ตอนที่ 225

九星之主的人头取不下来(二更)

การสังหารยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง.

แสงแดดที่ส่องกระทบดูอบอุ่น,ทว่าทุกคนสามารถเห็นได้ คนของวังจิ่วซิง,แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,นิกายราชามังกรที่ยังเหลือรอดรู้สึกหนังหัวชาหนึบ,ขนลุกขึ้นทั่วร่าง.

จ้าวพิภพมากมาย,และมีผู้บัญชาภพอีกหลายคน,นอกจากนี้จำนวนยังมากกว่า 100,000 คน,นี่ไม่ใช่พลังที่พวกเขาต้านทานได้เลย.

ถึงยอดฝีมือของวังจิ่วเทียนจะเปิดมหาค่ายกลจิ่วซิงช่วยก็ไร้ประโยชน์,ถึงคนของแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,และนิกายราชามังกรจะใช้ค่ายกลสงคราม,ก็ไม่มีประโยชน์อันใด.

กล่าวได้ว่ายอดฝีมือของวังจิ่วซิง,แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวีและนิกายราชามังกรที่กลายเป็นเพียงไข่,ต่อหน้าจ้าวพิภพหนึ่งแสนคนพวกเขานั้นเหมือนกับศิลาแข็ง,หรืออาจจะเป็นโลหะชั้นยอดด้วยซ้ำ!

“นี่มันค่ายกลสงครามอะไรกัน?”ทุกคนจ้องมองมังกรเงินทั้งหนึ่งแสน,ที่สร้างทะเลสายฟ้า,กำเนิดเป็นร่างเทพเจ้าสายฟ้า,ค่ายกลสงครามที่น่าพรั่นพรึง,พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย.

กล่าวตามตรง,ค่ายกลสงครามที่จ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนคนร่วมมือกัน,เหนือล้ำเกินคำบรรยาย.

อำนาจสายฟ้าเทวะผสานกันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน,ได้ปรากฏขึ้น.

ผู้บัญชาภพของวังจิ่วซิงถูกสังหารในทันที.

ในเวลานี้ทุกคนต่างก็ตกใจหวาดกลัว,ผู้ใต้บังคับบัญชาของลู่อี้ผิง,จ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนคน,ไม่มีใครตายสักคน,นอกจากนี้ ด้วยค่ายกลสงครามพวกเขาที่สร้างทะเลสายฟ้า,ยิ่งทรงพลังไร้เทียมทาน.

สงครามที่กลายเป็นการไล่ล่าสังหารเพียงฝ่ายเดียว.

สวรรค์และปฐพีกลายเป็นเงียบงัน.

เพียงไม่นาน,คนของวังจิ่วซิง,นิกายราชามังกร,แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,ก็ไม่มีใครเหลือสักคน,แม้แต่ศพยังแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร.

ลู่อี้ผิงที่เผยท่าทางสงบนิ่ง,จ้องมองจ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนคน”แม้นว่าพลังจะเพิ่มขึ้นมาก,ทว่าพลังต่อสู้ยังอ่อนแอมา”.

จ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนคนได้แต่ก้มหน้าลง.

เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่เห็นเหตุการณ์,ก็เผยความแปลกประหลาด.

หลังจากนั้นลู่อี้ผิงก็เก็บวังดาราอู๋จี้ที่มีจ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนคน,ให้ทุกคนพยายามบ่มเพาะให้หนัก.

จ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนคน,แม้นว่าความแข็งแกร่งจะน่าอัศจรรย์ในสายตาของคนอื่น,ทว่าในสายตาของลู่อี้ผิงกับอ่อนด้อย,ยังห่างไกลจากความคาดหวังของเขา.

อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงรู้ดีว่าเรื่องเช่นนี้ต้องใช้เวลา.

ในเวลานั้นลู่อี้ผิงที่ต่อยออกไปทันที,หมัดของเขาที่กลายเป็นคลื่นพุ่งออกไป,สิ่งก่อสร้างเมืองจิ่วซิงที่ลอยกระเด็นไปทุกทิศทุกอย่าง,เปิดทางออก,ก่อนที่จะปรากฏคลังสมบัติของเมืองจิ่วซิงขึ้น.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ทั้งสองที่ก้าวไปด้านหน้า,ไปหยุดที่คลังสมบัติ.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำไม่สนใจค่ายกลที่ปิดอยู่,พร้อมกับนำปลาน้อยออกมา,ฟาดไปยังประตูคลังสมบัติ.

คลังสมบัติเมืองจิ่วซิง,ที่ระเบิดเปล่งแสงรัศมีแสงดาราออกมา.

ที่ด้านในมีศิลาเทวะดาราหลายชนิด,เส้นชีพจรวิญญาณและสมุนไพรวิญญาณ.

นี่คือทรัพยากรในการฝึกฝนของจ้าวจิ่วซิง,ดังนั้นคลังสมบัติของวังจิ่วซิง,จึงมีสมบัติดาราจำนวนมาก.

นอกจากสมบัติดารา,ยังมีสมบัติสวรรค์และของหายากอีกหลายอย่าง.

จ้าวจิ่วซิง,ที่ปกครองทั้งพิภพ,ทรัพยากรทั้งหมดได้ถูกส่งมารวมตัวกันที่นี่,แม้แต่คนอื่น ๆ ที่มองจากด้านนอก,ยังต้องกลืนน้ำลายคำโตอย่างบ้าคลั่ง.

ลู่อี้ผิงกวาดตามองคลังสมบัติ,มือที่ยกขึ้น,ยกคลังสมบัติขึ้นมาบนพื้น.

หลังจากคลังสมบัติถูกยกขึ้นมา,มีสมบัติทั้งหมดก็โยนเข้าไปในหม้อจักรวาล,ซึ่งด้านในมีสมบัติจากวังนักบุญกู่จิน,และยังมีสมบัติจากคลังจ้าวหมื่นทวยเทพอยู่ด้วย.

“มีแต่ของไร้ประโยชน์.”ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมา.

กล่าวได้ว่าสมบัติวังจิ่วซิงนั้นไม่อาจเทียบได้กับ,วังนักบุญกู่ฉินและถ้ำที่พักเจ้าหมื่นทวยเทพได้.

เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่ได้ยินว่าคลังสมบัติวังจิ่วซิงล้วนแต่ไร้ประโยชน์,ทุกคนแทบกระอักโลหิตออกมาตาม ๆ กัน.

หลังจากนั้น,ลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำและพวกเห่ยเซี่ยก็จากไป.

จนกระทั่งลู่อี้ผิงหายไปลับตา,ผ่านไปนานเหล่าคนมุงต่างก็ยืนนิ่งแทบไม่กล้าขยับ.

“เมืองจิ่วซิง,จบสิ้นแล้ว!”เจ้านิกายผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมาเสียงแหบเครือ.

หนึ่งวันก่อน,จ้าววังจิ่วซิงใช้หนึ่งหมัดจัดการซุนเจิ้งเต๋อ,ก้าวสู่ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสิบ,พร้อมกับเฉลิมฉลองใหญ่งานวันเกิดหมื่นปี,ในวันถัดมาวังจิ่วซิงกลับเต็มไปด้วยซากศพ.

ห่างกันเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น.

คนของเกาะเสวียนกง,ทะเลหลวนซิงที่จ้องมองศีรษะของจ้าวจิ่วซิงที่วางอยู่บนกำแพงเมือง ด้วยใบหน้าท่าทางซับซ้อน.

“ไป,นำศีรษะของท่านจ้าวจิ่วซิงลงมา.”ท้ายที่สุดจ้าวเกาะเสวียนกงก็สั่งผู้ใต้บังคับบัญชา.

ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่รับคำ,ก่อนที่จะบินไปยังทิศทางศีรษะของจ้าวจื่อซิง,ทว่าขณะยื่นมือออกไป,ก็พบว่าศีรษะของจ้าวจื่อซิงนั้น,ราวกับว่ามีพลังบางอย่างตรึงเอาไว้,ไม่ว่าเขาจะใช้พลังไปมากมายเท่าไหร่,กับไม่อาจขยับได้เลยแม้แต่นิดเดียว.

ทุกคนที่เห็นเขาถึงกับตื่นตะลึงไปเหมือนกัน.

ยอดฝีมือเกาะเสวียนกง,จ้าวพิภพขั้นปลายท้าย,คาดไม่ถึงว่าไม่อาจขยับได้? จ้าวเกาะเสวียนกงที่ใบหน้ามืดครึ้ม,ให้ผู้บัญชาภพลงมือ,ทว่าก็ไม่อาจขยับได้เช่นกัน,แม้แต่จ้าวเกาะเสวียนกงเอง,หรือจ้าวทะเลหลวนซิง,ก็ไม่อาจขยับศีรษะนี้ได้.

หลังจากลู่อี้ผิงจากเมืองจิ่วซิงมา,ก็กระตุ้นพฤกษาเจี้ยนมู่,สัมผัสหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ของเจี้ยนมู่ไม่หยุด.

ในเมื่อในป่ารกร้างมีชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่มากมาย,บางทีอาจจะยังมีชิ้นส่วนอื่น ๆ ของเจี้ยนมู่อยู่พื้นที่อื่นก็ได้.

ตอนนี้,รัศมีสัมผัสได้ขยายออกไปหลายสิบลี้แล้ว,รวมทั้งเนตรทัณฑ์สายฟ้าของลู่อี้ผิง,การค้นหาย่อมง่ายกว่าเดิม.

อย่างไรก็ตาม,พลังของคน ๆ เดียว ท้ายที่สุดก็มีขีดจำกัด,ดังนั้นลู่อี้ผิงจึงเดินทางไปยังเมืองเหล่ยซิงพิภพจิ่วซิง,วางแผนที่จะให้สหพันเจิ้นจินช่วยค้นหาชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่ด้วย.

เมืองเหล่ยซิงเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของพิภพจิ่วซิง.

สหพันธ์เจิ้นจิน,ไม่เพียงแค่เป็นองค์กรข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในพิภพแห่งนี้,ภายใน 17 พิภพพวกเขายังเป็นองค์กรใหญ่ที่มีสาขามากที่สุด,กล่าวได้ว่าสหพันธ์เจิ้นจินนั้นได้ก่อตั้งสาขาในหลากหลายพิภพ,ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่พิภพสวีกง.

“คุณชายต้องการสอบถามเรื่องท่อนไม้ดังกล่าว อย่างงั้นรึ?”เมื่อบอกรูปลักษณ์ของเจี้ยนมู่แก่ผู้จัดการสหพันธ์เจิ้นจิน,อีกฝ่ายก็เผยความตกใจ.

ลู่อี้ผิงที่ประหลาดใจ,เอ่ยสอบถามออกมาว่า”เจ้าหมายความว่า,นอกจากข้าแล้วยังมีคนอื่นต้องการให้เจ้าสืบหาท่อนไม้ดังกล่าวด้วยอย่างงั้นรึ?”

ผู้จัดการสหพันธ์เจิ้นจินพยักหน้าเอ่ยออกไปว่า”ใช่,นอกจากนี้เขาเพิ่งออกจากสหพันธ์เจิ้นจินของพวกเราเมื่อสักครู่.”

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองหน้ากันและกัน.

ความคิดของพวกเขาที่ปรากฏขึ้นเหมือน ๆ กัน,เผ่าหยินหมิง.

คนที่สนใจท่อนไม้เจี้ยนมู่นั้นมีน้อยมาก,ส่วนมากแล้วมักจะเป็นเผ่าหยินหมิง,หรือไม่ก็ข้ารับใช้ของเผ่าหยินหมิง,เช่นเผ่าปิศาจจูจีเป็นต้น.

ลู่อี้ผิงเอ่ยถาม,”พวกเขาไปใหนแล้ว?”

ผู้จัดการคนดังกล่าวที่ส่ายหน้าไปมา”ข้าเองก็ไม่รู้.”

ลู่อี้ผิงที่ใช้ศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์ร้อยล้าน,มอบให้กับผู้จัดการ,เพื่อสืบหาข้อมูลท่อนไม้,ได้รับแล้วให้แจ้งเขาทันที.

หลังจากได้วิธีติดต่อ,ลู่อี้ผิงก็ออกจากสหพันธ์เจิ้นจิน,เปิดเนตรทัณฑ์สายฟ้าค้นหาฝ่ายตรงข้าม,ท้ายที่สุดก็พบผู้ต้องสงสัยทางประตูเมืองทิศใต้.