"มันจะแข็งแกร่งกว่าฉันอีกงั้นเหรอ?" ท่าทีของจูโซนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าตั้งคําถามอะไรกับคําพูดของชินหยู
เขาทําได้เพียงหันหลังและจากไปด้วยความสงสัยในใจ
ส่วนจูโซจะทรยศเขาหรือไม่ ชินหยูก็ไม่ได้สนใจแล้ว
ถ้าหากว่าเขาไม่กลัวตาย ก็จะลองทรยศดูก็ได้
"ชินหยู นายปลอดภัยดีไหม?"
ร่างทั้งสามร่างรีบวิ่งออกมาจากป่าด้วยความเหน็ดเหนื่อย
เนื่องจากมินาโตะไม่เคยมาบริเวณนี้ เขาจึงไม่ได้ทิ้งอักขระเทพสายฟ้าเหินเอาไว้ ทำให้เขาต้องมาที่นี่ด้วยการวิ่งเท่านั้น
เขารีบมาที่นี่อย่างรวดเร็วภายในไม่ถึงหนึ่งวันพร้อมกับ คาคาชิ และ โอบิโตะ ที่หอบหายใจอย่างหนัก
แม้ว่าพวกเขาจะมาถึงสนามรบแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีแม้แต่กําลังที่จะต่อสู้
"ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจบแล้ว และฉันก็ช่วยเธอไว้ได้ด้วย" ชินหยูเหลือบไปมองคาคาชิและคนอื่นๆจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปที่หน้าผาที่ถล่มลงมา
ตอนที่กบทั้งสามตัวกำลังต่อสู้กับสามหาง ชินหยูได้ใช้โอกาสนี้พารินไปซ่อนไว้แล้วสร้างกำแพงกั้นขึ้น
ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาพาเธออกมาแล้ว
"ครูมินาโตะรอผมด้วย" โอบิโตะหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้งและเริ่มเดินตามมินาโตะไป
เขาล้มลงกับพื้นหลังจากที่ก้าวไปได้เพียงสองสามก้าว คาคาชิเองก็เช่นกัน
เขานั้นไม่มีแรงแม้แต่แรงที่จะเดินได้อีกต่อไป
"เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็อยู่ที่นี่ไปก่อน ฉันจะไปดูเอง" มินาโตะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
แม้ว่าชินหยูจะแก่กว่าคาคาชิ กับ โอบิโตะ สองปี แต่ความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งนั้นถือว่าห่างกันอย่างมาก
"ชินหยู ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉันเอาไว้!"
มินาโตะที่เพิ่งถอนหายใจนั้น กำลังเห็นรินวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของชินหยู
ลูกบอลนุ่มๆสองลูกนั้นทําให้ชินหยูตกตะลึงเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นประโยชน์ของการได้ช่วยเหลือสาวสวยสินะ”
"นี่ๆ พวกเธอจะกอดกันอีกนานแค่ไหนน่ะ? ถ้าหากสองคนนั้นเห็นเข้าล่ะก็ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะต้องรับไม่ได้แน่ๆ" มินาโตะพูดขึ้น
ในฐานะครู เห็นรู้ได้อย่างชัดเจนว่าระหว่างทั้งสามคนนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง
ถ้าพวกเขารู้ว่าผู้หญิงที่กําลังจะได้รับการช่วยเหลือกระโจนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของชายอื่นล่ะก็…
ความรู้สึกแบบนั้นอาจจะทำให้ทั้งสองคนนั้นทรมานมากขึ้นก็ได้
"ครูมินาโตะ นี่ครูกําลังพูดอะไรน่ะ? หนูกับชินหยูไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย" รินหน้าแดงเล็กน้อย
"ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่ช่วยเธอเอาไว้สองครั้งแค่นั้นเอง" ชินหยูพูดเบาๆ
"ชินหยู นี่นาย!" ใบหน้าของรินแดงขึ้น เธอนั้นแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินด้วยความอาย
มินาโตะที่เห็นแบบนี้จึงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะไม่สามารถเทียบกับนายได้จริงๆแหละ"
"เอาเถอะเรื่องนั้นน่ะชั่งมันก่อน ว่าแต่ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
ระหว่างทาง พวกเขาได้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกระสุนสัตว์หางอยู่ไกลๆ ซึ่งมันทําให้ภูเขาขนาดเล็กกลายเป็นฝุ่นได้อย่างรวดเร็ว
มันเป็นการโจมตีขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปไกลหลายกิโลเมตรก็ตาม
"หนู หนูรู้แค่ว่าตอนที่ชินหยูปรากฏตัวขึ้น หนูก็เป็นลมไปทันที" รินพูดด้วยสีหน้าที่อึดอัด
แต่ถึงอย่างนั้นเธอไม่ควรถูกตําหนิในเรื่องนี้ เพราะเธอได้ถูกลักพาตัวไประหว่างทาง และถูกใช้คาถาลวงตาอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมที่จะเป็นพลังสถิตร่างคนใหม่
สําหรับรินที่ถูกครอบงําด้วยคาถาลวงตาอย่างสมบูรณ์ การที่เธอฟื้นขึ้นมาได้บางช่วงนั้นก็ถือว่าเก่งมากๆแล้ว
"ส่วนฉันได้เจอกับ 7 ดาบนินจาคุชิมารุ และมิซึคาเงะรุ่นที่สาม" ชินหยูไม่ได้ปิดบังว่าเขาเจอใครบ้าง
เขารู้ดีว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกบทั้งสามกับจิไรยะ ยังไงมินาโตะก็ต้องรู้เรื่องนี้จากจิไรยะอยู่ดี
แทนที่จะไปรู้ทีหลังสู้เขาพูดไปเลยตรงๆดีกว่าว่าได้เจอกับใครบ้าง
ชินหยูเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทางโคโนฮะจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรในอนาคต
"นายกําลังพูดถึงมิซึคาเงะรุ่นที่สามที่ว่ากันว่าลึกลับที่สุดในคิริงาคุเระคนนั้นงั้นเหรอ?!!" การแสดงออกทางสีหน้าของมินาโตะเปลี่ยนไปอย่างมาก
ในสายตาของเขา นินจาระดับคาเงะไม่ควรมาปรากฎตัวในสนามรบอย่างดุ่มๆแบบนี้ได้
เพราะหน้าที่ของระดับคาเงะคือการรักษาเสถียรภาพของกำลังเสริมและควบคุมสถานการณ์สนามรบทั้งหมดไว้
อย่างที่สองคือเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกซุ่มโจมตีโดยหมู่บ้านนินจาอื่นๆซึ่งจะนําไปสู่สถานการณ์ที่เสียเปรียบในสนามรบได้
แต่ตอนนี้ ชินหยูกลับบอกเขาว่านอกจากเขาจะได้เจอกับหนึ่งในเจ็ดดาบนินจาอีกคนแล้วเขายังได้พบกับมิซึคาเงะรุ่นที่สามแห่งคิริงาคุเระอีกด้วย
ถ้าหากว่าไม่ใช่ชินหยูที่พูดกับเขาแบบนี้ เขาจะไม่มีทางชื่ออย่างเด็ดขาด
แต่จู่ๆ มินาโตะก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
ถ้าหากว่ารินถูกจับมาโดยนินจาของคิริงาคุเระ ที่นําโดยมิซึคาเงะรุ่นที่สาม
นั่นหมายความว่าคู่ต่อสู้ของชินหยูก็ต้องเป็นมิซึคาเงะรุ่นที่สามใช่ไหม?
และการที่ตอนนี้ชินหยูยังอยู่ที่นี่ได้โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ผลลัพธ์จึงมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
"ชินหยู นี่นาย นายทำให้มิซึคาเงะรุ่นที่สามถอยไปได้งั้นเหรอ?" มินาโตะถามด้วยความตกใจ
"เปล่า!" ชินหยูส่ายหัวและพูดว่า "ฉันฆ่ามันไปแล้วต่างหาก"
คำพูดของชินหยูนั้นราวกับพายุที่สามารถทำลายหมู่บ้านได้ภายในพริบตา
ครึ่งแรกของประโยคนั้นทําให้มินาโตะถอนหายใจออกมาได้ด้วยความโล่งอก แต่ครึ่งประโยคหลังนั้นมันแทบจะทำให้เขาแทบบ้า
รินที่ยืนอยู่ข้างๆเองก็มีสีหน้าตะลึงและไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
ห้าคาเงะนั้น เป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดในห้าหมู่บ้านนินจาชั้นนำ คาเงะทุกคนนั้นมีความแข็งแกร่งเฉพาะด้านเป็นพิเศษ เมื่อพวกเขาปรากฏตัวในสนามรบ พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ชินหยูกลับกำลังบอกเขาว่าเขาฆ่ามิซึคาเงะไปแล้วเนี่ยนะ?
เรื่องแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป
"ชินหยู นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ" มินาโตะพูดอย่างจริงจังและถามต่อ "นายทำยังไงให้มิซึคาเงะรุ่นที่สามถอยไปได้?"
ชินหยูชำเลืองตาไปมองและถามว่า "ฉันดูเหมือนคนที่พูดเล่นกับนายตลอดเวลาเลยรึไง?"
"มิซึคาเงะรุ่นที่สามเป็นพลังสถิตร่างของสามหางที่ถูกฉันดึงออกมา ส่วนสามหางตอนนี้กำลังไปจับปลาให้ฉันอยู่"
เหี้*อะไรวะเนี่ย!
ไม่ว่าจะเป็นรินหรือมินาโตะ พวกเขาทั้งคู่ต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนี้
เมื่อมองไปที่ชินหยูที่กําลังพูดเรื่องไร้สาระออกมาอย่างจริงจัง มินาโตะก็ไม่ทนอีกต่อไปและกำลังจะกระชากไหล่ของชินหยู
แต่จู่ๆเสียงคํารามบางอย่างได้ดังขึ้นจนทําให้ท่าทีของมินาโตะนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก
"บ้าชะมัด ทำไมข้าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย? ข้าเป็นถึงสามหางเลยนะโว้ยย!" เสียงคํารามของสามหางนั้นดังฟังชัดเจนมาก
มินาโตะ รีบหันไปมองตามเสียงนั้นอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเขาก็เห็น คาคาชิ กับ โอบิโตะ กำลังแย่งปลาสองตัวในปากของสัตว์ที่เหมือนเต่าแต่มีหางสามหางอยู่ด้านหลัง
ในฐานะนินจาระดับสูงของโคโนฮะและเป็นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้เป็นโฮคาเงะ แน่นอนว่าเขาเคยเห็นสัตว์หางขนาดใหญ่มามากแล้ว
และฉากตรงหน้าเขามันก็ทำให้เขาตกใจอย่างมาก!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved