天际会长和蒋老亲临(一更)
ชายชราผอมแห้งแทบไม่อยากเชื่อเมื่อมองเห็นผู้เยาว์ชุดน้ำเงิน.
“เป็นท่าน?!”
“ไม่,เป็นไปไม่ได้!”
“เจ้าเป็นใคร?!”
ชายชราผอมแห้งที่ดูกระวนกระวายขึ้นมาทันที.
“เจ้าคือศิษย์โหลวสุ่ย,เช่อจื่อเผิง?”ลู่อี้ผิงจ้องมองชายชราผมแดงผอมแห้ง,ก็เอ่ยปากราวกับไม่สนใจเพลิงปิศาจสวรรค์ที่พลุ้งพล่าน,ก้าวเข้าไปพร้อมกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
แม้นว่าฝ่ายตรงข้ามจะเปลี่ยนไปมาก,ทว่าลู่อี้ผิงสามารถสัมผัสได้ถึงแก่นสายโลหิตของอีกฝ่ายได้.
ในเวลานั้นชายชราผอมแห้งได้ยิน,ร่างกายสั่นไปมา”เป็นท่านจริงรึ?”
“ลู่อี้ผิง.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส.
“ลู่อี้ผิง?!”เช่อจื่อเผิงที่ดวงตาเบิกกว้าง”เป็นไปไม่ได้,เจ้าเป็นใคร?!”กล่าวจบ,ร่างกายของเขาที่ทวีเพลิงปิศาจที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม,ตราประทับทั้งสิบเอ็ดผุดลอยออกมา.
ตราประทับทั้งสิบเอ็ด,ทรงพลังแผ่แรงกดดันอันบ้าคลั่งลอยตระหง่านอยู่ด้านหลัง,อำนาจปิศาจที่ยิ่งใหญ่กวาดม้วนไปทั่วสวรรค์และปฐพี.
“ศาสตร์ปิศาจมหาเสรี!”
ฝ่ามือของเขาที่ฟาดตรงเข้าไปหาลู่อี้ผิงทันที.
ตราประทับ 11 อันที่เพิ่มพูนพลังขึ้น,ทำให้ฝ่ามือปิศาจมหาเสรีทรงพลังเป็นอย่างมาก.
พลังโจมตีเกรงว่าคงเหนือยิ่งกว่าจงหยวนและอาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงเก้าคน,อู๋ลี่และอายินาทั้งสิบเอ็ดคนรวมกันนับหมื่นเท่า!
ฝ่ามือปิศาจที่ทรงพลังพุ่งเข้าไป,ทว่าเมื่อมันเคลื่อนที่เข้าใกล้ลู่อี้ผิงกับแตกสลายไปในทันที,ส่วนเช่อจื่อเผิงกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง,กระแทกผนังหอคอยกำราบมารเสียงดังสนั่น.
ตราประทับทั้งสิบเห็นที่ลอยอยู่,สูญเสียแสงไปในทันที,ราวกับว่ามันถูกผนึกเอาไว้.
เช่อจื่อเผิงที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้น,พบว่าเขาไม่อาจควบคุมตราประทับทั้ง 11 ได้แล้ว,เวลานี้จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความหวาดกลัว ตื่นตะลึง,คนผู้นี้คาดไม่ถึงจะสามารถผนึกตราประทับเทพโบราณได้อย่างงั้นรึ?
“เป็นท่าน ซือจุ้นโบราณจริง ๆ รึ?!”เขาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
ลู่อี้ผิงส่งเหรียญตราให้กับฝ่ายตรงข้าม.
เช่อจื่อเผิงรับเหรียญตรามา,มือของเขาสั่นไปมา,เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,คุกเข่านาบไปกับพื้น,”ศิษย์วังเทวะเป่ยโตว,เช่อจื่อเผิงคารวะซือจุ้นต้าเหริน!”
ลู่อี้ผิงโบกมือ,พลังที่มองไม่เห็นพยุงเช่อจื่อเผิงขึ้น.
จ้องมองสภาพของเช่อจื่อเผิงที่ผอมแห้งเนื้อติดกระดูก,ลู่อี้ผิงที่คิดถึงเช่อจื่อเผิงในอดีตซึ่งเป็นเทพผู้หล่อเหลา,ช่างต่างกันมากมาย.
อย่างไรก็ตาม,เขาสามารถมองเห็นได้,ว่าพลังชีวิตของเช่อจื่อเผิงแห้งเหือด,ใกล้หมดอายุขัย,ดังนั้น,จึงมีสภาพเป็นชายชรา.
หากเป็นเช่นนี้,เช่อจื่อเผิงคาดว่าจะมีชีวิตได้อีก 100-200 ปีเท่านั้น.
ลู่อีผิ้งนำพฤกษาเทวะแห่งชีวิตออกมา,ลอยอยู่เหนือศีรษะของเช่อจื่อเผิง,พลังชีวิตที่ไหลเทลงสู่ร่างของเช่อจื่อเผิง,ร่างกายที่แห้งเหี่ยวของของเขาเริ่มเปลี่ยนไป,เวลานี้เริ่มมีน้ำมีเนื้อ,กล้ามเนื้อที่แห้งลีบฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์.
ผมสีแดงเองก็กลับมาเป็นสีดำ.
ดวงตาที่มัวหมองกลับมาเป็นใสสว่าง.
ท้ายที่สุด,เช่อจื่อเผิงก็ฟื้นฟูพลังชีวิต,กลับมาเป็นเหมือนกับชายวัยกลางคนอายุ 30-40 ปี.
เช่อจื่อเผิงหลายปีมานี้ถูกสะกดเอาไว้ในหอคอยสะกดมาร,ถึงแม้นว่าเขาจะฝึกฝนวิชาปิศาจมหาเสรีอยู่ในภาวะเสมือนตาย,แต่พลังชีวิตก็ถูกกัดกร่อนหายไปเรื่อย ๆ,เมื่อเวลาเนิ่มนาน,พลังชีวิตก็แห้งเหือด,ตอนนี้ฟื้นคืนกลับ ไปเป็นเหมือนเมื่อครั้งถูกสะกดครั้งแรกแล้ว.
เมื่อพลังชีวิตเต็มเปี่ยม,กลิ่นอายที่เหมือนกับผืนทะเลสาดซัดกวาดม้วนออกไปรอบ ๆ.
เช่อจื่อเผิงที่ตื่นเต้นดีใจ,ประหลาดใจ,โค้งคำนับขอบคุณลู่อี้ผิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
ลู่อี้ผิงที่เก็บพฤกษาเทวะแห่งชีวิตกลับไป”เจ้ากลืนกินโอสถยืดอายุไขอย่างงั้นรึ?”
เช่อจื่อเผิงที่ตอบกลับด้วยความเคารพ”เรียนต้าเหริน,ในอดีตข้าได้รับวาสนาใหญ่,กลืนกินเห็ดเทวะเก้าสีอายุ 2 ล้านปีเข้าไป.”
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ,หากเช่อจื่อเผิงไม่มีกินเห็ดเทวะเก้าสีสองล้านปีเข้าไป,เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอายุขัยนานเช่นนี้,ถึงจะเป็นเห็ดเทวะเก้าสีล้านปี,ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันว่าจะมีอายุขัยได้นาน.
ดูเหมือนว่าด้วยฤทธิของเห็ดเทวะเก้าสี,ทำให้เขารวมตราประทับที่ 11 ได้อย่างงั้นรึ?
“ทำไมเจ้าก้าวสู่เส้นทางปิศาจ?”ลู่อี้ผิงเอ่ย”แล้วอาจารย์เจ้าล่ะ?”
เช่อจื่อเผิงกล่าวตอบ”ตั้งแต่ท่านบรรพบุรุษร่วงหล่นในศึกสงครามแห่งทวยเทพ ภายในวังเทวะเป่ยโตวก็เกิดการต่อสู้ภายในซ้ำแล้วซ้ำเล่า,อาจารย์ นางเศร้าใจเป็นอย่างมาก,จึงได้ออกจากวังเทวะเป่ยโตว,ครั้งหนึ่งนางเอ่ยว่าไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่ดาราเป่ยหวงอีก,ส่วนอาจารย์จะไปใหนนั้น,ผู้เยาว์ไม่รู้เลยแม้แต่น้อย.”
“หลังจากอาจารย์จากไปแล้ว,วังเทวะเป่ยโตวก็พังทลายลง,ข้าเองก็ออกจากวังเทวะเป่ยโตว,ได้รับเคล็ดวิชาปิศาจมหาเสรีจากพื้นที่ปิศาจโบราณของแดนโหยวหมิง.”
“หลังจากนั้นข้าก็เดินทางมาถึงพิภพฮุ่นหลวน,บังเอิญไปพบกับผู้ก่อตั้งนิกายเทวะซั่งเหล่ย,ในอดีตอาจารย์ของอีกฝ่ายนั้นตกตายด้วยฝีมือของปิศาจที่เคยฝึกฝนวิชาปิศาจมหาเสรี,พอเขารู้ว่าข้าฝึกฝนวิชาปิศาจมหาเสรี,ก็ลงมือต่อข้าโดยไม่ถามไถ่เลยแม้แต่น้อย,ผู้เยาว์จึงถูกอีกฝ่ายขังเอาไว้ในหอคอยสะกดมารโดยไร้ซึ่งความยุติธรรมเป็นเวลาถึงหนึ่งล้านปี.”
เช่อจื่อเผิงที่นึกถึงเวลาหนึ่งล้านปีที่หายไป,ก็หายใจหอบ.
“ไปเถอะ,ข้าจะนำเจ้าออกไป.”ลู่อี้ผิงเอ่ย,จากนั้นก็ปล่อยพลังก้อนหนึ่งปกคลุมร่างเช่อจื่อเผิง,นำอีกฝ่ายออกมาจากหอคอยสะกดมาร,กลับไปยังยอดเขาซิงเยว่ที่พักชั่วคราวของพวกเขา.
ขณะออกมา,ลู่อี้ผิงได้วางค่ายกลมายาเอาไว้รอบ ๆ หอคอยสะกดมารเอาไว้ด้วย,แม้นว่าคนของนิกายเทวะซั่งเหว่ยจะลงมาตรวจสอบ,ทว่าก็พวกเขาจะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า เช่อจื่อเผิงได้ออกมาจากหอคอยสะกดมารไปแล้ว.
เช้าวันถัดมา,เช่อจื่อเผิงในชุดบัณฑิตก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าทางเขาภูเขา,บอกว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของลู่อี้ผิง,มาพบลู่อี้ผิง,ศิษย์ยอดเขาซิงเยว่จึงนำเขาเข้ามา.
ถังชิงและคนอื่น ๆ ไม่มีใครสงสัยแน่นอน,เช่อจื่อเผิงจึงมาอยู่ข้างกายลู่อี้ผิง.
หลังจากนั้นสองสามวัน,ถังชิงที่กำลังพูดคุยปรึกษาหารือกับเจียงซิง เกี่ยวกับเรื่องที่ศิษย์วังเทวะซั่งเฉียงมาเปรียบฝีมือประลอง,จู่ ๆ ศิษย์ยอดเขาซิงเยว่ก็เข้ามารายงาน,ว่าประธานหอการค้าเทียนจี,หรวนเจิ้นอยู่ด้านนอก,ต้องการมาพบกับลู่อี้ผิง.
“ประธานหอการค้าเทียนจีอย่างงั้นรึ?”ถังชิงและเจียงซินที่ได้ยิน ก็ท่าทางประหลาดใจ.
หอการค้าเทียนจีก็คือหอการค้าอันดับหนึ่งของพื้นที่ดาราเป่ยหวง,ประธานหรวนเจิ้นนั้นมีสถานะสูงส่ง,ปกติจะเก็บตัวอยู่ตลอด,เจ้านิกายกลุ่มอิทธิพลใหญ่หลายคนต้องการพบเขายังยากเลย,วันนี้กับมาขอพบกับลู่อี้ผิงอย่างงั้นรึ?
“ขอรับ,นอกจากประธานหอการค้าเทียนจีแล้ว,ท่านเจียงเหลาหอการค้าเทียนจีเองก็มาด้วย”
“อะไรนะ,เจียงเหลาเองก็มาอย่างงั้นรึ?”ถังชิงถึงกับลุกพรวดพราดด้วยความตกใจ.
เจียงเหลา,ก็คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของหอการค้าเทียนจี,เป็นยอดฝีมือทำเนียบเทพเป่ยหวงอันดับที่ 13 แข็งแกร่งยิ่งกว่าบรรพชนกระบี่โจวฉานซะอีก.
ตัวตนเช่นนี้,เวลานี้กับมาเยี่ยมลู่อี้ผิง?
“เร็วเข้า,รีบเชิญประธานและเจียงเหลาเร็วเข้า!”ถังชิงเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.
“พี่ชิง,ท่านทำอะไร,ประธานหอการค้าเทียนจีและเจียงเหลามา,ท่านควรรีบรายงาเจ้านิกายไม่ใช่รึ?.”เจียงซิงเอ่ย.
ถังชิงที่ได้สติเอ่ยออกมาว่า”ใช่,ข้าต้องรีบรายงานประมุข!”
ประธานหอการค้าเทียนจีและเจียงเหลามีสถานะสูงส่ง,มายังนิกายเทวะซั่งเหล่ยด้วยตัวเอง,เขาที่เป็นจ้าวขุนเขาออกไปต้อนรับเอง,ค่อนข้างเสียมารยาทอยู่ไม่น้อย.
ทันใดนั้น,ถังชิงที่บดยันต์สื่อสาร,แจ้งไปยังเจ้านิกายเทวะซั่งเหล่ยฟานเซิ่ง,เพื่อให้อีกฝ่ายตัดสินใจ,จากนั้นเขาก็เร่งรีบไปยังห้องโถงนิกายเทวะซั่งเหล่ยทันที.
ไม่นานเมื่อมาถึงห้องโถง,เห็นเจ้านิกายฟ่านเซิ่งและเหล่าอาวุโสสูงมากมายต่างก็มารวมตัวยังห้องโถงกันหมดแล้ว.
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved