ตอนที่ 108 สัตว์อัญเชิญของดันโซ

"ใครเหรอ...เขาคือใครงั้นเหรอ?..." อังโกะกัดฟันแน่นและแกล้งทำเป็นไม่รู้จักชินหยู

เธอรู้ได้ทันทีว่าดันโซนั้นไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้น คําพูดที่ไร้เดียวสาของเธอนั้นถึงกับทำให้ดันโซมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธทันที

แม้ว่าเธออาจจะสร้างปัญหาให้กับชินหยูในเรื่องนี้

แต่ในสายตาของเธอ ชินหยูนั้นไม่ได้เลวร้ายมากเท่ากับดันโซและฟูเลย

“นี่เธอน่ะ! เป็นเด็กเป็นเล็กคิดที่จะโกหกแล้วงั้นเรอะ? ฟู! จับตัวเธอไปสอบสวนที่หน่วยรากเดี๋ยวนี้!!" ใบหน้าของดันโซมืดมนขณะที่เขาตะโกนด้วยความโกรธ

เนื่องจากอังโกะนั้นเป็นพยานคนสําคัญที่เห็นว่าพวกเขานั้นมีส่วนรู้เห็นกับโอโรจิมารุ

ไม่ว่าชินหยูจะเป็นตัวปัญหาแค่ไหน แต่ในตอนนี้สิ่งที่สําคัญที่สุดคือต้องกําจัดอังโกะก่อน

"ครับ ท่านดันโซ!" ฟูกำลังจะทำตามคำสั่งของดันโซ

เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น มันก็ค่อนข้างน่าอับอายสําหรับเขา

"หยุดนะ!" ฮิรุเซ็นตะโกนอย่างเย็นชา

จิไรยะที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นพุ่งเข้ามาตรงหน้าฟูทันที

"ดันโซ ในเมื่อชินหยูยังอยู่ในที่พักของตระกูลอุจิวะ ฉันคิดว่านายไม่ควรทำอะไรตามใจชอบแบบนี้!!" ฮิรุเซ็นแสดงออกทางสีหน้าเป็นการเตือนของเขา

ใบหน้าของดันโซนั้นมืดลง เขามองไปที่อังโกะซึ่งอยู่ตรงหน้าเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า "ฮิรุเซ็น เรื่องนี้น่ะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของโคโนฮะ บางทีเจ้าเด็กคนนั้นอาจจะนำหน้าอังโกะไปหนึ่งก้าวก็ได้"

"ถ้าพวกเราอยากรู้เรื่องนี้จริงๆ พวกเราแค่ต้องจับตัวเขาไปและส่งตัวให้หน่วยทรมานเพื่อสอบสวนเขาเท่านั้น"

"ดันโซ นี่นายบ้าไปแล้วเรอะ?" การแสดงออกของฮิรุเซ็นเปลี่ยนไปอย่างมากขณะที่ตะโกนออกมา

"ฮึ เอาเถอะ จะว่าฉันบ้าก็ได้ แต่ทุกสิ่งที่ฉันทําก็เพื่อความปลอดภัยของโคโนฮะ เพราะฉันได้ส่งคนของฉันทั้งหมดไปโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว"

หลังจากที่พูดจบ ร่างของดันโซก็หายไปและรีบออกไปพร้อมกับฟู

“เจ้าบ้านั่น!”

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในหอคอยโฮคาเงะ การแสดงออกของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

เมื่อต้องเผชิญกับซูซาโนะโอที่ทรงพลังขนาดนั้น ดันโซจะหาทางจัดการกับมันด้วยวิธีไหน?

"รีบตามไปเร็วเข้า อย่าปล่อยให้เรื่องต่างๆต้องแย่ลงไปกว่านี้อีก" สีหน้าของโฮคาเงะรุ่นที่สามนั้นมืดลงและเขาก็รีบไล่ตามไปเช่นกัน

เดิมทีฮิรุเซ็นนั้นก็กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากภายนอกเช่นแคว้นใหญ่ทั้งสี่ ซึ่งมันก็ยุ่งยากมากอยู่แล้ว

และตอนนี้ ดันโซก็ยังคงยืนกรานที่จะทําในสิ่งที่เขาต้องการอีก เรื่องแบบนี้จะทําให้เขาสงบลงได้อย่างไร?

ภายในสํานักงานใหญ่ของตระกูลอุจิวะ ที่ตั้งอยู่ขอบหมู่บ้านของโคโนฮะงาคุเระ

บนถนนสายหลักที่ทอดยาวไปถึงสํานักงานใหญ่ นอกจากคนของตระกูลอุจิวะแล้ว ก็มีนินจาโคโนฮะไม่กี่คนเท่านั้น

ซึ่งตอนนี้ฟุงาคุก็กำลังยืนรอแขกไม่ได้รับเชิญที่กำลังจะเข้ามาในพื้นที่ของตระกูล

"ชินหยู พวกเขามาแล้ว" ฟุงาคุพูดขณะที่ยืนอยู่ด้านนอก

เมื่อรู้สึกถึงจิตสังหารรอบๆตัวเขา เขาก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป

"อืม คุณน่ะกลับไปได้แล้วและอย่าออกมาล่ะ" ชินหยูเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ

เมื่อชินหยูจากไป เขาได้จัดสร้างร่างแยกเงาไว้สองร่างเพื่อรวบรวมจักระเซียน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้ถูกใช้งานไปแล้ว

ซึ่งทำให้ตอนนี้เหลือเพียงร่างเดียวเท่านั้น

"นายจะใช้แค่ร่างแยกเงาของนายเท่านั้นจริงๆงั้นเหรอ?" ฟุงาคุถามด้วยความสงสัย

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็รู้ดีว่านี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป

ถ้าหากเขาเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ มันจะกลายเป็นข้ออ้างสําหรับดันโซที่จะทำให้ตระกูลอุจิวะถูกกดดันมากขึ้นไปอีก

"ไม่ต้องห่วงหรอก ผมน่ะจัดการได้อยู่แล้ว" ชินหยูพูดอย่างนิ่งเฉย

ฟุงาคุถึงกับสะดุ้ง ทันทีที่เงาดําหลายสิบร่างปรากฎขึ้นมาจากทุกทิศทาง

"มาแค่นี้เหรอ? ดูเหมือนว่าจะน้อยกว่าที่คิดนะ" ชินหยูพูดพลางยิ้มเบาๆ

สายตาของนินจาหน่วยรากจ้องลงมาจากทุกทิศทาง ขณะที่พวกเขากำลังอยู่ในตำแหน่งที่ล้อมรอบชินหยูไว้

เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่สามารถจัดการกับโทรุเนะได้ด้วยการบีบร่างจนแหลกละเอียดได้อย่างง่ายดายนั้น

จึงไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะเต็มไปด้วยความประหม่า!

แต่ถึงอย่างนั้น ดันโซก็ได้เตรียมการสําหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว

"โจมตีได้!"

ทันใดนั้น นินจาชั้นนําของหน่วยรากของรากได้เริ่มเปิดฉากการโจมตีทันที

นินจานับสิบคนหรือมากกว่านั้นที่ตามหลังเขามาใกล้ๆนั้นกำร้อมที่จะโจมตีแล้วเช่นกัน

"คาถาไฟ - ลูกบอลเพลิงยักษ์..."

"คาถาลม - คลื่นลมสูญญากาศ..."

"คาถาสายฟ้า - สายฟ้าฟาด..."

...

นินจานับสิบคนเริ่มโจมตีอย่างพร้อมเพรียงกัน

การโจมตีจํานวนมากพุ่งเข้าหาชินหยูราวกับคลื่นพายุที่โหมกระหน่ำ

เสียงที่ดังขึ้นจากภายนอกนั้น ทำให้อิทาจิ และ ชิซุยที่อยู่ในห้องถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจทันที

"ซูซาโนะโอ!"

เนตรวงแหวนเก้าลูกน้ำในดวงตาของชินหยูเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว พลังเนตรแดงเริ่มปลดปล่อยออร่ากดดันออกมาอย่างรวดเร็วและกลายเป็นร่างของซูซาโนะโอที่สูงหลายสิบเมตร

แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่พลังของร่างแยกเงา แต่มันก็มีพลังของร่างต้นอยู่ในระดับหนึ่งด้วยเช่นกัน

ถึงอย่างนั้น ความแข็งแกร่งของพลังเนตรนั้นก็มีเพียงหนึ่งในสิบของความแข็งแกร่งของร่างต้นเท่านั้น

ครืนน!

ออร่ากดดันที่รุนแรงพุ่งออกไปด้านนอก จนทำให้คนธรรมดาทุกคนรอบๆบริเวณนั้นถึงกับตัวสั่นเทาด้วยความกลัว

ถ้าชินหยูไม่ได้บอกให้ฟุงาคุเตรียมการเอาไว้ก่อน บางทีออร่าพลังที่กดดันมากขนาดนี้ทําลายพื้นที่ด้านนอกได้เลยด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำตระกูลแล้ว พื้นที่ในตระกูลของเขาเองก็มีกําแพงผนึกที่เอาไว้ป้องกันตระกูลอย่างชัดเจน

"พ่อ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?" ท่าทีของอิทาจิเริ่มเปลี่ยนไป

เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเกิดขึ้นในโคโนฮะอีกด้วย

“ในที่สุดดันโซก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ฉันอยากรู้จริงๆว่าชินหยูจะจัดการกับเจ้านั่นยังไง?" ท่าทีของชิซุยเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

เมื่อมองไปที่ซูซาโนะโอที่ปรากฏขึ้นระหว่างการโจมตีของนินจานับสิบคนนั้น หน่วยรากคนอื่นๆก็เริ่มประสานอินตอบโต้เช่นกัน

"คาถาผนึก – โซ่ตรึงจิต!"

สายโซ่ที่ควบแน่นโดยจักระกลายเป็นโซ่จักระที่เข้าไปพันรอบๆซูซาโนะโอทันที

ความเร็วนั้นเร็วมากจนเพียงแค่ในพริบตา ร่างของซูซาโนะโอก็ถูกโซ่เส้นนั้นโอบล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา

"ชินหยู นี่เป็นคาถาผนึกที่สามารถตรึงร่างได้แม้กระทั่งเก้าหาง เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยของโคโนฮะ นายควรยอมแพ้แต่โดยดี!" เสียงขู่ของดันโซดังขึ้นทันที

ร่างที่ปรากฎขึ้นมาจากความมืดอย่างรวดเร็วนั้นกำลังประสานอินและตบลงบนพื้น

“คาถาอัญเชิญ!”

ป๊อง!

กลุ่มควันสีขาวจํานวนมากพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากนั้นมันก็กระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง

วี้ดดด!

ทันใดนั้นเสียงร้องที่ดังจนแสบแก้วหูก็ดังขึ้น สัตว์อัญเชิญขนาดใหญ่ที่มีสีเหลืองซีดทั้งร่างและมีจมูกยาวนั้นได้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

"พ่อ นั่นมันช้างไม่ใช่เหรอ?" การแสดงออกของอิทาจิเปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยของเขา

"ไม่ใช่" การแสดงออกของฟุงาคุเปลี่ยนไป "นั่นน่ะคือบาคุสัตว์อัญเชิญของดันโซ!"

"มันคือสมเสร็จธาตุลมที่หาได้ยากมาก ดูเหมือนว่าดันโซกําลังวางแผนที่จะเริ่มโจมตีอย่างเด็ดขาแล้วจริงๆ ฉันอยากรู้เหลือเกินว่า ชินหยูจะสามารถจัดการกับเขาในตอนนี้ได้ไหม?"