ตอนที่ 251

紫金葫芦成熟(一更)

เพียงไม่นาน,เจี้ยนมู่ก็เติบโตทะลวง 400 เมตรแล้ว!

จากนั้น,ก็เป็น 500 เมตร!

ท้ายที่สุด,ก็ทะลวงผ่าน 600 เมตร.

เมื่อเจี้ยนมู่สูง 600 เมตร,ริ้วแสงที่ส่องสว่าง,ลมปราณปฐมภูมิฮุ่นตุ้นก็หนาแน่นขึ้นหนึ่งเท่า,ต้นไม้ที่สั่นไปมา,ปรากฏลวดลายของมหาเต๋าบนเปลือกของเจี้ยนมู่ขึ้นอีก,นอกจากนี้ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน.

ก่อนหน้านี้,ได้ปรากฏลวดลายของมหาเต๋าขึ้นมาก่อนแล้ว,แม้นว่าจะมีหลากหลาย,ทว่ากับกระจัดกระจาย,ตอนนี้กับปรากฏขึ้นดูชัดเจนมากกว่าแต่ก่อนเท่าหนึ่ง.

ใบของเจี้ยนมู่ที่มากมายยิ่งกว่าเดิมหนึ่งเท่า,ลวดลายบนใบนั้นปรากฏรูปลักษณ์อักขระของวิชาระดังเปิดสวรรค์,เป็นวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายชั้นที่สองขึ้น.

อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงไม่ได้เร่งรีบตระหนักรู้วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายส่วนที่สอง,ยังคงหลอมรวมเจี้ยนมู่ต่อ,เพียงไม่นานก็สูงกว่า 900 เมตรแล้ว.

นอกจากนี้,เจี้ยนมู่ที่เติบโตช้า ๆ,เมื่อสูงถึง 900 เมตร,วิชาลับพฤกษาสวรรค์ส่วนที่สามก็ยังไม่ปรากฏ.

ท้ายที่สุดก็สูงถึงหนึ่งพันเมตร.

อย่างไรก็ตาม,วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายส่วนที่สามก็ยังไม่ปรากฏ,ท้ายที่สุดเมื่อเจี้ยนมู่สูงผ่าน 1200 เมตร,วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายขั้นที่สาม,ท้ายที่สุดก็ปรากฏขึ้น.

ต้นเจี้ยนมู่ส่วน 1200 เมตร,ลมปราณปฐมภูมิฮุ่นตุ้นรอบ ๆ ที่เหมือนกับน้ำทะเลไหลหลั่ง,แสงสีทอง,มหาเต๋าที่ปรากฏขึ้นอีกเท่า,ในเวลานี้มีลวดลายของมหาเต๋าบนเปลือกไม้เห็นได้อย่างชัดเจน.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองเจี้ยนมู่,จ้องมองลมปราณปฐมภูมิฮุ่นตุ้นที่มากมาย,จ้องมองมหาเต๋าบนเปลือกไม้,จ้องมองแสงระยิบระยับบนใบ,แทบอดไม่ได้ต้องอุทานออกมาเบา ๆ.

นี่คือรากวิญญาณหนึ่งในสิบต้นกำเนิดสวรรค์.

ตอนนี้,ท้ายที่สุดก็เผยอำนาจของรากวิญญาณกำเนิดสวรรค์ออกมาแล้ว.

เจี้ยนมู่เวลานี้,ไม่อาจเรียนต้นไม้ใหญ่แล้ว,แต่ควรเรียกว่าสุดยอดต้นไม้ใหญ่ถึงจะเหมาะ.

อย่างไรก็ตาม,ยังไม่อาจเรียกมหาพฤกษาได้.

แม้นว่าเจี้ยนมู่จะสูง 1200 เมตรแล้ว,เทียบกับพฤกษาฟินิกซ์ที่ได้รับก่อนหน้านี้,ยังถือว่าเล็กอยู่.

เขาได้รับพฤกษาเทวะฟินิกซ์มาจากสนามรบแห่งทวยเทพ,เริ่มแรกมันก็มีขนาดใหญ่กว่าเจี้ยนมู่ในปัจจุบันหลายเท่าแล้ว.

พฤกษาเทวะฟินิกซ์เองก็ยังอยู่ในวัยเด็กเท่านั้น.

ส่วนเจี้ยนมู่เองก็ยังถือว่าเป็นทารกยังเติบโตต่อไปได้,เมื่อเติบใหญ่ไม่รู้ว่าจะสูงได้กี่หมื่นลี้.

ต้องรู้ด้วยว่าเจี้ยนมู่ในอดีตนั้น ตั้งตระหง่านท่ามกลางสวรรค์และปฐพี,เชื่อมต่อสวรรค์และปฐพีของหมื่นอาณาจักร,จึงกล่าวได้ว่ามันมีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก.

แม้แต่ยอดฝีมือยุคปรัมปราในตำนานบินขึ้นไปบนต้นเจี้ยนมู่,ยังต้องใช้เวลาเดินทางหลายปี.

สามารถจินตนาการได้ว่าความสูงของเจี้ยนมู่นั้นมากมายขนาดใหน!

เจี้ยนมู่ 1200 เมตรเวลานี้,เทียบกับเจี้ยนมู่ในอดีต,เป็นเพียงแค่ฝุ่นเล็ก ๆ เท่านั้น.

เมื่อเจี้ยนมู่เติบโต 1200 เมตรแล้ว,เจี้ยนมู่ 3000 ชิ้นก็แทบจะหลอมหมดแล้ว,ทว่าลู่อี้ผิงก็ยังคงหลอมชิ้นส่วนที่เหลือต่อไป,ท้ายที่สุดเจี้ยนมู่ที่เหลือ,ก็ทำให้เจี้ยนมู่สูงกว่า 1500 เมตร.

เกี่ยวกับการเติบโตของเจี้ยนมู่คราวนี้,คาดว่าหากสูง 2400 เมตร,วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายขั้นที่สี่ควรจะปรากฏ.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้วางค่ายกลเอาไว้รอบ ๆ เมือง,จากนั้นก็เริ่มนั่งสมาธิใต้ต้นเจี้ยนมู่,ตระหนักรู้วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลายขั้นที่สองและขั้นที่สาม.

แม้นว่าขั้นแรกจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ,ทว่าก็สามารถที่จะตระหนักรู้ขั้นที่สองและขั้นที่สามได้แล้ว,ในเวลานี้หลังจากตระหนักรู้ขั้นแรกสมบูรณ์,ก็จะสามารถทะลวงผ่านขั้นที่สองได้โดยตรง.

วิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลาย,แต่ละขั้นนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน,และแต่ละขั้นการตระหนักรู้ให้สำเร็จก็จะยากขึ้นไปเรื่อย ๆ,หากเป็นคนอื่น,เกรงว่าต้องใช้เวลาหลายร้อยหลายพันปี,แม้แต่ยากจะผ่านขั้นที่สองและขั้นที่สามก็เป็นได้แค่ความฝัน.

อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงที่มีมหาเต๋าจากหยกเจาหัวช่วย,ดังนั้นลู่อี้ผิงใช้เวลาไม่กี่เดือนก็ตระหนักรู้ได้สำเร็จ.

ระหว่างนี้,ยอดฝีมือเผ่าเผ่าปิศาจจื่อจีจากสาขาต่าง ๆ จากพื้นที่ดาราเป่ยหวงสาขาต่าง ๆ ก็ได้มาส่งเจี้ยนมู่ในที่สุด

หลังจากหลอมท่อนไม้กว่า 1000 ท่อน,เจี้ยนมู่ก็เติบโตกว่า 1900 เมตร.

มหาเต๋าบนเปลือกไม้,ก็ปรากฏชัดขึ้นอีก.

ใบของเจี้ยนมู่ส่องประกายระยิบระยับ.

สำหรับเผ่าปิศาจจื่อจีทุกคน,ลู่อี้ผิงก็บดขยี้ไปทั้งหมดรวมทั้งหัวหน้าสาขาใหญ่ก่อนหน้านี้ด้วย.

หลังจากจัดการยอดฝีมือเผ่าปิศาจจื่อจีทั้งหมดจากพื้นที่ดาราเป่ยหวง,ลู่อี้ผิงไม่เร่งรีบจากไป,ทว่ายังคงนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นเจี้ยนมู่ต่อ.

การบ่มเพาะครั้งนี้,กินเวลาหลายปีเช่นกัน.

สองสามปีที่ผ่านมา,ลู่อี้ผิง บ่มเพาะวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลาย,แม้แต่สำเร็จขั้นเล็กส่วนที่หนึ่งแล้ว.

แม้นว่าจะเป็นเพียงแค่ขั้นเล็ก,ทว่ากายเนื้อของลู่อี้ผิงเวลานี้,ก็ยกระดับขึ้นอีกจุดหนึ่งจากแต่ก่อน.

แน่นอน,ระหว่างนี้,ลู่อี้ผิงไม่ลืมบ่มเพาะวิชาลับอมตะและมหาเต๋าจากหยกเจาหัวด้วย.

หลังจากที่เจี้ยนมู่เติบโตกว่า 1900 เมตร,การตระหนักรู้หยกเจาหัวนั้น,รวดเร็วกว่าเดิมมาก.

นอกจากนี้วิชาอมตะที่ไม่มีวี่แววยกระดับเวลานี้เริ่มพัฒนาต่อได้แล้ว.

After his Longevity Secret Art breaks through to 49th layer, these days cultivated, sign that had not promoted, but currently with the aid of Establishment Tree implication the rhyme of Great Way, Longevity Secret Art 49th layer has becoming less crowded of small improvement finally.

หลังจากบ่มเพาะวิชาอมตะผ่านไปถึงชั้นที่ 49,ที่ผ่านมา,แทบไม่มีสัญญาณพัฒนาแม้แต่น้อย,ทว่าเวลานี้ด้วยการใช้มหาเต๋าจากเจี้ยนมู่สนับสนุน,วิชาลับอมตะขั้นที่ 49 เริ่มพัฒนาเล็ก ๆ ..

หลังจากสองสามปี.

เถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสีบนภูเขาปู้โจวก็เติบโตขึ้นมา.

ดังนั้น,ลู่อี้ผิงจึงสามารถเก็บน้ำเต้าทองม่วงลูกแรกได้แล้ว.

หลายวันมานี้,เขาได้ทดลองตรวจสอบหลอมน้ำเต้าทองม่วง,พบว่าเมื่อใช้เม็ดยาใส่เข้าไปในน้ำเต้าทองม่วง,หลังจากผ่านมาอีกวัน,คุณภาพของเม็ดยายกระดับขึ้นอย่างคาดไม่ถึง.

น้ำเต้าทองม่วงไม่เพียงแค่ยกระดับเม็ดยาเทวะ,ยังสามารถหลอมร่างศัตรูด้านใน,เปลี่ยนให้เป็นเม็ดยาที่ยอดเยี่ยม,และยังสามารถดูดซับลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นเปลี่ยนให้กลายเป็นวารีฮุ่นตุ้นทองม่วงด้วย.

วารีฮุ่นตุ้นทองม่วง,ก็คือวารีดาราฮุ่นตุ้นระดับสูงนั่นเอง.

น่าเสียดายที่ไม่อาจเทียบได้กับน้ำพุแห่งชีวิต.

น้ำเต้าทองม่วงนั้นมีช่องมิติขนาดใหญ่มาก,ลู่อี้ผิงไม่เพียงใส่เม็ดยาลงไปทั้งหมด,เขายังใส่สุรานิรันดรเข้าไปด้วย,เพื่อยกระดับมันขึ้นอีกขั้น.

วัตถุดิบในการหมักสุรานิรันดรนั้น,ล้วนแต่เป็นสมุนไพรสวรรค์และปฐพีที่หายาก,หลังจากใส่ลงไปในน้ำเต้าทองม่วง,ก็จะยกระดับขึ้นไปอีกขึ้น,รสชาติดียิ่งกว่าเดิม.

หลังจากผ่านไปสองสามปี,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ออกจากเมืองใต้ดิน.

แน่นอนว่า,ก่อนจากไป,ก็เก็บสมบัติทั้งหมดที่มีที่นี่ไปด้วย.

เม็ดยาเทวะ,เม็ดยาอายุวัฒนะ,ล้วนแต่ใส่ลงในน้ำเต้าทองม่วงจนหมด,ส่วนของวิเศษอื่น ๆ ก็ใส่ไว้ในหม้อจักรวาล.

หลังจากออกจากเมืองใต้ดิน,ลู่อี้ผิงก็วางค่ายกลเอาไว้เช่นเดิม,รอให้ยอดฝีมือเผ่าจื่อจีหรือเผ่าหยินหมิงเดินทางมาจากพื้นที่ดาราอื่น ๆ เขาก็จะรับรู้ในทันที.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด.

ขณะเดินทางผ่านเมืองร้างในทะเลทรายจางหลง,ก็พบว่าในเมืองร้างดังกล่าวมีคนกำลังต่อสู้กันอยู่,เป็นเด็กชายคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับคนชุดสีม่วง,ที่แผ่ปราณปิศาจออกมา.

เด็กคนนี้มีอายุราว 8-9 ปี,ใบหน้าที่หล่อเหลาประณีตดังหยกสลัก,ที่หน้าผากมีตราประทับ,ตราประทับดังกล่าวทำให้ลู่อี้ผิงรู้สึกสนใจ,จึงหยุดลง.

“กายาของเด็กคนนี้นับว่าใช้ได้!”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำมองดูเด็กชาย,พลางอุทานด้วยความประหลาดใจ.