ตอนที่ 241

不朽天木诀(一更)

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเองก็อ่านอักขระข้าง ๆ อย่างตั้งใจเช่นกัน.

หลายปีดีดักตั้งแต่อยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์,เขาที่ติดตามเคียงข้างลู่อี้ผิง,ศึกษาอักขระเปิดสวรรค์มานาน,ทว่า,อักขระหลายตัว,แม้นว่าเขาจะจำได้,ทว่ากับไม่อาจตระหนักรู้ความลึกล้ำของมันได้.

ส่วนลู่อี้ผิง,อักขระเหล่านี้เขาย่อมจำได้,จากนั้นก็ปิดตา,นั่งสมาธิใต้ต้นเจี้ยนมู่,เริ่มตระหนักรู้,ไม่นาน,ร่างกายของเขาก็แผ่กลิ่นอายที่ลึกล้ำออกมา.

กลิ่นอายดังกล่าวนั้น,ค่อนข้างเหมือนกับวิชาบ่มเพาะนิรันดร,มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต,พลังงานงานที่สูงล้ำ,แผ่ออกมาจากยุคบรรพกาล,คงอยู่ชั่วกัลปาวสาน,นิจนิรันดร์,ไร้ที่สิ้นสุด.

พลังเช่นนี้,ราวกับมาจากหมื่นอาณาจักร,ราวกับมาจากสวรรค์และปฐพี ก่อนปฐมกาลฮุ่นตุ้น.

กลิ่นอายที่ฟุ้งไปทั่วอากาศ,ลู่อี้ผิงเปล่งรัศมีแสง,ปราณศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนกับแม่น้ำสั่นสะเทือนแผ่ออกมาราวคลื่นใหญ่บนท้องทะเล.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่สัมผัสได้ว่าลู่อี้ผิงเปลี่ยนไป,ทำให้เขาตกใจไม่น้อย,เขาเฝ้ามองข้าง ๆ,คอยคุ้มกันลู่อี้ผิง,ในเวลานั้นเขายังไม่ยินยอม ยังคงเฝ้ามองพยายามตระหนักรู้อักขระเปิดสวรรค์บนใบไม้,ต้องการเรียนรู้วิชาบ่มเพาะดังกล่าว.

กระนั้น,ไม่ว่าเขาจะจ้องมองขนาดใหน,พยายามเท่าไหร่,แต่กับไม่อาจตระหนักรู้เข้าใจอักขระเปิดสวรรค์เหล่านี้ได้เลย.

ท้ายที่สุด,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ทำได้แค่ถอนหายใจ,ยอมแพ้ไปในที่สุด,เขานำเม็ดยาเทวะ,โยนเข้าปาก,กัดกิน,รู้สึกไร้รสชาติเป็นอย่างมาก,จากนั้นก็นำสัตว์เทวะคุนเผิงออกมา,พร้อมกับซ้อมหวดลม.

ลู่อี้ผิงที่บ่มเพาะเป็นเวลาหนึ่งเดือน.

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.

ร่างกายของลู่อี้ผิงที่แผ่ปราณศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงโถมกระหน่ำมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ มันเริ่มหมุนวนโคจร,ราวกับว่ากำลังกำเนิดดวงตะวัน,กำเนิดจันทรา,กำเนิดสัตว์อสูรที่ลึกล้ำ,กำเนิดสัตว์อสูรยักษ์ปฐมกาล,กำเนิดทุกสรรรพสิ่ง,กำเนิดสร้างสวรรค์และปฐพี,จากช่วงเวลาฮุ่นตุ้น.

ในเวลานี้,พลังของสวรรค์และปฐพีไหลมารวมตัวกัน,เริ่มก่อกำเนิดเป็นรูปเป็นร่าง.

...

ขณะที่ลู่อี้ผิงกำลังฝึกฝนวิชาบ่มเพาะระดับเปิดสวรรค์ใต้ต้นเจี้ยนมู่อยู่นั้น,ในเวลาเดียวกันที่หอการค้าแห่งหนึ่งของในพิภพสวีกง,เหมียวเจ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา,จ้องมองประธานหอการค้า”ยังไม่มีข่าวของลู่อี้ผิงอีกรึ?”

ประธานหอการค้า,เป็นศิษย์ของเหมียวเจ๋อ,ได้ยินคำพูดดังกล่าว,เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า”เรียนซือจุ้น,พวกเราได้ส่งคนออกหาข่าวไปทั่วแล้ว,ทว่าไม่มีข่าวเลย.”

กล่าวจบ,เขาที่ดูลังเล ก่อนเอ่ยออกมาว่า”ได้ยินมาว่าข้างกายของลู่อี้ผิงมีคนรับใช้นามว่าฉื่อเย่,เป็นอาจารย์ลุงของเจ้านิกายเลี่ยเฟิง,ยวีต้าเหว่ย,บางที่ยวีต้าเหว่ยอาจจะรู้ว่าลู่อี้ผิงไปที่ใดหรือไม่?”

เหมียวเจ๋อที่ลุกขึ้น ยืนมือขัดหลังเอ่ยออกมาว่า”นิกายเลี่ยเฟิง!”

“ซือจุ้น,ให้ข้าไปที่นิกายเลี่ยเฟิงดีหรือไม่?” ประธานหอการค้าเอ่ย.

“ไม่จำเป็น,ข้าจะไปด้วยตัวเอง.”เหมียวเจ๋อเอ่ย,จากนั้นก็บินตัดอากาศ,หายลับของฟ้าไป.

หนึ่งวันหลังจากนั้น.

ร่างของเหมียวเจ๋อมาปรากฏบนเทือกเขาแห่งหนึ่ง,จ้องมองไปด้านหน้าเป็นเทือกเขานิกายเลี่ยเฟิง,ก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปในห้องโถงของนิกายดังกล่าวทันที.

ในเวลานั้น,ภายในห้องโถงนิกายเลี่ยเฟิง,เจ้านิกายยวีต้าเหว่ยและเหล่าบรรพชนชรา,กำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลซู.

หลายวันก่อน,เรื่องที่ลู่อี้ผิงไปยังสหพันธ์เจิ้นจิน,และยังกระแทกร่างซูเย่,ซูเหวิน,จินลี่หยง,ยอดฝีมือทำเนียบเทพทั้งสาม,กระเด็นออกไปพร้อมกัน,เรื่องนี้ได้กระจายออกไป,ทำให้ทั้งพิภพสวีกงสั่นสะเทือน.

“ได้ยินมาว่าลู่ต้าเหรินแทบไม่ได้ขยับ,ทว่าพลังที่ปะทุออกมานั้น,ทำให้ซูเย่และอีกสองคนกระเด็นกระแทกกำแพง!”เจ้านิกายเลี่ยเฟิง,ยวีต้าเหว่ยเอ่ยด้วยความรู้สึก.

“ความแข็งแกร่งของลู่ต้าเหริน,ไม่รู้ว่าอยู่ในขอบเขตใด,หลายคน เอ่ยว่าลู่ต้าเหรินควรจะรวมตราประทับได้แล้ว.”บรรพชรานิกายเลี่ยเฟิง,หยางถงเอ่ย.

หยางถง,เป็นศิษย์น้องของฉื่อเย่และเป็นอาจารย์ของยวีต้าเหว่ยด้วย.

ในเวลานั้น,พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องดังโหยหวน,ผู้คนต่างตื่นตะลึง,ก่อนที่จะเห็นอาวุโสสูงลอยกระเด็นมาจากด้านนอก.

ปัง!

เห็นอาวุโสสูงหลายคนของนิกายเลี่ยเฟิงถูกซัดกระเด็น,ทุกคนล้วนแต่ถูกฝ่ามือฟาดเข้าที่หน้าอก.

ชายชราผมหงอกที่ยืนมือขัดหลังก้าวเข้ามาจากด้านนอก.

ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นด้วยความตกใจ.

เจ้านิกายเลี่ยเฟิง,ยวีต้าเหว่ยที่ตกใจและจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยว.”ผู้ยอดเยี่ยมเป็นใคร,ทำไมถึงได้บุกเข้ามายังนิกายเลี่ยเฟิงของข้า,แล้วยังทำร้ายอาวุโสสูงของข้าด้วยเหตุอันใด?”

ชายชราผมหงอกจ้องมองยวีต้าเหว่ยและคนอื่น ๆ,เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ”เหล่าฟู่มีนามว่าเหมียวเจ๋อ.

เหมียวเจ๋อ!

ยอดฝีมือทำเนียบเทพลำดับสอง!

ทันทีที่ได้ยิน,ทุกคนต่างก็ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.

ผ่านไปนานเหมือนกัน,หยางถงที่ได้สติ,ยกมือประสานเอ่ยด้วยความเคารพ”แท้จริงเป็นท่านเหมียวเจ๋อ,ไม่รู้ว่าท่านเหมียวเจ๋อมีธุระอันใดกับนิกายเลี่ยเฟิงของพวกเรา?”

เหมียวเจ๋อที่จ้องมองหยางถง,เอ่ยออกมา”เจ้าคือหยางถงอย่างงั้นรึ? ฉื่อเยว่คือศิษย์พี่ของเจ้าใช่ใหม?”

เหมียวเจ๋อที่สอบถามถึงฉือเยว่,หยางถงที่เอ่ยตอบถามจริง”ฉือเยว่คือศิษย์พี่ของข้าจริง ๆ.”

เหมียวเจ๋อเอ่ย”ได้ยินมาว่าฉือเยว่เป็นลิ่วล่อของลู่อี้ผิง,เจ้ารู้หรือไม่ว่าลู่อี้ผิงอยู่ที่ใด?”

หยางถง,ยวีต้าเหว่ยและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจ,ไม่คาดคิดว่าเหมียวเจ๋อต้องการหาลู่อี้ผิง.

“ท่านเหมียวเจ๋อ,ไม่รู้ว่าท่านมีเรื่องอันใดถึงได้ต้องการพบกับท่านลู่อี้ผิง?”หยางถงเอ่ยสอบถามอย่างระมัดระวัง.

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า,เจ้าเพียงบอกว่าลู่อี้ผิงอยู่ที่ใด?”เหมียวเจ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

“นิกายเลี่ยเฟิงของพวกเราไม่รู้ว่าลู่ต้าเหรินอยู่ที่ใดเช่นกัน ”หยางถงเอ่ยตอบอย่างระมัดระวัง.

อย่างไรก็ตาม,เพียงแค่หยางถงเอ่ยจบ,เหมียวเจ๋อก็ต่อยออกไป,พลังเทพโบราณที่คำรามลั่น,หยางถงลอยกระเด็น,กระแทกผนังระเบิดดังสนั่น,กระอักโลหิตคำโต.

พลังชีวิตของหยางถงที่หายไปอย่างรวดเร็ว,ผิวกายและเนื้อที่เหี่ยวลงอย่างต่อเนื่อง.

“อาจารย์!”ยวีต้าเหว่ยที่เผยความตกใจ,ก่อนที่จะก้าวเข้าไปพยุงหยางถง,ช่วยเหลือหยางถง,ป้อนเม็ดยาฟื้นฟูให้.

เหมียวเจ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ข้าให้เวลาเจ้าวันเดียว,หากลู่อี้ผิงยังไม่ปรากฏ,พรุ่งนี้,ทุกคนในนิกายแห่งนี้จะต้องตายทั้งหมด!”

ยอดฝีมือภายในห้องโถงนิกายเลี่ยเฟิงต่างก็ตกใจและโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.

บรรพชนชรานิกายเลี่ยเฟิยคนหนึ่งเอ่ยปากออกมาว่า”ก่อนหน้านี้พวกเราออกมาจากเมืองจักรพรรดิทะเลพร้อมกัน,จากนั้นก็ลู่ต้าเหรินก็แยกย้ายไปทำธุระ,ท่านลู่อี้ผิงเอ่ยว่าเสร็จธุระก็จะมาเยือนนิกายเลี่ยเฟิงของพวกเรา.”

เหมียวเจ๋อได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ในเมื่อเป็นเช่นนั้น,ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสิบวัน,หากสิบวันนี้,ลู่อี้ผิงไม่ปรากฏ,พวกเจ้าต้องตายกันทั้งหมด!”

หลายวันหลังจากนั้น.

ภายในมิติแยกในเทือกเขาเห่ยเสวี๋ย,ลู่อี้ผิงที่นั่งบ่มเพาะใต้ต้นเจี้ยนมู่ลืมตาขึ้น,รัศมีแสงที่เลิศล้ำค่อย ๆ หายไป.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเห็นลู่อี้ผิงหยุดบ่มเพาะ,ก็เผยท่าทางดีใจ,ก้าวเข้าไปหา,”จูเหรินเป็นอย่างไรบ้าง?”

ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม”ก็นับว่าใช้ได้.”

วิชาบ่มเพาะจากใบเจี้ยนมู่,เขาสามารถตระหนักรู้ได้สำเร็จแล้วนั่นเอง.

“นี่คือวิชาลับพฤกษาสวรรค์มิเสื่อมคลาย.”ลู่อี้ผิงที่ลอบคิดในใจ.

วิชาบ่มเพาะ,ที่ได้จากเจี้ยนมู่,หลังจากบ่มเพาะสำเร็จ,กายาของเขาจะกลายเป็นอมตะ,มีความแข็งแกร่งเท่ากับเจี้ยนมู่,พลังป้องกัน,ที่ไม่มีอะไรสร้างความเสียหายให้ได้,นอกจากนี้,เมื่อสำเร็จสมบูรณ์,จะสามารถควบคุมพฤกษาทั้งหมื่นอาณาจักร,ควบคุมต้นไม้ใบหญ้า,ทุกสรรพสิ่งในตระกูลพฤกษาได้ทั้งหมด.

อย่างไรก็ตาม,หลังจากบ่มเพาะสำเร็จ,ทว่านี่กับเป็นเพียงแค่ชั้นแรกเท่านั้น.

ต้องการฝึกฝนขั้นต่อไป,จะต้องมีใบเจี้ยนมู่มากกว่านี้,หรือก็คือต้องให้เจี้ยนมู่เติบโตมากกว่านี้.

ลู่อี้ผิงที่เก็บเจี้ยนมู่,จากนั้นก็ก้าวออกจากตำหนักดังกล่าวไปพร้อมกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.