摩诃炼狱(二更)
เมื่อประตูห้องโถงเปิดออก,ซูหรงที่คุกเข่าให้กับลู่อี้ผิงก็ลุกขึ้น.
ซูเย่ที่เห็นซูหรงที่ก้มหน้า,ยืนต่อหน้าลู่อี้ผิงอย่างนอบน้อม,ราวกับว่าเคารพลู่อี้ผิงอย่างที่สุด,ก็เผยความประหลาดใจ.
เขารู้ดีว่าเหล่าจูจงตระกูลซูนั้นคือตัวตนที่เกือบจะมาจากยุคบรรพกาล.
ด้วยตัวตนของเหล่าจูจงแล้ว,คาดไม่ถึงว่าจะเคารพนอบน้อมกับลู่อี้ผิงขนาดนี้,นี่ลู่อี้ผิงเป็นใครกัน?
มีสถานะภูมิหลังเช่นใด?
......
ห้องโถงสมาพันธ์เจิ้นจิน,จินลี่หยงและคนอื่นที่รอคอยอย่างใจเย็น,จากนั้นก็เห็นซูเย่กลับมา,ทว่ากับไม่เห็นลู่อี้ผิง.
“อาวุโสซูเย่.”จนลี่หยงที่ก้าวเข้าไปด้านหน้า.
ซูเย่ส่ายหน้าให้กับจินลี่หยง,จากนั้นก็เอ่ยต่อซูเหวิน”ซูเหวิน,เจ้าเข้าไปในดินแดนบรรพชนกับข้าตอนนี้,ลู่ต้าเหรินมีเรื่องต้องการถามเจ้า.”
ซูเหวินและคนตระกูลซูดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
ในเวลาต่อมา,ซูเย่ได้ก้าวไปด้านหน้า วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ”ท่านเสี่ยวจิน,ท่านลู่ให้ท่านเข้าไปในดินแดนบรรพชนตระกูลซูพร้อมกับข้าด้วย.”
ได้ยินซูเย่เอ่ยต่อวัวกระทิงมังกรเขาทองคำว่า”ท่าน”ผู้คนรอบ ๆ ต่างก็ประหลาดใจ.
หลังจากนั้น,ซูเหวิน,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,และพวกเห่ยเซี่ยก็เข้าไปในดินแดนบรรพชนตระกูลซูพร้อมกับซูเย่.
ก่อนจากไป,ผู้คนต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น.
จินลี่หยงและคนอื่น ๆ ที่ตะลึงงัน,จ้องมองซูเย่นำวัวกระทิงมังกรเขาทองคำและคนอื่น ๆ จากไปเงียบ ๆ.
เงียบกริบ,ราวกับป่าช้า.
...
ลู่อี้ผิงยืนอยู่ในตำหนัก ดินแดนบรรพชนตระกูลซู,ที่ด้านนั้นนั้นมีท่อนไม้ขนาดใหญ่สองเมตร.
นี่คือเจี้ยนมู่,ที่ประมุขตระกูลซู,ซูเหวินได้รับมานั่นเอง.
ลู่อี้ผิงได้นำเจี้ยนมู่ออกมา.
หลังจากผสานชิ้นส่วนเจี้ยนมู่กว่า 70 ชิ้นจากดินแดนบรรพชนจิ้งจอกเจ็ดวิญญาณของเผ่าปิศาจจื่อจี,เจี้ยนมู่ของเขาก็สูง 190 เมตรแล้ว.
ขาดเพียงไม่กี่เมตรก็จะสูง 200 เมตร.
เจี้ยนมู่สูง 190 เมตร,มีความกว้างกว่า 30 เมตร.
ฐานความกว้าง 30 เมตร,ถือว่าใหญ่มาก,ลู่อี้ผิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าเจี้ยนมู่,ดูเล็กกระจิดริดไปเลย.
ลู่อี้ผิงที่เริ่มผสานเจี้ยนมู่เข้ากับท่อนไม้สูงสองเมตรด้านหน้า.
เจี้ยนมู่ที่เติบโตไม่น้อย,ทำให้ความเร็วในการผสาน,เหนือกว่าแต่ก่อนมาก,ชิ้นส่วนดังกล่าวจึงใช้เวลาเพียงสิบลมหายใจ,ท่อนไม้สองเมตรก็ผสานเสร็จสิ้น.
หลังจากผสานท่อนไม้สองเมตรแล้ว,เจี้ยนมู่ก็สูงขึ้นเล็กน้อย.
อย่างไรก็ตาม,น่าเสียดายที่ไม่อาจทะลวง 200 เมตรได้,ตอนนี้เจี้ยนมู่มีความสูง 197 เมตร.
หลังจากผสานผสานท่อนไม้,รอบ ๆ เจี้ยนมู่ ลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นที่ยกระดับขึ้นอีกเท่าหนึ่ง,ใบของมันเริ่มที่จะปรากฏลวดลายอีกลวดลายขึ้น.
ทักษะบ่มเพาะระดับเปิดสวรรค์,ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว.
“ขาดเพียง 100 เมตร.”ลู่อี้ผิงที่จ้องมองเจี้ยนมู่ที่สูงตระหง่าน,พูดคุยกับตัวเอง.
เจี้ยนมู่,เมื่อสูง 300 เมตร,ทักษะบ่มเพาะก็จะปรากฏ,สามารถบ่มเพาะตระหนักรู้ได้.
ลู่อี้ผิงสามารถบอกได้ว่า,ทักษะบ่มเพาะจากเจี้ยนมู่นั้น,เป็นทักษะบ่มเพาะกายา.
หลังจากบ่มเพาะสำเร็จ,จะทำให้กายานั้นแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเจี้ยนมู่.
ในเวลานั้น,หากเขาสำเร็จวิชาดังกล่าว,กายาของเขา,คงเกือบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน,ท่ามกลางสวรรค์และปฐพี,มีเพียงแค่ขวานเปิดสวรรค์และพลั่วสบั้นปฐพี สุดยอดของวิเศษปฐมกาลฮุ่นตุ้นเท่านั้นที่จะทำให้เขาบาดเจ็บได้.
ลู่อี้ผิงที่นั่งสมาธิใต้เจี้ยนมู่,เริ่มบ่มเพาะมหาเต๋าจากหยกเจ้าหัวชิ้นที่สองและชิ้นที่สาม.
เจี้ยนมู่ที่เติบโตขึ้นมาก,ทำให้การตระหนักรู้ยกระดับความเร็วมากยิ่งขึ้น.
เขาตระหนักรู้หยกเจาหัวชิ้นแรกใช้เวลานานมาก,ทว่าด้วยการมีอยู่ของเจี้ยนมู่ตอนนี้,มหาเต๋าจากหยกเจาหัวชิ้นที่สองและสาม,เพียงแค่ไม่กี่แสนปี,คงทำให้เขาตระหนักรู้ได้สมบูรณ์.
ลู่อี้ผิงนั่งบ่มเพาะใต้เจี้ยนมู่,ด้วยการเสริมพลังจากปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้น,เจี้ยนมู่ที่มองเห็นแต่ไกลเหมือนกับน้ำตกที่กำลังเทไหลของลมปราณฮุ่นตุ้นลงมา,ลู่อี้ผิงที่เหมือนกับเทพอสูรฮุ่นตุ้นยุคเปิดสวรรค์.
กลิ่นอายของเขา,นั้นกว้างใหญ่เหมือนกับแม่น้ำดวงดารา.
แม่น้ำดาราที่กว้างใหญ่ไพศาล,ไม่มีจุดสิ้นสุด,เทียบกับกลิ่นอายของลู่อี้ผิง,เหมือนกับแม่น้ำดารา,เพราะไม่มีจุดสิ้นสุดเช่นกัน.
ลู่อี้ผิงที่นั่งสมาธิใต้เจี้ยนมู่บำเพ็ญมหาเต๋าจากหยกเจาหัวชิ้นที่สองและสาม,อีกตำหนักแห่งหนึ่งของดินแดนบรรพชน,ซูเย่,ซูเหวินและเหล่าบรรพชนชราที่กำลังคุกเข่าด้านหน้าซูหรง.
“พวกเจ้าจำเอาไว้ให้ดี,หลังจากนี่เห็นลู่ต้าเหริน,ให้คารพยิ่งกว่าพบข้าอีก.”ซูหรงเอ่ยด้วยความจริงจัง”หลังจากนี้คำพูดของลู่ต้าเหริน,คือคำพูดของข้า.”
“ไม่ว่าลู่ต้าเหรินเอ่ยอะไร,จะต้องรับคำทั้งหมด.”
ซูเย่,ซูเหวินและบรรพชนชราตระกูลซูต่างก็ตะลึงงัน.
“เหล่าจู่จง,ลู่อี้ผิงผู้นี้ มีภูมิหลังเช่นไร?”ซูเย่เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง.
ซู่หรงจ้องมองซูเย่เขม็ง,ทำให้ซูเย่รู้สึกหวาดกลัวในใจ.
“เกี่ยวกับสถานะของลู่ต้าเหริน,อย่าได้ถาม.”ซูหรงเอ่ยปาก”นอกจากนี้เกี่ยวกับเรื่องของลู่ต้าเหริน,หากข้ารู้ว่าใครนำเรื่องลู่ต้าเหรินไปพูดอย่างไม่ระวัง,จะต้องถูกขับออกจากตระกูลลู่.”
น้ำเสียงของซูหรงนั้นจริงจังเป็นอย่างมาก,จนทำให้ทุกคนรู้สึกผวาไปตาม ๆ กัน.
อย่างไรก็ตาม,หลังจากอยู่ภายในตระกูลซูสองสามวัน,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็นำคนของเอาออกจากตระกูลซู,มุ่งสู่แดนชำระโม่เหอ.
เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้รับจากประมุขตระกูลซู,ซูเหวิน,ท่อนไม้ที่เขาได้รับมานั้น,อยู่ในทะเลลาวาของแดนชำระโม่เหอ,ทะเลลาวานั้นมีท่อนไม้หลายท่อน,มีขนาดใหญ่กว่าที่เขาได้รับมาหลายชิ้น,ทว่ามันอยู่ใจกลางทะเลลาวา,ด้วยเพลิงเทวะที่ใจกลางนั้นรุนแรงมาก,ทำให้ซูเหวินไม่สามารถนำมันออกมาได้.
ดินแดนของเผ่าโม่เหออี้นั้นกว้างขวางเป็นอย่างมาก,ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของพิภพสวีกง,ส่วนแดนชำระโม่เหอนั้นอยู่ทางฝั่งตะวันออกของดินแดนเผ่าโม่เหออี,ปรกติแล้ว,คนของเผ่าโม่เหออีจะเข้าไปล่าสัตว์ในแดนชำระโม่เหออยู่เป็นประจำ.
ภายในแดนชำระโม่เหอนั้น,มีลมปราณวิญญาณทมิฬ,ที่ช่วยยกระดับพลังบ่มเพาะของผู้ฝึกตนเผ่าโม่เหออีเป็นอย่างมาก.
เพราะภายในแดนชำระโม่เหอนั้นมีสมุนไพรวิญญาณจำนวนมาก,แร่ชั้นดี,ดังนั้นยอดฝีมือทั่วพิภพสวีกงเองก็เข้าไปค้นหาของล้ำค่าเป็นครั้งคราวเช่นกัน.
ท้องฟ้าของแดนชำระโม่เหอ,เวลานี้มีริ้วแสงของคนกลุ่มหนึ่งทะลวงผ่านห้วงมิติเข้าไป,เป็นลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำนั่นเอง.
ส่วนเห่ยเซี่ยทั้งสี่,ถูกส่งเข้าไปในวังดาราอู๋จี้ ไปรวมกับเหล่าจ้าวพิภพทั้งหนึ่งแสนเพื่อบ่มเพาะ.
ลู่อี้ผิงที่กวาดตามองรอบ ๆ,ยังคงบินไปด้านหน้ากับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
แดนชำระโม่เหอนั้นเป็นมิติแยกมีขนาดใหญ่เท่ากับทวีปเทพยุทธ์ของพิภพเหิงหยวน,มีทะเลลาวาขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งตะวันออก.
ระหว่างทางนั้นมีสัตว์ร้ายมากมาย,ทว่าก็ถูกเพลิงเทวะของลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผาเป็นเถ้าไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย.
ไม่นานหลังจากนั้น,ก็ปรากฏทะเลลาวาต่อหน้าของคนทั้งสอง.
คลื่นความร้อนมากมายที่กวาดม้วนไปทั่วทุกสารทิศ.
เพราะว่าที่นี่เป็นทะเลลาวา,สภาพบรรยากาศจึงร้อนอย่างที่สุด,จนห้วงมิติบิดเบี้ยว,ถึงจะเป็นผู้บัญชาภพทั่วไป,ก็ไม่กล้าบินเข้ามาในท้องฟ้าของทะเลลาวาโดยง่าย.
อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ที่เวลานี้ยืนอยู่ชายฝั่งกวาดตามองไปยังทะเลลาวา,ลู่อี้ผิงกำลังตรวจสอบตำแหน่งของเจี้ยนมู่,ซึ่งเวลานี้พลังตรวจสอบกินรัศมีพื้นที่ได้ 20 ลี้แล้ว,ขอเพียงเจี้ยนมู่อยู่ในรัศมี 20 ลี้,เขาก็จะสามารถพบได้ในทันที.
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved