杨顶天双生远古十大血脉,还有谁来?(二更)
เหล่าศิษย์นิกายเทวะซั่งเหล่ยต่างก็ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน,เหว่ยหมิงเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาศิษย์ยอดพรสวรรค์,เวลานี้เหว่ยหมิงที่ทุ่มสุดกำลัง,ไม่เพียงแค่มีสี่ตราระทับยังใช้เจตจำนงกระบี่ขั้นที่ 11 ปลายอีกด้วย.
ทว่า,กับไม่อาจทำอะไรหยางติงเทียนได้ แม้แต่พ่ายแพ้อีกฝ่ายเพียงแค่การโจมตีเดียวเท่านั้น.
ฟ่านเซิ่ง,ถังชิงและคนระดับสูงคนอื่น ๆ ต่างก็ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์.
พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าหยางติงเทียนจะทรงพลังขนาดนี้.
สายตาของทุกคนที่มองเห็นได้,หยางติงเทียนไม่เพียงแค่มีสามตราประทับที่น่าเกรงขาม,ทว่ายังมีสายโลหิตมังกรเพลิยุคบรรพกาล,หนึ่งในสิบสายโลหิตบรรพกาลที่แข็งแกร่งที่สุด.
นอกจากนี้ราวกับว่ายังมีอีกสายโลหิตอื่นซ่อนอยู่อีกด้วย.
แม้แต่เหว่ยหมิงก็ไม่อาจรับหมัดของหยางติงเทียน,การประลองต่อไป,แทบไม่ต้องบอกเลยว่าจะกลายเป็นเช่นไร.
แม้นว่าจะเป็นเพียงการประลองของผู้เยาว์,ทว่าก็ถือว่าทำให้นิกายเทวะซั่งเหล่ยเสียหน้าไปไม่น้อย,หากเรื่องที่หยางติงเทียนเอาชนะศิษย์นิกายเทวะซั่งเฉียงเพียงกระบวนท่าเดียวครบหมดทั้งหมด,กระจายออกไป,เกรงว่าพวกเขาจะต้องกลายเป็นตัวตลกต่อผู้คนทั้งพิภพฮุ่นหลวนเป็นแน่.
นอกจากนี้หลังจากจบการประลอง,วังเทวะซั่งเฉียงจะต้องเผยข่าวออกไปทุกแห่งเช่นกัน.
หยางติงเทียนที่ต่อยเหว่ยหมิงกระเด็นออกไป,ยืนมือขัดหลังโดดยืนเด่นบนเวทีประลองเหล่ยซิง,เผยใบหน้าเหยียดหยันศิษย์นิกายเทวะซั่งเฉียงทั้งหมด,”สี่ตราประทับ,ไม่พอมือแม้แต่น้อย,ยังมีใครที่พอจะมีฝีมือบ้าง?”
ศิษย์นิกายเทวะซั่งเหล่ยที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.
“มีปัญหาอะไร? ไม่มีใครกล้าเลยรึ?”หยางติงเทียนที่เผยยิ้มเยาะ.
ใบหน้าของฟ่านเซิ่งเวลานี้กลายเป็นอัปลักษณ์ไปแล้ว.
หยางติงเทียนจ้องมองฟู่ปิงซาน,ซือถูหนาน,ถังเสวี๋ยเหยา”ก่อนหน้านี้ข้าบอกแล้ว,ให้สี่คนรวมกันเข้ามาเลย.”จากนั้นเขาก็หยุดและจ้องมองคนทั้งสามอีกครั้ง”ครานี้,พวกเจ้าสามคนตอนนี้เข้ามาพร้อมกันเลย,จะได้ไม่เสียเวลา.”
ถังเสวีเสวี๋ยเหยาที่กลายเป็นลำแสงกระบี่,เหินขึ้นสู่เวทีประลองซิงเหล่ยทันที,ใบหน้าของนางจ้องมองหยางติงเทียนหยางไม่แยแส”ข้าขอคำแนะนำจากคุณชายหยางติงเทียนด้วย.”
ในเวลานั้นร่างกายของนางมีเปลวเพลิงลุกโชน,เป็นเปลวเพลิงสีทองม่วง.
ขณะที่เปลวเพลิงลุกโชน,อากาศทั่วสนามเวทีซิงเหล่ยเต็มไปด้วยสายฟ้าดารา,ความร้อนที่สะสมเพิ่มขึ้นไม่หยุด.
ฟ่านเซิ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความพึงใจ”เสวี๋ยเหยาฝึกฝนวิชาเทพเฟิงหวงไปจนถึงขั้นที่สิบแล้วรึ?”
พังชิงเผยยิ้ม”ดูเหมือนว่าจะเพิ่งตัดผ่านระดับไม่กี่วันที่ผ่านมา,ข้าเองก็เพิ่งรู้ตอนนี้.”
ร่างกายของถังเสวี๋ยเหยานั้นมีสายโลหิตเทวะเฟิงหวง,ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสายโลหิตบรรพกาลเช่นกัน,วิชาเทพเฟิงหวงเองก็เป็นหนึ่งในวิชาขั้นสูงของนิกายเทวะซั่งเหล่ย,คนที่สำเร็จขึ้นที่สิบนั้นมีอยู่น้อยคนนัก.
“เทพเฟิงหวงขั้นสิบ.”หยางติงเทียนที่เผยความประหลาดใจ,ทว่ากับไม่สนใจแม้แต่น้อย.
ในเวลานั้น,สี่ตราประทับของถังเสวี๋ยเหยาถูกปล่อยลอยออกไป,มีเปลวเพลิงที่ลุกโชนเผาไหม้สวรรค์และปฐพี,ตราประทับขนาด 70 ลี้,พลังเฟิงหวงทำให้มิติสั่นไหว.
สี่ตราประทับที่ลอยออกไป,พลังกดดันที่กวาดม้วนผลักตราประทับทั้งสามของหยางติงเทียนกลับไป.
แม้แต่สามารถกำราบเพลิงแรงกดดันของหยางติงเทียนได้อีกด้วย.
เหล่าศิษย์นิกายเทวะซั่งเหล่ยที่เห็นต่างก็ตื่นเต้นดีใจ.
“คมเฟิงหวง!”มือของถังเสวี๋ยเหยาที่ผสานเข้าหากัน,พร้อมกันฟันไปยังหยางติงเทียนทันที.
ตราประทับทั้งสี่ที่ลุกโชนส่งเสียงดังคำรามอย่างบ้าคลั่ง.
เปลวเพลิงสูงสองพันจั้ง,กำเนิดเป็นใบมีดเฟิงหวงฟันลงมา.
เมื่อใบมีดเฟิงหวงฟันลงมา,เวทีประลองซิงเหล่ยถึงกับสั่นอย่างรุนแรง,กระทั่งม่านพลังยังฉีกขาดเปิดออก.
ดวงตาของหยางติงเทียนที่จดจ้องมองด้วยความจริงจัง,มือทั้งสองที่เปล่งแสง,พร้อมกับต่อยหมัดคู่ออกไปพร้อม ๆ กัน,หมัดทั้งสองที่ส่องรัศมีแสงเจิดจรัส,ราวกับดวงตะวันสองดวงผุดออกมา.
ทุกคนรู้สึกแสบตาจนเจ็บระบมไปหมด.
แม้แต่ศิษย์วังเทวะซั่งเฉียงยังต้องยกมือขึ้นบัง.
ก่อนหน้านั้น,อาวุโสสูงวังเทวะซั่งเฉียงที่เดินทางไปยังเทือกเขาหงหวู่,ได้ใช้ทักษะนี้โจมตีลู่อีผิ้งเช่นกัน.
หมัดแสงสว่างซั่งเฉียงนับว่าเป็นหมัดที่รวมพลังแสงทั้งหมด,แข็งแกร่งกว่าเพลิงเทวะในสวรรค์และปฐพีมาก.
แม้แต่เทพโบราณ,ก็ยังยากที่จะรับหมัดแสงสว่างซั่งเฉียงได้.
หมัดคู่ที่พุ่งออกไป,ปะทะเข้ากับคมเพลิงเฟิงหวง.
ตูมมมมมมม!
เวลาประลองซิงเหลิยที่สั่นไปมาอย่างบ้าคลั่ง.
ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมาเป็นระลอกคลื่น.
ทุกคนต่างได้ยินแต่เสียงดังหวี่ ๆ.
คลื่นอากาศที่น่าอัศจรรย์,เปลวเพลิงที่รุนแรง,แสงสว่างเจิดจรัสระเบิดกวาดม้วนไปทั่วทุกสารทิศ.
แม้นว่าหลายคนจะอยู่ห่างออกมาจากเวทีประลองซิงเหล่ย,ยังสัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างที่น่าพรั่นพรึงได้.
เหล่าศิษย์ขอบเขตเทพโบราณหลายคนที่รู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมาทันที.
หากไม่เพราะค่ายกลปิดกั้นของเวทีประลองซิงเหลย,เกรงว่าคลื่นพลังทำลายล้างที่กวาดม้วนออกมานี้,คงทำให้เทพโบราณหลายคนได้รับบาดเจ็บ.
ทุกคนเห็นเพียง,ถังเสวี๋ยเหยาที่ถูกผลักกระเด็นจนเกือบร่วงหล่นลงเวที,ทว่าหยางติงเทียนนั้นกับยืนอย่างมั่นคงดั่งภูเขาไท่ซาน,เห็นชัดเจนว่าการประทะเมื่อครู่นี้ถังเสวี๋ยเหยาเสียเปรียบ.
หยางติงเทียนจ้องมองถังเสวี๋ยเหยา,เอ่ยอย่างไม่แยแส”เทพเฟิงหวงขั้นสิบ,ก็นับว่าใช้ได้,น่าเสียดายตราประทับอันเล็กจ้อยมากไม่อาจเทียบกับข้าได้,นอกจากนี้ข้ายังมีสองสายโลหิตบรรพกาล,บ่มเพาะหมัดแสงสว่างซั่งเฉียงถึงขั้นสิบ,เข้าใจพลังแห่งแสงลึกล้ำ,เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า.”
ขณะหยางติงเทียนเอ่ยจบ,ทุกคนที่กลายเป็นวุ่นว่ายขึ้นมาทันที.
“อะไรนะ,หยางติงเทียน,คาดไม่ถึงว่าจะมีสายโลหิตบรรพกาลสองสายโลหิต!”
“นอกจากนี้ยังเข้าใจความลึกล้ำอำนาจแห่งแสงด้วย!”
ฟู่ปิงซาน,ซือถูหนานและศิษย์คนอื่น ๆ ต่างก็เผยความตกใจ.
มีสายโลหิตบรรพกาลตั้งแต่กำเนิด,ถือว่าน่าอัศจรรย์แล้ว,ทว่าการมีสองสายโลหิตบรรพกาลสองสายนั้นยิ่งน่าตื่นตะลึงเข้าไปอีก!
สิ่งที่น่าตกใจที่สุด,ก็คืออีกฝ่ายเข้าใจความลึกล้ำอำนาจแห่งแสงแล้วนี่เอง.
ฟ่านเซิ่ง,ถังชิงและคนอื่น ๆ ที่หัวใจจมลึกขึ้นมาทันที.
อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้น,ถังเสวี๋ยเหยาที่ฟาดฝ่ามือไปยังหยางติงเทียน,ฝ่ามือของนางที่ปล่อยออกไปพร้อมกับร่างกายของถังเสวี๋ยเหยาที่แผ่รัศมีแสงรุนแรงจนน่าอัศจรรย์ใจ,พลังเฟิงหวงบริสุทธิ์เป็นอย่างมากกระจายเต็มเวที.
หนางติงเทียนที่ตกใจ,ต่อยหมัดแสงสว่างซั่งเฉียง(ทะลุฟ้า)ออกไปทันที.
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว,ก่อนจะเห็นหยางติงเทียนที่ถูกผลักออกไป,สองสามก้าว.
ศิษย์นิกายเทวะซั่งเหล่ยล้วนแต่ตกใจ,แม้แต่ฟ่านเซิ่งเองก็ประหลาดใจ,ดีใจเช่นกัน.
“หวนกลับต้นกำเนิดกายศักดิสิทธิ์เทียนเฟิง!”หยางติงเทียนที่เผยความประหลาดใจ.
เทียนปินมีกายมังกรศักดิ์สิทธิ์หวงกู่(ราชาโบราณ)ทว่าเทียบกับกายาศักดิ์สิทธิ์เทียนเฟิงนั้นยังไม่อาจเทียบได้,นอกจากนี้กายาศักดิ์สิทธิ์เทียนเฟิงของถังเสวี๋ยเหยา,ยังเริ่มหวนคืนสู่บรรพบุรุษ,ทำให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก.
“แต่ว่า,กายาศักดิ์สิทธิ์เทียนเฟิงหวนคืนบรรพบุรุษแล้วอย่างไร.”หยางติงเทียนกล่าวหยัน,พร้อมกับกระตุ้นสายโลหิตบรรพกาลทั้งสองในร่างทันที,สายโลหิตที่น่าอัศจรรย์ทั้งสองพลุ้งพล่าน,ร่างกายของหยางติงเทียนเปล่งประกาย,มังกรเพลิงหมุนวนรอบ ๆร่าง,อีกสายเป็นเฟิงหวงน้ำแข็งทมิฬที่แผ่ออกไปรอบ ๆ ปกคลุมสวรรค์และปฐพี.
พื้นเวทีประลองซิงเหล่ย,เวลานี้ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งทมิฬทันที.
น้ำแข็งทมิฬที่แผ่กลิ่นอายความเย็นยะเยือบออกมา,สามารถแช่แข็งได้แม้แต่ห้วงมิติ,ถังเสวี๋ยเหยาที่เวลานี้รู้สึกราวกับว่าโลหิตกำลังจับตัวกัน.
ทันใดนั้น,หยางติงเทียนก็ต่อยออกไป,พลังทำลายสวรรค์และปฐพีพุ่งตรงไปยังด้านหน้าถังเสวี๋ยเหยา.
ถังเสวี๋ยเหยาที่ตกใจ,กระตุ้นพลังทั่วร่าง,ปล่อยคมเฟิงหวงออกมาทันที.
ถังเสวี๋ยเหยาที่พ่ายแพ้ลอยกระเด็นหมุนเคว้งลากครูดไปบนเวทีกระแทกผนังค่ายกล,กระอักโลหิตคำโตออกมา.
ทุกคนกลายเป็นเงียบไปในทันที.
หยางติงเทียนที่ยืนเด่นบนเวที,ราวกับเทพสงครามผู้เย่อหยิ่ง,เผยความเหยียดหยันดูแคลนทั่วหล้า,เอ่ยออกมาว่า”ยังมีใครอีก?”
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงที่กำลังตระหนักรู้หยกเจาหัวใต้ต้นเจี้ยนมู่,ในเวลานั้นที่หน้าประตูถังปินได้มาเคาะเรียก”พี่ชายลู่!”
ได้ยินเสียงของถังปิน,ลู่อี้ผิงที่หยุดบ่มเพาะ,เก็บเจี้ยนมู่,แล้วก้าวเดินออกมา.
“พี่ชายลู่,ศิษย์วังเทวะซั่งเฉียงมาท้าประลองวันนี้,พวกเราไปดูกันเถอะ.”ถังปินเอ่ยกล่าวเสียงสดใส.
ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา”เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ.”เขากำลังตระหนักรู้มหาเต๋าและวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายอย่างเร่งรีบจึงไม่คิดจะออกไปใหนนั่นเอง.
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved