不死族与苍穹神宫联手(二更)
พิภพฮุ่นหลวน,วังเทวะซั่งเฉียงเป็นสุดยอดกลุ่มอิทธิพลอันดับสาม,ส่วนนิกายเทวะซั่งเหล่ยคืออันดับหก.
เทียบความแข็งแกร่ง,นิกายเทวะซั่งเหล่ยนั้นด้อยกว่าวังเทวะซั่งเฉียงมาก,ความแตกต่างเรียกว่าอยู่กันละขั้นก็ว่าได้.
ยกตัวอย่างวังเทวะซั่งเฉียงพวกเขามียอดฝีมือสิบตราประทับ,ส่วนนิกายเทวะซั่งเหล่ยนั้นกับไม่มีเลย.
“เหลาจูจง,เพื่อลู่อี้ผิง,การล่วงเกินวังเทวะซั่งเหล่ย,ไม่คุ้มค่าแม้แต่น้อย.”บรรพชนชรานิกายเทวะซั่งเหล่ยคนหนึ่งส่ายหน้าไปมา”นอกจากนี้ลู่อี้ผิงยังไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับนิกายเทวะซังเหล่ยด้วย,เป็นเพียงแค่แขกคนหนึ่งของนิกายเทวะซั่งเหล่ยเท่านั้น.”
“ในเวลานี้พวกเราให้ที่พักพิงต่อเขา,ล่วงเกินวังเทวะซั่งเฉียงไปแล้ว,จะปล่อยให้ลู่อี้ผิงปัดตูดจากไปเท่านั้นนะรึ?”
สวีเถิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
นี่ก็คือสิ่งที่เขากำลังกังวลเช่นกัน.
บรรพชนกระบี่โจวฉานที่ดูลังเล,”คุณชายลู่ไม่ใช่คนเช่นนั้น,หากเขาจะไป,คงไปแล้ว,เมื่อวานจนถึงเวลานี้,คุณชายลู่ก็ยังอยู่ที่ยอดเขาซิงเยว่,เห็นชัดเจนว่ากังวลเรื่องที่วังเทวะซั่งเฉียงจะโกรธเกรี้ยวนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเรา,ดังนั้นจึงคงอยู่ที่นี่ต่อ.”
“นอกจากนี้,คุณชายลู่มีตราประทับที่น่าพรั่นพรึง,นี่คือสิ่งมหัศจรรย์จากบรรพกาล,หลังจากนี้จะกลายเป็นสุดยอดมหาอำนาจในแม่น้ำดารา! การที่พวกเราอยู่ฝังเดียวกับเขา,การล่วงเกินวังเทวะซั่งเฉียงคุ้มค่าอย่างแน่นอน!”
สวีเถิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
ทันใดนั้น,ยันต์สื่อสารของสวีเถิงก็สั่นไปมา,เขาที่จับจ้องมอง,พบว่าเป็นฟ่านเซิ่งส่งมานั่นเอง,ทว่าเมื่อเห็นข้อความแล้วก็ทำให้ใบหน้าเปลี่ยนไปมาเหมือนกัน.
“พอเอ่ยถึงก็มาเลย,วังเทวะซั่งเฉียงได้ส่งบรรพชนชรา 30 คนมา,ตอนนี้ออกจากนิกายแล้ว ทิศทางของพวกเขาก็คือนิกายเทวะซั่งเหล่ยของพวกเรา!”สวีเถิงเอ่ย.
ทุกคนได้ยินถึงกับสะดุ้ง.”30 บรรพชนชรา?”
ไม่คิดว่าวังเทวะซั่งเฉียงจะโกรธเกรี้ยวถึงกับส่งยอดฝีมือบรรพชนชรากว่าสามสิบคนออกมาทันที!
สวีเถิงพยักหน้ารับ”คนที่นำมาคือหยวนจินหัวและเฉินจิวเฉิง.”
“หยวนจินหัวและเฉินจิวเฉิง!”
ทุกคนที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
แม้แต่บรรพชนกระบี่โจวฉานยังกลายเป็นจริงจัง.
ทั้งสองเป็นเทพโบราณเก้าตราประทับ.
นอกจากนี้ตราประทับของพวกเขายังมีขนาด 70 ลี้อีกด้วย.
ทั้งสอง,ล้วนแต่เป็นอันดับเทพเป่ยหวงยี่สิบกว่ากันทั้งนั้น.
หยวนจินหัวเป็นทำเนียบเทพเป่ยหวง ลำดับที่ 25
เฉินจิวเฉิง เป็นทำเนียบเทพเป่ยหวง ลำดับที่ 25
เกี่ยวกับยอดฝีมือทำเนียบเทพนั้นปรกติแล้วไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอิทธิพลให้ก็จะไม่ยอมส่งออกมาง่าย ๆ,ตอนนี้กับส่งออกมาสองคนทันที.
เห็นชัดเจนว่าวังเทวะซั่งเฉียงโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก.
“เหลาจูจง,โปรดตัดสินใจ.”ทุกคนที่จ้องมองไปยังสวีเถิง.
สวีเถิงจ้องมองไปยังยอดเขาซิงเยว่,เอ่ยออกมาช้า ๆ,”ศิษย์น้องโจวเอ่ยถูกแล้ว,เพื่อคุณชายลู่,ล่วงเกินวังเทวะซั่งเฉียง,ถือว่าคุ้มค่า!”
ในเมื่อสวีเถิงเอ่ยเช่นนั้นออกมา,เรื่องทั้งหมดถือว่าได้ตัดสินใจแล้ว,จึงไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก.
หลังจากนั้น,สวีเถิงก็เดินทางมายังยอดเขาซิงเยว่,พบกับลู่อี้ผิง,เขาเอ่ยว่าจินหัวและเฉินจิวเฉิงกำลังนำเจ้าวังซั่งเฉียงและบรรพชนชรามา,จากนั้นก็เอ่ยว่า”คุณชายลู่โปรดวางใจ,ท่านอยู่ที่นี่,นิกายเทวะซั่งเหล่ย พวกเราจะคุ้มกันท่านสุดกำลัง,เมื่อพวกเขามาถึง,ปล่อยให้พวกเราจัดการเอง.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยรอยยิ้ม”ที่จริงไม่จำเป็นต้องให้เจ้าคุ้มกัน,จูเหรินของข้านั้นแข็งแกร่งมาก.”
สวีเถิงที่ได้ยินก็ส่ายหน้าไปมา”คุณชายลู่ความจริงนับว่าแข็งแกร่งมาก,ทว่าจะอย่างไรก็เพียงหนึ่งตราประทับ.”
ถึงพลังต่อสู้ลู่อี้ผิงจะแข็งแกร่งมาก,ตราประทับที่มีนับว่าไร้เทียมทาน,ทว่าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือกับยอดฝีมือเก้าตราประทับ.
ลู่อี้ผิงได้ยินก็เผยยิ้ม,ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก.
สวีเถิงที่พูดคุยครู่หนึ่ง,จากนั้นก็จากไป.
เกี่ยวกับวังเทวะซั่งเฉียงนำบรรพชนชราสามสิบคนมานั้น,ลู่อี้ผิงไม่สนใจแม้แต่น้อยยังคงตระหนักรู้หยกเจาหัวและวิชาพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายใต้ต้นเจี้ยนมู่ต่อไป.
แน่นอน,วิชาลับอมตะก็ด้วย.
ยิ่งสะสมหยกเจาหัวได้มากเท่าไหร่,ลู่อี้ผิงก็สัมผัสได้ว่า,วิชาลับอมตะนั้นพัฒนาขั้นเข้าใกล้ขั้นที่ห้าสิบเรื่อย ๆ.
เมื่อสะสมหยกเจาหัวครบ 24 ชิ้น,เขามั่นใจว่าวิชาลับอมตะจะสำเร็จขั้นที่ห้าสิบอย่างไม่ต้องสงสัย.
หากตัดผ่านระดับวิชาลับอมตะขึ้นที่ 50,ถึงแม้นว่าฟ้าดินจะล่มสลาย,เขาก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัว.
ขณะ ลู่อี้ผิงและวังกระทิงมังกรเขาทองคำบ่มเพาะอยู่นั้น,ข่าวเรื่องลู่อี้ผิงมีวารีดารามากมาย,ทำให้ยอดฝีมือมากมายเคลื่อนไหวได้กระจายไปทั่วแล้ว.
ห้องโถงวังปู่ซือ,ประมุขเผ่าปู่ซือ,เห่ยหมิงเจิ้งที่นั่งประชุมอยู่พร้อมกับเหล่าบรรพชนชรา.
ที่นั่งอยู่ตรงกลาง,คือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าปู่ซือ,อู๋เจิ้น,ตัวตนสิบตราประทับ.
ภายในพิภพฮุ่นหลวน,วังเทวะซั่งเฉียงอันดับสาม,เผ่าปู่ซืออันดับสี่.
อู๋เจิ้นกวาดตามองเหล่าบรรพชนชราในห้องโถงเอ่ยออกมาว่า”จากข่าวที่ได้ยินเป็นเรื่องชัดเจนแล้วว่า,ลู่อี้ผิงนั้นมีวารีดาราฮุ่นตุ้นจำนวนมากเป็นความจริง.”
“สองสามวันก่อน,เขาใช้สี่ถังวารีดาราฮุ่นตุ้น แลกแผ่นหยกสองชิ้นกับเจียงเหลาและโจวฉาน,หลังจากนั้นเขาก็นำวารีดาราฮุ่นตุ้นออกมาสิบถัง,ให้ทุกคนได้เห็น,คนของหอการค้าเทียนจีต่างก็เห็นอย่างชัดเจน.”
“ได้ยินมาอีกว่าจากปากของยอดฝีมือหอการค้าเทียนจี,ลู่อี้ผิงนำสิบถังวารีดาราฮุ่นตุ้นออกมาอย่างง่ายดายแทบไม่กระพริบตา!”
“เป็นไปได้ว่าในตัวเขาอาจจะมีอีก 20 ถังหรือ 30 ถังก็ได้!”
“แม้แต่อาจจะเป็น 50 ถังและ 60 ถังด้วยซ้ำ!”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว,อู๋เจิ้นยังเผยท่าทางตื่นเต้น.
วารีดาราฮุ่นตุ้นเพียงเล็กน้อย สำหรับเผ่าปู่นั้นนั้นแทบไม่มีประโยชน์,ทว่าหากเป็นหลายสิบถัง,ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาก็จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น!”
“ความหมายของเหลาจูจงคือ?”บรรพชนชราคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง.
อู๋เจิ้นเอ่ย”อู๋ลี้คืออัจฉริยะที่เผ่าเราฝึกฝนอย่างหนัก,พวกเราฝึกฝนอู๋ลี่ได้ทรัพยากรไปมากมาย,คนที่ลู่อี้ผิงสังหารไป,ลู่อี้ผิงจะต้องชดเชยวารีดาราฮุ่นตุ้นให้กับพวกเราสิบถัง!”
แน่นอนว่าการชดเชยเป็นแค่การกล่าวอ้างเท่านั้น.
ประมุขเผ่าปู่ซือ,เห่ยหมิงโม่เอ่ยออกมาเช่นกัน”เหลาจูจง,ลู่อี้ผิงผู้นี้นับว่าน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก,พวกเราเป็นศัตรูกับเขา,หากปล่อยให้เขาเติบโตขึ้น,ย่อมสร้างหายนะให้กับเผ่าปู่ซือพวกเราแน่.”
อู๋เจิ้นได้ยิน,ก็เผยยิ้ม”เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้ลู่อี้ผิงยังมีชีวิตรอดอีกรึ?”
ทุกคนที่รู้สึกหัวใจเย็นยะเยือบ.
“แล้ววังเทวะซั่งเฉียงล่ะ?”บรรพชนชราคนหนึ่งเอ่ยถาม.
อู๋เจิ้นเอ่ย”พวกเราร่วมมือกับวังเทวะซั่งเฉียง,หลังจากสังหารลู่อี้ผิงแล้ว,ก็แบ่งวารีดาราฮุ่นตุ้นกัน!”
ดังนั้น,หลังจากนั้นเผ่าปู่ซือเองก็ส่งบรรพชนชรามากมายมุ่งตรงไปยังนิกายเทวะซั่งเหล่ยเช่นกัน.
วังเทวะซั่งเฉียง,ส่งสามสิบบรรพชนชรา,สองคนยังเป็นยอดฝีมือเก้าตราประทับ.
ส่วนเผ่าปู่ซือ,ส่ง 40 บรรพชนชรา,ยอดฝีมือเก้าตราประทับ 4 คน.
ที่กลางทาง,ยอดฝีมือเผ่าปู่ซือและวังเทวะซั่งเฉียงพบกัน,หลังจากปรึกษาหารือ,ทั้งสองกลุ่มก็ตกลงร่วมมือ,มุ่งตรงไปยังนิกายเทวะซั่งเหล่ยทันที.
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved