四十九图腾,万界唯一奇迹(一更)
อย่างไรก็ตาม,หมัดของจินลี่หงที่ต่อยออกไปหาลู่อี้ผิงนั้น,กับพบเข้ากับอักษรรูนที่รวมตัวกันขึ้นในทันที,เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น,ตูมมมมมมมม!
อักษรรูนที่ปรากฏขึ้นนั้นไม่ขยับสั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียว,ส่วนจินลี่หยงถูกแรงสะท้อนกระเด็นถอยหลัง,กระแทกเข้ากับคนตระกูลซูปลิวว่อน.
ประมุขตระกูลซูที่ตกใจ,ร่างกายปะทุพลังที่พลุ้งพล่าน,ยกฝ่ามือขึ้นต้องการคว้าร่างจินลี่หยง,พลังบ่มเพาะของเขาไม่ได้อ่อนด้อยกว่าจินลี่หยงเช่นกัน,เป็นยอดฝีมือทำเนียบเทพอันดับสี่สิบ.
อย่างไรก็ตาม,ประมุขตระกูลซู,ซูเหวินที่ยกมือขึ้นต้องการจะพิงหลังเสริมกำลังจินลี่หยงเอาไว้,กับพบว่าพลังที่สะท้อนกลับมานั้นเกินกว่าจะพรรณนาได้,มันได้ผลักร่างของเขาให้กระเด็นไปพร้อมกับอีกฝ่าย.
ทุกคนต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.
ไท่จู่ตระกูลซู,ซูเย่,ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับห้า,ดวงตาเป็นประกายส่องสว่าง,ยืนเด่น,ยังคงสงบ,พลังเทพโบราณที่พลุ้งพล่าน,ห้วงมิติที่กรอบส่งเสียงดังหวีดหวิว.
ซูเย่นั้นก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพโบราณมานานหลายปีแล้ว,ไม่อาจนำจ้าวจิ่วซิงที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเทพโบราณมาเทียบได้.
พลังกฎดินแดนเทพที่พุ่งออกไป,เห็นเป็นมังกรที่น่าพรั่นพรึงหมุนวน,ปะทุขึ้นมาทำให้สวรรค์และปฐพีสั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง.
ทั่วทั้งเมืองตระกูลซูเองผู้คนต่างสัมผัสได้ราวกับว่ากำลังเกิดแผ่นดินไหวขึ้น.
เหล่ายอดฝีมือในเมืองไม่มีใครไม่ตื่นตกใจ.
“พลังเทพโบราณ! เป็นไปได้ว่า นี่คือยอดฝีมือขอบเขตเทพโบราณกำลังสำแดงพลังในเมืองตระกูลซู!”
“ควรจะเป็นไท่จูตระกูลซู,ท่านซูเย่กำลังโกรธเกรี้ยวเป็นแน่!”
พลังเทพโบราณของซูเย่,ผู้ฝึกตนทุกคนในเมืองตระกูลซู รู้สึกราวกับว่ากำลังถูกขุนเขานับหมื่นลูกกดทับลงมา.
ขณะที่ทุกคนในเมืองตระกูลซูกำลังตกใจ,ซูเย่ได้ยกฝ่ามือขึ้นเพื่อคว้าดันหลังจินลี่หยงและซูเหวินทั้งสองเอาไว้,แบกรับพวกเขาทั้งสองไม่ให้กระเด็นออกไป.
อย่างไรก็ตาม,ขณะซูเย่ต้องการดันหลังพวกเขาคว้าพวกเขาไว้,ซูเย่กับรู้สึกมือของเขาสั่นไปมา,พลังที่รุนแรงหนักหน่วง ระเบิดดังก้อง,ความแข็งแกร่งที่ผลักมานั้นเหนือกว่าเขาไปมาก.
เขามั่นใจไม่น้อยด้วยระดับขอบเขตเทพโบราณของเขา,ทว่าพลังของฝ่ายตรงข้ามกับทำให้พลังกฏอาณาจักรเทพโบราณแตกร้าว,เปราะบางอย่างที่สุดแหลกเป็นสิ้น ๆ แยกออกจากกันแทบจะในทันที.
ซูเย่,เวลานี้ก็ไม่อาจต้านได้,ทำให้เขาเองก็ลอยละล่องกระเด็นออกไปเช่นกัน.
ไท่จู่ตระกูลซู,ซูเย่,ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับห้า,ไม่แม้แต่คว้าร่างของจินลี่หยงและซูเหวินเอาไว้ได้.
ท้ายที่สุด,ซูเย่,จินลี่หยงและซูเหวิน,ยอดฝีมือทำเนียบเทพทั้งสาม กระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับผนังดังห้องโถงระเบิดดังกึกก้อง,ผนังทองคำพังทลายกลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย.
ท้ายที่สุด,ทั้งสามก็กระเด็นออกจากห้องโถงซื้อขายไป.
ร่างกายของพวกเขาลากครูด พื้นปูสีทองรอบ ๆ แตกหักพังเสียหาย แหลกเป็นชิ้น ๆ เช่นกัน.
ยอดฝีมือสหพันธ์เจิ้นจินและคนของตระกูลซูต่างก็ยืนงงกลายเป็นไก่ไม้ไปแล้ว.
เหล่าผู้ฝึกตนที่มาแลกเปลี่ยนซื้อขายเห็นซูเย่,จินลี่หยงและซูเหวินทั้งสามกระเด็นคลุกฝุ่น,ทำให้ตื่นตะลึงอ้าปากค้างแทบจะทุกคน.
จินเหยาโปที่ใบหน้าบวมปูด เห็นสภาพคนอื่น ๆ ,เมื่อจ้องมองชายชุดน้ำเงิน,ร่างกายของเขาได้สั่นไปมาอย่างรุนแรง.
“เขาดูเหมือนกับท่านลู่อี้ผิงทำเนียบเทพลำดับสิบ?!”ที่ไกลออกมา,ยอดฝีมือคนหนึ่งเอ่ยด้วยความประหลาดใจ.
ทำเนียบเทพลำดับสิบ!
ลู่อี้ผิง!”
ผู้คนรอบ ๆ ที่ส่งเสียงดังอื้ออึงตกใจไปตาม ๆ กัน.
ซูเย่,ซูเหวิน,จินลี่หยง,ทั้งสามที่สั่นไหวไปมา,ผู้เยาว์ผู้นี้ก็คนคนที่สังหารฟู่ซ่างเซิ่งและจ้าวจิ่วซิงไป,ลู่อี้ผิงผู้นั้นนะรึ?
โดยเฉพาะซูเย่ทำเนียบเทพลำดับห้า,ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ.
ในเวลานั้น,เสียงที่เคร่งขรึมจริงจังจากแดนบรรพชน ตระกูลซูก็ดังขึ้น”ซูเย่,ขอให้สหายน้อยเข้ามาในดินแดนบรรพชนตระกูลซูของพวกเรา,ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับเขา.”
ซูเย่ที่ได้ยิน,ก็เลิกสนใจอาการบาดเจ็บ,เร่งรีบลุกขึ้นมา,เอ่ยออกมาว่า”ขอรับ,เหล่าจู่ จง.”
[老祖宗 [lǎozǔzōng] บรรพบุรุษ, บรรพชน.]
ผู้คนต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,บรรพบุรุษในตำนานของตระกูลซู เป็นตัวตนที่ทรงพลังเหนือกว่าซูเย่เป็นอย่างมาก,ทว่าเพราะเป็นเพียงตำนานเรื่องเล่า,จึงไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือเทพ,ตอนนี้เห็นซูเย่เต็มไปด้วยความเคารพ,เหล่าคนที่ไม่แน่ใจ,ต่างก็คาดเดาว่าตำนานนั้นควรมีอยู่จริง.
ซูเย่ที่ก้าวมาด้านหน้าลู่อี้ผิง,ยกมือผสานโค้งคำนับเอ่ยออกมาว่า”ก่อนหน้านี้ไม่รู้สถานะลู่ต้าเหริน,ล่วงเกินแล้ว,ขอลู่ต้าเหรินอย่าได้ถือสา,เหล่าจู่จงของพวกเราต้องการเชิญลู่ต้าเหรินเข้าไปยังดินแดนบรรพชน,ไม่รู้ว่าสะดวกหรือไม่?”
ลู่อี้ผิงจ้องมองไปยังทิศทางของแดนบรรพชนตระกูลซู,”ตกลง,ข้าจะเข้าไปในแดนบรรพชนตระกูลซูกับเจ้า.”
ซูเย่ที่รู้สึกผ่อนคลาย,เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ,”ลู่ต้าเหริน,เชิญ!”
ทั้งสองที่บินตัดอากาศออกไป.
คนอื่น ๆ เวลานี้ต่างก็จ้องมองหน้ากันและกันด้วยความงงงวย.
หลังจากมาถึงดินแดนบรรพชนตระกูลซู,ซูเย่ที่นำเขามาหยุดที่ส่วนลึกของดินแดนบรรพชน,ให้ลู่อี้ผิงเข้าไปคนเดียว.
ตำหนักด้านในดูกว้างขวางเป็นอย่างมาก,และยังมีเพดานที่สูงนับร้อยจั้ง,มีเสาศิลาที่สร้างจากแร่สีดำทมิฬ,บนเสาศิลานั้นมีลวดลายอักขระเทวะมากมายนับไม่ถ้วน.
ทำให้พื้นที่ด้านในเปี่ยมล้นด้วยพลังวิญญาณ,พลังแห่งชีวิตที่เปี่ยมล้น.
ลู่อี้ผิงที่ก้าวไปจนถึงตรงกลาง,ทันใดนั้นปรากฏเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น,เป็นชายชราผมสีขาวแกมเทา.
ชายชราที่ค่อนข้างผอม,ทว่าแววตานั้นยังเปล่งประกายดั่งดวงดารา.
“สหายน้อยแข็งแกร่งไม่น้อย.”ชายชราเผยยิ้มมิคล้ายยิ้ม ออกมา”ไม่รู้ว่ามาจากนิกายใดอย่างงั้นรึ? บางทีเหล่าฟู่อาจจะรู้จักอาวุโสของเจ้าในอดีตก็ได้.”
ลู่อี้ผิงไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา,ก่อนที่จะโยนตราออกไปให้กับชายชรา,ชายชรารับตราดังกล่าวมา,ถึงกับผวา,ก่อนเผยยิ้มดีใจที่น้อยครั้งจะได้เห็น”ตราบัญชาหมื่นเทพ!”
เขาจ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความตกใจ”เจ้ามีตราบัญชาหมื่นเทพของ บรรพบุรุษพวกเราได้อย่างไร?”
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงชี้นิ้วออกไป,วาดมือไปมาด้วยสัญลักษณ์แปลกประหลาดขึ้น,กำเนิดพลังอำนาจส่องประกายแสงสว่างวับวาว,แผ่พลังอำนาจที่ไม่ธรรมดาออกมา.
เห็นสัญญาณมือ,ชายชราดวงตาเบิกกว้างกลมโต,จดจำเรื่องตำนานบรรพกาลที่บันทึกเอาไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์เทพได้,เขาจ้องมองไปยังลู่อี้ผิงด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ,ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้.
ในยุคโบราณนั้น,ลู่อี้ผิงไม่ได้มีตราสัญลักษณ์,มีเพียงสัญลักษณ์มือ,ที่ใช้แสดงสถานะของเขา.
ผ่านเนิ่นนานเวลานี้แทบไม่มีคนจำสัญญาณมือนี้ได้,ทว่าลูกหลานสายตรงของซูเฉิง,จ้าวหมื่นทวยเทพ,ควรจะจำมันได้อย่างแน่นอน.
“ท่านคือ?!”ชายชราไม่อยากเชื่อการมีอยู่ของผู้เยาว์ผู้นี้แม้แต่น้อย.
ลู่อี้ผิงที่ยังคงใบหน้าสุขุม,ตราประทับแห่งกฎที่ลอยออกไป,ตราประทับเหล่านี้,เป็นตราประทับเทพอสูรเปิดสวรรค์,บรรพบุรุษมังกร,หงส์เพลิงและกิเลน.
แต่ละตราประทับ,มีพลังกฎอาณาจักรเทพ 100 ล้าน.
รวมทั้งหมด 49 ตราประทับ!
49 ตราประทับ,ส่องประกายแสงท่ามกลางสวรรค์และปฐพี,แผ่อำนาจที่น่าอัศจรรย์ไปทั่วห้องท้องแรงกดดันที่พลุ้งพล่านราวกับอยู่ใต้ท้องทะเลลึก.
ชายชราคนดังกล่าวสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าหวาดหวั่น นั่นได้,เผยใบหน้าไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อยออกมา.
เทพโบราณ,เมื่อตระหนักกฎอาณาจักรเทพได้ 10 ล้านกฎ,จะสามารถผสานรวมตราประทับแห่งกฎอันแรกขึ้นมาได้,เมื่อรวมกฎแห่งเทพได้ 20 ล้าน,ก็จะสร้างตราประทับที่สองขึ้นมาได้อักครั้ง.
กล่าวตามปรกติ,สิบตราประทับคือจุดสูงสุดแล้ว.
แม้นว่าจะมีคนเคยเอ่ยว่ามีอสุรกายพรสวรรค์,สามารถก้าวผ่านขีดจำกัด,รวมตราประทับได้ 11 ตราประทับได้เช่นกัน.
ในอดีต,จ้าวหมื่นทวยเทพที่เลิศล้ำด้วยพรสวรรค์ที่ยากจะมีคนหาใครเทียบได้,ก็สามารถรวมตราประทับได้ถึง 13 ตราประทับ.
ทว่าลู่อี้ผิงผู้นี้,กับรวมตราประทับได้ถึง 49 ตราประทับ!
นอกจากนี้ตราประทับของลู่อี้ผิงแต่ละอัน,ยังมีกฎอาณาจักรเทพถึง 100 ล้านกฎ.
“ซู่หรงคารวะต้าเหริน!”ชายชราที่เต็มไปด้วยท่าทางเหลือเชื่อ,ตื่นเต้นโค้งคำนับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม.
เกี่ยวกับตำราประวัติศาสตร์เทพ,มีเพียงแค่ซือจุ้นยุคโบราณคนเดียวเท่านั้น,ที่สามารถทะลวงโซ่ตรวนกฎเกณฑ์ของโลกหล้า,รวมตราประทับได้ถึง 49 ตรา,ในหมื่นอาณาจักร,มีเพียงเขาเท่านั้นที่ทำได้.
ซูเหวินที่ยืนอยู่ด้านนอกตำหนัก,ไม่รู้สถานการณ์ภายใน,ยืนรออยู่นาน,ไม่ได้ยินเสียงของลู่อี้ผิงและซูหรงแต่อย่างใด,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
ในเวลาต่อมา,ประตูตำหนักก็เปิดออกมา.
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved