ตอนที่ 57 นี่มันกับดักนี่หว่า

เมื่อมองไปที่คาคาชิที่มุ่งมั่น มินาโตะก็ทึ่งเล็กน้อย

เขานั้นคิดว่าคาคาชิน่าจะหมดกำลังใจเพราะชินหยู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันตรงกันข้ามเลย

"เอาล่ะพอได้แล้ว ริน รีบรักษาคาคาชิเดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นพวกเราจะแยกย้ายกันเหมือนเดิม" มินาโตะพูด

"ฉันเป็นห่วงพวกเธอมากน่ะ แต่ถ้ามีชินหยูอยู่ด้วย ฉันเชื่อว่าพวกเธอจะต้องปลอดภัย"

หลังจากที่พูดจบ มินาโตะก็หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาและหายตัวไปทันที

ฮู่วว!

โอบิโตะถอนหายใจออกด้วยความโล่งอกและนั่งลงข้างๆชินหยู เขาถามอย่างประหม่าว่า "ชินหยู ฉันไม่คิดเลยว่านายจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้"

"เนตรวงแหวน กับ จักระสายฟ้าที่ทรงพลัง ไม่แปลกใจเลยที่นายได้กลายเป็นนินจาระดับสูงได้แบบนี้ นายน่ะแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครหลายคนในหมู่บ้านเลยนะ"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โอบิโตะก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่คาคาชิ

เห็นได้ชัดว่าความตั้งใจของเขาคือการยืมพลังของชินหยูเพื่อไปข่มคนอื่น

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายพูดถึงใคร แต่ฉันรู้สึกตกใจกับการโจมตีอย่างกะทันหันของศัตรู แล้วใครกันที่บอกว่าจะปกป้องรินน่ะ?" เห็นได้ชัดว่าคาคาชิเองก็เริ่มโกรธและกำลังระบายความโกรธของเขาไปที่โอบิโตะ

“นี่นาย!”

โอบิโตะโกรธมากเขารีบพูดทันทีว่า "แค่ฝุ่นมาเข้าตาต่างหากฉันเลยไม่ทันได้ตั้งตัวน่ะ"

"และชินหยูก็แย่งซีนฉันไปแล้วด้วย"

เมื่อมองไปที่เด็กสองคนที่กำลังเถียงกัน ชินหยูก็รู้สึกหมดหนทาง

เขาเบื่อที่จะต้องมาทำภารกิจกับเด็กมากจริงๆ..

"ริน เลือดที่บาดแผลของคาคาชิหยุดไหลรึยัง?" ชินหยูมองไปที่บาดแผลของคาคาชิ

รินเป็นนินจาแพทย์เพียงคนเดียวของทีมนี้

แต่วิชาแพทย์ของเธอก็เป็นแค่ขั้นพื้นฐานเท่านั้น

ซึ่งวิชานินจาแพทย์นั้นมีเบื้องต้นคือการควบคุมจักระอย่างแม่นยําและห้ามพลาดแม้แต่นิดเดียว

การที่รินสามารถทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

"บาดแผลของคาคาชิน่ะลึกมาก คิดว่าต้องใช้เวลาอีกครู่นึงเลยล่ะ" รินปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเธอ

คาคาชิขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า "ริน ถ้าเธอเหนื่อยก็ไปพักก่อนเถอะ บาดแผลแค่นี้น่ะทำอะไรฉันไม่ได้หรอกน่ะ”

ขณะที่เขาพูด คาคาชิก็เอาผ้าพันแผลไปพันรอบแผลของเขา

แต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว เขาก็เห็นมือของชินหยูอยู่บนไหล่ของเขา

"ให้ฉันทําเองเถอะ นายน่ะได้รับบาดเจ็บอยู่ เดี๋ยวฉันช่วยเอง" ชินหยูค่อยๆรีดจักระออกมาจากมือขวาของเขา

คาถาฟื้นฟูนั้นได้ถูกเปิดใช้งานทันที

ความรู้สึกที่เจ็บปวดบนไหล่ของคาคาชิค่อยๆจางหายไปอย่างรวดเร็ว และแม้แต่บาดแผลของเขาก็ปิดสนิทแล้ว ไม่ต้องพูดถึงคาคาชิกับโอบิโตะเลย แม้แต่รินซึ่งเป็นนินจาแพทย์นั้นก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง

"ชิน..ชินหยู นี่นายใช้วิชานินจาแพทย์ได้ด้วยเหรอ?" รินไม่สามารถกลั้นความสงสัยของเธอได้อีกต่อไป

ในฐานะนินจาแพทย์ เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันยากขนาดไหน

การที่ชินหยูสามารถรักษาบาดแผลของคาคาชิได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ อย่างน้อยเขาจะต้องเชี่ยวชาญในวิชาแพทย์ระดับสูง

"ก็นิดหน่อยน่ะ"

เมื่อเห็นว่าบาดแผลบนไหล่ของคาคาชิหายสนิทแล้ว ชินหยูก็หดจักระในมือของเขาและพูดว่า "เอาล่ะ หลังจากนี้เราจะไปจับปลาตัวใหญ่กัน"

….

หลังจากนั้นสามสิบนาทีต่อมา ชินหยูกับกลุ่มของเขาก็เดินเข้าไปในป่าไผ่

เมื่อรู้สึกได้ถึงความเงียบรอบตัวพวกเขา คาคาชิก็ยกมือขึ้นและหยุดพวกเขา

"คาถาดิน - หอกดิน!"

หอกดินจํานวนมากที่ถูกฝังอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พลังของมันนั้นสามารถเจาะทะลวงร่างของคนให้กลายเป็นรูคล้ายรังแตนได้ทันที

"แยกย้าย!"

มุมปากของชินหยูโค้งเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย เรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่ค่อยแตกต่างจากผลงานต้นฉบับมากนัก

ซึ่งเรื่องนี้ทําให้ชินหยูพอจะคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างง่ายดาย

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสี่คนจะเริ่มเคลื่อนไหวทันทีและแยกย้ายกันออกไปอย่างรวดเร็วในทุกทิศทาง

แต่ถึงอย่างนั้น สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่รินไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

รินลงไปยืนบนผิวน้ำและรีดจักระไปที่เท้าเพื่อทำให้เธอยืนได้มั่นคงขึ้น

หลังจากนั้น ผิวน้ำด้านหลังของเธอก็พุ่งขึ้นทันที!!

นินจาอิวะงาคุเระที่ใช้คาถาอำพรางร่างกายนั้นปรากฏตัวขึ้นและคว้าร่างของรินไว้ทันที

"ฮ่าๆๆๆ พวกนายสามคนไม่สามารถปกป้องผู้หญิงแค่คนเดียวได้เนี่ยนะ? ไม่ต้องห่วงนะสาวน้อย เดี๋ยวพวกเราจะดูแลเธออย่างดีเลย" หลังจากที่พูดจบ เขาก็รีบถอยไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ภายป่าไผ่ขนาดใหญ่ก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

"มีคนรอซุ่มโจมตีอยู่จริงๆด้วย สิ่งที่ชินหยูพูดเอาไว้นั้นถูกต้องจริงๆ ดูเหมือนว่ามันจะเห็นว่าพวกเราเป็นแค่เด็กก็เลยกล้าที่จะลงมือสินะ" รินปรากฏตัวจากความมืด

"ถ้าพวกมันรู้ว่านั่นคือร่างแยกเงาของชินหยู ฉันอยากรู้จริงๆว่าพวกมันจะรู้สึกยังไง?"

ในตอนนี้ แม้แต่คาคาชิเองก็มองไปที่ชินหยูด้วยความเงียบ

คาคาชินั้นคิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะของโคโนฮะและมีความสามารถที่ไม่ธรรมดามาโดยตลอด

แต่เมื่อเขาต้องมาเผชิญหน้ากับชินหยู คาคาชิก็เริ่มรู้สึกว่าเขานั้นไม่ได้ต่างอะไรกับนินจาทั่วไปเลย

"ใช่ ชินหยูได้คาดเดาทุกอย่างเอาไว้แล้ว แล้วตอนนี้พวกเราควรทํายังไงต่อดีล่ะ? หรือว่าพวกเราควรไล่ตามเขาไป?" โอบิโตะดูตื่นเต้นเล็กน้อย

"ไม่ ต้องจัดการกับผู้นําของมันก่อน แล้วเราจะสามารถจัดการกับพวกปลาตัวน้อยได้ในทีเดียว" ชินหยูพูด

ในขณะเดียวกัน ภายในถ้ำที่อยู่ไม่ไกล….

"ผู้หญิงคนนี้เงียบจริงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าผู้ชายสามคนนั้นไม่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ก็เลยนั่งหงอยเลยสินะ" นินจาของอิวะงาคุเระพูดด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ย

"ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทําคือใช้คาถาลวงตากับเธอและรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด"

"ถ้าหากพวกเรารู้จํานวนคนและแผนการของโคโนฮะ พวกเราจะเป็นฮีโร่ในการต่อสู้ครั้งนี้"

นินจาอิวะแบกร่างแยกเงาของชินหยูไว้ที่ด้านหน้าของกําแพงและส่งสัญญาณให้เพื่อนของเขาใช้คาถาลวงตาทันที

ขณะที่ประสานอินเสร็จ เขาก็ตะโกนขึ้นทันที

"คาถาลวงตา!"

ความผันผวนทางจิตวิญญาณเริ่มแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของนินจาที่ใช้คาถาลวงตาทันที

ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นชินหยูที่กำลังนั่งเฉยๆด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเครียด

เมื่อทั้งสองคนเห็นแบบนี้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและคิดว่าแผนการของพวกเขาช่างราบรื่นจริงๆ!

"เพื่อน ดูเหมือนว่าโชคของพวกเราค่อนข้างดีทีเดียว ถ้าหากรีดข้อมูลออกมาได้ก่อนที่กองกําลังหลักจะมาถึง พวกเราชนะแน่" ความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนินจาอิวะงาคุเระ

ขณะที่เขาพูด เขาก็เดินไปที่ร่างแยกของชินหยู

ในขณะเดียวกัน เขาก้เอื้อมมือขวาออกมาและยกคางของชินหยูขึ้นเบา ๆ

แต่จู่ๆรอยยิ้มที่ปรากฎขึ้นในสายตาของเขานั้น กลับทําให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

"เป็นอะไรไปน่ะ? ไม่อยากได้ข้อมูลอีกแล้วเหรอ?"

เสียงอันแผ่วเบาของชินหยูนั้นราวกับพายุเฮอริเคนที่ซัดเข้าไปในจิตใจของนินจาทั้งสองคน

การแสดงออกของนินจาทั้งสองคนนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที

"นะ..นายเป็นใครกันน่ะ!"

ก่อนหน้านี่เขาจำได้ว่าเขาจับผู้หญิงมา!

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของผู้ชายดังขึ้น พวกเขาจึงรู้ได้ทันทีว่านี่คือกับดัก!!

"ฮ่าๆๆๆ กว่าจะรู้ตัวได้นะ" ชินหยูเยาะเย้ยทั้งสองคน

หลังจากนั้น ร่างแยกของชินหยูได้กลายเป็นหมอกควันสีขาวทันที

ฉากที่เกิดขึ้นนั้นทําให้นินจาทั้งสองคนถึงกับสติแตก

พวกเขาไม่คิดอะไรอีกต่อไปและรีบวิ่งหนีไปทันที

แต่ในขณะที่พวกเขาสองคนกำลังก้าวออกไปจากถ้ำ พวกเขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังโจมตีเข้ามา!!