินหยู นี่นาย!" ใบหน้าของรินแดงขึ้น เธอนั้นแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินด้วยความอาย

มินาโตะที่เห็นแบบนี้จึงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะไม่สามารถเทียบกับนายได้จริงๆแหละ"

"เอาเถอะเรื่องนั้นน่ะชั่งมันก่อน ว่าแต่ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

ระหว่างทาง พวกเขาได้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกระสุนสัตว์หางอยู่ไกลๆ ซึ่งมันทําให้ภูเขาขนาดเล็กกลายเป็นฝุ่นได้อย่างรวดเร็ว

มันเป็นการโจมตีขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปไกลหลายกิโลเมตรก็ตาม

"หนู หนูรู้แค่ว่าตอนที่ชินหยูปรากฏตัวขึ้น หนูก็เป็นลมไปทันที" รินพูดด้วยสีหน้าที่อึดอัด

แต่ถึงอย่างนั้นเธอไม่ควรถูกตําหนิในเรื่องนี้ เพราะเธอได้ถูกลักพาตัวไประหว่างทาง และถูกใช้คาถาลวงตาอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมที่จะเป็นพลังสถิตร่างคนใหม่

สําหรับรินที่ถูกครอบงําด้วยคาถาลวงตาอย่างสมบูรณ์ การที่เธอฟื้นขึ้นมาได้บางช่วงนั้นก็ถือว่าเก่งมากๆแล้ว

"ส่วนฉันได้เจอกับ 7 ดาบนินจาคุชิมารุ และมิซึคาเงะรุ่นที่สาม" ชินหยูไม่ได้ปิดบังว่าเขาเจอใครบ้าง

เขารู้ดีว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกบทั้งสามกับจิไรยะ ยังไงมินาโตะก็ต้องรู้เรื่องนี้จากจิไรยะอยู่ดี

แทนที่จะไปรู้ทีหลังสู้เขาพูดไปเลยตรงๆดีกว่าว่าได้เจอกับใครบ้าง

ชินหยูเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทางโคโนฮะจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรในอนาคต

"นายกําลังพูดถึงมิซึคาเงะรุ่นที่สามที่ว่ากันว่าลึกลับที่สุดในคิริงาคุเระคนนั้นงั้นเหรอ?!!" การแสดงออกทางสีหน้าของมินาโตะเปลี่ยนไปอย่างมาก

ในสายตาของเขา นินจาระดับคาเงะไม่ควรมาปรากฎตัวในสนามรบอย่างดุ่มๆแบบนี้ได้

เพราะหน้าที่ของระดับคาเงะคือการรักษาเสถียรภาพของกำลังเสริมและควบคุมสถานการณ์สนามรบทั้งหมดไว้

อย่างที่สองคือเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกซุ่มโจมตีโดยหมู่บ้านนินจาอื่นๆซึ่งจะนําไปสู่สถานการณ์ที่เสียเปรียบในสนามรบได้

แต่ตอนนี้ ชินหยูกลับบอกเขาว่านอกจากเขาจะได้เจอกับหนึ่งในเจ็ดดาบนินจาอีกคนแล้วเขายังได้พบกับมิซึคาเงะรุ่นที่สามแห่งคิริงาคุเระอีกด้วย

ถ้าหากว่าไม่ใช่ชินหยูที่พูดกับเขาแบบนี้ เขาจะไม่มีทางชื่ออย่างเด็ดขาด

แต่จู่ๆ มินาโตะก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

ถ้าหากว่ารินถูกจับมาโดยนินจาของคิริงาคุเระ ที่นําโดยมิซึคาเงะรุ่นที่สาม

นั่นหมายความว่าคู่ต่อสู้ของชินหยูก็ต้องเป็นมิซึคาเงะรุ่นที่สามใช่ไหม?

และการที่ตอนนี้ชินหยูยังอยู่ที่นี่ได้โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ผลลัพธ์จึงมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

"ชินหยู นี่นาย นายทำให้มิซึคาเงะรุ่นที่สามถอยไปได้งั้นเหรอ?" มินาโตะถามด้วยความตกใจ

"เปล่า!" ชินหยูส่ายหัวและพูดว่า "ฉันฆ่ามันไปแล้วต่างหาก"

คำพูดของชินหยูนั้นราวกับพายุที่สามารถทำลายหมู่บ้านได้ภายในพริบตา

ครึ่งแรกของประโยคนั้นทําให้มินาโตะถอนหายใจออกมาได้ด้วยความโล่งอก แต่ครึ่งประโยคหลังนั้นมันแทบจะทำให้เขาแทบบ้า

รินที่ยืนอยู่ข้างๆเองก็มีสีหน้าตะลึงและไม่สามารถตอบโต้อะไรได้

ห้าคาเงะนั้น เป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดในห้าหมู่บ้านนินจาชั้นนำ คาเงะทุกคนนั้นมีความแข็งแกร่งเฉพาะด้านเป็นพิเศษ เมื่อพวกเขาปรากฏตัวในสนามรบ พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้อย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้ชินหยูกลับกำลังบอกเขาว่าเขาฆ่ามิซึคาเงะไปแล้วเนี่ยนะ?

เรื่องแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป

"ชินหยู นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ" มินาโตะพูดอย่างจริงจังและถามต่อ "นายทำยังไงให้มิซึคาเงะรุ่นที่สามถอยไปได้?"

ชินหยูชำเลืองตาไปมองและถามว่า "ฉันดูเหมือนคนที่พูดเล่นกับนายตลอดเวลาเลยรึไง?"

"มิซึคาเงะรุ่นที่สามเป็นพลังสถิตร่างของสามหางที่ถูกฉันดึงออกมา ส่วนสามหางตอนนี้กำลังไปจับปลาให้ฉันอยู่"

เหี้*อะไรวะเนี่ย!

ไม่ว่าจะเป็นรินหรือมินาโตะ พวกเขาทั้งคู่ต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนี้

เมื่อมองไปที่ชินหยูที่กําลังพูดเรื่องไร้สาระออกมาอย่างจริงจัง มินาโตะก็ไม่ทนอีกต่อไปและกำลังจะกระชากไหล่ของชินหยู

แต่จู่ๆเสียงคํารามบางอย่างได้ดังขึ้นจนทําให้ท่าทีของมินาโตะนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก

"บ้าชะมัด ทำไมข้าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย? ข้าเป็นถึงสามหางเลยนะโว้ยย!" เสียงคํารามของสามหางนั้นดังฟังชัดเจนมาก

มินาโตะ รีบหันไปมองตามเสียงนั้นอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเขาก็เห็น คาคาชิ กับ โอบิโตะ กำลังแย่งปลาสองตัวในปากของสัตว์ที่เหมือนเต่าแต่มีหางสามหางอยู่ด้านหลัง

ในฐานะนินจาระดับสูงของโคโนฮะและเป็นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้เป็นโฮคาเงะ แน่นอนว่าเขาเคยเห็นสัตว์หางขนาดใหญ่มามากแล้ว

และฉากตรงหน้าเขามันก็ทำให้เขาตกใจอย่างมาก!