ตอนที่ 261

神秘高手,十个图腾?(三更)

“เจ้าเป็นใคร?!”ชายชุดดำเอ่ยถามลู่อี้ผิง,แววตาที่ยากจะปกปิดความหวาดกลัวเอาไว้ได้.

ขณะตื่นตะหนก,ก็อดไม่ได้ขณะจ้องมองต้นไม้ที่สูงใหญ่,นี่คือพฤกษาเทวะฮุ่นตุ้นอย่างงั้นรึ?! เขาไม่อาจยืนยันได้,ทว่า,บอกได้ว่าสิ่งนี้ต้องกำเนิดมาจากช่วงเวลาฮุ่นตุ้นแน่นอน,ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะกำเนิดลมปราณฮุ่นตุ้นเช่นนี้ได้.

นอกจากนี้,ลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นยังหนาแน่นเป็นอย่างมาก.

หากว่าได้นั่งบ่มเพาะใต้ต้นไม้นี้แล้วล่ะก็,จะต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างไม่ต้องสงสัย.

ลู่อี้ผิงที่เห็นอีกฝ่ายละโมบในเจี้ยนมู่,เขาที่คว้ามือไปในอากาศ,จากนั้นจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม,ประกายเทพระเบิดแหลกเป็นเสี่ยง ๆไปพร้อมกัน.

เขาไม่สนใจจะถามว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร,มายังยอดเขาซิงเยว่ต้องการทำอะไรกับถังปิน.

หลังจากทำลายวิญญาณและประกายเทพของอีกฝ่ายแล้ว,ลู่อี้ผิงที่ชี้นิ้วออกไปส่งร่างอีกฝ่ายพุ่งตรงไปยังลานหน้าห้องโถงนิกายเทวะซั่งเหล่ยทันที.

ลู่อี้ผิงไม่สนใจอะไรอีก,นั่งบ่มเพาะกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำต่อไป.

มหาเต๋าจากหยกเจาหัวชิ้นที่สามยังไม่สำเร็จ,ตอนนี้ได้ชิ้นที่สี่มาแล้ว,เขาจึงต้องการใช้เวลาตระหนักรู้ให้มากที่สุด.

เมื่อลู่อี้ผิงส่งร่างอีกฝ่ายออกไปแล้ว,ทุกอย่างก็กลายเงียบสงบ,ไม่มีแม้แต่พลังผันผวน,ดังนั้นภายในนิกายเทวะซั่งเหล่ยจึงไม่มีใครรู้ตัว,ทว่าหลังจากนั้นศิษย์ลาดตะเวนที่ผ่านมา,พบว่าที่ลานมีร่าง ๆ หนึ่งนอนอยู่ก็ตื่นตะลึงงัน,ขณะเข้าไปตรวจสอบถึงกับตัวสั่นงันงก เร่งรีบแจ้งคนระดับสูงทันที.

เพียงไม่นาน,เจ้านิกายเทวะซั่งเหล่ย,ฟ่านเซิ่งก็นำเหล่าอาวุโสสูงมาทันที,ขณะมาถึงยกร่างดึงหน้ากากออก.

ขณะเห็นใบหน้าอีกฝ่าย,เจ้านิกายเทวะซั่งเหล่ย,ฟานเซิ่งถึงกับตกใจ”จ้าวปิศาจซิวซา.”

ได้ยินคำพูดของเจ้านิกายเทวะซั่งเหล่ย,เหล่ายอดฝีมือคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะใบหน้าเปลี่ยนสี.

“เจ้านิกาย,เป็นจ้าวปิศาจซิวซาจริงรึ?”อาวุโสสูงที่ตกใจ,จนอดไม่ได้ที่ต้องสอบถามซ้ำอีกครั้ง.

จ้าวปิศาจซิวซา,นี่คือจอมมารสุดร้ายกาจของพิภพฮุ่นหลวน,สังหารผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน,ทรงพลังแข็งแกร่ง,รวมตราประทับได้แปดอันแล้ว.

ตอนนี้,กลับมาตกตายที่ลานหน้าห้องโถงนิกายเทวะซั่งเหล่ยอย่างแปลกประหลาด!

“ใช่,นี่คือจ้าวปิศาจซิวซา!”เจ้านิกายเทวะซั่งเหล่ยกล่าวอย่างจริงจัง”ในอดีตข้าและเจ้านิกายเทวะเสี่ยวเหยา,ประมุขเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง,เคยล้อมสังหารอีกฝ่าย,ท้ายที่สุดจ้าวปิศาจซิวซาก็หนีไปได้,ข้าเคยเห็นหน้าตาของเขามาก่อนแล้ว,ย่อมจำได้!”

“นอกจากนี้ที่หน้าผากของเขายังมีไฝสีเทาด้วย.”

ทุกคนที่จดจ้องมอง,เห็นไฝสีเทาบนหน้าผากศพจริง ๆ ด้วย.

ฟ่านเซิ่งครุ่นคิดเล็กน้อย”จ้าวปิศาจซิวซาจะต้องลอบเข้ามาในนิกายซั่งเหล่ยของพวกเราและถูกสังหารไป!”

ทุกคนที่จ้องมองหน้ากันและกันด้วยท่าทางอักอ่วน.

“เป็นฝีมือของสวีเถิง,หรือบรรพชนโจวชานสังหารอีกฝ่ายหรือไม่?”อาวุโสสูงผู้หนึ่งคาดเดา.

นิกายเทวะซั่งหลาน,สามารถสังหารจ้าวปิศาจซิวซาได้,ก็มีเพียงสวีเถิงและโจวฉานที่เป็นเทพโบราณเก้าตราประทับ.

“ทว่า,ก่อนหน้านี้กับไม่ได้ยินเสียงต่อสู้กันเลยไม่ใช่รึ?”อาวุโสสูงคนหนึ่งเอ่ย.

ทุกคนต่างก็เผยความสงสัยเช่นกัน.

ด้วยความแข็งแกร่งของจ้าวปิศาจซิวซา,หากเป็นสวีเถิง,โจวฉานที่ลงมือสังหาร,แน่นอนว่าจะต้องได้ยินเสียงต่อสู้กันดังสนั่นแน่,แล้วก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ยินเสียงต่อสู้ใด ๆ เลยไม่ใช่รึ?.

“เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร,ข้าจะต้องรายงานต่อท่านบรรพชนชราสวีเถิง โจวฉานและคนอื่น ๆ ก่อน.”ฟานเซิ่งที่เผยใบหน้าจริงจัง,เร่งรีบบดยันต์สื่อสารรายงานสวีเถิงและโจวฉานและบรรพชนชราคนอื่น ๆ ในดินแดนบรรพชนทันที.

เพียงไม่นาน,ก็พบร่างหลายสิบร่างออกมาจากแดนบรรพชน.

เห็นชัดเจนว่า,เหล่าบรรพชนชราในดินแดนบรรพชนต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.

สวีเถิง,โจวฉานและคนอื่น ๆ ต่างก็ขมวดคิ้วไปมา เมื่อมาถึง.

“เป็นความจริงนี่คือจ้าวปิศาจซิวซา!”หลังจากสวีเถิงตรวจสอบแล้ว,ก็เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม”คนผู้นี้ถูกทำลายจิตวิญญาณและประกายเทพ,คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเกรงว่าจะทรงพลังจนอีกฝ่ายไม่อาจต่อต้านใด ๆ ได้เลย.”

หลังจากที่ทุกคนได้ยิน,ต่างก็เผยความประหลาดใจออกมา.

ด้วยความแข็งแกร่งของจ้าวปิศาจซิวซาที่มีแปดตราประทับ,กับไม่แม้ต่อต้านได้,ฝ่ายตรงข้ามต้องแข็งแกร่งน่าเกรงขามขนาดใหนกัน.

สวีเถิงมีเก้าตราประทับปลาย,ก็ยังไม่อาจทำลายจิตวิญญาณและประกายเทพของอีกฝ่ายในทันทีได้เลย.

“เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายคือยอดฝีมือสิบตราประทับเป็นคนสังหารจ้าวปิศาจซิวซา,ก่อนที่จะโยนศพอีกฝ่ายมายังลานด้านหน้าห้องโถงนิกายเทวะซั่งเหล่ยอย่างงั้นรึ?”บรรพชนชราผู้หนึ่งที่เผยความประหลาดใจ.

โจวฉานส่ายหน้าไปมา”โลหิตและร่างของจ้าวปิศาจซิวซายังอุ่นอยู่เลย,เห็นชัดเจนว่าเพิ่งถูกสังหาร.”จากนั้นอีกฝ่ายก็เอ่ยออกมาว่า”บางทียอดฝีมือผู้นี้ยังคงอยู่ในนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเรา!”

“อะไรนะ?!”ในเวลานี้,ทุกคนถึงกับตกใจไปตาม ๆ กัน.

สวีเถิงที่หรี่ตา”ศิษย์น้องโจวหมายความว่า,ยอดฝีมือสิบตราประทับนั้นยังอยู่ด้านในนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเราอย่างงั้นรึ?”

“ทว่าตัวตนเช่นนี้,ไม่ได้ด้อยกว่าหนึ่งในสิบลำดับเทพเป่ยหวง,หากอยู่ในนิกายเทวะซั่งเหล่ย,เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะไม่รู้จัก.”เจ้านิกายเทวะซังเหล่ยฟานเซิ่งเอ่ย”นอกจากนี้ตัวตนเช่นนี้,ไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนสถานะหลบอยู่ในนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเราเลย.”

โจวฉานเอ่ยออกมาทันที”ทุกคนลืมเรื่องเมื่อคืนก่อนแล้วรึ? คืนก่อน,คนที่ซ่อมค่ายกลกระบี่พันมายาผู้นั้น!”

ทุกคนที่เผยความอัศจรรย์ใจออกมา.

“บรรพชนหมายความว่า,จ้าวปิศาจซิวซานั้นถูกคนลึกลับเมื่อคืนก่อน สังหารอย่างงั้นรึ?”ฟ่านเซิงเผยความประหลาดใจ.

โจวฉานพยักหน้ารับ”ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น,ทว่านี่คือการคาดเดาเท่านั้น.”

“พวกเราส่งคนกระจายค้นหาทั่วทั้งนิกายตอนนี้เลยดีใหม?”ฟ่านเซิ่งเอ่ยแนะนำ.

สวีเถิงส่ายหน้าไปมา”ไม่จำเป็น,ฝ่ายตรงข้ามนั้นมีเจตนาดีต่อนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเรา,ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่,หากทำให้อีกฝ่ายโกรธ,มันจะกลายเป็นเรื่องไม่ดีขึ้นมา.”

โจวฉานเอ่ย”ศิษย์พี่สวีเถิงกล่าวถูกแล้ว,ตัวตนของคนผู้นี้,ในเมื่อมีเจตนาดีต่อนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเรา,ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่,การค้นหาเขาทั่วนิกาย,เกรงว่าจะทำให้เกิดเรื่องกลับตาลปัตรได้”

แววตาของเขาที่จ้องมองไปยังศพจ้าวปิศาจซิวซา”ทว่า,เรื่องของจ้าวปิศาจซิวซาลอบเข้ามาในนิกายเทวะซั่งเหล่ยเช่นนี้,พวกเราต้องสืบสวนให้ระเอียด!”

ทันใดนั้น,สวีเถิงก็สั่งฟ่านเซิ่งให้สอบสวนเรื่องนี้อีกครั้ง.

จากนั้นทุกคนก็ทำการแยกย้ายกัน.

ส่วนศพของจ้าวปิศาจซิวซา,สวีเถิงให้แขวนไว้บนเสาศิลาลานด้านหน้าห้องโถงนิกาย.

ดังนั้น,ในเวลาเช้าตรู่,ถังปินได้มาเคาะหน้าประตูที่พักของลู่อี้ผิง,พร้อมกับนำลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำไปยังลานด้านหน้าห้องโถง.

“เสี่ยวปิน,เจ้านำพวกเราไปยังลานหน้าห้องโถงแต่เช้าทำไมกัน?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม.

ถังปินเผยยิ้ม”เมื่อคืนจ้าวปิศาจซิวซาได้ลอบเข้ามาในนิกายเทวะซั่งเหล่ย,ถูกยอดฝีมือลึกลับสังหารไป,ศพของอีกฝ่ายถูกห้อยเอาไว้ที่หน้าเสาหินหน้าห้องโถง,ศิษย์หลายคนต่างก็ไปดู,พวกเราเองก็จะไปดูด้วยเช่นกัน.”

ด้วยเหตุนี้,ทั้งสามจึงได้เดินทางไปยังลานหน้าห้องโถง.

เวลานี้เห็นเพียงศิษย์ของนิกายเทวะซั่งเหล่ยรายล้อมรอบมุงเต็มพื้นที่ไปหมด.

ศพจ้าวปิศาจซิวซาถูกตรึงเอาไว้บนเสาศิลา,ร่างกายแทบไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ.

เหล่าศิษย์มากมายต่างก็ชี้ไปยังศพพลางพูดคุยกันเสียงดังอื้ออึง.

ถังปินที่มาถึง,พบพี่สาวถังเสวี๋ยเหยามาถึงแล้ว,ก่อนที่จะดึงลู่อี้ผิงเข้าไปหา.

“คุณชายลู่,ท่านก็มา.”ถังเสวี๋ยเหยาที่เห็นลู่อี้ผิงมา,ก็ก้าวเข้าไปทัก.

“พี่สาว,จ้าวปิศาจซิวซา,ใครเป็นคนสังหารอย่างงั้นรึ?”ถังปินอดไม่ได้โพลงถามออกมาทันที.