ตอนที่ 197

魔龙镇狱ก灭,雷祖时代开启(二更)

นิกายเต๋าโถวโหลว,สำนักอู๋เซิ่ง,เผ่าวิญญาณรัตติกาล,ตระกูลหม่า,นิกายจินกัง,ตระกูลเหยียน,เผ่ามนุษย์ศิลา,กลุ่มอิทธิพลอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองด้วยความงงงวยชงักงันไปอย่างสมบูรณ์.

หลงกัง,เมิ่งฟู่ถิง,หวังไห่โถว,ต้วนหง,สี่ผู้บัญชาภพ,หกร้อยจ้าวพิภพวังมังกรปิศาจ,สองร้อยจ้าวพิภพลัทธิเทวะซิงไห่,และสี่ร้อยจ้าวพิภพแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,กล่าวได้ว่ามีจ้าวพิภพถึง 1200 คน,ยังไม่อาจต้านท้านค้อนสายฟ้าที่โจมตีลงมาได้!

สหายแฝดดำขาวเต๋าโถวโหลว, สำนักอู๋เซิ่ง,หม่าปิง,เผ่าวิญญาณรัตติกาล เย่โถวและคนอื่น ๆ ต่างก็เผยใบหน้าตกใจ.

“1200 จ้าวพิภพ,4 ผู้บัญชาภพ,พ่ายแพ้อย่างคาดไม่ถึง!”ไท่จู่สำนักอู๋เซิ่งหม่าปิงบ่นพึมพำ,เผยแววตาไม่อยากเชื่อออกมา.

“อาจารย์นักบุญปิศาจ,แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?”สหายแฝดดำขาวที่สะอึก,ในเวลานี้,ในใจที่รู้สึกดีใจขึ้นมา,ก่อนหน้านี้เกิดเหตุที่ด้านหน้าหอประมูลวังถามสวรรค์ เขาไม่ได้ลงมือ.

“ในพิภพเหิงหยวน,มีตัวตนที่น่าพรั่นพรึงขนาดนี้เลยรึ?”

“นั่นคือบรรพบุรุษสายฟ้าจริง ๆ งั้นรึ?”

กล่าวได้ว่าตัวตนที่ไร้เทียนทานลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า,ก็คือบรรพบุรุษสายฟ้าในยุคเริ่มต้นของสวรรค์และปฐพีนั่นเอง.

“บรรพบุรุษสายฟ้า,อาจารย์นักบุญปิศาจ!”

“เป็นไปได้ว่า นี่คือร่างจำแลงของบรรพบุรุษสายฟ้า?”

สายตาของทุกคนที่จ้องมองลู่อี้ผิงที่มีร่างแปลงของบรรพบุรุษสายฟ้าที่ยืนตระหง่านอยู่ด้านหลัง.

ในเวลานั้น,ค้อนสายฟ้าที่ยังคงฝังจมอยู่บนพื้น,พลังอำนาจสายฟ้ายังคงแล่นไปทั่วพื้นเสียงสายฟ้าที่ยังดังสนั่นคำรามไม่หยุด.

“ท่านพ่อ!”องค์ชายสามแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี ต้วนเผิงเฟยที่พุ่งเข้าไปอย่างประมาท,ทว่าเพียงแค่เข้าใกล้ค้อนสายฟ้า,ยังไปไม่ถึงด้วยซ้ำ,กับถูกอำนาจค้อนสายฟ้าซัดกระเด็นลอยออกมาหลายร้อยลี้ร่างกายลากครูดไปกับพื้น.

ต้วนเผิงเฟยกระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง,ก่อนจะหมดสติไป.

จากนั้นร่างแปลงบรรพบุรุษสายฟ้าก็ค่อย ๆ ยกค้อนออกไปเสียงคำรามของสายฟ้ายังคงดังกึกก้อง.

สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองไม่วางตา,เห็นเพียงร่องรอยของค้อนสายฟ้า,ที่เป็นหลุมลึกขนาดรัศมีหลายพันลี้,ทว่าด้านล่างนั้นเต็มไปด้วยศพของวังมังกรปิศาจ,ลัทธิเทวะซิงไห่และแดนศักดิ์สิทธิ์เทวะเจิ้นยวี,นอนเกลื่อนไร้ซึ่งกลิ่นอายชีวิต,ศพที่เต็มไปด้วยโลหิต,จนไม่อาจแยกว่าใครเป็นใครได้.

อย่างไรก็ตามศพของหลงกัง,เมิ่งฟู่ถิง,หวังไห่โถวและต้วนหง ทั้งสี่ยังคงสมบูรณ์,สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ได้.

ทุกคนที่จ้องมองพวกหลงกัง,จิตใจที่สั่นสะท้านตกใจ.

สี่ผู้บัญชาภพ.

หนึ่งคือยอดคนอันดับหนึ่งของโหยวหมิง.

อีกหนึ่งก็คือราชากลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี.

ส่วนเมิ่งฟู่ถิงและหวังไห่โถวก็คือมหาอำนาจจากพิภพสวีกง,บรรพชนชราลัทธิเทวะซิงไห่.

ลู่อี้ผิงยังไม่ได้เก็บร่างแปลงบรรพบุรุษสายฟ้าไป,เขาจ้องมองไปยังคนสำนักอู่ซิ่ง,จดจ้องมองไปยังหม่าปิง,ถ่านอี้และคนอื่น ๆ.

หม่าปิง,ถ่านอี้และยอดฝีมือคนอื่น ๆ ที่ถูกลู่อี้ผิงจับจ้อง,ก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว.

“ได้ยินมาว่าสำนักอู่เซิ่งและวังมังกรปิศาจจับมือเป็นพันธะมิตรต้องการล้อมสังหารข้า,อย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไร้ความรู้สึก.

“สำนักอู๋เซิ่งของพวกเราและวังมังกรปิศาจเป็นพันธมิตรกันจริง ๆ,แต่ไม่ได้คิดจะล้อมสังหารต้าเหรินเลย.”หม่าปิงเอ่ยปฏิเสธเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว.

ลู่อี้ผิงที่ยกมือหนึ่งขึ้นคว้าไปในอากาศ,ก่อนที่จะปรากฏบางอย่างเหมือนกับหิมะสีขาวล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า.

“นี่มันอะไร? หิมะ?”

“ไม่ใช่,มันคืออักขระ!”

เมื่อเห็นอักขระที่เหมือนกับหิมะล่วงหล่นลงมา,เมื่อมันชโลมผสมเข้ากับฝุ่นหินดินทราย,มันกับถูกแช่แข็งในทันที,เป็นพลังแช่แข็งที่น่าพรั่นพรึง,ทำให้ยอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่งตื่นตกใจหวาดกลัว,หม่าปิง,ถ่านอี้และคนอื่น ๆ ไม่อาจรั้งรอได้อีกต่อไป,พวกเขาบินหนีออกไปทันที.

อย่างไรก็ตาม,หิมะอักขระนั้นกับรวดเร็ว,มันได้ล่วงหล่นกลืนร่างของคนสำนักอู๋เซิ่งไปแทบจะในทันทีเช่นกัน.

หม่าปิง,ถ่านอี้,บรรพชนชราสำนักอู๋เซิ่ง,อาวุโสสูง ถูกแช่กลายเป็นน้ำแข็ง,ล่วงหล่นลงจากอากาศ,กระแทกพื้นแตกกระจายเกลื่อนแทบ.

เหล่ายอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่งหลายพันคน,ล่วงหล่นลงพื้นแตกเป็นเศษน้ำแข็งกระจายเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ บนพื้น.

คนที่มากับสำนักอู๋เซิ่ง,ตระกูลหม่า,นิกายจินกัง,เผ่าวิญญาณรัตติกาลที่ได้แต่จ้องมองด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว.

วังมังกรปิศาจ,ลัทธิเทวะซิงไห่,คนของแดนเทวะเจิ้นยวีที่เวลานี้ใบหน้าซีดเซียว,ถอยหลังออกไปสองามก้าวด้วยความหวาดกลัว.

หลังจากนั้นลู่อี้ผิงก็จ้องมองไปยังตระกูลหม่า,วังมังกรปิศาจ,ลัทธิเทวะซิงไห่,แดนศักดิ์เจิ้นยวี ตลอดจนคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่.

ยอดฝีมือลัทธิเทวะซิงไห่คนหนึ่งที่โกรธเกรี้ยว,เอ่ยคำรามเสียงดัง”ลู่อี้ผิง,ลัทธิเทวะซิงไห่ของพวกเราคือสุดยอดกลุ่มอิทธิพลของพิภพสวีกง,มีผู้บัญชาภพมากมาย,ไท่จู่ของพวกเราคือยอดฝีมือทำเนียบอันดับเทพ,เจ้าสังหารคนของลัทธิเทวะซิงไห,ไท่จู่ของพวกเราจะต้องมายังพิภพเหิงหยวนแน่,เวลานั้น,เจ้าจะต้องเสียใจ!”

“เมื่อข้าสังหารใครไป,ไม่เคยรู้สึกเสียใจ.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส,ชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า,เห็นเพียงบนท้องฟ้าเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่,ภายในหลุมนั้นไม่ใช่สายฟ้าเทวะ,แต่เป็นเพลิงเทวะ!

เพลิงเทวะมากมายหลายชนิดที่กำลังลุกไหม้อยู่ด้านใน.

“เพลิงเทวะนิพาน!”

“เพลิงเทวะสิ้นสูญ!”

“เพลิงเทวะไป่เหยี่ยน!”

......

“เพลิงเทวะปฐมฮุ่นตุ้น!”

เพลิงเทวะมากมาย,ที่รวมตัวกันอยู่,หมุนวน,พร้อมกับกำเนิดก่อเป็นเสาแห่งเพลิงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า.

สวรรค์และปฐพีที่ถูกย้อมเป็นสีแดงเพลิง.

จ้องมองแต่ไกลก็จะเห็นเสาเพลิงที่ตั้งตระหง่านกลางท้องฟ้าเชื่อมต่อสวรรค์ลงมาบนพื้นดิน,ดูน่าเกรงขามน่าหวาดกลัวและงดงามไปพร้อม ๆ กัน.

เสาเพลิงที่ล่วงหล่นลงมา,เหล่ายอดฝีมือลัทธิเทวะซิงไห่ที่ตะโกนด้วยความโกรธ”ลู่อี้ผิงเมื่อไท่จู่ของพวกเรามาถึง,เจ้าไม่ตายดีแน่!”

“ฆ่า!”

“หนี!”

บางคนที่พุ่งเข้าโจมตี,บางคนหนีอย่างบ้าคลั่ง.

อย่างไรก็ตาม,เมื่อเสาเพลิงร่วงหล่นมาถึง.

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเถ้า.

นิกายเต๋าโถวโหลว,เผ่ามนุษย์ศิลา,ตระกูลเหยียน และอีกหลายคนที่จ้องมองวังมังกรปิศาจ,ลัทธิเทวะซิงไห่,แดนศักดิ์สิทธิ์เจิ้นยวี,ตระกูลหม่าและเผ่าวิญญาณรัตติกาลที่กลายเป็นเถ้าไปจนหมด.

กระบวนการดังกล่าวที่ดูเหมือนช้า,ทว่าพวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า,คนของวังมังกรปิศาจและคนอื่น ๆ นั้นแทบจะละลายกลายเป็นเถ้าเพียงแค่พริบตาเดียว.

ครืนนนน

เสาเพลิงกระแทกพื้น.

พื้นดินหลอมละลายกลายเป็นลาวาเหลว.

เปลวเพลิงที่ครุกรุ่นพร้อมกับเถ้าที่ปลิวว่อน.

เปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่นานเหมือนกัน,ก่อนจะค่อย ๆ สลายหายไป.

เวลานี้เหลือเพียงแค่แอ่งลาวาที่เดือดปุด ๆ พ่นฟองความร้อนออกมาไม่หยุด.

ทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นหายไปหมด.

ลู่อี้ผิงที่หันหน้ากลับมา,กวาดตามอง,บรรพชนชรายวีคุน,ที่เวลานี้แข้งขาอ่อนยวบ,จนต้องคุกเข่าลงตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว.

สหายแฝดดำขาว,ไท่จู่เผ่ามนุษย์ศิลา,ไท่จู่ตระกูลเหยี่ยนและยอดฝีมือมากมายต่างก็ก้มหน้าลง,ไม่มีใครกล้าจ้องมองลู่อี้ผิง.

แขนของพวกเขาที่สั่นไปมาไม่ได้ตั้งใจ.

ร่างแปลงบรรพบุรุษสายฟ้าด้านหลังถูกเก็บกลับไป,สายตาของเขาจ้องมองไปยังราชันย์หมาป่ายวีเมียนที่ถูกวังกระทิงมังกรเขาทองคำจับเอาไว้,เวลานี้ซีดเผือดไร้ซึ่งโลหิต,ร่างกายที่อ่อนทรุด,ไม่มีแม้แต่มีแรงขัดขืน,หวาดกลัวแทบสิ้นสติ.

“ไม่คิดจะไปอย่างงั้นรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำหันหน้าไปมองคนอื่น ๆ ที่ไม่กล้าขยับและเอ่ยออกมา.

นิกายเต๋าโถวโหลว,ตระกูลเหยียน,เผ่ามนุษย์ศิลา,เผ่ามนุษย์พฤกษา,เผ่ายักษาทองคำและยอดฝีมือรอบ ๆ ที่ได้ยิน,ได้สติเร่งรีบบินหนีหายไปอย่างจ้าระหวั่น.

“กายาทองคำอรหันต์หงเหลียนอยู่กับเจ้าอย่างงั้นรึ?”หลังจากที่ทุกคนจากไป,ลู่อี้ผิงที่เอ่ยต่อราชันย์หมาป่ายวีเมียน.

ราชันย์หมาป่ายวีเมียนที่ได้ยินลู่อี้ผิงถาม,เขาที่ยังตื่นตะลึงกับภาพก่อนหน้านี้,เวลานี้ค่อย ๆ ได้สติกลับมา,เร่งรีบนำกายาทองคำอรหันต์หงเหลียนออกมาทันที.

แสงธรรมที่ส่องสว่างบนอากาศ,กายาทองคำก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าทุกคน.

กายาอรหันต์ทองคำ,แขนขานั้นมีลวดลายของบงกชเพลิงประทับอยู่.

กายาทองคำอรหันต์หงเหลียนที่มีเชาว์ปัญหา,เห็นลู่อี้ผิง,ก็คุกเข่าลงทันที,เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น”หงเหลียนคารวะต้าเหริน.”

ราชันย์หมาป่ายวีเมียน,เจ้าอาวาสนิกายอรหันต์ซู่มี่ ทั้งสองที่เผยความประหลาดใจ,นี่อรหันต์หงเหลียนรู้จักกับลู่อี้ผิงอย่างงั้นรึ?