ตอนที่ 213

杜大雷身边的人

ลู่อี้ผิงเองก็สงสัยเหมือนกัน,หยกเจาหัวอยู่ในมือของต้วนหลงถึงสองชิ้น,มันบังเอิญไปหรือไม่?

เขาและวัวกระทิงมังกรที่ค้นหาร่องรอยต่าง ๆ ,แต่กับไม่พบข้อมูลอะไรเลย.

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ก้าวออกมา.

จากนั้น,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็นำคนอื่น ๆ ออกจากเหลวลึกขึ้นมาสู่แผ่นดิน.

ส่วนถ้ำที่พักของต้วนหลง,ลู่อี้ผิงได้วางค่ายกลซ่อนมันเอาไว้อีกครั้ง.

หลังจากกลับมาถึงพื้น,ลู่อี้ผิงมอบวารีดาราฮุ่นตุ้นให้กับหวงหยวนตง 100 หยด เป็นค่าตอบแทน.

หากไม่มีหวงหยวนตง,เป็นไปไม่ได้ที่จะพบหยกชิ้นที่สามได้.

อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงไม่ได้จากถ้ำเทพร่วงไปในทันที,ทว่ายังคงออกไปสำรวจพื้นที่อื่น ๆ ต่อ.

หนึ่งวันหลังจากนั้น,เขาก็นำคนของเขาออกจากถ้ำเทพร่วง.

“ดูเหมือนว่าฟู่ซ่างเซิงถูกสังหาร,คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,ได้นำคนทั้งประเทศหนีไปยังพิภพจิ่วซิงแล้ว.”หลังจากออกมาจากถ้ำเทพร่วง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็เอ่ยออกมา.

ข่าวเรื่องแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีได้นำทั้งประเทศหนีออกจากโลกเทวะ,ขอที่พักพิงจากจ้าวจิ่วซิง,ได้กระจายไปทั่วแล้ว.

“จูเหริน,ให้ตามไปหรือไม่?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.

“ไม่จำเป็น.”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา,เอ่ยออกมาว่า”ไว้ผ่านไปยังพิภพจิ่วซิง,ค่อยจัดการก็ได้.”จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า”ตอนนี้พวกเราไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หิมะก่อนก็แล้วกัน.”

เขาที่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ราชาแดนศักดิ์สิทธิ์หิมะ มีท่อนไม้เจี้ยนมู่อยู่หรือไม่?

ดังนั้น,ลู่อี้ผิงจึงเดินทางกลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หิมะอีกครั้ง.

ส่วนหู่โจวเผ่าจิ้งจอกเจ็ดวิญญาณและคนอื่น ๆ,ลู่อี้ผิงที่ไม่ต้องใช้งานพวกเขาอีกต่อไป.

จึงได้ปล่อยเผ่าจิ้งจอกเจ็ดวิญญาณ,ที่เวลานี้ขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

แดนศักดิ์สิทธิ์หิมะ,แม้นว่าจะด้อยกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีและแดนศักดิ์สิทธิ์อู๋โหยว,ทว่าก็ไม่นับว่าอ่อนแอ,ในสิบสุดยอดกลุ่มอิทธิพลของโลกเทวะ,พวกเขาอยู่ลำดับที่เก้า.

กลุ่มของลู่อี้ผิงที่มุ่งตรงไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หิมะ.

เมืองเทพหิมะที่เป็นเมืองหลวงตั้งอยู่กลางทุ่งราบ,ประตูเมืองทั้งด้านในด้านนอก มีรูปลักษณ์เหมือนกับผ้าทอ,พวกลู่อี้ผิงผ่านเข้ามาในเมือง.

หลังจากเข้ามาในเมืองแล้ว,ก็ได้ยินเกี่ยวกับผู้คนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับงานประลองค่ายและการปรุงยาของแดนศักดิ์สิทธิ์หิมะ.

งานประลองการปรุงยาและค่ายกลนั้นจะจัดขึ้นทุกสามปี.

และการแข่งขันการปรุงยาและค่ายกลเพิ่งจบลงเมื่อวานนี้เอง.

“ไม่คิดเลยว่าผู้ชนะเลิศปรุงยาและค่ายกลจะเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหลง,ได้ยินมาว่าอ้าวโชวผู้นี้เป็นหลานของราชาแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหลงอย่างงั้นรึ?”

“คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีหนีหายย้ายประเทศหนีไปแล้ว,ส่วนแดนศักดิ์สิทธิ์อู๋โหยว,กงจู่หวนซานและยอดฝีมือมากมายต่างก็ถูกลู่อี้ผิงสังหารไปเป็นจำนวนมาก,เหล่าประเทศยักษ์ใหญ่แทบจะไม่ส่งใครเข้าร่วม,ผู้ชนะเลิศเป็นอ้าวโชวแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหลงก็เป็นเรื่องธรรมดา.”

อย่างไรก็ตาม,ยกเว้นเรื่องการประลองปรุงยาและค่ายกลแล้ว,ผู้คนต่างก็พูดคุยเรื่องของลู่อี้ผิงและจ้าวจิ่วซิง ไม่หยุด.

“แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีได้ย้ายไปพิภพจิ่วซิง,ขอความคุ้มครองจากจ้าวจิ่วซิง,เจ้าว่า,ลู่อี้ผิงจะกล้าต่อสู้กับจ้าวจิ่วซิงหรือไม่?”

“ข้าคิดว่าไม่กล้า,แม้นว่าลู่อี้ผิงจะสังหารฟู่ซ่างเซิ่งได้,ทว่าก็ไม่อาจสู้กับจ้าวจื่อซิงที่เป็นยักษ์ใหญ่,ในอดีตยอดฝีมือทำเนียบเทพอันดับ 33 ได้ท้าประลองจ้าวจิ่วซิง,เพียงแค่หมัดเดียวก็สังหารศัตรูได้แล้ว!”

นับตั้งแต่เรื่องที่แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีเดินทางไปยังพิภพจิ่วซิง,ขอความคุ้มครองจากจ้าวจิ่วซิง,ข่าวเรื่องนี้ก็กระจายไปทั่ว,ผู้คนต่างเอ่ยเรื่องลู่อี้ผิงจะสู้กับจ้าวจื่อซิงหรือไม่?

หลาย ๆ คนต่างก็บอกว่าอีกฝ่ายย่อมไม่กล้าสู้กับจ้าวจิ่วซิง.

บางคนก็คาดหวังว่า,หากต่อสู้กัน,ผลจะเป็นอย่างไร.

อย่างไรก็ตาม,แทบจะทุกคนคิดว่าถึงลู่อี้ผิงถึงจะสามารถสังหารฟู่ซ่างเซิ่งได้,ทว่าก็ไม่อาจสู้กับจ้าวจิ่วซิงได้แน่.

ไม่ว่าอย่างไร,จ้าวจิ่วซิงที่เคยสังหารยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับ 33 ในอดีตด้วยการโจมตีเดียว,ย่อมดูน่าเกรงขามกว่าลู่อี้ผิงที่เพิ่งเข้าสู่ทำเนียบอันดับเทพ.

เห่ยเซี่ย,ป้าเต๋า,หลงกู่,ฉื่อเย่ทั้งสี่ที่ติดตามลู่อี้ผิง,ได้ยินผู้คนพูดคุยกัน เรื่องลู่อี้ผิงจะกล้าท้าทายจ้าวจื่อซิงเมื่อไหร่,จะถูกสังหารตอนใหน,ก็ขมวดคิ้วไปมา,ต้องการเข้าไปจัดการอีกฝ่าย,ลู่อี้ผิงขวางเอาไว้,พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า”ไม่เป็นไร.”

ตอนนี้,ทั่วทั้งโลกเทวะ,ต่างก็เอ่ยสรุปไปแล้วว่าเขาไม่อาจสู้อีกฝ่ายได้.

ในเวลานั้น,ในเมืองเทพหิมะบนโรงเตี้ยมชั้นสอง,หัวหน้าศิษย์นิกายเทวะเพลิงชาติ,เจ้าเทียนยวีที่ยกสุราขึ้นชนแก้วกับอ้าวโชวแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหลง.

เจ้าเทียนยวีที่กล่าวยกยอด้วยรอยยิ้ม”ยินดีกับสหายอ้าวโชวที่ได้ชนะเลิศการประลองวิถีปรุงยาและค่ายกลด้วย!”

ก่อนหน้านี้ที่ภูเขาไฟสายฟ้า,เจ้าเทียนยวีถูกทำลายชีพจรเทวะจากราชันย์หมาป่ายวีเมียนที่ตบอีกฝ่าย,อยู่ในสภาพอนาถเป็นอย่างมาก,เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น,ราวกับว่าเจ้าเทียนยวีหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว.

อ้ายโชวกล่าวอย่างถ่อมตน,จากนั้นก็ยกสุราขึ้นดื่ม,พร้อมกับ กล่าวด้วยรอยยิ้ม”แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,แดนศักดิ์สิทธิ์อู๋โหยวและแดนศักดิ์สิทธิ์จินตี้ไม่ได้เข้าร่วม,ข้าจึงได้ชนะเลิศมา,ไม่เช่นนั้นแล้วอย่าได้หวังเลยว่าจะชนะเลิศ.”

เจ้าเทียนยวีเผยยิ้ม”ทักษะปรุงยาและค่ายกลของสหายอ้าวโชวนั้น,นับว่าก้าวไปสู่ดินแดนหลอมเม็ดยาฟ้าดินได้แล้ว,ถึงคนของแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีเข้าร่วม,ก็ไม่อาจชนะสหายอ้าวโชวได้อยู่ดี.”

กล่าวจบ,เขาเอ่ยออกมาว่า”สามปีก่อนถูต้าเหล่ยได้ชัยชนะเลิศ,ทว่าเวลานี้ข้าคิดว่าเขานั้นไม่อาจเทียบได้กับสหายอ้าวโชวแล้ว!”

สามปีก่อนถูต้าเหล่ยได้รับชัยชนะเลิศวิถีปรุงยาและค่ายกลนั่นเอง.

นายน้อยนิกายหลิงหยุนของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งเอ่ยออกมาว่า”ได้ยินมาว่าสองสามวันก่อนที่ภูเขาไฟสายฟ้า,สหายเจ้าเทียนยวีถูกคนของถูต้าเหล่ยตบตีจนแม้แต่ชีพจรเทวะเสียหายอย่างงั้นรึ?”

“เรื่องนี้ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน.”นายน้อยนิกายอีกแห่งที่เผยยิ้ม”สหายเจ้าเทียนยวี,ชีพจรเทวะเสียหายอย่างหนัก,ตอนนี้หายจาก อาการบาดเจ็บแล้วรึ?”

ใบหน้าของเจ้าเทียนยวีกลายเป็นบิดเบี้ยว.

ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังถูต้าเหล่ยเป็นอย่างมาก.

ทันใดนั้น,เวลาเดียวกัน,เขาที่มองลอดผ่านหน้าต่างโรงเตี้ยมออกไป,เห็นผู้เยาว์ชุดน้ำเงินเข้า.

เป็นเขา!

เจ้าเทียนยวีที่เผยแววตาเย็นชา,ลุกขึ้นทันที.

“สหายเจ้าเทียนยวี,เป็นอะไรอย่างงั้นรึ?”อ้าวโชวแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหลงเห็นท่าทางของเจ้าเทียนยวีแล้ว,ก็เผยท่าทางแปลก ๆ.

“คนของถูต้าเหล่ยวันนั้น!”เจ้าเทียนยวีที่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

อ้าวโชวที่เผยความประหลาดใจ.

“ในเมื่อพบแล้ว,พวกเราก็ไปดูกัน.”อ้าวโชวเผยยิ้ม.

หลายปีก่อน,ถูต้าเหล่ยที่เหนือกว่าเขา,ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก.

ด้วยเหตุนี้,อ้าวโชว,จ้าวเทียนยวีและนายน้อยคนอื่น ๆ ต่างก็ก้าวออกจากโรงเตี้ยม.

เจ้าเทียนยวีจ้องมองลู่อี้ผิงที่ก้าวนำมา,มีวัวกระทิงมังกรเขาทองคำและคนอื่น ๆ ก้าวตาม,ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม”หยุดตรงนั้น!”เสียงที่เคร่งขรึมเย็นชาดังสนั่น.

ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้ยินเสียงของเจ้าเทียนยวี,ไม่มีใคร ที่ไม่ตกใจ.

ได้ยินเสียงที่ดังกึกก้อง,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำขมวดคิ้วไปมา,พร้อมกับหันกลับมา.

ในเวลาเดียวกันนั้น,ที่วังหลวงเทพหิมะ,ราชาหลิงมู่หยางแดนศักดิ์สิทธิ์หิมะที่ได้เชิญหลิวเหล่ย,ฟู่อี้ฟ่าน คนของพิภพจิ่วซิง ตลอดจนราชาแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหลง,อ้าวอี้เสวียนและอ้าวผีเข้าร่วมงานเลี้ยง.

ภายในวังหลวง,ที่มีเสียงเพลงและการฟ้อนรำ,บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานมีความสุข.